Sing Tao Article

29-01-2005

ข่าวเก่าแล้วแต่อยากลงอ่ะ..^^

แปลโดย Paige



ริชชี่เผยนิสัยแปลกๆของตัวเอง
เข้าถึงบทมากไปทำให้แต่งเพลงไม่ได้

ผู้ชายไม่ควรหลั่งน้ำตาง่ายๆ งั้นอะไรที่ทำให้ริชชี่ร้องไห้? เค้าทำงานกับผู้กำกับหลายคน,ทำไมเค้าถึงไม่สามารถหาใครสำหรับกำกับ ‘Two Poles’ ได้และต้องรับหน้าที่ด้วยตัวเอง?

การทำงานหนักและความคิดที่พากเพียร ริชชี่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เค้าสมควรได้รับ แต่ความสำเร็จนี้ใช่จะได้มาโดยง่าย เหมือนกับหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จ, ริชชี่ได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากบนเส้นทางอันยาวนาน

‘Person With Dreams’ แม้แต่คนที่ตรงไปตรงมาและเปิดกว้างอย่างริชชี่ เค้าก็ยังไม่สามารถที่จะไม่คิดถึงการเดินทางของตัวเค้าเองตอนที่เริ่มร้องเพลงนี้ มันทำให้เค้าอ่อนไหวและตาเริ่มแดง เค้าต้องอัดเพลงนี้ใหม่อีกรอบเพื่อให้ได้ผลที่น่าพอใจ

ผมไม่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จได้ในข้ามคืน มันเป็น 7 ปีแห่งความสิ้นหวังและยากลำบาก เพราะอย่างนั้นเพลงนี้จึงมีความหมายพิเศษต่อผม มันชัดเจนถึงเนื้อหาในการเดินทางของนักร้องคนนึงซึ่งไล่ตามความฝันของเค้า มันน่าประทับใจมาก ริชชี่ร้องเนื้อออกมาท่อนนึง : วิ่งจากเหนือจรดใต้ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจ ไม่สำคัญว่าแม้เป็นพียงคนเดียวลำพังบนเส้นทางเร่งด่วน....ฉันไม่แคร์ถ้าเกิดไม่มีใครชอบเพลงของฉัน ฉันยังจะบินต่อไป, แบ่งปันต่อไป

“นั่นมันเกือบจะเหมือนกับชีวประวัติของผม ผมจากบ้านเกิดที่หูเป่ยเพื่อตามหาความฝัน มันไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมต้องการจะยืนหยัดอยู่บนเส้นทางที่ผมได้เลือกไว้ และผมไม่ต้องการจะยอมแพ้ ในห้องอัดเสียง, ผมรู้สึกว่าน้ำตาเริ่มเอ่อ การร้องในครั้งแรกฟังแล้วเหมือนผมเกือบจะร้องไห้ บางคนบอกว่ามันฟังแล้วเหมือน นักร้องที่ได้ผ่านช่วงนั้นมาและพยายามจะรำลึกถึงวันเก่าๆ นั่นมันไม่ได้! ผมต้องการให้ผู้คนมีความรู้สึกกล้าหาญและยืนหยัดได้ เพื่อที่คุณจะได้ทำงานหนักเพื่อแรงบันดาลใจของคุณ ผมเลยบันทึกใหม่อีกครั้ง เวอร์ชั่นที่ให้กำลังใจ และให้ความสุขกับคนที่ได้ฟัง” ริชชี่บอกว่าในช่วงนั้นเค้าแค่ออกความเห็นเล็กน้อยในอัลบั้ม และไม่ได้แต่งเพลง เป็นเพราะงานที่เค้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

“ผมยุ่งอยู่กับหนัง แต่มันไม่ใช่เหตุผลหลักหรอกนะ มันเป็นเพราะผมมีนิสัยแปลกๆ : ผมเข้าถึงบทมากไปหน่อย เหมือนช่วงที่ถ่ายทำเรื่อง “Breaking News” ผมเกือบจะกลายเป็นอีกคนนึง เพลงที่ผมเขียนก็กลายเป็น โหดมากๆ ผมไม่อยากจะให้มันกระทบกับเพลงของผม ดังนั้นช่วงที่ถ่ายหนัง ผมจะหยุดแต่งเพลง”

กำกับ MV เอง

หนังใหม่ของริชชี่เรื่อง ‘Seoul Raiders’ ตามตารางแล้วจะออกฉายช่วงตรุษจีน เค้ายังขอให้นักแสดงนำหญิง ซูฉี มาเล่นในอัลบั้ม ‘Two Poles’ MV (คิดว่าเป็นการลงข้อมูลผิดเพราะซูฉีไม่ได้เล่น MV นั้น แต่เล่น MV เพลง That yesr, this day ต่างหาก)

ริชชี่เคยทำงานร่วมกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียงหลายคนมาก่อน ดังนั้นเลยมีผู้กำกับไต้หวันหลายคนรู้สึกกังวลและกดดันในการทำงานกับริชชี่ แม้ว่าตามความเป็นจริงแล้วมันเป็นชื่ออัลบั้ม ริชชี่ไม่ได้ต้องการผลที่ดีเลิศนัก นั่นเป็นเหตุผลให้เค้ารับหน้าที่กำกับด้วยตัวเอง แม้ว่าจะมีตารางงานรัดตัว โชคดืที่มีลูกทีมที่ดี และทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่น มันเสร็จสิ้นภายในวันเดียว ริชชี่บอกว่า : “การกำกับด้วยตัวเองให้ความรู้สึกดีมากๆ แม้ว่ามันจะเป็นงานที่หนัก แต่ก็น่าพอใจ แต่เพราะผมมีงานอื่นต้องทำอีกมาก ผมไม่สามารถกำกับทุกคนใน MV ของผมเอง แต่อย่างไรก็ตามผมเป็นนักแสดงที่ว่าง่าย ผมไม่มีปัญหาที่ต้องเถียงกับผู้กำกับ และไม่กระทบต่องานของพวกเค้า”

‘So Far So Close’ เป็นอัลบั้มสุดท้ายภายใต้สัญญาของ Rock Records จะอยู่หรือไปริชชี่มักจะเก็บจุดที่อ่อนโยนสำหรับ Rock Records แต่เค้าก็ต้องการให้ความสำคัญต่อการงานในอนาคตของเค้าก่อน

“ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามีหลายบริษัทที่ต้องการให้ผมไปเข้าร่วม พวกเค้าให้ข้อเสนอดีๆ มากมายและวางแผนที่ดีให้ผม แต่ Rock Records เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ผมเคยเซ็นต์ด้วยในอาชีพของผม มันเหมือนกับเด็กที่ไม่เคยจากบ้านมาก่อน ลัการร่วมมือของเราก็ดีมากๆ อย่างไรก็ตาม ผมอยากจะดูก่อนว่าผลของอัลบั้มนี้เป็นอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจต่อสัญญาอีก วงการบันเทิงทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่เพียงแต่คุณจะต้องมีเพลงที่ดี มันต้องมีองค์ประกอบอื่นๆด้วย มันเห็นนักร้องหลายคนที่เข้ามา (ที่บริษัท) และครึ่งนึงของพวกเค้าทำได้ไม่ดี เพราะงั้นมันถึงเป็นเรื่องที่ต้องซีเรียสในการพิจารณา เงินไม่ใช่หัวข้อหลัก ถ้าเพลงดี นักร้องจะมีชื่อเสียง บริษัทที่สามารถช่วยได้มากในอาชีพของเราเป็นที่ที่ควรที่จะเข้าร่วม”

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2548		0 comments
Last Update : 17 มีนาคม 2549 20:31:16 น.
Counter : 1085 Pageviews.
Share Tweet