ตื่นเช้ามาอาบน้ำ ส่องกระจก สุดจะช็อค ! เมื่อเห็น
ห่วงยางส่วนตัวเกาะตามเอวตามแขนขาอย่างหนาแน่นแบบไม่รู้ตัว
คงถึงเวลาแล้วสินะในการเริ่มกลับมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง มาเริ่มปฏิบัติการสะบัดไขมันให้หลุดออกจากพุงของเรากันเถอะค่ะ !
เครื่องออกกำลังกายยอดนิยมที่จะสามารถช่วยสะบัดไขมันออกจากร่างกายของเราได้อย่างอยู่หมัดคือ
เครื่องวิ่งไฟฟ้า เครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ที่จะเข้ามาช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว (ประมาณ 500-600 กิโลแคลอรี่/ชั่วโมง) ภาพจาก www.consumerreports.org
มุ่งสู่เป้าหมาย
แน่นอนว่าเป้าหมายของคนที่
ออกกำลังกาย ส่วนใหญ่แล้วก็เพื่อสุขภาพและเพื่อกระชับสัดส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณ
ผู้หญิง ที่อยากจะมีส่วนโค้งส่วนเว้า มีเอวเอสเซ็กซี่แบบในนิตยสาร ใส่บีกินีเล่นน้ำทะเลอย่างมั่นใจ ส่วน
ผู้ชายก็เน้นการ
ออกกำลังเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ให้ร่างกายดูแข็งแรงกำยำ กล้ามแขนเป็นมัดๆ เห็นแล้วน่ากัด เอ้ยย!! น่าจับค่ะ อิอิ
ภาพจาก www.premierfitnesssource.com
เมื่อรูปเป้าหมายของแต่ละคนมีความแตกต่าง แน่นอนว่าการเลือกโปรแกรม
ออกกำลังกายด้วย
เครื่องวิ่งไฟฟ้า ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ของเราด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ
2 โปรแกรมเครื่องวิ่งไฟฟ้า แบบไหนเหมาะกับคุณ?
สำหรับการ
ออกกำลังกายด้วย
เครื่องวิ่งไฟฟ้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 โปรแกรมกว้างๆ ได้แก่
Steady state และ High Intensity Interval Training โดยการ
ออกกำลังกายบน
เครื่องวิ่งไฟฟ้าทั้ง 2 โปรแกรม จะมีความแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด มาดูกันเลย :)
ภาพจาก www.lifefitness.com
เครื่องวิ่งไฟฟ้า โปรแกรม Steady state
สำหรับการ
ออกกำลังกายด้วย
เครื่องวิ่งไฟฟ้าโปรแกรมแรก
เรียกว่าเป็นโปรแกรมที่เน้นการออกกำลังอย่างต่อเนื่องประมาณ 30-60 นาที ด้วยการใช้
ความเร็วและความชันแบบคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการ
ออกกำลังกายที่เหมาะมากสำหรับการเบิร์นพลังงานส่วนเกินในร่างกาย และเพื่อการ
ออกกำลังให้เห็นผลอย่างชัดเจน แนะนำให้
ออกกำลัง 1-4 วันต่อสัปดาห์ค่ะ
(ส่วนตัวผู้เขียนออก 5 วัน/สัปดาห์เลยนะ อิอิ !) ภาพจาก JTX Fitness
เครื่องวิ่งไฟฟ้า โปรแกรม High Intensity Interval Training
สำหรับการ
ออกกำลังกายด้วย
เครื่องวิ่งไฟฟ้าโปรแกรมที่สอง
จะเน้นเพิ่มความหนักหน่วงเข้มข้นในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น (ต้องขอบอกว่าเป็นโปรแกรมที่หนักมาก เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายด้วยเครื่องวิ่งไฟฟ้าอย่างเป็นประจำเท่านั้น มือใหม่ห้ามนะคะ !) ภาพจาก omidsport.ir
การ
ออกกำลังกายในโปรแกรมนี้ จะเน้นการ
พัฒนากล้ามเนื้อ โดยมีการปรับค่าความชันเพื่อยกระดับความยาก ทำให้กล้ามเนื้อทำงานสูงในระยะเวลาอันสั้น เป็นเหมือนกับวิ่งสลับเดิน
โดยความเร็วในการวิ่งแนะนำอยู่ที่ 8 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนค่าความชัน 2-3% ภาพจาก Popsugar
ระยะเวลาในการวิ่งประมาณ 2 นาทีหลังจากนั้น
ปรับมาเป็นการเดิน ความเร็วแนะนำอยู่ที่ 0.8-2 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหมือนช่วงพักร่างกาย
เป็นเวลา 1 นาที สลับการวิ่งและเดินทั้งหมด
10 ครั้ง เวลาการ
ออกกำลังกายรวมอยู่ที่ประมาณ 30 นาทีค่ะ (ควร
ออกกำลัง 1-3 ครั้ง/สัปดาห์)
วิ่งแล้วน่องโป่ง ไม่อยากวิ่งอ่ะ
หลายคนคงเคยได้ยินคนพูดกรอกหูอยู่คตลอดว่าการวิ่ง
ออกกำลังกายทำให้น่องโป่ง ขาไม่สวย อย่างนู้นอย่างนี้ ขอบอกเลยค่ะว่า น่องเราจะโป่งหรือไม่โป่ง มันอยู่ที่การวางเท้าขณะวิ่งของเราเองนั้นแหละ เวลาวิ่งเราควรเอาส้นเท้าลงพื้นก่อนปลายเท้าค่ะ
ภาพจาก www.treadmillsmartreviews.com
แต่จริงๆแล้ว น่องโตน่องใหญ่ เป็นเรื่องปกติของการออกกำลังกาย เพราะกล้ามเนื้อขาจะเกร็งตัว เวลาจับเวลาดูเลยทำให้รู้สึกว่าน่องเราโป่งไม่สวย แต่หากเรายังคงวิ่ง
ออกกำลังกายเหมือนเดิมต่อไป กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ เข้ารูปเรียวสวยเองค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ !