|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไข่มุกน้ำตามังกร.....เรื่องสั้น
ตะวันบ่ายคล้อย ดวงสุริยันแผดแสงแรงกล้า
บนถนนเส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งปกติคลาคล่ำไปด้วยผู้ที่สัญจรไปมา ยามนี้เงียบสงบราวกับทางเปลี่ยวร้าง บรรดาผู้สัญจรต่างพากันหลบไอร้อนของเปลวแดด อยู่ในร้านน้ำชาริมทาง
ใต้เงาไม้ใหญ่ริมทางติดกับแนวป่า ม้าพ่วงพีสามตัว จอดซุ่มอยู่ ม้าตัวกลางขับขี่โดยชายกลางคน รูปกายสูงใหญ่ ไว้หนวดเรียวเหนือริมฝีปาก ท่วงท่าเหี้ยมหาญ ทรงอำนาจ ดูท่าทางคล้ายเป็นหัวหน้าขบวน
ม้าอีกสองตัว ขับขี่โดยชายฉกรรจ์แต่งกายแบบเปาเปียวแบบและสีเดียวกัน คนหนึ่งรูปกายค่อนข้างท้วม ไว้หนวดเครายาว อีกคนรูปร่างผอมบาง หน้าเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเครา สักพักหนึ่ง ผู้มีท่าทางเป็นหัวหน้าจึง เอ่ยออกมาเบา ๆ
พวกเจ้าแน่ใจนะ ว่าไม่ผิดแน่
ศิษย์แน่ใจ เมื่อสักครู่ที่ร้านน้ำชา ศิษย์ได้ยินเจ้าขอทานชราซอมซ่อนั่น พูดกับหลานสาวมันว่า ไข่มุกน้ำตามังกร มีคุณค่ามหาศาล และมีอยู่เพียงลูกเดียวในพิภพ และมันกำลังจะนำไปมอบให้กับผู้มีพระคุณท่านหนึ่ง ชายฉกรรจ์ไว้หนวดเคราเอ่ยตอบ
เล่ายี่ ได้ลองถามขอซื้อจากมันแล้ว มิว่าจะทุ่มเทราคามากมายเพียงใด มันกลับมิยินยอมขาย ชายฉกรรจ์อีกคนกล่าวเสริม
ช่างเป็นคุณธรรมอันสูงส่งน่านับถือยิ่งนัก ผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยเบา ๆ แต่ทว่า ชีวิตของแชแชบุตรสาวเรา กลับจำต้องใช้ ไข่มุกน้ำตามังกรนี้เท่านั้น จึงจักสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
ใช่แล้ว ชีวิตของคุณหนูสำคัญที่สุด มิว่าอย่างไร เราก็ต้องหาทางแย่งเอาไข่มุกน้ำตามังกรมาให้จงได้
ชายฉกรรจ์ไว้หนวดหรือเล่ายี่เอ่ย
แว่วเสียงของมันใกล้มาแล้ว อาจารย์ เอาผ้าปิดหน้าไว้ก่อนเถอะ... อีกสักครู่อาจารย์ ไม่จำเป็นยังคงอย่าได้ออกหน้า คาดว่า คงไม่เกินกำลังของศิษย์สองคนไปได้ดอก
อืม...ก็ดี....เฮ้อ! นึกไม่ถึง ข้าฯประกอบอาชีพคุ้มกันสินค้ามาตลอดชีวิต ยามนี้กลับต้องเป็นโจรปล้นชิงสินค้าเสียเอง ผู้เป็นอาจารย์เอ่ยรำพึงเบา ๆ แต่เพื่อแชยี้ ต่อให้ต้อง ฆ่าคนวางเพลิง ข้าฯก็จำต้องทำ เอ่ยพลางดึงผ้าแพรสีดำขึ้นมาผูกปิดบังใบหน้า แล้วสำทับต่อ
เล่ายี่ เล่าซา ไม่จำเป็นอย่าได้ทำร้ายผู้อื่นจนถึงชีวิตเป็นอันขาด เราต้องการเพียงสิ่งของ ไม่อยากสร้างบาปกรรมมากเกินไป
ศิษย์รับทราบ ทั้งสองคนเอ่ยรับพร้อมกันเบา ๆ
เพียงอึดใจต่อมา ก็ปรากฏร่างชายชราตาบอด มือซ้าย ถือไม้เท้า มีเด็กหญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบไว้เปียสองข้าง หน้าตาแม้จะค่อนข้างมอมแมมแต่ก็ดูน่ารัก จูงมือขวา เดินนำหน้าพ้นแนวโค้งของเนินดินออกมาช้าๆ สองในสามคนทะยานขึ้นจากอานม้า ตีลังกากลางอากาศลงขวางทาง สร้างความตื่นตระหนกแก่เด็กหญิงจนกรีดร้องออกมา ขยับกายเข้าแนบชิดชายชราด้วยความหวาดกลัว
หงส์ยี้ เกิดอันใดขึ้น ?
ท่านปู่ ...ข้ากลัว
ท่านผู้เฒ่า ขอรบกวนแล้ว ชายฉกรรจ์ไว้หนวดหรือเล่ายี่ เอ่ยขึ้นก่อน
พวกเจ้าเป็นผู้ใด พวกเราไม่เคยรู้จัก ไม่มีความอาฆาตแค้นอันใด ไยจึงมาสกัดทางเราปู่หลาน
คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก... ขอเพียงท่านผู้เฒ่ามอบ ไข่มุกน้ำตามังกร ออกมา จะละเว้นชีวิตชราท่าน
อ้อ ที่แท้สหายน้อยที่ร้านน้ำชานั่นเอง.. ข้าบอกไปแล้ว ไข่มุกน้ำตามังกรนี่ จะนำไปมอบตอบแทนบุญคุณ คงมอบให้ไม่ได้
ท่านผู้เฒ่า ได้โปรดเห็นแก่ชีวิตน้อยๆด้วยเถอะ บุตรสาวข้า บังเอิญถูกพิษร้าย และมีแต่ไข่มุกน้ำตามังกรนี้เท่านั้น จึงจะขจัดพิษนี้ได้ยกลางคนผู้เป็นอาจารย์เอ่ยแทรกขึ้น
โอ ชีวิตแต่ลำคนล้วนสำคัญเท่าเทียมกัน เล่าฮูเห็นใจท่านยิ่งนัก แต่ ผู้มีพระคุณของเล่าฮูก็ต้องการใช้ไข่มุกนี้เพื่อรักษาชีวิตไว้เช่นกัน ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง
เจรจาซื้อขายไม่สำเร็จ ก็ได้แต่ใช้กำลังช่วงชิงแล้ว หนึ่งในสามกล่าวจบ ร่างพลันเคลื่อนไหว โถมจู่โจมใส่ชายชราอย่างรวดเร็วดุจหมอกควัน ไขว้สลับสองมือ หมุนคว้างละลิ่วร่าง จากนั้นพุ่งมือขวาจี้ดรรชนีซ้ายกระบวนเพลงเดียวมีสองท่วงท่า รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า...
ชายชราขยับกายผลักหลานสาวถอยไปด้านหลัง พร้อมกับขยับข้อมือ ดัดแปลงใช้ไม้เท้าต่างทวนยาว ร่ายรำใช้ออกด้วยท่าไม้ตายของเพลงทวนตระกูลงัก(งักแก-เชียฮวบ) แทงปราดจู่โจมโต้ตอบใส่
ชายฉกรรจ์หรือเล่ายี่ลอบผงกศีรษะ เห็นว่าชายชรามีฝีมือมิใช่ชั่ว กลับสามารถร่ายไม้เท้าต่างทวนเป็นบุปผาทวนขนาดเท่าปากชาม ความกล้าแข็งของฝีมือเป็นที่คาดคิดได้ รีบวกกายวูบหนึ่ง ใช้ท่าเท้าเจ็ดเหยียบย้อนทวน(ต้อตะฉิกแชโป่ว)แฉลบหลบหลีกด้วยท่าร่างปานเมฆพลิ้วสายน้ำไหล เล่ายี่เห็นดังนั้น รีบเปลี่ยนแปลงท่าร่าง ใช้ฝ่ามือปานพายุ แปรเปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นหมัด จากหมัดเป็นกรงเล็บ กลับดัดแปลงใช้ออกด้วยหมัดอรหันต์(ล้อฮั่นคุ้ง) ของเสียวลิ้ม วิชามือเปล่าชิงอาวุธ(คงชิ่วแป๊ะยิ่ม) ของบู๊ตึง และ วิชาหัตถ์กระเรียนวิเศษ (ซิ้งเฮาะเจี้ย) ของสำนักง่อไบ๊ ผสมผสานกัน
กระบวนท่าเหล่านี้ เป็นกระบวนท่าที่มักพบเห็นในยุทธจักร แต่ปกติไม่เคยมีการหลอมรวมเข้าด้วยกัน กระทั่งได้ยินยังไม่เคยได้ยินมา ชายชราตาบอด กลับไม่ยอมแสดงความอ่อนด้อย พลิกแพลงท่าร่างอีกครา กลับใช้ออกด้วยกระบวนท่าในวิชาสุดยอดไม้ตายไม้เท้าฟาดสุนัขของพรรคกระยาจก
เล่ายี่นั้นแม้ชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบด้วยพลังยุทธ์ที่เหนือกว่า ประกอบด้วยวัยที่ยังหนุ่มแน่น พละกำลังมากกว่า แต่ชายชราตาบอดกลับใช้การต่อสู้แบบยอมเสี่ยงชีวิต หยกศิลาล้วนแหลกราญ ทำให้ในระยะเวลาอันสั้น เล่ายี่ไม่สามารถกำชัยเผด็จศึก สร้างความขุ่นข้องรำคาญอยู่บ้าง
คิดฆ่าคนนั้นไม่ยาก แต่ หากคิดสยบคน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
เล่ายี่ตัดสินใจกู่ร้องดังกังวานลอยตัวขึ้นกลางอากาศ หักเหท่าร่างเปลี่ยนเป็นศีรษะอยู่ล่างเท้าอยู่บนกราดฟาดสองมือด้วยพลังอันเกรี้ยวกราด ใส่เบื้อบนศีรษะชายชราตาบอด
ชายชราตวัดไม้เท้าจากล่างขึ้นบนใช้ออกด้วยท่าจอมพลังยกกระถาง(อ้วงกื้อเตี้ย) ทั้งยังหมุนคว้างออกไป
เล่ายี่พลันบิดเอวกลางอากาศ ร่างท่อนบนลอยขึ้นไปเชียะเศษ เท้าซ้ายกลับกวาดขวางออก ถีบยันใส่กลางหลังชายชราอย่างถนัดถนี่
กระบวนท่านี้ พลิกแพลงสุดคาดคิด ชายชราแผดร้องคำหนึ่ง รู้สึกลำคอหวานวูบ กระอักโลหิตโพยพุ่งออกจากปาก เป็นฟองฝอย ร่างเซถลาไปหลายก้าว ปักไม้เท้ายันพื้น จึงสามารถประคองตัวไว้ได้
นับว่าโชคดี ที่เล่ายี่ออมพลังเท้า ชายชราตาบอด จึงเพียงบาดเจ็บบอบช้ำไม่ถึงกับขาดใจตาย
เล่ายี่ ลงมือประสบผลตีลังกากลางอากาศ พลิ้วกายลงข้างเด็กหญิงหลานสาวของชายชรา ยกฝ่ามือทาบลงบนขม่อมของเด็กหญิง
ผู้เฒ่า ชีวิตหลานสาวท่านสำคัญ หรือ ไข่มุกน้ำตามังกร สำคัญกว่า ท่านเลือกเองเถอะ
เด็กหญิงไม่เสียทีเป็นบุตรหลานชาวยุทธ์ แม้นว่าหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงก แต่กลับ ไม่ยอมปริปากวิงวอนใดๆ มีเพียงสองตากลมโตที่เอ่อล้นด้วยน้ำตา..
ชายชราตาบอด ยกมือคลำเข้าไปในอกเสื้อ ล้วงยาแก้อาการบอบช้ำออกมาส่งเข้าปากตัวเองแล้วโคจรพลังรักษาอาการ ราวอึดใจจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ
เอาเถอะ...ในเมื่อสู้ก็สู้ไม่ได้... เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว... ก็สุดแท้แต่เวรกรรมเถอะ ว่าแล้วล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ ล้วงเอาขวดเคลือบสีขาว ออกมา โยนให้แก่เล่ายี่ ซึ่งรีบปล่อยมือจากเด็กหญิงทะยานกายขึ้นรับไว้ในอุ้งมือ แล้วพลิ้วกายลงยืนเคียงข้างชายฉกรรจ์รูปร่างผอมบางหรือเล่าซา
เปิดออกดูให้รู้แน่ทีรึ ว่าไม่แปลกปลอม เล่าซากล่าวเบาๆ
เปิดไม่ได้ ชายชราตาบอดรีบเอ่ยห้าม แต่มิทันการเสียแล้ว เล่ายี่เปิดจุกขวดเคลือบออก เทใส่ฝ่ามือ เห็นเป็นไข่มุก ที่โตกว่าไข่มุกธรรมดาทั่วไป ขนาดพอๆกับไข่จิ้งจก สีขาวนวล แต่ยามสะท้อนแสงอาทิตย์ออกประกายเขียวเรื่อ ๆ แต่ส่งกลิ่นหอมโรยริน สูดดมแล้วรู้สึกคึกคักสดชื่นอย่างแปลกประหลาด
โอว...น่าเสียดายนักชายชรา ส่ายหน้าพึมพำ พลางเดินช้า ๆ แล้วเรียกหาหลานสาว
ท่านปู่ แล้ว ไข่มุกน้ำตามังกรล่ะ เด็กหญิงถามด้วยความเป็นห่วงท่านปู่
ช่างเถอะ หงส์ยี้ คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต ของที่มิใช่ของเรา แม้นวันนี้มันจะยังอยู่กับเรา เมื่อถึงเวลาที่สมควรไป มันก็ต้องไปในที่ที่ของมัน
ไข่มุกน้ำตามังกร แม้นว่าจะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดกระดูกของปู่ แต่ปู่ก็ตัดใจแล้วว่าจะนำมันไปมอบแก่ผู้มีพระคุณ... แต่นึกไม่ถึง ท่านผู้นั้นกลับไร้วาสนา เราก็ต้องไปบอกกับท่านตามความเป็นจริง
แล้วอาการปวดของท่านปู่ จะทำอย่างไรกัน ?
อาการปวดกระดูกของปู่ เกิดจากฟ้าลงทัณฑ์ที่ปู่เปิดเผยความลับแห่งฟ้า.. ปู่มีแต่ต้องกล้ำกลืนรับไว้...ไปกันเถอะ เอ่ยพลางฉุดมือหลานสาวก้าวเดินจากไป
ฝ่ายเล่ายี่ หาได้แยแสสองปู่หลานไม่ เทไข่มุกน้ำตามังกรใส่ขวดเคลือบปิดจุกไว้ดังเดิม ก่อนนำไปมอบให้กับผู้เป็นอาจารย์ พร้อมกับเอ่ย
ตอนนี้ ไข่มุกน้ำตามังกร ก็ได้มาแล้ว อาจารย์คิดเห็นจะทำประการใดต่อไป
เพื่อมิให้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลง คงต้องนำไข่มุกนี้กลับสำนักก่อน... ส่วนเรื่อง จอมแพทย์เทพยดาตาวิเศษ ที่มีข่าวว่า ตอนนี้ไปอุทิศตัวรักษาคนป่วยอยู่เมืองชายแดน ให้รีบส่งพิราบสื่อสารไปสาขาของสำนักเราทุกแห่ง สืบหา แล้วพาตัวมาที่สำนักใหญ่ทันที
จอมแพทย์เทพยดาตาวิเศษ มาตรแม้นทำตัวลึกลับ แต่ด้วยชื่อเสียงโด่งดังปานนั้น คงไม่ยากที่จะตามหา...
อาจารย์ อย่าหาว่าศิษย์ปากมาก ในเมื่อหมอหลวงแห่งราชสำนัก ตรวจสมมุติฐานโรคของคุณหนูได้แล้ว เหตุใด ต้องตามหา จอมแพทย์อะไรนั่นอีกเล่า ?
ข้าเองก็ไม่กระจ่างนัก ท่านหมอหลวง บอกเองว่า ในแผ่นดินนี้ มีเพียงไข่มุกน้ำตามังกร และ ต้องให้ จอมแพทย์เทพยดาตาวิเศษ มาปรุงยารักษาเท่านั้น .. ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น...เวลาไม่เช้าแล้ว พวกเรารีบกลับกันเถอะ เอ่ยพลางกระตุกบังเหียนควบขับม้านำหน้ารีบเร่งกลับสำนักอย่างรวดเร็วราวเหิรบิน
สำนักคุ้มกันภัยสยบไกล
ตั้งสาขาใหญ่อยู่ในเมืองหลวง มีสาขาอยู่ตามหัวเมืองแทบทุกแห่ง เจ้าสำนัก ทิเกี่ยม ฉายากระบี่เหล็กแห่งวังหลวง อดีตเคยเป็นนายทหารองครักษ์ แต่เพราะมีเรื่องราวขัดใจกับขันทีตำหนักใน จึงลาออกจากราชการ มาตั้งสำนักคุ้มกันภัย ปัจจุบันอายุห้าสิบปีเศษ ภรรยาหลังจากคลอดบุตรสาวได้ไม่นานก็เสียชีวิตไป ทิ้งบุตรสาวไว้ให้ทิเกี่ยมดูต่างหน้า ทิเกี่ยม จึงทุ่มเทความรักทั้งมวลให้แก่บุตรสาวเพียงคนเดียว เลี้ยงดูแบบทะนุถนอม ยุงไม่ให้ได้ไต่ หมัดเหลือบริ้นไร มิให้ไต่ตอม
แชแช บุตรสาวมาตรว่าถูกเลี้ยงมาแบบตามใจตั้งแต่เล็ก กลับไม่สร้างความผิดหวังแก่บิดา ถอดแบบออกมาจากมารดาแทบไม่ผิดเพี้ยนทั้งรูปร่างหน้าตาที่สวยสดงดงาม และ กิริยามารยาท นุ่มนวลช่างเอาใจ
โบราณกล่าวไว้ หญิงงามมักชะตาอาภัพ เมื่อแชแช อายุครบสิบเก้า ทิเกี่ยม ผู้บิดาได้หมั้นหมายให้แก่ เซียวเง็ก ศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาศิษย์ทั้งสามคน แต่เข้าสังกัดสำนักกราบอาจารย์ก่อน จึงถือเป็นศิษย์พี่ใหญ่ สองหนุ่มสาวเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ต่างมีจิตใจผูกพันสัมพันธ์กัน ผู้ใดได้พบเห็นต่างกล่าวชมเป็นเสียงเดียวกันว่า สมกันราวกิ่งทองใบหยก ฝ่ายหญิงสาวราวเทพธิดามาจุติ ฝ่ายชายราวเทพบุตรที่ฟ้าดินบรรจงเสกสรรปั้นแต่ง
แต่แล้ว ในค่ำคืนหลังวันครบรอบวันเกิดของนาง รุ่งเช้า หญิงรับใช้ประจำตัวก็พบว่าคุณหนูของตนเอง มิได้ตื่นนอนแต่เช้าตรู่เหมือนดังเคย และเมื่อไปปลุกก็พบนายสาวหลับใหลไม่ได้สติ ไม่ยอมรับรู้ใดใดทั้งสิ้น
ทิเกี่ยม ทั้งกระวนกระวายทั้งเป็นห่วง ตามหมอมาจากทั่วทุกหัวมุมเมือง กลับไม่มีผู้ใดวินิจฉัย สมมุติฐานของนางออกได้ จนในที่สุด ทิเกี่ยม ต้องดั้นด้นกลับเข้าไปในราชสำนัก ทุ่มเทเงินทอง จึงสามารถตามตัวหมอหลวงประจำราชสำนักออกมาตรวจดู
หมอหลวง มิเสียทีเป็นหมอประจำพระองค์ฮ่องเต้ ให้ความเห็นว่า นางถูกพิษจากแมงมุมนางพญา ซึ่งปกติมีอยู่แต่กลางทะเลทรายเท่านั้น และได้ช่วยแก้ไขจนนางฟื้นคืนสติขึ้นมา แต่กลับจนปัญญารักษาให้หายขาดได้ วิธีแก้พิษมีหนทางเดียว ต้องใช้ ไข่มุกน้ำตามังกร เป็นตัวยาหลัก และมีเพียง จอมแพทย์เทพยดาตาวิเศษ ผู้เป็นศิษย์พี่ของหมอหลวง เพียง ผู้เดียว ที่จะสามารถปรุงยาและรักษาพิษนี้ได้ และ ภายในหนึ่งปี หากไม่ทำการรักษา ชีวิตน้อยๆของนาง ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้อีกแล้ว
ทิเกี่ยม จึงพาศิษย์ทั้งสอง ออกดั้นด้นหาไข่มุกน้ำตามังกรและจอมแพทย์เทพยดา ซึ่งหลังสุดมีคนพบเห็นอุทิศตัวรักษาคนไข้ในชนบทยากจน ติดชายแดน และระหว่างทางเดินทางเพื่อไปเชื้อเชิญหมอเทวดานั้น ก็บังเอิญโชคดีได้พบและช่วงชิงไข่มุกน้ำตามังกรกลับมา
ในห้องโถงใหญ่ของสำนักคุ้มกันภัยสยบไกล
กระบี่เหล็กแห่งวังหลวง ทิเกี่ยม นั่งจิบน้ำชาด้วยท่าทางเคร่งเครียดเย็นชา จนผู้ใดก็มิอาจเข้าใกล้ มีเพียงศิษย์ทั้งสองที่นั่ง อยู่ตั่งคนละฟากข้าง ด้วยสีหน้าอาการที่แทบไม่แตกต่างกัน
สาขาที่ชายแดน ส่งพิราบตอบกลับมาแล้ว จอมแพทย์เทพยาดาตาวิเศษ ออกเดินทางไปกับหลานสาวตัวเล็กๆ ไม่ทราบไปที่ใด และ ไม่มีญาติมิตรใดใด พอจะสอบถามได้เลย ชายฉกรรจ์หน้าหนวดเคราหรือศิษย์ลำดับที่สอง เล่ายี่ เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
สาขาอื่น ๆ ก็ทยอยส่งพิราบตอบกลับมา ไม่มีสาขาใดพบเบาะแสหรือทราบข่าวท่านจอมแพทย์เลย ศิษย์ลำดับที่สาม เล่าซา เอ่ยเสริม
บัดซบสิ้นดี... เลี้ยงเสียข้าวสุก ล้วนแล้วแต่เป็นสัดใส่ข้าว หาประโยชน์อันใดมิได้จริง ๆ ทิเกี่ยม สบถออกมาด้วยความขัดใจ
พอดีกับมีเปาเปียวของสำนัก เปิดประตูใหญ่ แล้ววิ่งกระหืดกระหอบ ข้ามลานฝึก มุ่งหน้ามาที่ตึกใหญ่ ท่าทางร้อนรน มาตัดบทสนทนาเสียก่อน ทำการคารวะผู้เป็นเจ้านาย
มีอันใดก็ว่ามา อย่ามัวอ้ำอึ้ง ทิเกี่ยมเอ่ยออกมาด้วยสุ้มเสียงทรงอำนาจ
เรียนนายท่าน ด้านนอกมีขอทานชราตาบอด กับ หลานสาว มาขอน้อมพบนายน้อยเซียวเง็ก
บอกหรือไม่ว่ามีธุระอันใด
เห็นบอกว่ามากราบเยี่ยมขอบคุณที่เคยช่วยชีวิต
อืม เรียกมันเข้ามา ... ก่อนหันหน้าไปหาศิษย์คนที่สาม เล่าซา ให้ใครไปตามเซียวเง็กออกมาที
เล่าซารับคำเบาๆ แล้วลุกเดินเข้าไปด้านใน
ราวอึกใจ เปาเปียวคนเดิม ก็เดินนำหน้าชายชราตาบอดรูปร่างผ่ายผอม กับหลานสาวอายุราวแปดขวบไว้เปียยาวสองเส้น เดินช้า ๆเข้ามา
กระบี่เหล็กแห่งวังหลวงและศิษย์ มีสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นแวบหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยเบาๆ
ท่านผู้เฒ่าโปรดรอสักครู่ เราให้คนไปตาม เซียวเง็ก มาแล้ว เอ่ยมิทันจบคำ ก็พอดีเล่าซา เดินนำหน้าชายหนุ่ม รูปร่างสง่างามหน้าตาคมคาย เดินออกมาจากด้านใน
อาจารย์ให้ เล่าซาไปตามศิษย์ออกมา มิทราบมีธุระอันใดจะเรียกใช้
ทิเกี่ยมยกมือโบกเป็นทีตัดบท ไม่ต้องมากมารยาท ท่านผู้เฒ่ากับหลานสาว ไม่ทราบมาจากที่ใด มาขอพบเจ้า
ชายหนุ่มหรือเซียวเง็ก หันไปมองพลางเอ่ยทัก ผู้เยาว์ ขอกราบพบท่านผู้อาวุโส มิทราบมีคำสั่งสอนใด
โอ หามิได้ เล่าฮูเคยได้รับพระคุณช่วยชีวิตจากคุณชาย และได้มอบพิราบสื่อสารให้คุณชายไว้ มิทราบจำได้หรือไม่
อ้อ...ท่านผู้เฒ่านั่นเอง เซียวเง็กอุทานออกมา ก่อนหันไปบอกเล่าแก่ผู้เป็นอาจารย์ เมื่อคราวคุ้มกันสินค้า เมื่อสองปีก่อน ขากลับผ่านเมืองร้าง พอดีประสพเหตุ ท่านผู้เฒ่าแลครอบครัว ถูกโจรร้ายปล้นฆ่า โชคดีช่วยชีวิตท่านกับหลานสาวไว้ได้เพียงสองคน มิทราบท่านผู้เฒ่า ดั้นด้นมาพบผู้เยาว์ มีเรื่องอันใด ประโยคท้ายหันไปถามชายชราตาบอด
ก่อนจากกันคราวนั้น เล่าฮูได้มอบนกพิราบสื่อสารให้คุณชายไว้ ยามใดคุณชายประสพปัญหา เล่าฮูยินดีอุทิศชีวิตผุผุนี้ช่วยเหลือ มิทราบจำได้หรือไม่
จำได้ เราเองก็เพิ่งปล่อยนกตัวนั้นไป ไม่ได้คาดหวังว่าท่านผู้เฒ่าจะช่วยอันใดได้ดอก เพียงแต่ยามอับจนปัญญา ก็เลยปล่อยมันออกไปก็เท่านั้นเอง
ไม่ทราบคุณชายพบปัญหายุ่งยากอันใด พอจะบอกเล่าฮูได้หรือไม่
เรื่องมันมีอยู่ว่า คู่หมั้นสาวของเรา ซึ่งเป็นธิดาของอาจารย์ผู้มีคุณ ได้บังเอิญถูกพิษร้ายยากรักษา
หมอหลวงบอกว่าต้องใช้ไข่มุกน้ำตามังกร และ ให้จอมแพทย์เพทยดาตาวิเศษ รักษาเท่านั้นจึงจะหายได้
ฮะ ฮะ ฮะ นับว่าโชคดีหาถูกคนแล้ว เล่าฮูไม่มีความสามารถอันใด นอกจากความสามารถในการรักษาชีวิตคนเท่านั้น
จริงรึนี่ ท่านผู้เฒ่า มิได้อวดโอ่กระมัง
เล่าฮูหาได้อวดอ้างจนเกินตัว ในยุทธภพนี้ หากมีโรคหรือพิษใดที่เล่าฮูรักษามิได้ ก็อย่าหมายว่าจะมีผู้ใดรักษาได้เลย แม้แต่หมอหลวงประจำราชสำนักก็เป็นศิษย์น้องเพียงหนึ่งเดียวของเล่าฮูเอง
โอ กระบี่เหล็กแห่งวังหลวงอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น ถ้าอย่างนั้น ท่านผู้เฒ่าก็คือ จอมแพทย์เทพยดาตาวิเศษ แล้วไฉน ตา ตาของท่าน...
จึงมืดบอดทั้งสองข้าง ใช่หรือไม่ ?
ใช่ ในเมื่อตาบอด เหตุใดจึงได้ฉายาตาวิเศษ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่าได้แปลกใจไปเลย เล่าฮู นอกจากเป็นหมอรักษา อีกอย่างก็ยังเป็นหมอดูทำนายโชคชะตา แม่นยำราวกับตาเห็น บรรดาพี่น้องชาวยุทธ์ก็เลยให้ฉายาตาวิเศษพ่วงท้ายมาด้วยเท่านั้นเองท่าน
โอ นับว่าสวรรค์มีตา เทพยดาฟ้าดินดลบันดาลช่วยเหลือจริงๆ แชยี้มีหนทางรอดแล้ว ทิเกี่ยมโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี
เฮ้อ! แต่ก็น่าเสียดาย เล่าฮู ตั้งใจนำ ไข่มุกน้ำตามังกร มามอบให้คุณชาย แต่ระหว่างทาง กลับโดนโจรร้ายปล้นชิงในระหว่างทางไปเสียแล้ว
เรื่องนั้นผู้เฒ่าไม่ต้องเป็นห่วง ไข่มุกน้ำตามังกร อยู่ที่นี่แล้ว
เอ๊ะ เป็นไปได้อย่างไรกัน หรือว่า
ท่านผู้เฒ่าไม่ต้องไปสงสัยอันใดเลย รีบทำการรักษาแชยี้เถอะ ทิเกี่ยมรีบหันเห เบี่ยงเบนความสนใจของจอมแพทย์ชรา
แต่.......ไม่ทันการเสียแล้วเจ้าสำนัก จอมแพทย์ชราเอ่ยออกมา
ทำไม ศิษย์อาจารย์ทั้งสามถามขึ้นแทบจะพร้อมกัน
เพราะตอนที่ไข่มุกโดนโจรร้ายนั้นชิงไป โจรนั้นได้เปิดจุดขวดเทไข่มุกออกมาดู ไข่มุกน้ำตามังกร เมื่อโดนแสงอาทิตย์ โดนลม จะเสื่อมประสิทธิภาพลง ไม่มีคุณค่าใดใด เหลือพอใช้รักษาธิดาท่านได้อีกแล้ว
ทั้งอาจารย์และศิษย์ต่างราวถูกสายฟ้าฟาดลงกลางหน้าผาก โลกทั้งโลกคล้ายดั่งดับมืดไปชั่วขณะ ในห้วงสมองลั่นอึงอล ก่อนที่ใครจะทันรู้สึกตัว เล่ายี่ก็ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เราเอง เป็นเราเอง ทำให้คุณหนูแชแชไม่มีทางรักษา เราสมควรตาย กล่าวจบยกฝ่ามือขึ้นหมายฟาดลงบนขม่อมตัวเองเพื่ออัตวินิบาตการรมลุแก่โทษ แต่ พริบตาราวประกายไฟ เซียวเง็ก สอดมือขึ้นรับฝ่ามือนั้นไว้ได้อย่างทันท่วงที
เล่ายี่... ฟ้าไม่บั่นทอนคนมีความพยายาม ทุกอย่างย่อมมีหนทางแก้ ไข การฆ่าตัวตาย เป็นหนทางของคนโง่เขลาเท่านั้น เซียวเง็กเอ่ยต่อเล่าซาเสียงเข้ม
นี่หมายความว่า...? จอมแพทย์ตาบอดเอ่ยแทรก เป็นพวกท่านจริง ๆ
ท่านผู้เฒ่ารู้..... ได้อย่างไร เล่าซา ซึ่งเงียบขรึมมาตลอด เอ่ยถาม
เล่าฮู ตาบอด ใจไม่บอด ด้วย... คนตาบอด มักมีโสตประสาทที่ดีกว่าคนสามัญ เล่าฮูได้ยินเสียง ก็เดาว่าเป็นพวกท่านแล้ว
เฮ้อ...น่าเสียดาย เพราะความรักลูกสาวแบบเห็นแก่ตัวของท่าน จึงทำให้เรื่องราวต้องกลับกลายเป็นเช่นนี้
ท่านผู้เฒ่า... ท่านเป็นหมอเทวดา.... ไม่มีหนทางแก้ไขจริง ๆ เจียวหรือ
ฟ้าไม่รานความหวังคนมีความพยายาม .... เล่าฮูพอมีคำแนะนำ แต่จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวาสนาแล้ว
ท่านผู้เฒ่าบอกออกมาเถิด ต่อให้ยากเย็นเพียงไร... เราก็จะทำ
ไข่มุกน้ำตามังกร... มีลูกเดียวในพิภพก็จริง.... แต่ ไข่มุก หาได้ถือกำเนิดบนพิภพไม่
อา...ผู้เฒ่าหมายความว่า....?
ใช่..... ในท้องทะเลเวิ้งว้าง กว้างใหญ่ เกาะแก่งมีมากมาย ไม่แน่ อาจมีไข่มุกน้ำตามังกรอยู่อีก ก็เป็นได้
อืมมม ใช่แล้ว.... ข้าจะจัดเตรียม ออกทะเล เสาะหาไข่มุกน้ำตามังกรมาให้จงได้ หากไม่เจอ จะไม่กลับขึ้นฝั่งโดยเด็ดขาด เล่ายี่ เอ่ยขึ้นอย่างมุ่งมั่น
แต่... แชแช จะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น.... คงไม่ทันการณ์เป็นแน่แท้ ทิเกี่ยมเอ่ยเสียงเครือด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง .. เล่าฮูทราบว่า ท่านมี บัวหิมะพันปี ไว้ในครอบครอง เล่าฮู พอจะใช้ยืดอายุธิดาท่านได้อีกหนึ่งปี
แต่ หากครบหนึ่งปีแล้ว ไม่ได้ไข่มุกน้ำตามังกรอีกลูกหนึ่งมา เล่าฮูก็จนปัญญา แล้ว จอมแพทย์เทพยดา เอ่ยบอกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
จากนั้นพากันเข้าไปทำการรักษาเพื่อยืดอายุ แชแช ออกไปอีกหนึ่งปี หลังจากนั้น เล่ายี่และเล่าซา ได้ออกเดินทางสู่ทะเลกว้าง เพื่อเสาะหาไข่มุกน้ำตามังกร...กลับมาให้ได้ ภายในกำหนดหนึ่งปี
ซึ่งจะหาพบหรือไม่.....เทพยดาฟ้าดินเท่านั้นที่ทราบ
อาจบางที......
แม้แต่เทพยดา ก็ ไม่ทราบ....................
............
หมายเหตุ : เรื่องนี้และ "สายที่รับเที่ยงคืน" และอาจมีเรื่องต่อ ๆ ไป ... เคยลงไว้ในบล็อก เซียน_กีตาร์ คงต้องค่อย ๆ ทยอยเอากลับมาอัพใหม่ เท่าที่มีข้อมูลสำรองเก็บไว้
Create Date : 11 ธันวาคม 2552 |
|
49 comments |
Last Update : 28 ตุลาคม 2560 19:00:07 น. |
Counter : 741 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 7:18:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 11 ธันวาคม 2552 7:35:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 7:45:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 7:58:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 8:15:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: deeplove 11 ธันวาคม 2552 8:16:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: June4 11 ธันวาคม 2552 8:41:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 11 ธันวาคม 2552 8:46:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์กินเห็ด... (เป็ดสวรรค์ ) 11 ธันวาคม 2552 8:47:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: มินทิวา 11 ธันวาคม 2552 8:48:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: I_sabai 11 ธันวาคม 2552 9:08:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 11 ธันวาคม 2552 10:29:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: วันนี้ใใกินเยอะไปเลยเหนื่อ 5555 ล้อเล่นนะ (Opey ) 11 ธันวาคม 2552 10:47:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: coji 11 ธันวาคม 2552 11:22:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 11 ธันวาคม 2552 14:03:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: YUCCA 11 ธันวาคม 2552 14:37:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 11 ธันวาคม 2552 15:00:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์กินเห็ด... (เป็ดสวรรค์ ) 11 ธันวาคม 2552 18:49:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 19:02:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 11 ธันวาคม 2552 19:42:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 19:48:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 11 ธันวาคม 2552 20:20:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: deeplove 11 ธันวาคม 2552 20:23:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 20:27:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์กินเห็ด... (เป็ดสวรรค์ ) 11 ธันวาคม 2552 20:33:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: มนุษย์กินเห็ด... (เป็ดสวรรค์ ) 11 ธันวาคม 2552 20:50:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 21:16:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 22:12:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 11 ธันวาคม 2552 22:23:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 22:25:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 11 ธันวาคม 2552 22:46:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 ธันวาคม 2552 22:46:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 11 ธันวาคม 2552 22:52:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 11 ธันวาคม 2552 23:05:43 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Qatar
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]
|
|
|
|
|
|
|
|
|