Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
ฉันนี่แหละSinglemom บทที่ 10 อ่อนไหว(1)

บทที่ 10 อ่อนไหว (ตอนที่ 1)



ตอนนี้ฉันเริ่มเหงื่อตก และค้นพบว่าประสบการณ์ทำงาน
การแต่งหน้า หรือ ภาษาอังกฤษที่แสนภูมิใจ ไม่ได้ช่วยอะไรฉันในสภาวะนี้เลย
ฉันลนลานมองซ้ายขวา


แล้วเสียงประตูห้องก็เปิดตอนที่ฉันพยายามโกยนมผงที่ตกกระจายอยู่ที่พื้น
กะว่าจะเอามาใส่ขวดชงแล้วยัดปากยายหนูให้เงียบเสียงเสียที แม่ของยายหนูถลาเข้าห้อง
พุ่งตรงไปหาร่างเล็กๆที่ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งเสียงได้ขนาดนั้น


เธออุ้มยายหนูต้นหญ้า(หรืออะไรนี่แหละ)ขึ้น
แล้วเสียงร้องก็เงียบลงเหมือนถูกถอดปลั๊ก ฉันจ้องปรากฎการณ์นั้นอย่างอัศจรรย์ใจ


“ขอบคุณนะคะ ไม่คิดว่าแกจะตื่นเร็ว
ต้องขอโทษด้วย
” ฉันพยักหน้าหงึกหงัก ปัดมือที่เลอะคราบนมผง
ปาดเหงื่อที่เกาะพราวบนใบหน้า แล้วลนลานหยิบกระเป๋า เหมือนเธอเอ่ยปากไล่


“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ “


ฉันเดินกลับไปห้องตัวเอง
ใจลอยและรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาบอกไม่ถูก เหลือบตามองหน้าท้องของตัวเอง
นี่คือชะตากรรมของคนเป็นแม่ใช่ไหมเนี่ย



คืนนั้นฉันนอนไม่หลับเหมือนหลายๆคืนที่ผ่านมา
ในชั่วขณะที่หลับ ฉันฝันเห็นตัวเองหัวฟู แล้วก็อ้วนเผละ ใส่อะไรก็ไม่ได้
รื้อเสื้อผ้ามากองจนท่วม พยายามรื้อในตู้เสื้อผ้าก็เจอแต่ขวดนม ผ้าอ้อม
และอ้วกเด็ก



ฉํนตื่นเช้ามาด้วยอาการเหนื่อยเหมือนไปวิ่งร้อยเมตรมา
ฝืนหยิบชุดชีฟองลายดอกไม้หวานแต่แอบเซ็กซี่ของ
Soda มาใส่ ฝืนกลืนขนมปังลงคอ
เพราะฉันก็กลัวลูกหิวเหมือนกัน เปิดตู้รองเท้าลังเลใจ
ก่อนจะตัดสินใจหยิบคู่ที่เตี้ยที่สุดมาใส่ ปกติต้องส้นเข็มนะเนี่ย วันนี้ไม่รู้ดวงดีรึเปล่า
พอจอดรถเสร็จดับเครื่อง เบนซ์คันงามก็ขับมาจอดข้างฉันพอดี จากเหตุการณเมื่อวาน
ฉันชักรู้สึกไม่อยากคุยกับพี่ธัญญ์์เลย
แม้ว่าประกายความเงาวิบวับจากฝากระโปรงเบนซ์จะส่องเข้าตาก็ตาม ฉันลงจากรถ
ส่งยิ้มให้พี่ธัญญ์ พอเป็นพิธี แล้วรีบเดินไปที่ลิฟท์ แอบกดย้ำๆถึงสองที
ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ทำให้ลิฟท์พุ่งมาเร็วขึ้นก็ตาม


พี่ธัญญ์เดินตามมาทันตอนที่ฉันก้าวเข้าไปยืนในลิฟท์แล้ว
ฉันยิ้มให้นิดๆอีกที ตาจ้องเป๋งมองเลขลิฟท์ที่ส่องแสงเหมือนมันเป็นรหัสลับ


“มาแต่เช้าทุกวันเลยเหรอน้องมุ่ย” ในที่สุกพี่ธัญญ์ก็ทักฉันด้วยเสียงเก้อๆ


“ก็บางวันน่ะค่ะ”
แล้วฉันก็เงียบอีก


“อ้อ”


แล้วเเราสองคนก็เงียบสนิท จนพอลิฟท์เปิดเสียงดังติ๊ง
ฉันเกือบสะดุ้ง สมาชิกใหม่ที่ยืนตรงหน้าลิฟท์ทำเอาฉันสะดุ้งอีกรอบ
แอนนี่มาในชุดชีฟองคล้ายฉันเลยแต่คงใช้ผ้ามากกว่าประมาณสามเมตร ลายดอกไม้ดอกจิ๋วกูถูกรั้งให้กลีบดอกขยายออกไปตามเรือนร่างคนสวมใส่
แอนนี่ก้าวเข้ามาพร้อมพนักงานแผนกอื่นอีกสองสามคน
ตอนแรกหล่อนทำหน้าร่าเริงสุดชีวิตเมื่อเห็นพี่ธัญญ์
ถลาเข้ามาเหมือนเด็กน้อยเห็นลูกโป่ง หล่อนยิ้่มหวานแล้วทักเสียงสดใส


“พี่ธัญญ์มาแต่เช้าเลยนะคะ ทานอะไรมารึยัง”


“เรียบร้อยครับ น้องแอนนี่ร่าเริงแต่เช้าเลยนะครับ” พี่ธัญญ์ยิ้มตอบแบบอารมณ์ดี



ฉันนึกหมั่นไส้ขึ้นมาทันที ทำไม
หล่อนเตรียมข้าวกล่องมาเผื่อเค้ารึไง แหม เจอก็ถามแต่เรื่องกิน แอนนี่ทำหน้าปั้นยากเมื่อเหลือบมาเห็นฉันในชุดคล้ายหล่อน
พนักงานสองสามคนในลิฟท์เริ่มสังเกตเห็น แล้วเริ่มซุบซิบกันหัวเราะคึกคัก
แอนนี่หน้าแดงขึ้นมาทันที หันขวับไปหาต้อนเสียง พอหันเร็วเกินไป
เนื้อผ้าที่คงตึงแน่นอยู่แล้ว ก็รั้งเอาเส้นด้ายตามมาเสียงดังปึ้ดชัดเจน โอ๊ย
ฉันละขำ คนที่เหลือก็ปล่อยพรืดออกมา แม้แต่พี่ธัญญ์ก็อดยิ้มไม่ได้ พอลิฟท์เปิด
แอนนี่เลยก้าวออกไปพร้อมกับน้ำตาปริ่มขอบตา ไม่เหลียวมามองใครอีกเลย
ฉันยักไหล่แบบนางมารร้าย แล้วเดินออกจากลิฟท์ พี่ธัญญ์เดินตามออกมาด้วย


“มุ่ย”


“คะ” ฉันหันไปตอบทำหน้างง
แต่ดูหน้าพี่ธัญญ์จะงงกว่าฉันอีก


“เอ้อ มุ่ยโกรธอะไรพี่รึเปล่า” พี่ธัญญ์ถามเสียงเบา


“ไม่นี่คะ” ฉันยิ้ม
แล้วหันหลังเดินตรงไปที่โต๊ะทำงาน เสียงมโนธรรมก้องในสมอง ก็ควรล่ะ
ที่เค้าจะแปลกใจ เมื่อวานอ่อยเค้าซะสุดๆ
วันนี้ทำเหมือนเกลียดขี้หน้าเค้าก็ต้องเสียความมั่นใจน่ะสิ


การทำงานดำเนินไปอย่างน่าเบื่อหน่ายตลอดทั้งวัน
แถมยังมียายแอนนี่นั่งคอตั้งอยู่ข้างๆอีก ฉันมีประชุมกับเจ้าของร้านเสื้อผ้าสาวอวบ
คุณญาดา อดนึกไม่ได้ว่ายายแอนนี่นี่น่าจะมาดูร้านนี้แทนฉันนะ
ฉันเปิดห้องประชุมเล็กๆที่จองไว้ เจอคุณญาดา แล้วก็ เด็กชายคนหนึ่ง



“คือ พี่ต้องของโทษด้วยค่ะ ไม่มีใครดูลูกเลย
พี่ต้องเอามาด้วย
” คุณญาดารีบชิงบอก
ฉันคิดว่าการที่เอาลูกมาด้วยนี่มันดูำไม่เป็นมืออาชีพเลย
แต่คิ้วที่ขมวดเริ่มคลา่ยลงเมื่อเด็กคนนั้นยกมือไหว้ฉันอย่างน่ารัก


“อยู่นิ่งๆนะลูก”คุณญาดากำชับ
เด็กชายทำหน้ารับรู้ แล้วรื้อของเล่นออกจากกระเป๋ามานั่งเล่นมุมนึงของห้องเงียบๆ


“
มุ่ยไม่คิดว่าคุณญาดาจะมีลูกตัวโตขนาดนี้แล้วนะคะเนี่ย
”
ฉันเคยเดาๆอายุคุณญาดา ก็ไม่น่ามากกว่าฉันซักกี่ปีแต่เด็กคนนี้น่าจะอยู่ชั้นประถมแล้ว


“พี่มีลูกตั้งแต่เรียนจบค่ะ”


“แหมแต่งงานเร็วนะคะ”
อดยุ่งเรื่องคนอื่นไม่ได้ล่ะฉัน ยิ่งเรื่องเด็กเรื่องลูก ตอนนี้ฉันสนใจเป็นพิเศษ


“อ้อ ไม่ได้แต่งหรอกค่ะ”
เธอลดเสียงลง
“พ่อเค้าไม่รับ”


ว๊ายย ฉันร้องในใจ เหมือนฉันเลย
แต่ก็พูดออกไปดังๆไม่ได้ ได้แต่ทำหน้าสงสัยแต่พองาม


“ก็พ่อเค้าอ้างว่าไม่พร้อม
คือผู้ชายไม่พร้อมได้ แต่คนเป็นแม่ต้องพร้อมสิคะ เค้าอยากมาอยู่กับเราแล้วนี่
พี่ก็เลี้ยงมาคนเดียวนี่แหละค่ะ มีลูกแล้วมีกำลังใจค่ะ
เมื่อก่อนพี่ก็ทำงานออฟฟิศเป็นสาวสวยแบบคุณมุ่ยนี่แหละค่ะ
”


ถูกค่ะถูก
สวยเสมอค่ะ


“แต่พอมีน้องต้นปาล์ม” ชื่อทำนองนี้อีกละ ขนาดหลายปีมาแล้วนะ ต่อไปจะมีใครชื่อน้องลูกเดือยไหมนะ
“พี่ก็ทำงานเสริมไปด้วยค่ะ ทำหลายอย่าง ทำออฟฟิศเวลามันจำกัด
ตอนนี้ก็มาทำเสื้อผ้าไซส์ใหญ่ด้วย ตอนพี่่คลอดน้องต้นปล์ามใหม่ๆ พี่ไม่มีเสื้อใส่เลยค่ะ
เสื้อสมัยนี้ตัวนิดเดียว พี่เลยอยากทำเสื้อไซส์ใหญ่สวยๆให้สาวๆใส่กันบ้าง
ไม่ได้ทำเองหมดหรอก จ้างเค้าบ้าง จะได้มีเวลาดูแลลูกบ้างก็เึค้ามีแต่เรา
ติดแม่มากเลยค่ะ เป็นเด็กดีเห็นแล้วชื่นใจหายเหนื่อย
”


ฉันฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ โน้มตัวไปจนเกือบหน้าคะมำ พอรู้ตัวก็รีบหดคอกลับมา คราวนี้พอคุณญาดาเอาแฟ้ม Collectionที่จะวางขายในเดือนหน้าให้ฉันดู
ฉันเลยตั้งอกตั้งใจดูเอามากมาย ช่วยติช่วยออกแบบ และเป็นแบบนี้ไปจนสุดสัปดาห์
เป็นครั้งแรกที่ฉันตื่นมาโดยวางแผนการทำงานไว้ในหัวมากกว่าวางแผนว่าจะใส่ชุดอะไร การทุ่มเททำงานทำให้ฉันลืมเรื่องจับผู้ชาย เอ๊ย
หาพ่อให้ลูก และเรื่องแย่ๆที่พี่ทะเลทำไว้กับฉันอย่างน้อยก็ชั่วขณะหนึ่ง ฉันหาข้อมูลว่าสาวอ้วนควรจะใส่แบบไหนถึงจะเหมาะและสวย
รื้อตู้เสื้อผ้าออกมา และคิดว่าถ้าแพทเทรินใหญ่กว่านี้ ต้องปรับยังไง
เมื่อถึงวันพรีเซนต์งานประจำปีของแผนกฉัน นอกจากผลงานอื่นๆที่ดีอยู่แล้ว
ฉันก็ปิดท้ายด้วยการโชว์คอลเล็คชั่นใหม่ของร้าน
Pussy Cat ให้ทุกคนในห้องประชุมดู


ฉันบอกคุณเมษว่า
ยังไม่มีห้างไหนสนับสนุนสินค้าลักษณะนี้ แต่กลุ่มลูกค้าก็มีเยอะ
จะเป็นสีสันให้ห้างเรา คุณเมษผู้แสนดี พูดกับฉันก่อนออกจากห้องประชุม ซึ่งทำให้ฉันปลื้มใจมาก
แม้ว่ายอดขายของร้านจะยังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าไหร่
เพราะสินค้ายังต้องการการโปรโมทอีกมาก แถมทำเลก็อยู่ในหลืบเหมือนเดิม และยอดขายของฉันก็ยังเป็นรองยายแอนนี่อยู่ก็ตาม


“การที่เราผลักดันและช่วยเหลือ Sup รายใหม่ๆให้ประสบความสำเร็จ มันน่าชื่นชมกว่าระบบแพ้คัดออกที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มากนะมุ่ย
ไม่ใช่ใครยอดขายตกก็ไล่เค้าออกจากพื้นที่ แต่เราช่วยเหลือและให้โอกาสกับทุกคน
”



ฉันเดินหน้าบานออกมากจากห้องประชุม
ช่วงนี้ฉันไม่ได้สนใจยายแอนนี่มากนัก แต่พอเห็นหล่อนวันนี้ แหม ดูดีขึ้นนะยะ คงเพราะหน้าตาที่ดูสดใสขึ้น
และเหมือนหล่อนจะผอมลง ฉันหรี่ตาดู นิดหน่อย ฉันเดินโฉบเข้าไปเม้าท์กับพี่ซิม


“เจ๊ แอนนี่มันผอมลงป่ะ”


“เออ ก็นิดหน่อยนะ จริงๆคงผอมลงมานานละ แต่จาก
ร้อยโลเป็นเก้าสิบห้าคงมองไม่ออกน่ะสิแก พอเป็นเก้าสิบก็เริ่มมองออกงี้ป่าว
แต่วันนี้ พรีเซนต์ เริ่ดนะยะ
” พี่ซิมจีบปากชมฉัน


“วุ้ย นานๆพี่จะชมมุ่ย”
ฉันพลอยเสียงสูงตามพี่ซิมไปด้วย


“นี่ อย่าหาว่ายังไงเลยนะ ก็สัปดาห์ก่อน
ฉันเห็นแกวุ่นๆเลยไม่อยากจะถามให้รำคาญใจ ทะเลเป็นไงมั่งล่ะ
”


ฉันอึ้ง ฉันไม่ได้ลืมหรอกว่าตัวเองท้อง
แต่ยังนึกแก้ปัญหาไม่ได้ เลยไม่อยากนึกถึงปัญหาซะชั่วคราว แต่ลูกคนนี้ก็แสนจะดี
ไม่้มีแพ้ท้องเลย อีกไม่นานก็ครบวันหมอนัดที่ี่ฉันต้องไปตรวจดูลูกอีกรอบ
พี่ซิมให้สัญญาว่าจะแอ๊บแมนละไปเป็นเพื่อนฉัน


“ก็เงียบไปเลย”


“ลองโทรไปยัง”


“ไม่โทรหรอก”
ฉันตอบเสียงสะบัด


“ค่าา แล้วไงต่อดีคะ”
พี่ซิมกระซิบ
“อ้อ หัวหน้าฉัน
เฉาเป็นผักชีโดนน้ำร้อนลวกมานานแล้วนะ
แกทำเมินเค้าแบบนี้หลังจากไปกินข้าวกันหนเดียว อุ๊ยเสียเซลฟ์ไปมากมาย
ยายแอนนี่ก็จิกไปกินข้าวเที่ยงด้วยทุกวันแล้วนะเดี๋ยวนี้ พอเที่ยงที
พี่ธัญญ์หาที่หลบวุ่นวาย แต่ก็ไม่รอด
”


“อืม ก็แอนมันรักของมัน มุ่ยไม่อยากแย่งใคร เหนื่อยน่ะพี่ซิม
มุ่ยยังไม่รู้เลยจะทำงานที่นี่ได้อีกนานแค่ไหน
”
ฉันอดถอนหายใจด้วยความกลุ้มออกมาไม่ได้
“พอท้องเริ่มนูน
มุ่ยก็ต้องออก จะกล้ามาได้ไง จะบังคับพี่ธัญญ์ให้มาแต่งงานวันนี้พรุ่งนี้
มุ่ยก็ไม่ไหวแล้ว เหนื่อย เกิดมาสวยไม่เคยตามจีบใครเสียที
”


พี่ซิมเปลี่ยนสีหน้าจากเห็นใจเป็นหมั่นไส้ฉันขึ้นมาทันที


“ต่อไปแกอาจจะไม่ต้องไล่ตามพี่ธัญญ์แล้วมั้ง
พี่ธัญญ์เค้ามาถามฉันวันก่อนว่าแกเป็นไรไป ฉันก็บอกแค่ว่าแกยุ่งกับงาน
แล้วพี่ธัญญ์ยังถามฉันอีกว่า แกชอบผู้ชายแบบไหน ลากฉันไปซื้อเสื้อผ้า
ทำหน้าผมใหม่ด้วยนะ แกเห็นทรงผมยัง ตอนเข้ามาในแผนกหนแรก โดนลูกน้องล้อทั้งแผนก พี่ธัญญ์เค้าเป็นคนดีนะแก
ฉันเลยไม่อยากเชียร์ให้แกเลย สงสารพี่เค้า
” อ้าว



วันนั้นฉันมีความสุขกับการทำงานจนเย็น
แม้ว่ายายแอนนี่จะนั่งคอแข็งเหมือนเดิม ฉันก็ไม่สนใจ เย็นนั้น
ก่อนฉันจะสตาร์ทรถกลับบ้าน พี่ธัญญ์ก็เดินมาเคาะกระจกเบาๆ ฉันลดกระจกลง
มองพี่ธัญญ์เต็มตา อ้อ เค้าดูดีขึ้นจริงๆด้วย กางเกงขะมุกขะมอม
แถมทรงลุงตัวเดิมหายไป เชิ้ตเชยๆตัวโคร่งก็หายไป ทรงผมนั่น ก็เข้าท่าดี


ฉันยิ้มให้ พี่ธัญญ์ทำหน้าเขินๆ
แล้วยื่นดอกกุหลาบสีชมพูช่อเล็กให้ฉัน มุมกระดาษห่อยับเหมือไปแช่งช่อสุดท้ายกับใครมาก่อนร้านปิด


“เอ้อ พี่ให้มุ่ย
วันนี้พรีเซนต์งานดีมากเลยครับ
” พี่ธัญญ์พูดเขินๆ
พยายามรีดกระดาษที่ยับย่นให้ได้ทรง
“พี่แอบดอกไม้ไว้ในตู้
มันเลยยับๆเหี่ยวๆไปหน่อย ไม่กล้าให้ในบริษัท เดี๋ยวเด็กมันล้อเอา
”


“ขอบคุณค่ะ”
ฉันรับมาแล้ววางบนที่นั่งข้างคนขับ แล้วทำท่าจะกดกระจกขึ้น พี่ธัญญ์รีบเรียก


“เดี๋ยวมุ่ย”
ฉันมองหน้าพี่ธัญญ์เป็นเชิงถาม


“มุ่ยโกรธอะไรพี่รึเปล่า
ทำไมดูเงียบๆไป ถ้าพี่ทำอะไรให้ไม่สบายใจ ขอบโทษนะ
พี่อยากมีโอกาสไปทานข้าวกับมุ่ยอีกซักครั้ง
”


เฮ้อ นี่ฉันไปให้ความหวังคนดีๆแบบนี้่แล้วก็เปิดแน่บทุกทีที่เห็นเค้าได้ไงนะ
บางทีพี่ซิม อาจจะพูดถูกก็ได้ ว่าพี่ธัญญ์แสนดีเกินไปสำหรับฉัน พูดตามตรงพอนึกถึงตอนที่บอกเค้าไปหน้าตาเฉยว่าชอบหมา
และฟังเพลงค่ายเบเกอรี่บ่อยๆ ไม่ดื่มเหล้า แพ้แอลกอฮอล์น่ะ ฉันยังเขินไม่หาย
นึกถึงคืนวันศุกร์ที่เคยสนุกสุดเหวี่ยง
ดิ้นในผับและเมาจนต้องให้พี่ทะเลแบกขึ้นห้องแล้วแสนละอายใจ ที่ไปอำเค้าได้ถึงขนาดนั้น


“เอ้อ” ฉันกลืนน้ำลาย
ติดสินใจพูดเรื่องจริงแม้จะไม่ตรงจุด
“มุ่ยไม่อยากให้แอนนี่ต้องเสียใจ
แอนเค้าชอบพี่ธัญญ์มากนะคะ
” นางเอกซะไม่มี เอาน่า
ก็ดีกว่าบอกว่า
พอดีตอนนั้นมุ่ยเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้องแล้วก็คิดง่ายๆว่าจะจับพี่ธัญญ์ได้
เพราะพี่ธัญญ์ชอบมุ่ย แล้วก็รวยอีกด้วยอ่ะค่าาา


พี่ธัญญ์สบตาฉันแน่วแน่ ทำเอาฉันแอบเขินไปเหมือนกัน
ไม่ใช่เพราะพี่ธัญญ์หล่อขึ้นหรอก แต่ฉันมักจะชินกับสายตาเจ้าชู้ระยิบระยับของพี่ทะเลมากกว่า
ส่วนหนุ่มคนอื่น ฉันก็ไม่เคยสบตาด้วยซะที มัวแต่เชิดหน้าอยู่ 






Free TextEditor


Create Date : 13 พฤษภาคม 2553
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 14:20:45 น. 3 comments
Counter : 159 Pageviews.

 
ทักทายตอนบ่ายๆ จ้า อิอิ ^__^


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:33:44 น.  

 


โดย: nuyza_za วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:54:36 น.  

 
มาปูเสื่อรออ่านค่ะ


โดย: พลอย IP: 192.234.212.25 วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:47:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขนมฝรั่งกุฏิจีน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับค่ะ

pk12th

Make it by Pk12th
Friends' blogs
[Add ขนมฝรั่งกุฏิจีน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.