Super market นี้เป็นเครือเดียวกับรถไฟฟ้าJRค่ะหลังจากที่ได้เข้าไปทำงานที่ superได้ประมาณหนึ่งเดือนก็เริ่มคุ้นเคยกับงานที่ทำและเพื่อนร่วมงานในระดับหนึ่ง แต่ละคนก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันไป หลากหลายดี คนที่สอนงานให้คนแรกชื่อOno san เป็นผู้ชายที่ดูท่าทางเย็นชา ไม่ค่อยพูดมาก แต่จริงๆเป็นคนที่ขี้อาย คนที่สองคือKumi san คนนี้เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมาก สอนงานแบบละเอียดยิบ แต่ค่อนข้างซีเรียสเกินไป ความคิดของเธอเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ คนที่สามNihei san อายุน้อยกว่าเราสองปี แต่เธอเป็นหัวหน้างานในซุปเปอร์ค่ะ ใครจะทำอะไรต้องถามเธอก่อน เธอทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายจนถึงปัจจุบันนี้ ตอนนี้น่าจะได้บรรจุเป็นพนักงานบริษัทแล้วค่ะ คนที่สอนงานให้ก็มีสามคนนี้ค่ะ ทำงานมาแล้วพักหนึ่งเหมือนจะสนิทแต่ก็ไม่ค่อยสนิทใจค่ะ เหมือนมันมีกำแพงกั้นไว้ ...แต่ขอเมาท์ Kumi sanนิดหนึ่งค่ะอดไม่ไหวค่ะ วันนั้นเธอเป็นคนที่ต้องคอยช่วยเรา เพราะช่วงแรกยังไม่ได้ทำงานคนเดียวคือมีคนคอยช่วยเพราะเราเป็นคนต่างชาติและยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นอธิบายแค่ 30นาทีก็ปล่อยให้ทำเองค่ะ แต่เนื่องจากไม่เคยทำงานด้านการเงินมาก่อนยังไม่คุ้นกับการนับเงินทอนเงินก็จะมีติดบ้าง ช้าบ้าง คุณเธอก็เลยถามว่าคิดเลขได้ไหม แหม...ก็มันไม่เคยชิน อ่ะ.นะ..เพราะปกติทำงานหน้าคอมอย่างเดียวเป็น OL อย่างเดียว วิธีนับแบงค์ก็ไม่เคยรู้หรอก อีกอย่างฉันก็จบมาขนาดนี้แล้วเฉพาะไอ้เรื่องคิดเลขฉันก็ทำได้หรอก แต่การที่เธอเล่นยืนจ้องฉันนับตังค์ทอนนี่ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว กลัวไปหมด บอกตรงๆว่าเกร็งค่ะ ญี่ปุ่นนี่ลูกค้านี่คือพระเจ้าจริงๆ เลย คำพูดนี่ต้องสุภาพมากๆค่ะ ราคาของก็ต้องพูด เวลาทอนเงินแบงค์ก็ต้องหันทางหน้าคน ให้ลูกค้า ห้ามเก็บเงินก่อนที่ลูกค้าเดินออกไป โอ้ย...เยอะแยะ... มากมายค่ะ แต่ก็ต้องทำ เพราะทั้งหมดทั้งมวลก็คืองานของเราค่ะตอนนี้คล่องแล้วค่ะ ไม่ต้องมีคนมาคอยจ้องเวลานับตังค์ทอนแล้ว ดีใจค่ะ เป็นไท...ซะที ทำงานแบบสบายๆ ไม่ต้องเกรง ยังค่ะยังไม่จบเรื่องของ Kumi sanคนสอนงานเรามีสามคนซึ่งแต่ละคนจะสอนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าวันไหนเข้าสองคนกับKumi sanวิธีของคนอื่นจะผิดไปเลยค่ะ เราก็ต้องบอกว่า เอ่อ... แบบนี้เหรอค่ะ ค่ะ... ค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่บอก เถียงไม่ได้ค่ะเพราะเธอเป็นรุ่นพี่ เราก็....เหลือเกินค่ะ แต่ก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ
ดีใจด้วยนะค่ะ ไม่มีคนมาคอยจ้องแล้ว