Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
5 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

ฉันนี่แหละSinglemom บทที่ 4 ระแวง









บทที่ 4 ระแวง


ฉันนอนไม่หลับ เพราะหมกมุ่นคิดมาก
อยู่กับผลการตรวจอันไม่ได้เรื่องของตัวเอง ทำให้ตื่นแต่เช้า ตรู่
ถ้าแต่งตัวตามปกติ ฉันต้องถึงที่ทำงานตอน หกโมงครึ่ง แน่ๆ
ซึ่งอาจจะต้องไปยืนรอออฟฟิศเปิด ให้เป็นที่เอิกเกริก
ฉันเลยบรรจงแต่งหน้ากลบตาหมีแพนด้า ฉันเลือกทาตาสีดำ เป็นสโมคกี้อาย
ให้เหมาะกับความรู้สึกอันแสนเซ็ง ทาลิปติกชมพูซีด แถมยังเลือกใส่ชุดสีดำ
ทำให้ดูอึมครึมหนักเข้าไปอีก


เฮ้อ ก็มันเศร้านี่นา แต่ก็ออกมาสวยอยู่ดี
ก็คนมันสวยนี่นะ ถึงจะถ่วงเวลายังไงฉันก็มาถึงออฟฟิศก่อนเจ็ดโมงนิดหน่อยอยู่ดี


รปภ.คนเดิม ถึงกับผงะเมื่อหันมาเห็นฉัน
แล้วก็เดินเลี่ยงๆไป ในใจอาจจะคิดว่า ยาย(คนสวย)คนนี้
ท่าจะโดนคาดโทษเรื่องการมาสายอย่างหนัก
หรือจะฝึกเอาดีทางด้านการเป็นรปภ.กะเช้า เลยมาเสียตั้งแต่ฟ้ายังขมุกขมัว ฉันเดินผ่านแผนกของตัวเอง
ไปแผนก
Display
อยากเจอหน้าพี่ซิมใจจะขาด ฉันเป็นคนไม่มีเพื่อนสนิท ใช่แล้วล่ะ
แต่ไหนแต่ไรมา ฉันก็วางวิถีชีวิตของตัวเองว่าต้องดูดี ต้องสวย
จนใครต่อใครรู้สึกเหนื่อยไปตามๆกัน ฮึ อย่างกับว่า ฉันจะแคร์ พอเจอพี่ทะเล ที่ฉันคิดว่าทั้งหล่อ รวย ดูดี
เหมาะกับฉันสุดๆ ฉันเลยเอาอกเอาใจแบบที่ไม่เคยทำกับใคร ให้อิสระเขาทุกอย่าง
ฉันมั่นใจว่า ที่พี่ทะเลคบกับฉันนาน และย้ายมาอยู่กับฉันเป็นเพราะฉันไม่จู้จี้ ไม่เรื่องมากเท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะทำได้



ที่แผนกDisplay ฉันชะโงกหน้าเข้าไป “แหม รกยังกับโดนโจรปล้น”
ที่ห้างคงเพิ่งจะจัดหน้าร้านใหม่ ข้าว ของ อุปกรณ์ประกอบฉาก ระเนระนาด
กระเด็นกระดอนไปทั่วทุกที่ ฉันย่องเข้าไป ค่อยๆแทรกเท้าที่สวมรองเท้าคู่สวยคู่ใหม่
ทั้งแผนกมีที่ว่าง จริงๆต้องเรียกว่า ที่ที่รกน้อยที่สุดอยู่ที่เดียว คือโต๊ะ
คุณพี่ธัญญ์ หน.แผนก ฉันกวาดๆ รวบๆ กองแล้วนั่งแปะลงไป
มองนาฬิกาเพิ่งเจ็ดโมงสิบห้า จ้างให้ พี่ซิมก็ยังไม่มา


ฉันเริ่มรู้สึกง่วง
เพราะเมื่อคืนเอาแต่คิดนั่นคิดนี่เลยซบลงกับโต๊ะกะว่าจะงีบรอพี่ซิมซะหน่อย
เหมือนเวลาผ่านไปแค่ห้านาทีตอนที่รู้สึกว่าแดดเริ่มส่องตา
ฉันรีบเงยหน้าลุกพรวดขึ้น เห็นพี่ธัญญ์เพิ่งหอบของพะรุงพะรังเข้ามาในแผนก
มือยังค้างอยู่ที่มูลี่ พี่ธัญญ์หันมาเห็นฉัน แล้วทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี เอ่อ
จริงๆถ้าฉันเป็นผีก็คงดี จะได้หายตัวไปขากสถานการณ์นี้



“เฮ้ย” พี่ธัญญ์ร้องลั่น ก็พอเข้าใจนะ ในมุมห้องมืดๆ
เปิดมู่ลี่ให้แดดส่อง หันมาอีกทีเจอผมยุ่ง ชุดดำ ตาดำ ปากซีดของฉันเข้า


ฉันยิ้มแหยๆ “มุ่ยเองค่ะ”
รีบรวบกระเป๋าถือขึ้นมา
“มา เอ้อ มารอ พี่ซิม”


พี่ธัญญ์
จ้องฉัน ฉันแอบเห็นได้เลย ว่าเค้าแอบขำอยู่ในใจ ซึ่งนับว่ามีความอดทนมากแล้ว


“อ้อ ซิม ลางานครับ ครึ่งเช้า
เมื่อวานไปจัดชั้น
Gจนดึก”


“อ้อ ค่ะ ”
ฉันเก็บรอยยิ้มกระรี่ยกะราดของตัวเอง แล้วรีบเดินกลับไปแผนกตัวเอง


ระหว่างทางผ่านห้องน้ำ
ฉันแว่บเข้าไปส่งกระจกดูความเรียบร้อย พบว่าหน้าเป็นดวงๆจากการนอนทับแขนตัวเอง เฮ่ออออ อายแล้วอายอีก



ฉันโทรเข้ามือถือพี่ทะเลตอนเก้าโมงครึ่ง พี่ทะเลปิดเครื่อง
ทำให้ฉันชักใจเสีย ลองโทรเข้าเบอร์พี่ซิม พี่ซิมรับ แล้วชิงถามฉันด้วยเสียงงัวเงีย



“เคน ธีรเดช มาสมัครงานที่แผนกชั้นใช่ไหม”


“หา” ฉันงงกับคำถาม “เปล่า”


“หรือ พี่ธัญญ์ไล่ฉันออก” พี่ซิมถามคำถามประหลาดต่อ


“ หา เปล่า พี่ซิม คือมุ่ย...”


“โอเค งั้นถือว่าไม่มีเรื่องด่วน ค่อยคุยกัน เมื่อคืนชั้นนอนตีสี่นะยะหล่อน” พอด่าฉันด้วยน้ำเสียงงัวเงียเสร็จ พี่แก ก็ ตัดบทแล้วกดวาง โธ่เอ๊ย



ฉันย่องลงไปชั้นล่าง ไม่ทำมันแล้วงาน
แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่ฉันแต่งดำทั้งตัวจะเป็นจุดเด่น พอฉันกำลังทำตัวลีบจะกดลิฟท์
ยายแอนนี่ตัวแสบก็ขัน เอ๊ย ร้องทัก


“ไปไหน มุ่ยไม่ทำงานเหรอ
วันนี้มีประชุมกะคุณเมษนะ
” ฉันหันขวับไป กะจะเหน็บให้เจ็บๆ
แต่คุณเมษ หัวหน้าฉันยืนยันยิ้มหวานอยู่ข้างๆยายแอนนี่พอดี


“ลืมของไว้ที่รถอ่ะค่ะ” ฉันยิ้มกะเรี่ยกะราดเป็นรอบที่สองในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที โอย เสีย lookหมดเลย


“แล้วทำไมต้องเอากระเป๋าลงไปด้วย” ยายแอนนี่ซักฟอกฉันราวกับว่าหล่อนแอบไปเรียนกฎหมายภาคค่ำมา
พลางมองกระเป๋า
Longchamp สีดำ ของฉันอย่างจงชัง
(ต๊าย ของแท้นะยะ
อย่าคิดว่าซื้อมาจากตลาดนัดข้างตึกเหมือนหล่อน)


“ อ้อ นั่นสิ ถือติดมือมา” ฉันแก้ไปอย่างน้ำขุ่นๆ แล้วหันไปยิ้มหวานให้หัวหน้า “มุ่ยลงไปหยิบของแป๊บเดียวค่ะ
คุณเมษ เดี๋ยวมา
”


“จ้ะ” คุณเมษ
ผู้ใจดี มีรัศมีทอง วิ้งๆรอบหัวยิ้มตอบ ฉันรีบผลุบเข้าลิฟท์
แต่ไม่ลืมหันมาส่งสายตา
-ฝากไว้ก่อนเถอะ—ให้ยายแอนนี่ ซึ่งหมุนตัวกลับอย่างแรงจนแทบจะทำให้ปฎิทินของพนักงานแถวนั้นพลิกเปลี่ยนหน้า



ฉันมองนาฬิกา อีกสิบห้านาที ฉันเดินแบบเร่งรีบผ่านร้านรวงต่างๆจนถึงร้านขายยาที่พี่ซิมไปแวะซื้อเมื่อวาน
ใจชักฝ่อลง เท้าก็ชะลอ แต่ก็หยุดกึกตรงหน้าร้านพอดี เภสัชกร คนสวย หันขวับมายิ้มให้โดยอัตโนมัติ ฉันยิ้มตอบไปแบบแหยๆ
เป็นไงเป็นกัน นึกโมโหตัวเองว่าน่าจะหาแหวนมาใส่ที่นิ้วนางซักสามวงใหญ่ๆ


มันช่างตลก ที่ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองสมัยใหม่พอ
สามารถให้แฟนย้ายมาอยู่ด้วยกันทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงาน
โดยไม่แคร์สายตาคนทั้งคอนโด และจริงๆแล้วฉันออกจะภูมิใจด้วยซ้ำ
ที่ตัวเองทำตัวแบบนี้ กลับต้องมาอายเมื่อมาหาซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์


ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเภสัชกร
ที่หูผึ่งรอฟังอยู่แล้วว่า ผู้หญิง(สวยๆ)คนนี้ เข้ามายืนหันรีหันขวางอยู่ทำไม


“เอ้อ”
ฉันง้างปากตัวเองเป็นคำ
“มี ....” แล้วฉันก็นึกถึงพี่ซิม
“มี.. เอ่อ...แบบที่ พี่คนเมื่อวานอ่ะค่ะ
ที่เป็นออกเกย์ๆหน่อยมาซื้อไหมคะ
”


“อ๋อ”
เธอพนักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ
เหมือนว่าคำพูดนั้นอธิบายอาการอึกอักทั้งหมดของฉันได้หมด เธอลดเสียงลงกระซิบ
“ยาแก้เริมน่ะเหรอคะ”


ฉันอยากจะประสาทจริงๆ



...สุดท้ายฉันก็เดินเข้าห้องประชุมโดยมียาแก้เริมซุกไว้ในกระเป๋าถือ



บ่ายวันนั้น ฉันรออย่างกระวนกระวาย แต่พี่ซิมก็ไม่มา โทรไปก็ปิดเครื่อง
ฉันลองโทรหาพี่ทะเลอีกหน คราวนี้พี่ทะเลรับ


“พี่ทะเล วันนี้กลับไหมคะ” ฉันถามอย่างโล่งอก เอาแค่ว่าเขากลับมา มาอยู่ใกล้ๆกันก่อน
ฉันจะไม่กวนใจด้วยการพยายามจะบอกใบ้อะไรอีก


“กลับสิคะ วันนี้มุ่ยอยากกินอะไร
พี่ซื้อกลับไปให้
” เสียงพี่ทะเลดูปกติดี ออกจะร่าเริงด้วยซ้ำ
จนฉันรู้สึกผิดที่ระแวงสงสัย ว่าเขาหลบหน้า


“เอาอะไรก็ได้ค่ะ แถวๆออฟฟิศพี่ก็ได้” ฉันเลย ซ่อนความไม่สบายใจไว้ เอาเถอะ ไว้ค่อยว่ากันเรื่องนี้ ฉันกลับไปคอนโด
จัดการ จัดห้องให้เรียบร้อย เมื่อวานพี่ทะเลไม่อยู่ ฉันเลยไม่ เนี้ยบ เท่าไหร่ จริงๆพี่ทะเลก็ไม่เคยเรื่องมากอะไรหรอกมีแต่ฉันนี่แหละที่วุ่นวายเอาอกเอาใจเค้ามากไปเอง


พี่ทะเลมาถึงตอนหนึ่งทุ่ม นอกจากอาหารเย็นแล้ว
พี่ทะเลก็ยังหิ้วเค้กของโปรดฉันมาด้วย ฉันอาบน้ำ เลือกใช้โลชั่นกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
ใส่เสื้อกล้ามสีขาว ธรรมดาๆ(แต่ยี่ห้อ
MNG )แกางเกงขาสั้นเรียบๆ (แต่ของGUESS) แถมทำผมทรงดังโงะ แหม โอเคล่ะ
อาจจะคิกขุไปสำหรับสาววัยสามสิบ แต่ยังเข้ากะหน้าล่ะน่ะ


“สวยจังค่ะ”
พี่ทะเลวางข้าวของแล้วกอดฉัน พี่ทะเลคงไม่ได้โกนหนวดมาสองวันแล้ว แต่แหม คนมันหล่อ
มีหนวดเป็นไรเขียวๆ ก็ยิ่งดูเซอร์


“วันนี้งานยุ่งไหมคะ หนูมุ่ย”


“นิดนึงค่ะ วันนี้พี่ทะเลเข้าออฟฟิศไหนคะ” ฉันพูดพลางเดินวุ่นกับการจัดเรียง ช้อนส้อมจานชาม
โดยไม่ลืมรินน้ำให้พี่ทะเลก่อนหนึ่งแก้ว ช่วยเก็บกระเป๋าโน้ตบุ๊ค
และปลดกระดุมเชิ้ตให้เขาหายอึดอัด พอเดินผ่านห้องน้ำ ฉันก็ลูบแป้งเด็กนิดนึง เพื่อให้แน่ใจว่าหน้าไม่มันเกินไป (นี่แหละ งานหลวงอย่าให้พลาดงานราษฎร์อย่าให้เสีย)


“อ๋อ เข้าที่บ้านแม่ค่ะ”


ฉันชะงักมือที่ แกะถุงอาหาร เพราะมันพิมพ์หน้าถุงว่า
เมี่ยงปลาเจ้าเก่า ซ.ทองหล่อ ก็ร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง ของบ้านพี่ทะเลน่ะ อยู่เจริญกรุง
ฉันยกมันชูขึ้นดูชัดๆ ตัวอักษรทองหล่อเหมือนจะยื่นออกมากระแทกตาให้ฉันเห็นชัดๆ


“อ๋อ เหรอคะ
แล้วมีไปหาลูกค้าไหมคะ
” ฉันพยายามถามให้ดูธรรมดาที่สุด


“ไม่อ่ะค่ะ ก็เมื่อวานก็ไปบ้านแม่ นอนบ้านแม่
แล้วก็ ตื่นมาช่วยงาน เสร็จปั๊บแวะซื้อของกิน แล้วก็มาหาหนูมุ่ยนี่แหละค่ะ
” พี่ทะเลตอบเสียงเรื่อยๆ “ เร็วนิดนึงนะคะมุ่ย
พี่หิวแล้วอ่ะค่ะ
”


ฉันเร่งมือทั้งที่ยังสงสัยในใจ ร้านคุณแม่พี่ทะเลอยู่แถบเจริญกรุง
ส่วนคอนโดฉันน่ะ อยู่ ถนนวิทยุ ไม่รู้ไปผ่านทองหล่อตอนไหน
หรือมันจะมีหลายสาขาละมั้ง ฉันปลอบใจตัวเอง พลางพับถุงเจ้าปัญหา เพื่อจะทิ้งลงขยะ
ทำให้เห็นอีกด้านพิมพ์ไว้ตัวโตพอกันว่า
“ เจ้าเดียวไม่มีสาขาอื่น”



เอิ่มมมม










Free TextEditor




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553
3 comments
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 11:55:34 น.
Counter : 223 Pageviews.

 

เอาใจช่วยสาวมุ่ยอยู่นะคะ

 

โดย: พลอย IP: 192.234.212.33 9 กุมภาพันธ์ 2553 3:52:22 น.  

 

สนุกดีค่ะ

 

โดย: Halimeda Lover 9 กุมภาพันธ์ 2553 19:39:14 น.  

 

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ พอดี คนเขียน มีลูกชายอายุสามเดือน เลยอาจจะอัพช้านิดนึง (เอาประสบการณืมาเขียนกันเลยทีเดียว)

 

โดย: ขนมฝรั่งกุฏิจีน 10 กุมภาพันธ์ 2553 16:25:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ขนมฝรั่งกุฏิจีน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับค่ะ

pk12th

Make it by Pk12th
Friends' blogs
[Add ขนมฝรั่งกุฏิจีน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.