= = บันทึกจากน้องชาย :: ตอน..ผู้หญิง..ซึ่งทำหน้าที่แม่ จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต= =

//topicstock.pantip.com/family/topicstock/2010/06/N9343555/N9343555.html

27/5/53

รพ.จุฬาลงกรณ์

แม่โทรมาบอกผมตอนอยู่ที่ทำงาน ตอนประมาณแปดโมงเช้าว่าพี่สาวผมเจ็บท้องคลอด ก่อนกำหนดที่นัดผ่าไว้

แม่รีบลางานและเดินทางจาก จ.นครศรีฯไปหาพี่สาวที่ จ.ตรัง โดยลำพัง


รพ.ตรัง

ห้าคนพ่อแม่ลูก (พ่อกุน แม่ฟอม น้องฟ่าน น้องมีฟา และน้องเฟม่า ในท้องแม่ฟอม) พร้อมหน้ากันที่ห้องรอคลอด

ก่อนรอเข้าผ่าคลอดแบบฉุกเฉิน เพราะปากมดลูกเปิดแล้ว เจ้าเฟม่าอยากออกมาดูโลกเต็มที

......ใครจะรู้ว่า นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่ลูกอยู่ด้วยกัน ก่อนที่พ่อจะพาเด็กๆไปโรงเรียน.....


รพ.จุฬาลงกรณ์

แม่โทรมาบอกผมอีกครั้ง ว่าพี่สาวได้ลูกชาย หนัก 2,300 กรัม แม่ยังเดินทางไปไม่ถึงตรัง

ผมยังคงทำงานต่อไป วันนี้มีคนไข้เด็กชายสมาธิสั้นคนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ร่าเริง พูดเก่ง ผมบอกกับแม่เด็กว่า

“หมอว่าน้องเค้าเป็นเด็กน่ารักนะครับ” เพราะผมต้องการให้แม่หันกลับมามองมุมดีๆของลูก

....แต่อีกส่วนหนึ่ง ผมนึกถึงหลานชายที่เพิ่งลืมตาดูโลกมาไม่นานนี้เอง....

..........................
....................
..........
......

รพ.ตรัง

ภารกิจต่อไป พี่เขยขอให้ผมเป็นคนบอกแม่เบื้องต้นทางโทรศัพท์ให้ แม่เพิ่งไปถึงโรงพยาบาลพอดี

“แม่..พี่ฟอมเค้า มีปัญหาหลังผ่าคลอด”

“เหรอ..ยังไงลูก..” เสียงแม่เบาลงไปอย่างเห็นได้ชัด

“แม่ฟังนะ เค้าแพ้เกร็ดเลือด จนหัวใจหยุดเต้น หมอกำลังช่วยอยู่”

“ครับ..ครับลูก..หมอกำลังช่วยใช่ไหมลูก” เสียงแม่สะอึกสะอื้น

“แม่ทำใจดีๆไว้ก่อนนะ ตอนนี้อยู่กับใคร”

“แม่ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร” .....โธ่..แม่ ยังอุตส่าห์ห่วงความรู้สึกผมอีก


แม่เข้าไปหาพี่ฟอม เจ้าหน้าที่กำลังปั๊มหัวใจ หมอคุยกับแม่ แต่แม่ยังไม่สามารถรับรู้อะไรได้ ตั้งตัวไม่ติด
เพราะแม่ไม่ได้เตรียมมาหาพี่ฟอมเพื่อการนี้


ในที่สุด ปฏิบัติการปั๊มหัวใจก็สิ้นสุดลง แต่หัวใจแม่...กลับแตกเป็นเสี่ยงๆแทน

แม่เข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของพี่ฟอม อยู่นานสองนาน แม่ลูบผม ลูบหน้า จูบเท้าพี่ฟอม
ราวกับว่าเป็นลูกน้อยที่เพิ่งเกิดมาของแม่ เมื่อ 33 ปีที่แล้ว

...แต่ครั้งนี้เสียงร้องไห้เป็นของแม่ ไม่ใช่เสียงร้องอุแว้ของลูก....



ผมนั่งเครื่องบินมาที่ตรังเย็นวันนั้น

รพ.ตรัง....เจ็ดปีที่แล้วผมฝึกงานที่นี่หกเดือน ในฐานะนักศึกษาแพทย์เวชปฏิบัติ (extern)
ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์สูญเสียของญาติผู้ป่วยหลายครั้ง

รพ.ตรัง...ผมกลับมาที่นี่อีกครั้ง แต่มันไม่เหมือนเดิม เพราะผมมาในบทบาทที่เป็นผู้สูญเสียซะเอง


ผมเจอแม่ที่หน้าห้องดับจิต ผมเข้ากอดแม่ แม่ซบที่ไหล่ผมพร้อมกับร้องไห้เบาๆ
มันเป็นสัญญาณที่บอกให้ผมทราบว่า
ผมต้องเป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งให้แม่พึ่งพิงให้ได้
.............
.........
.....

คืนนั้น เราสามคนแม่ลูก นั่งรถโรงพยาบาล เพื่อพาพี่ฟอมกลับบ้านไปด้วยกัน...จังหวัดนครศรีธรรมราช

“กลับบ้านเรานะลูกนะ” .......แม่ลูบศีรษะที่ฟอมอย่างแผ่วเบา

ตลอดทาง เราคุยกันเรื่องแง่มุมดีๆ น่ารักของพี่ฟอม

หลายๆเรื่องที่แม่เล่า ผมอดรู้สึกสะเทือนใจไปด้วยไม่ได้
ได้แต่อาศัยเงามืดยามค่ำคืน พรางไม่ให้แม่เห็นน้ำตาผมที่มันคลอเบ้า

แม่ยังร้องไห้อีกนับครั้งไม่ถ้วน ยังทำใจกับการสูญเสียไม่ได้

ผมบอกแม่ว่า.... พี่ฟอมไม่ได้จากไปไหนหรอก

เดิมที เราคิดถึง อาจจะโทรไป หรือขับรถไปหา

แต่ตอนนี้เราแค่เปลี่ยนช่องทางติดต่อกันใหม่ เราแค่หลับตา แล้วนึกถึงพี่
แค่นี้เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว

............เพราะพี่จะยังอยู่ในใจพวกเราเสมอ................


งานบำเพ็ญกุศลศพพี่ฟอม

ผมพยายามมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน เพื่ออยากทำอะไรให้พี่เต็มที่ที่สุด

ตั้งแต่แบกร่างพี่ลงจากรถ และบรรจุใส่โลงศพ ผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือพี่ ช่วยทาแป้งที่หน้าให้พี่


.......ท่ามกลางเสียงร้องระงมของญาติพี่น้อง ผมนั่งคุกเข่าลง เกาะที่ขอบโลง เพื่อใช้เวลาพินิจใบหน้าพี่ฟอมใกล้ๆ

มันเป็นใบหน้าที่ผมคุ้นเคยมาตลอดชีวิต ตอนนี้พี่ก็ยังสวยเสมอในสายตาผม

ภาพเก่าๆของเราตั้งแต่วัยเด็กแวบขึ้นมาในหัวผมเต็มไปหมด ผมลูบที่หน้าพี่ จับแขนพี่ ผมน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง.......


ตลอดสี่คืนที่บำเพ็ญกุศลศพ หนึ่งในหน้าที่ที่ผมภูมิใจ คือการได้นอนเป็นเพื่อนพี่ฟอมที่วัดร่วมกับแม่ทุกคืน
ได้คุยกับพี่ผ่านโลง ได้บอกในสิ่งที่ผมอยากบอก มันช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น

คืนแรก

ช่วงที่ผมนอนตะแคง หันหลังให้แม่….

ทั้งที่เราอยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่เราคุยกันไม่ได้

พี่ครับ...ผมคิดถึงพี่จัง.........ความคิดนี้ ทำให้ผมน้ำตาไหล ผมไม่กล้าสะอื้น กลัวแม่ได้ยิน

ผมปาดน้ำตา แล้วข่มตาหลับต่อ

ผมรู้จักแม่ดี แม่จะอ่อนไหวกับการเห็นลูกร้องไห้มาก ถ้าแม่เห็นน้ำตาผม แม่ต้องสติแตกแน่ๆ

บางครั้งผมก็อยากจะนอนร้องไห้บนตักอุ่นๆของแม่เป็นเด็กๆบ้าง

บางครั้งผมก็เหนื่อยกับการคอยประคับประคองแต่ความรู้สึกของทุกๆคน ที่เห็นว่าผมเข้มแข็ง

แต่ในเวลานี้ มันก็ต้องเป็นผมน่ะสิ ที่จะเป็นเสาหลักให้คนที่เหลืออยู่
ยิ่งเห็นคนรอบข้างเสียใจมากเท่าไหร่ ทำให้ผมยิ่งต้องเข้มแข็งเท่านั้น

ผมสังเกตว่าแม่จะหิ้วถุงใบหนึ่งติดตัวเกือบตลอดเวลา เป็นถุงใส่เสื้อผ้าของพี่ฟอม วันที่ใส่ไปโรงพยาบาล

“แม่ไม่เอาใส่โลงให้พี่ฟอมล่ะ”

“ไม่เอา แม่ขอเก็บไว้ ทุกๆอย่างของพี่ฟอม นะลูกนะ” แม่เอาถุงผ้ากอดแนบอก เหมือนเด็กที่หวงของเล่น

เฮ้อ..เห็นแม่แบบนี้แล้ว ไปไม่เป็นเลยผม



วันฌาปนกิจ 31/05/53

เป็นวันที่ผมกลัว

ผมกลัวแม่จะแย่ กลัวแม่ทำใจไม่ได้

แม่สร้างความประหลาดใจให้ทุกๆคน แม่เข้มแข็งกว่าที่คิด

แม่ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย

ต้องขอบคุณบรรดาเพื่อนๆของพี่ฟอม และคุณป้าสยุมพรเพื่อนสนิทแม่เป็นพิเศษ
ที่คอยประกบแม่ไม่ห่าง พูดคุย ให้กำลังใจกันตลอดเวลา
เพราะลำพังผมคนเดียว อาจช่วยแม่ไม่ได้ขนาดนี้


ช่วงก่อนนำร่างพี่ฟอมเข้าเตาเผา

มีการเปิดฝาโลงอีกครั้ง ตอนแรกผมไม่กล้าพอที่จะดูหน้าพี่

แต่ใครๆที่เข้าไปดู บอกว่าพี่ยังสวยเหมือนเดิม ผมจึงเข้าไป

พี่ยังสวยเหมือนเดิมจริงๆด้วย ผมใช้มือเช็ดไอน้ำที่เกาะอยู่บนหน้าพี่ สัมผัสร่างพี่เป็นครั้งสุดท้าย
จดจำภาพที่สวยงามของพี่ไว้ในความทรงจำ ก่อนที่จะปิดฝาโลงเพื่อทำพิธีต่อไป


ผมเฝ้ามองปากปล่องของเมรุ กลุ่มควันหนาแน่นขึ้น ลอยขึ้นฟ้าไปเรื่อยๆ พาพี่ไปสวรรค์แล้ว

พี่มีบุญ ได้ไปสบายแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงคนข้างหลังนะ......


พี่ฟอม...เป็นผู้หญิงเก่ง มั่นใจในตัวเอง

พี่ฟอม...เป็นลูกที่พ่อแม่ภูมิใจ เป็นพี่สาวที่ผมภูมิใจเช่นกัน

และสุดท้าย...พี่ฟอม เป็นแม่ของลูกยอดเยี่ยม เท่าที่ผมเคยเห็นมา


หลายๆคน บอกว่า ดีจัง มีน้องชายเป็นจิตแพทย์เด็ก คงได้ช่วยเลี้ยง ได้เทคนิคการเลี้ยงลูกมากมาย

ผมบอกหลายๆคนไปว่า ผมสู้พี่ฟอมไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
นานๆจะมีข้อแนะนำให้บ้าง ผมรู้แค่ทฤษฎีที่เรียนมาเท่านั้น

ต่างจากพี่ฟอมที่มีทั้งประสบการณ์ และ “หัวใจ” ของความเป็นแม่อย่างเต็มเปี่ยม
ดังเห็นได้จากผลลัพธ์ที่ลูกน้อยทั้งสองคน ที่เติบโตขึ้นมาจาก”ความรัก”
จนกลายเป็นเด็ก”น่ารัก”ในปัจจุบัน


ที่ผ่านมาผมรู้ว่าพี่เหนื่อยมาตลอด ในฐานะภรรยา และแม่ของลูก

พี่ยอมออกจากงานราชการเพื่อมีเวลาให้ครอบครัวเต็มที่

แต่ถึงเหนื่อย ผมรู้ว่าพี่มีความสุข พี่แววตาเป็นประกายทุกครั้งที่พูดถึงลูกๆ

พี่ภูมิใจในความเป็นแม่ของตัวเอง ที่พิสูจน์ให้ทุกๆคนเห็น


การจากไปของพี่ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าหลายๆคนจะเศร้า เสียใจ
แต่ผมรู้ว่าพี่ไปอย่างมีความสุข

เพราะพี่ได้ทำหน้าที่แม่ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่ภาคภูมิใจ............จนวินาทีสุดท้าย...ของชีวิต

ถึงแม้ว่า ช่วงเวลาที่พี่จะได้อุ้มชู เฝ้ามองการเติบโตของลูกๆ มันจะสั้นนักก็ตาม แต่พี่ก็ทำมันได้ดีที่สุดแล้ว

เมื่อพวกเขาโตขึ้น เขาก็จะภาคภูมิใจเช่นกัน ที่มีพี่เป็นแม่

ผมเชื่อว่าพวกเขาก็จะรู้อยู่ในใจ ว่าตลอดเวลา แม่ไม่ได้ทิ้งพวกเขาไปไหน ยังคงคุ้มครอง และอยู่ในใจพวกเขาตลอดไป

รวมทั้งในใจของพวกเราทุกคน

หลับให้สบายนะ.....พี่ฟอม

....ไปป์...น้องชายคนเดียวของพี่




Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2555 11:04:32 น. 32 comments
Counter : 2030 Pageviews.

 
ไปป์คับ....พี่จะคอยเอาใจช่วยอยู่ตรงนี้นะคับ


โดย: ...สาวใหญ่ไซส์ S... วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:20:13:52 น.  

 
ย่องไปอ่านเรื่องที่คุณฟอมเขียนมานานแล้ว ตอนที่รู้ว่าคุณฟอมไม่ได้อยู่ดูแลเด็กๆแล้วรู้สึกสะเทือนใจมากๆ คิดถึงความรู้สึกของน้องฟ่านจังเพราะเขาโตที่สุดน่าจะจำเกี่ยวกับแม่ได้ แต่ดีนะคุณฟอมได้บันทึกเรื่องราวต่างๆไว้เยอะเพื่อที่น้อง 3 ฟ จะได้อ่านและคิดถึงแม่ฟอมคนเก่ง


โดย: มน.เพลง (ครอบครัวดนตรี ) วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:20:28:37 น.  

 
ไปป์

ขอแสดงความเสียใจด้วยจริงๆ นะ

เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ไปป์พูดถึงฟอม

โดยเฉพาะความเป็น "แม่" ที่ดี


ป่านนี้ฟอมก็คงเฝ้าดูอยู่เนาะ

มีชีวิตที่มีความสุข ดูแลหลานๆ ฟอมจะได้มีความสุขเช่นกันในภพนั้น...นะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:21:02:44 น.  

 
ตอนทราบข่าวก็ตกใจและอึ้งไปหลายวัน

ในที่สุดก็เสียน้ำตาเมื่อได้มาอ่านเรื่องราวที่นี่ เด็กๆโชคดีที่ไม่ได้มีแต่แม่คนเดียวที่รักเขา เขายังมีพ่อ พี่ ป้า น้า อา ที่ล้วนแต่เป็นคนดี น่ารักกันทั้งนั้น ยังไงก็ขอเอาใจช่วยทุกคนให้ฟันฝ่าไปได้นะคะ


โดย: LuckyMoby วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:21:18:55 น.  

 
ไม่รู้จะเขียนอะไร พูดไม่ออก น้ำตารินนิด ๆ
ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไปนะคะ


โดย: แม่น้องมัดหมี่ (iamnerisa ) วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:22:52:34 น.  

 
แม้ไม่ได้เข้าบล๊อคมานานมาก แต่กิ๊ฟจำได้ว่าเป็นบลีอคของชายแม่ฟอม..บล๊คอประมุขขวัญ

กิ๊ฟอ่านจบแล้วร้องไห้อย่างไม่อายจริงๆ กิ๊ฟเพิ่งทราบข่าวประมาณอาทิตย์ ตกใจและเสียมาก ด้วยความที่เป็นแม่ และมีลูกเหมือนกัน

ไม่อยากเชื่อเลย คนดี เป็นแม่ที่ดีที่สุดอีกคนจากที่กิ๊ฟติดตามแค่ในบล๊อค...

กิ๊ฟอ่านแล้วเชื่อจริงๆ ว่าคุณฟอมจากไปอย่างมีความสุขและทำหน้าที่จนลมหายใจสุดท้าย..สู่วรรค์ คอยเฝ้ามองลูกๆ เติบโตเป็นคนดีและมีความสุข

เสียใจด้วยมากๆ อีกครั้งค่ะ


โดย: grippini วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:23:32:22 น.  

 
น้าหมอ..คิดถึงแม่ฟอม..อาจจะน้อยกว่า..น้าหมอ..แต่ก็คิดถึงค่ะ..

แม่ฟอม..เป็นเพื่อนที่ดีใน Bloggang คนหนึ่งเลยนะค่ะ..



โดย: ขนมตะโก้ วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:10:14:04 น.  

 
ขอเป็นกำลังใจให้คุงแม่นะค่ะ
คุงแม่เข็มแข็งกว่าที่เราคิดเยอะเลยค่ะ


โดย: MomTaWan วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:12:18:35 น.  

 
เสียใจด้วยค่ะ


โดย: earn earth วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:12:41:52 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
กับครอบครัวของคุณหมอ และกับครอบครัวของคุณฟอม

หลังจากนี้พยายามดูแลทุกคนที่ยังอยู่ให้ดีที่สุดนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: คุณแม่ & น้องดรีม วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:13:50:56 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ อ่านจากกระทู้แนะนำที่พันทิพ เลยตามมาอ่านในนี้ด้วย ให้กำลังใจทุกคนที่ใกล้ชิดกับคุณฟอมแล้วกันนะคะ


โดย: แม่น้องเซนท์กับพี่สตางค์ (suttirak2 ) วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:15:33:52 น.  

 
ตามมาจากห้องชานเรือนค่ะ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

ตอนนี้คนที่ต้องการกำลังที่สุด คือพี่เขยค่ะ ต้องให้กำลังใจเค้าให้มากนะคะ เราเคยผ่านประสบการณ์สูญเสียมาแล้ว


โดย: คุณแม่น้องเรโน่ค่ะ (nangkarang ) วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:17:01:07 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
รู้ตอนแรก ยังไม่เชื่อเลยว่าเป็นฟอม

แต่ฟอมก็ไปสบายแล้วจริงๆนะคะ

ฝากอัพเดทหลานทั้งสามด้วยค่ะ


โดย: Bee1st วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:17:19:37 น.  

 
ไม่ได้เข้าบล็อกหมอไปป์กับคุณฟอมนานมาก

เข้ามาตั้งแต่น้องฟ่าน ฟ่าน ยังเล็กๆอยู่

เพิ่งทราบจากห้องชานเรือนตอนเที่ยงวันนี้

รู้สึกใจหายมาก เหมือนเสียคนรู้จักไปคนนึง

ทั้งที่รู้จักกันแค่ในบล็อก คุณฟอมเป็นแม่ที่รักและดูแลลูกได้ดีมากๆ

ขอแสดงความเสียใจกับหมอไปป์ด้วยค่ะ




โดย: random-4 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:18:24:42 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
อ่านแล้วน้ำตาซึม ใจหายค่ะ พูดไม่ออก
เคยแวะเวียนไปอ่าน blog คุณฟอมและมาอ่าน blog คุณหมออยู่เรื่อยๆ
ขอให้คุณหมอและครอบครัวเข้มแข็งนะคะ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนค่ะ


โดย: i_nookae วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:22:56:23 น.  

 
ตกใจและเสียใจมากค่ะ เพราะติดตามบล็อคของคุณ ฟอม มานานแล้ว ส่วนใหญ่จะเข้าไปดูเรื่องกาแฟ เรายังว่าคุณฟอม เก่งเลย ลูกก็ต้องเลี้ยง และยังสามารถสร้างกิจการเล็กๆ ได้อีก

ตอนแรกไม่ทราบหรอกค่ะ ว่าคุณหมอเป็นน้องคุณฟอม เปิดบล็อคปเรื่อยๆ เอ๋ น้องคนนี้ (น้องฟ่าน ) หน้าคุ้น ๆ พอไปเจอบล็อคของคุณฟอม ตกใจ และเสียใจมาก สงสารเด็กๆ ด้วยคะ


เป็นกำลังใจให้กำลังใจ คุณหมอ คุณแม่ และสามีคุณฟอมด้วยคะ

อย่าลืม เอารูปเด็กๆ มาอัฟนะคะ ติดตามอยู่ค่ะ


โดย: ชาติสยาม วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:10:08:01 น.  

 
ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับหมอไปป์ก่อนนะค่ะ
อ่านบล๊อคนี้น้ำตาไหลเลยค่ะ ตอนรู้ข่าวแม่ฟอมก้อต้องทำใจอยู่หลายวัน พอมาอ่านบล๊อคยิ่งเหมือนตอกย้ำให้คิดถึงแม่ฟอม
เป็นกำลังใจให้น้องฟ่าน น้องมีฟา น้องเฟม่า และพ่อกุน และคุณยายด้วยนะค่ะ


โดย: aehtom วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:20:57:14 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ...หมอไปป์



โดย: smartman หล่อสุดๆ วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:22:12:29 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอีกครั้งนะคะ เพิ่งเข้าไปอ่านกระทู้ของพ่อกุน เด็กๆ น่ารักกันจริงๆ ดูพ่อกุนเข้มแข็งมาก เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ


โดย: tiara วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:14:39:46 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งค่ะ...


โดย: Tonkra49 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:15:55:59 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยอีกครั้งค่ะ

เป็นกำลังใจให้ทั้งครอบครัวนะคะ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:18:30:47 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจ

และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในครอบครัวนะคะ


โดย: นางพญา...ผู้สง่างาม วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:22:03:38 น.  

 
วันที่เรากลับจากบ้านกรูดกัน มันรู้สึกใจหายยังไงบอกไม่ถูกนะ ที่จะไม่มีคนที่ทำให้เรารู้สึกsecure อีกแล้ว ต่อไปนี้เราต้องเติบโตขึ้น เรียนรู้ด้วยตัวเราเองพร้อมกับดูแลน้องๆอีก5คน

ตอนที่นั่งรถกลับ มองออกไปนอกกระจกรถ บอกกับตัวเองว่า "นับแต่นี้ไปอีก1 ปี เราจะต้องพากันรอดให้ถึงฝั่งกันทั้งสามคนให้ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน1ปีต่อจากนี้ไป พี่จะทำทุกอย่างให้มันผ่านไปได้ด้วยดีที่สุด จะไม่ทิ้งกันเด็ดขาด"

จำได้ว่าตอนที่ติดรถไปป์กลับบ้าน พี่บอกไปป์ว่า "อยากจบแล้วอ่ะ" ส่วนแกก็ตอบกลับมาว่า " อืม อยากกลับบ้านแล้ว" เจ๊แอบเศร้าอ่ะ สำหรับเจ๊มันอาจจะแค่อยากให้ภาระเรื่องการเรียนหมดไป แต่สำหรับไปป์มันมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นรออยู่ ได้ยินไปป์พูดแบบนั้น มันยิ่งทำให้พี่บอกตัวเองว่า เราจะต้องไปถึงจุดหมายของเราด้วยกันให้ได้ รวมทั้งเจ้าปังด้วย

พี่ก็เคยผ่านความทุกข์จากการสูญเสียเหมือนกัน มันยากนะ ทุกวันนี้เวลานึกถึงบางทียังร้องไห้อยู่เลย ทั้งๆที่ผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว

ที่ส่งเพลงไปให้แค่จะบอกว่าถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องซะ ถ้าไม่อยากให้ใครเห็นก็ร้องคนเดียวก็ได้ ความรู้สึกมันหลอกใครไม่ได้หรอก บางทีเราก็เข้มแข็ง บางทีเราก็อ่อนแอ ก็เราเป็นคนธรรมดานี่นา แต่เราก็จะเดินต่อไป เพื่อบางสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา

ถ้ามีอะไรที่ช่วยกันได้ บอกนะ ได้เสมอทุกเรื่อง
อย่าให้พี่ต้องเสียความตั้งใจนะ ^ ^
รักแกนะ รักปังด้วย ดีใจจังที่ได้มาเรียนด้วยกัน โชคดีจริงๆที่ได้รู้จักกับพวกแก
ปล.แค่นี้ก่อนนะ ไปเช็ดน้ำตาก่อน


โดย: piya (wind beneath ur wings ) วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:23:16:04 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ขอให้ทุกคนเข้มแข็งเพื่อวันข้างหน้าต่อไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: pinkyrose วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:19:44:34 น.  

 
ฮ้าาาา จริงเหรอคะัพี่ไปป์
แอปไม่ได้เข้าบลอคพี่ไปป์กับพี่ฟอมมานานมาก
เพิ่งเข้ามาวันนี้เอง และก่อนนี้ก็เพิ่งไปอ่านบลอคพี่ฟอมมา
ยังคิดอยู่เลยว่า ผ่านไปไม่กี่ปี พี่ฟอมลูกสามแล้วเหรอเนี่ย
แต่พอมาบลอคพี่ไปป์ บอกตรงๆ แอปยังอึ้งอยู่นะเนี่ยพี่ไปป์
ถึงแอปจะยังไม่เคยเจอพี่ฟอมเลยซักครั้ง ถึงจะรู้จักกันผ่านบลอคแกงค์
แต่ก็เหมือนพี่สาวอีกคนนึงไปแล้ว พี่ฟอมยังสาวอยู่แท้ๆ ไม่น่าเลยนะคะ
เสียใจด้วยจริงๆนะคะ


โดย: กระต่ายลงพุง (กระต่ายลงพุง ) วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:19:43:52 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ


โดย: รุ่นพี่ LS CMU IP: 58.8.106.240 วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:14:24:47 น.  

 
เสียใจด้วยนะคะ รู้ซึ้งถึงคนที่สูญเสียเหมือนกันค่ะว่าเป็นอย่างไร เพราะเพิ่งสูญเสียคนที่เรารักไปเหมือนกันเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 53 ที่ผ่านมาเหมือนกันแบบไม่ทันตั้งตัวเหมือนกันแค่เป็นลมในห้องน้ำไม่ทันได้สั่งเสียอะไร เข้าใจความรู้สึกถึงแก่นแท้ของหัวใจเหมือนกันว่าเป็นอย่างไร เข้มแข็งนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอให้อยู่เป็นกำลังใจให้คุณแม่และบรรดาหลาน ๆ นะค่ะ สู้ ๆ


โดย: jennysup IP: 61.19.239.41 วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:36:35 น.  

 
อ่านแล้วรับรู้ได้ถึงความรัก ที่มีต่อกันได้อย่างชัดเจน และลึกซึ้งมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ครอบครัวและน้องๆ ด้วยนะคะ


โดย: jaa IP: 180.180.51.116 วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:46:39 น.  

 
พี่ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ เพื่อนที่เบญจมฯ นครศรีฯ ส่งลิงค์นี้มาให้อ่าน พี่จบ บม. รุ่นเดียวกับเสกสรรค่ะ


โดย: diamondsky วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:22:19:12 น.  

 
เพิ่งจะเคยเข้าเวปนี้เป็นครั้งแรก อ่านแล้วใจหายเหมือนกันคะ แอบนั่งน้ำตาคลออยู่ เสียใจด้วยนะคะ


โดย: แม่น้องเก้า IP: 182.53.104.28 วันที่: 19 มกราคม 2554 เวลา:13:46:48 น.  

 
ตอนแรกตั้งใจจะไม่้ร้องไห้ แต่ก็เก็บไว้ไม่ได้ เสียใจด้วยนะคะ


โดย: pandow IP: 113.53.166.100 วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:11:49:39 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาคลอเลยล่ะ

มันตันไปหมด
(ครั้งแรกที่เข้ามาอ่าน เลยอ่านไถลไปเรื่อย จนถึงตรงนี้อ่ะ )


โดย: sticker-dicut (เสี่ยวเฟย ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:45:44 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

tpipe
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Group Blog
 
 
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tpipe's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.