สิงหาคม 2554

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
31
 
 
All Blog
เพราะ ไม่รู้ใครจะตายก่อนกัน ...
หวานทำงานที่ใหม่แล้วมีความสุขมาก

เพราะออฟฟิต สาย ลา ได้ซำบายมาก จะลาก็บอกหัวหน้างานล่วงหน้า ก็แค่นั้น จบ


แต่หวานก็ไม่ได้หยุดพร่ำเพรื่อ ลาอยู่สองที เพราะปวดหัวไมเกรน

เรื่องงานก็ไม่มีอะไร เพราะว่า งานเป็นระบบ ทุกอย่างก็ไหลFlowไป อย่างที่มันควรจะเป็น


งานเดือนนี้หวานก็เสร็จแล้ว แต่หวานก็ยังเครียด

เพราะแม่ของหวานยังคงไม่มีความ"พอ"ในชีวิต

เขาก็จึงกดดันหวานอย่างที่เขาชอบทำ หวานก็เลยเครียด


เมื่อวาน หวานก็ต้องหยุดงาน เพราะอาการปวดหัวไมเกรน จากก้อนซีส ที่เลิฟ


ตั้งแต่หวานพบว่าตัวเองมีก้อนซีสอยู่ในหัว 1 ก้อนเนี้ย

หวานกลับไม่รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนกับตอนก่อนที่จะพบก้อนซีส

ตอนที่รู้ว่ามีก้อนซีสอยู่ในหัวนะ หวานรู้สึกดีใจมาก ที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตได้ตามใจตัวเองสุดๆ

แต่พอมาพบ กลับกลายเป็นว่า หวานเหมือนคนที่ยิ่งเก็บกด

เหมือนกับว่า ถ้าฉันจะตาย ฉันยังไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรเลย เพราะที่ผ่านเอาใจตัวเองมาตลอด

พอฟังแม่พูดมากๆ หวานก็เครียด อายุ24 เงินเดือนก็หมื่นกว่าๆ แค่เนี้ย

เงินเก็บก็หน่อยหนึ่ง ในขณะที่คนอื่นเงินเดือนเริ่มจะไปสองหมื่น

เริ่มซื้อรถกันแล้ว แต่หวานยังชอบนั่งรถเมล์ ติดละครอยู่

แม้กระทั่งแฟน ก็ไม่คิดจะหาไว้



เมื่อก่อน หวานคิดเสมอว่า จะทำวันนี้ให้เป็นวันสุดท้ายในชีวิต

แต่พอหลังพบก้อนซีส หวานกลับอยากประวิงเวลา ขอใช้ชีวิตอีกหน่อยเถอะ

เหมือนกลับรายการบัญชีไหงงั้น 5555



เวลาปกติ ก้อนซีสมันก็เงียบๆ ของมัน แต่ถ้าลองหวานเครียดนานๆ ล่ะก็

ก้อนซีสก้อนนี้ก็แสดงความน่ารักด้วยการไปรบกวนสมองให้ลัดวงจรซ่ะงั้น

จนหวานแสบเปลือกสมอง หรือปวดไมเกรนนั่นแหละ

คล้ายจะคอยเตือนหวานว่า หยุดเครียดเดี๋ยวนี้น่ะ!!

เครียดปุ๊บ มันก็จะทำให้หวานปวดจนทำให้หวานต้องหยุดคิด หยุดเครียดไปเอง


ด้วยเหตุนี้หวานจึงเลยต้องหยุด กินยาแล้วก็นอน นอนอย่างเีดียว ห้ามใช้สมอง

ถ้าใช้สมองเมื่อไหร่ จะแสบเปลือกสมองไปครึ่งหัว น้ำตาไหลพราก


หมอไม่ผ่าให้ เพราะหนึ่ง แสกนล่ะ ก็ไม่พบว่าก้อนซีสมีอันตรายอะไร

สอง ผ่าก็กลัวติดเชื้อในสมอง มันไม่คุ้มกัน

สามทุกวัน ทุกวันนี้ หวานยังคงคิดอะไรก็ได้ ทำงานได้

หมอก็บอก คุณก็แค่ห้ามเครียดนานๆ ซึ่งคนทั่วไป ไม่ควรจะเครียดนานๆ อยู่แล้ว

เหนื่อยก็พัก กินยาแก้ปวดก็หาย นั่งสมาธิควบคุมจิตใจ บลาๆ


นอกจาก ไอ้ก้อนซีส ก้อนนี้ ไม่มีอันตรายใดๆ กะหวานเลย

ตรงกันข้าม หมอบอกว่า ในการแพทย์ เขามีข้อมูลว่า

ถ้าหากว่ามีก้อนซีสอยู่ตรงไหน ก็จะไม่เกิดมะเร็งตรงนั้น

นั้นก็หมายความว่า หวานจะไม่เป็นมะเร็งที่สมอง อย่างหนึ่งล่ะ...

หวานควรจะขอบคุณก้อนซีสก้อนนี้ด้วยซ้ำ ที่ทำให้หวานปลอดมะเร็งที่สมอง


แต่ก็อีกนั่นแหละ หวานจะไปขอบคุณมันทำไม

ในเมื่อมันทำให้หวานปวดไมเกรนจนไปทำงานไม่ไหวเนี้ย



หลายคน ที่รู้จักหวานกับแม่ ... ถ้าแม่แก่แล้ว มักจะบอกให้หวานดูแลแม่..

แต่หวานมักจะบอกแม่ ว่าให้แม่ดูแลตัวเอง

เพราะ ไม่รู้ใครจะตายก่อนกัน


แต่ก็อีกนั่นแหละ แม่ก็คือแม่ แม่อยากให้หวานมีชีวิตมั่นคง อย่างที่ควรจะเป็น

แม่อยากให้หวานขับรถได้ มีรถขับ จะได้ไม่ลำบาก
(เหรอ??? อันนี้แอบงง หวานว่ามีรถลำบากกว่าอีก ค่าใช้จ่ายไม่ใช่เรื่องทั้งนั้น)

แม่อยากให้หวานมีเงินเดือนสูงๆ ตำแหน่งดีๆ จะได้มีคนนับหน้าถือตา มีศักดิ์ศรี

แม่อยากให้หวานซื้อบ้านตั้งแต่สาวๆ พอมีเริ่มอายุแล้ว จะได้สบาย ไม่ต้องผ่อนหนักตอนแก่

แต่สิ่งเดียวที่แม่ทำได้(ถนัดซ่ะด้วยนะ) ก็คือ กดดันให้หวานเครียด

เขาคาดหวังให้ หวานจะได้มีความทะเยอทะยาน อย่างคนอื่นเขาบ้าง

อย่างเดียวในอนาคต ที่หวานรู้สึกดีมาก ที่ แม่ไม่พูดถึง คือครอบครัว

แม่บอกว่า ถ้าอยากเป็นโสดไปจนตาย ไม่เป็นไร แต่.. ต้องทำชีวิตให้มันมั่นคง

ถ้าแกไม่มีเงิน ไม่มีบ้านแกก็ตายอยู่ข้างถนน ...


หวานว่าตัวเองโชคดีมาก ที่คำว่า "พอดี"ในชีวิตตั้งแต่เด็ก

ตั้งแต่เด็ก เป็นคนที่รักตัวเองมาก รักจนไม่เห็นหัวใคร ไม่เคยยอมแพ้

มีอะไรก็พูดตรงนั้น จบแล้วก็ไม่เก็บมาคิด ทุกคนต้องยอมหวาน

มึงไม่ยอมก็ไปคนละทาง จะไม่คำว่า ครึ่งทางเด็ดขาด

แต่ชีวิตก็มาหมุนกลับด้าน ตอนที่แม่สั่ง+บังคับให้ไปเรียนบัญชี


หวานค้นพบโลกอีกใบ ที่ ..เปลี่ยนคำว่า"พอดี" เป็น "อีโง่"


หวานเปลี่ยนจากคนที่รักตัวเองมาก เป็นคนที่ยอมคนมากขึ้น มีอะไรก็ไม่กล้าพูด

เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ คิดเรื่องเงินเป็นเรื่องแรก ความรู้สึกไว้ทีหลัง

ชีวิตต้องมีระเบียบ อ่านให้เยอะ ข้อมูลต้องปึก เพราะต้องเขียนแบบแผน

ทุกอย่างเป็นไปตามเสตป แน่นอน ต้องมีแผนสำรอง บลาๆ



หลายๆ ครั้ง หวานถามตัวเองว่าทำไมกูจะต้องยึดติดกับแผน ก็รู้อยู่ว่าในใจลึกกูก็ไม่อยากเลย


ตอนนี้ เริ่มคิดเรื่องซื้อบ้าน ซื้อรถ มาเขียนเป็นแผน คำนวณว่าต้องเก็บเงินเท่าไหร่


ทำอย่างไง ถึงจะได้เงินเดือนดีๆ คุณสมบัติอะไรที่เรายังไม่มี พยายามให้ตัวเองมี

ต้องเรียนโทใช่มั้ย เรียนเลย กูต้องเรียน

บอกตามตรง หวานไม่อยากทำ ไม่เคยอยากเรียนโท ไม่เคยแม้แต่อยากมีชีวิตแบบนี้

หวานอยากมีชีวิตที่ปล่อยสบายๆ

หวานอยากแค่รู้สึกดี ที่เมื่อเรายังมีลมหายใจอยู่

อยากย้อนกลับเมื่อตอนก่อนเรียนบัญชีจริงๆ


ใครว่าปัญญาอ่อนก็ช่าง เพราะหวานโคตรมีความสุขเลย กับชีวิตแบบนั้น


แต่หวานก็ทำไม่ได้ แล้วยิ่งมีแม่ที่คอยกดดันอย่างนี้ ...เฮ่อ..


ตายก่อนก็ไม่ได้ ตายหลังก็ไม่อยาก

}}}}}}}}}}}{{{{{{{{{{{{{

หวานชอบมิวสิคนี้ ตรงที่ผู้ชายคนนั้น หันมาเป็นภาพของดวงดาว จักรวาล

แม้จะรักกันสักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้ว ก็มีเพียงตัวเราเอง ที่จะอยู่กับตัวเองจวบจนลมหายใจสุดท้าย

เป็นช่างสัจธรรมของชีวิตอ่ะนะ

เห็นดาวแล้ว คิดถึงคืนวันตอนที่ตัวเองเป็นเด็ก แล้วมองไปขึ้นฟ้า แล้วเห็นดาวเต็มฟ้า

โคตรมีความสุขเลยตอนนั้น รู้สึกว่าตัวเราช่างกระจ้อยร่อยนัก เมื่อเทียบกับจักรวาลนี้

จะแก่งแย่งแข่งขันกันทำไม สุดท้ายแล้ว ก็ตายเหมือนกัน




Create Date : 28 สิงหาคม 2554
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 1:00:25 น.
Counter : 728 Pageviews.

1 comments
  
อย่าเครียดนะคะ บางทีชีวิตก็เลือกไม่ได้ บางทีทำได้แค่เลือกที่จะไม่เลือก
ขอให้มีความสุขนะคะ
โดย: cake&coffee วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:14:36:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หวานใจนายโหด
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




add me!!plz~
Add to Google

ไม่สวยก็เซ็งเป็น


MY VIP Friend