|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ยาม+นรสิงห์+ว.2...เปลี่ยน
ภาพจากอินเตอร์เนต
ผมกับเพื่อนนั่งอยู่ภายในรถกะบะรุ่นเก่า ใกล้ๆกันมีรถกะบะ รถแท็กซี่ รถเก๋ง รถเมล์ รถมอเตอร์ไซด์ และรถเกินกว่าสี่ล้อ กำลังติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกมาบุญครอง เซ็นเตอร์พ้อยท์ สยามดิสคัพเวอร์รี่และหอศิลปะแห่งกรุงเทพมหานคร สถาปัตยกรรมหน้าใหม่รูปร่างคล้ายขนมเค๊กขนาดยักษ์ มีเสาคล้ายเทียนที่ดับแล้วแต่ไม่เท่ากันอยู่ด้านหน้าสามสี่ต้น ส่วนยอดของเสาแขวนป้ายไวนิลงานแสดงศิลปะ รอยยิ้มสยามฯ ห้อยลงมาล้อลมและฝุ่นควัน
หอศิลป์แห่งนี้รอคอยกันมานาน บางยุค บางสมัยเคยโดนผู้ว่าชิมไป บ่นไป นำไปดองในไหกระเทียมเสียหลายปี และมีทีท่าจะพับโครงการแปลงพื้นที่นี้เป็นทุน ด้วยเหตุที่ว่าพื้นที่แห่งนี้มีมีมูลค่าทางธุระกิจมหาศาล จำได้ว่าโครงการสร้างหอศิลป์แห่งกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ฯลฯ เริ่มผุดขึ้นครั้งแรกสมัยผู้ว่ามดงานและมาสำเร็จแบบงงๆในสมัยผู้ว่าหล่อเล็ก รวมแล้วใช้เวลาก่อสร้างร่วมสิบปี
เราสองคนในฐานะจิตรกรต่างจังหวัดที่ติดไฟแดง แหงนดูหอศิลป์แห่งกรุงเทพมหานคร แหงนดูรางรถไฟฟ้า แหงนดูมาบุญครอง แหงนดูสยามดิสคัพเวอร์รี่แล้วก็กลับมาแหงนดูไฟแดง ยังมีเวลาพอที่จะย้อนกลับมาดูหอศิลป์อีกครั้ง
“กูว่าสีแม่งแปลกๆว่ะ” หนึ่งในสองคนเริ่มเปิดประเด็น “อืม มันซีดๆไปนะ น่าจะเป็นอะไรที่ดูโดดเด่นกว่านี้” อีกคนรับลูกทันที “น่าจะมีความเป็นไทยอยู่บ้างนะ” ผลัดกันรับ ผลัดกันส่ง “ไม่ชอบแถบหินอ่อนที่คาดตัวอาคารนั่นเลย ดูไกลๆเหมือนคานปูนที่สร้างยังไม่เสร็จ” “เออน่ะ เขาคงสร้างให้แมทกับรางรถไฟฟ้า ดูป้ายหอศิลป์ซิ เล็กกะจิ๊ดเดียว สีเหมือนลูกกวาดเลย “ “เอาน่ะได้แค่นี้ก็บุญแล้ว ดีกว่าไม่มี” เริ่มชุลมุน ผลัดกันออกความเห็น “เขาสร้างเสร็จแล้ว จะมาบอกอะไรตอนนี้” “นั่นสิ ตอนยังสร้างไม่เสร็จ... ดันไม่มาถามกู” “ไปเหอะ ไฟแดงแล้ว”
ผมแยกจากเพื่อนที่หอศิลป์จุฬาเพื่อกลับมาชมหอศิลป์กรุงเทพ เพื่อนมันบอกเคยมาดูแล้ว ผมเดินลัดผ่านมาบุญครอง จริงแล้วมันไม่ได้ลัดเลย งงกับเส้นทางภายในห้างจนต้องขอคำแนะนำจากร.ป.ภของห้างว่าทางออกมันอยู่ตรงไหน ผมเดินข้ามสะพานลอยที่เชื่อมต่อมายังหอศิลป์ด้วยความคาดหวังที่ไม่แน่ชัด ประมาณว่ามันคงจะน่าตื่นตาล่ะน่ะ ตั้งอยู่ในย่านธุระกิจและแฟชั่นทั้งที คงมีคนหนาตาบ้างล่ะเมื่อเปรียบเทียบกับหอศิลป์อื่นๆที่คุ้นเคย มีผู้สันทัดในวงการศิลปะเคยให้ทรรศนะแบบเหน็บแนมวงการศิลปะเมืองไทยไว้ว่า นิทรรศการศิลปะบ้านเรานั้นเปิดแสดงจริงๆอยู่วันเดียว คือวันเปิด หลังจากนั้น.......ฟู่ๆ เสียงใครเป่าสาก ลอยมาตามลม
จิตรกรต่างจังหวัดเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธขึ้นบันใดเลื่อนมาด้วยใจระทึก โอ้แม่จ้าว....... กลิ่นหอมแห่งศิลปะโชยมาแต่ไกล ภายในหอศิลป์บันใดเลื่อนระโยงระยางไปหมด ชั้นแรกที่ดูเหมือนจะยังติดตั้งงานไม่เรียบร้อยดี แต่ก็สามารถเข้าชมได้เกือบทุกห้อง ส่วนมากเป็นงานดีไซน์ผสมแนวคิดแปลกๆ มุมมองที่นำเสนอมันส์ๆดี มีถูกใจอยู่หลายชิ้น
นิทรรศการ “รอยยิ้มสยาม+ศรัทธา+การเมือง+ความรัก”จัดแสดงอยู่ส่วนบนของอาคาร คือจุดประสงค์ที่ตั้งใจมาชม ศิลปินที่คัดมาแสดงได้ข่าวว่าเจ๋งๆทั้งนั้น ก็หวังว่าจะเป็นตามนั้น ในชั้นนี้ผู้คนข้อนข้างมาก มีทั้งไทยและเทศเข้ามาชม ที่น่าแปลกใจคือ บุคคลในเครื่องแบบคล้ายทหารหน้าตาขึงขังเดินไปเดินมาและดูจะมากเป็นพิเศษ มีเสียงวิทยุสื่อสารดังมาเป็นระยะ ในใจคิดว่างานศิลปะครั้งนี้คงมีมูลค่ามหาศาล จึงมีการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ผิดกับหอศิลป์ที่เคยชมมาก่อนนี้ซึ่งมีเพียงภัณทรักษ์นั่งอยู่ตามมุมห้อง ด้วยที่ไม่คุ้นเคยกับคนในเครื่องแบบคล้ายทหารจำนวนมากในนิทรรศการศิลปะ ทำให้รู้สึกประหม่า หรือว่าเรากำลังถูกจับตามองจากเขาเหล่านั้นแบบไม่คลาดสายตา
“ว.2...ชั่นห่า...เรียบร้อยดีบ่....เบิ่งให้ทั่วล่ะ...” “ว.2 บ่มีหยัง...เปลี่ยน”
ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประติมากรรมและจิตรกรรมชิ้นใหญ่ของนาวิน ยืนอ่านแนวความคิดของเขา ผลงานของนาวินเหน็บแนมนักจัดการทางศิลปะเมืองไทยได้แสบทีเดียว ใกล้ๆกันมีฝรั่งแม่ลูกสองยืนชมอยู่ด้วย เคยได้ยินมาว่าในประเทศตะวันตก ประชาชนของเขามีพื้นฐานความเข้าใจในงานศิลปะมากกว่าเรามาก สักครู่คนในเครื่องแบบคล้ายทหารเดินผ่านไปแล้วก็ผ่านมา แล้วเขาก็เดินเข้าไปหาฝรั่งแม่ลูก เสียงว.2...เปลี่ยนยังดังเป็นระยะ เขาพูดอะไรกับหล่อนเป็นภาษาอังกฤษอยู่สักครู่ ซึ่งหล่อนส่ายหัวอย่างเดียว ชายในเครื่องแบบคล้ายทหารเดินจากไปพร้อมเสียงว.2...เปลี่ยน..
เรายืนอยู่ใกล้กันมาก ผมพยามฟังแต่ก็ไม่เข้าใจพร้อมกับเก็บความสงสัยนั้นไว้ เมื่อเดินครบตามเส้นรอบวงของตัวอาคารมาถึงที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก็ถึงบางอ้อ จึงพอคาดเดาได้ว่า คนในเครื่องแบบคล้ายทหารนั้นแนะนำหล่อนว่า มีวิทยากรอาสาพาชมและอธิบายผลงานนะ แต่จะด้วยสำเนียงอังกฤษแบบไทยกระมัง ฝรั่งจึงส่ายหัวลูกเดียว
จากชั้นนั้น เดินขึ้นบันไดลอยเลื่อนที่พาดข้ามช่องตรงกลางอาคารสู่ชั้นต่อไป มองลงมาเห็นชั้นล่างสุดให้เสียววูบ ขาอ่อนโดยพลัน นึกเสียดายพื้นที่ที่หายไป ช่องว่างตรงกลางตัวอาคารมากจริงๆ ความสวยงามกับความเสียดายพื้นที่ใช้สอยชั่งน้ำหนักอยู่ภายในใจของจิตรกรต่างจังหวัด ผมเข้าใจว่านี่คงเป็นเรื่องของระบบแสงและการประหยัดพลังงานภายในตัวออาคารแต่...
งานศิลปะชิ้นใหญ่ๆหลายชิ้น ถูกติดตั้งแนบกับผนังคล้ายรังนกนางแอ่นที่เกาะตามผนังถ้ำ งานชิ้นใหญ่ๆเท่าที่ร่ำเรียนมาต้องใช้พื้นที่ระยะในการชมพอสมควร แต่นี่แทบไม่มีพื้นที่ให้ถอยไปชมงานเลย ขืนถอยไปไม่ดูหลังอาจพลาดท่าตกมาคอหักตายสิ...เอาเหอะ ดีกว่าไม่มี
นิทรรศการศิลปะ”รอยยิ้มสยาม”ครั้งนี้มีผลงานหลากหลาย มีงานสะสม งานเก่าเก็บหลายชิ้นที่ยากจะมีโอกาศได้ชม แต่ก็ยังเสียดายที่การติดตั้งผลงานหลายชิ้น ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม สื่อผสม ต้องมากระจุกตัวอยู่ในพื้นที่จำกัด ผลงานที่นำมาแสดงโดยรวมนับว่าเป็นที่น่าพอใจ ด้วยความใหม่กับการจัดการใช้พื้นที่กระมัง ที่ทำให้จัดวางผลงานบางชิ้นรู้สึกอึดอัดและขาดอรรถรสในการชมไปอย่างน่าเสียดาย เช่น ผลงานของอ.โชคชัย ตักโพธิ์ ชื่อ”เดินจงกรม”สื่อถึงสมาธิ วิปัสนา แต่มาวางไว้ไกล้ๆกับงานวีดีโออาร์ต จอทีวีจากงานนั้นส่งเสียงแคว๊กๆรบกวนสมาธิอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ผมเดินเสพงานศิลป์อยู่เพลินๆ ชายในเครื่องแบบคล้ายทหารเดินออกมาจากหลืบหลังบอร์ดแขวนภาพผ่านหน้าไป วิทยุสื่อสารว.2...เปลี่ยน ดังขึ้นเป็นระยะ คราวนี้มากันสามคน เขาหยุดอยู่ที่หน้าผลงานจิตรกรรมของประสงค์ ลือเมือง ผลงานชื่อ”สัตว์เป็นสัตว์”ขนาดสูงสามเมตรยาวเกือบห้าเมตร ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ผลงานชิ้นนี้คงสร้างปัญหาอะไรบางอย่างแก่พวกเขา ในมือเขาถือบันทึกประจำวัน หนึ่งในนั้นกำลังจดรายละเอียดบางอย่างที่อธิบายภาพจิตรกรรมชิ้นนั้น ปัญหาของเขาคืออะไรหรือว่าเขากำลังทำวิจัยทางศิลปะว.2....เปลี่ยน
ชายในเครื่องแบบคล้ายทหารคนหนึ่ง แยกตัวมาชมผลงานของลุงหวัน คราวนี้ลุงหวันมาแปลก เห็นไกลๆครั้งแรกผมก็ไม่รู้ว่านี่คืองานของใคร แกวาดซิลเวสเตอร์แรมโบ้, อาร์โนลคนเหล็กและอีกดารานักบู๊หลายคนล้อมรอบเศียรพระ ผมไม่ทราบได้ว่าลุงหวันมีแนวความคิดอย่างไรกับรูปวาดขนาดใหญ่ชิ้นนี้ แต่ดูๆแล้วชายในเครื่องแบบคล้ายทหารคนนั้นดูจะชื่นชอบภาพนี้เอามาก ว.2....เปลี่ยน ผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่ผมชื่นชอบในแนวความคิดของศิลปิน คือ งานปั้นพระพุทธรูปปางต่างๆจากเศษธนบัตร์เก่าที่ถูกทำลายแล้วของคามิน ใกล้ๆกับผมมีฝรั่งแก่ๆสองสามคนมายืนชมงานด้วยความสนใจ ด้วยผลงานมีหลายชิ้นมากจึงต้องใช้เวลาในการชม คามิน มีหนังสือเล่มเล็กๆอธิบายพระพุทธรูปปางต่างๆเพื่อความเข้าใจแนวความคิดแก่ผู้ชม
ถัดจากนั้นเป็นงานหนังสั้น”นรสิงห์ อวตาร”ของผู้กำกับไฟแรง ผมยืนชมด้วยความสนใจ ชายในเครื่องแบบเดินใกล้เข้ามา ว.2...เปลี่ยนอีกแล้ว คราวนี้เขาหยิบคู่มือชมผลงานของคามินขึ้นเปิดดู เปรียบเทียบรูปปั้นนั้นกับรูปภาพในหนังสือ แล้วตรวจดูผลงานตรงหน้าว่ายังอยู่ดีหรือเปล่า ฝรั่งเดินเลี่ยงไปชมงานชิ้นอื่น คนในเครื่องแบบคล้ายทหารเดินเดินกลับไปพร้อมเสียงว.2...เปลี่ยน
“นรสิงห์ อวตาร”ใกล้จะจบ ชายในเครื่องแบบเดินกลับมายืนที่จุดเดิม เปิดหนังสือเล่มเดิม ทำท่าทางแบบเดิม ว.2...ยังคงดังอยู่เป็นระยะเหมือนเดิม นรสิงห์จบลง ผมเดินไปชมงานชิ้นอื่น คนในเครื่องเดินเดินผ่านหน้าผมไป มือขวาถือว. มือซ้ายล้วงเข้าไปในกางเกงใน เกาก้นแกรกๆ แล้วหายไปในซอกหลืบหลังตัวหนังตะลุงขนาดใหญ่พร้อมกับเสียงว...2....เปลี่ยน
นรสิงห์ที่พูดถึง
หวาดเสียวกับบางส่วนที่หายไป ใช้เพลงหน้ากากเสือเพราะหานรสิงห์ไม่ได้ อีกนัยหนึ่งเพื่อความหน้าตื่นตาตื่นใจของหอศิลป์หน้าใหม่และการพบกันของจิตรกรต่างจังหวัด
Create Date : 27 ตุลาคม 2551 |
|
35 comments |
Last Update : 29 ตุลาคม 2551 2:26:30 น. |
Counter : 2737 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ชิงดวง 27 ตุลาคม 2551 20:57:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: พราย...หุหุหุ IP: 117.47.84.242 28 ตุลาคม 2551 0:11:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลายแปรง 28 ตุลาคม 2551 12:58:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชิบุ IP: 203.172.234.149 29 ตุลาคม 2551 10:38:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพื่อนบล๊อค IP: 124.121.224.117 29 ตุลาคม 2551 13:26:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปางหวัน 29 ตุลาคม 2551 14:00:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย 29 ตุลาคม 2551 18:34:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 31 ตุลาคม 2551 1:40:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธารดาว IP: 202.149.25.225 31 ตุลาคม 2551 19:41:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตาพราน IP: 117.47.81.182 1 พฤศจิกายน 2551 3:15:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลายแปรง 4 พฤศจิกายน 2551 9:40:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 5 พฤศจิกายน 2551 7:05:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: .ใบไม้ดนตรี IP: 124.121.247.151 5 พฤศจิกายน 2551 13:27:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: นายนุ (nai-nu-19 ) 5 พฤศจิกายน 2551 16:00:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 5 พฤศจิกายน 2551 17:13:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 6 พฤศจิกายน 2551 19:26:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลายแปรง (ปลายแปรง ) 11 พฤศจิกายน 2551 9:02:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: พราย...หุหุหุ IP: 117.47.205.2 13 พฤศจิกายน 2551 0:16:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) 14 พฤศจิกายน 2551 13:10:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปลายแปรง แห่งปลายทางช้างเผือก IP: 124.157.158.128 14 พฤศจิกายน 2551 20:07:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปางหวัน 15 พฤศจิกายน 2551 21:52:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: Um'sure 3 มิถุนายน 2552 6:39:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: tantawan IP: 58.137.191.18 6 สิงหาคม 2553 14:37:50 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่เสียง ว.2 เปลี่ยนนี่มันเป็นของจริงหรือสื่อสัญลักษณ์ภาพรวมของงานกันคะ
แค่อ่านยังรับรู้ได้ถึงความน่ารำคาญ
ตาพรานบุญบรรยายได้เก่งค่ะ