หวานเย็นผสมโซดา | รวิวารี | Mahal Kita | NamPhet
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
คิวบิก ๑-๒ : B 13 s.t

คิวบิก ๑-๒ : B 13 s.t


ชื่อหนังสือ : คิวบิก ๑
เขียนโดย : B 13 s.t
พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม ๒๕๕๔
สำนักพิมพ์ : Princess
จำนวน ๔๒๔ หน้าราคา ๒๕๐ บาท


กระซิบก่อนอ่าน

   อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน…
   ใครจะรู้เล่าว่าในวันพรุ่งนี้ชีวิตของเราจะดำเนินไปเช่นไร เราอาจได้พบเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะพลิกชีวิตของเราให้เปลี่ยนไปตลอดกาลก็เป็นได้…
   เช่นเดียวกับ ‘ฤทัยนาค’ เด็กสาวอายุสิบเจ็ดปี ที่ครอบครัวเก็บกระเป๋าหนีไป ทิ้งเธอไว้ให้เป็นของใช้หนี้มาเฟียฮ่องกง แทนที่จะเป็น นันทกา พี่สาวของเธอตามสัญญา
   แต่นี่ไม่ใช่นิยาย ที่ของใช้หนี้จะเป็นหญิงสาวแสนสวย และได้เกิดความรักต่อกันกับมาเฟียเจ้าหนี้ อันนำไปสู่ตอนจบที่สมบูรณ์แบบ เพราะ ฤทัยนาค ไม่ใช่คนสวย หุ่นก็ไม่ดี อีกทั้ง ‘หลิน หลานเซ่อ’ มาเฟียเจ้าหนี้ก็ไม่เคยคิดไยดี แถมยังชิงชังเธออีกต่างหาก และเพราะเหตุนั้น ฤทัยนาค จึงต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ก่อนจะจับพลัดจับผลูได้ตำแหน่ง ‘เงา’ คนใหม่ ภายใต้โคดเนม ‘CUBIC’ ที่คนในวงการมืดและตำรวจตามหากันให้ควั่กโดยไม่ได้ตั้งใจ
   CUBIC นวนิยายครบรสที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น ซึ่งจะทำให้คุณลุ้นจนวางไม่ลง



แวะเคาะประตูร้านหนังสือ









ชื่อหนังสือ : คิวบิก ๒
เขียนโดย : B 13 s.t
พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม ๒๕๕๔
สำนักพิมพ์ : Princess
จำนวน ๔๘๐ หน้าราคา ๒๗๐ บาท


กระซิบก่อนอ่าน

   อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน…
   ใครจะรู้เล่าว่าในวันพรุ่งนี้ชีวิตของเราจะดำเนินไปเช่นไร เราอาจได้พบเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะพลิกชีวิตของเราให้เปลี่ยนไปตลอดกาลก็เป็นได้…
   เช่นเดียวกับ ‘ฤทัยนาค’ เด็กสาวอายุสิบเจ็ดปี ที่ครอบครัวเก็บกระเป๋าหนีไป ทิ้งเธอไว้ให้เป็นของใช้หนี้มาเฟียฮ่องกง แทนที่จะเป็น นันทกา พี่สาวของเธอตามสัญญา
   แต่นี่ไม่ใช่นิยาย ที่ของใช้หนี้จะเป็นหญิงสาวแสนสวย และได้เกิดความรักต่อกันกับมาเฟียเจ้าหนี้ อันนำไปสู่ตอนจบที่สมบูรณ์แบบ เพราะ ฤทัยนาค ไม่ใช่คนสวย หุ่นก็ไม่ดี อีกทั้ง ‘หลิน หลานเซ่อ’ มาเฟียเจ้าหนี้ก็ไม่เคยคิดไยดี แถมยังชิงชังเธออีกต่างหาก และเพราะเหตุนั้น ฤทัยนาค จึงต้องทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ก่อนจะจับพลัดจับผลูได้ตำแหน่ง ‘เงา’ คนใหม่ ภายใต้โคดเนม ‘CUBIC’ ที่คนในวงการมืดและตำรวจตามหากันให้ควั่กโดยไม่ได้ตั้งใจ
   CUBIC นวนิยายครบรสที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น ซึ่งจะทำให้คุณลุ้นจนวางไม่ลง



แวะเคาะประตูร้านหนังสือ




ขอบคุณรายละเอียดและภาพปกจาก... สถาพร บุ๊คส์ ... นะคะ







เขียนความรู้สึก...บันทึกหลังอ่าน

   เมื่อ นายยุทธพงษ์ ฤทธิวงษ์ ผู้เป็นบิดาหายตัวไปพร้อม นันทกา ฤทธิวงษ์ พี่สาวคนสวยซึ่งมีฐานะเป็นตัวประกันการใช้หนี้จำนวน ๒๐ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ทิ้งให้ ฤทัยนาค สาวน้อยร่างท้วมวัย ๑๗ ปี เผชิญหน้ากับมาเฟียหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลเพียงลำพัง ฤทัยนาค จึงต้องงัดทุกข้อต่อรองมานำเสนอเพื่อความอยู่รอดของตน และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผลักให้เธอจำต้องก้าวเข้าสู่วงการมืดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาเงินใช้หนี้ หลินหลานเซ่อ เจ้าหนี้หนุ่มผู้แสนเย็นชา และเคร่งขรึม รู้ตัวอีกทีเธอก็กลายเป้าหมายที่ถูกตามล่าทั้งจากคนในวงการมืดและตำรวจสากล
   'จงเป็นเหยื่อที่เหนือกว่าผู้ล่า...นาค ขอบคุณพรสวรรค์ของตัวเอง แล้วก็ใช้มันให้เต็มที่ด้วย'
   เมื่อทางรอดทางเดียวที่มี คือ การเป็นเหยื่อที่เหนือกว่าผู้ล่า เธอก็ต้องประกาศศักยภาพของเหยื่อที่เหนือกว่า ในฐานะ CUBIC เท่านั้นเอง

   กว่าหวานเย็นจะได้หยิบ คิวบิก มารีวิวกับเขาบ้าง ละครก็กำลังออกอากาศให้ได้ติดตามกันเสียแล้ว รู้สึกผิดกับการดองรีวิวจังค่ะ แต่... อย่าคาดหวังว่าหวานเย็นจะไม่ดองรีวิวอีกนะคะ มันเป็นเรื่องที่...

   สำหรับใครที่ไม่ใช่แฟนละคร และยังไม่ได้อ่าน คิวบิก หรืออาจจะเคยหยิบมาอ่านแต่อ่านไม่จบ... หวานเย็นขอแอบกระซิบ (ในเรื่องที่คุณรู้กันดีอยู่แล้ว) ว่า... จุดเริ่มต้นของ หนี้หัวใจที่ไม่ได้ก่อ นั้นเกิดจาก นายยุทธพงษ์ ฤทธิวงษ์ พ่อของ ฤทัยนาค เป็นนักธุรกิจที่ไม่ค่อยมีเล่ห์เหลี่ยม และเชื่อใจลูกน้องของตนมากเกินไป ทำให้ต้องกลายเป็นลูกหนี้ของ หลินหลานเซ่อ จำนวน ๒๐ ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยมี นันทกา ฤทธิวงษ์ ลูกสาวคนโตที่สวยหวานราวกับเจ้าหญิงเป็นหลักประกันการใช้หนี้ แต่... เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้จำนวนดังกล่าว นายยุทธพงษ์ กลับหายตัวไปพร้อมกับ นันทกา ทิ้ง ฤทัยนาค ไว้ให้เผชิญหน้ากับมาเฟียหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลแห่งฮ่องกงตามลำพัง สถานะของสาวน้อยร่างท้วมวัย ๑๗ ปี จึงไม่ต่างอะไรกับเหยื่อ ทว่า... ด้วยมันสมองที่มี เธอจึงกลายเป็นเหยื่อที่เหนือกว่าผู้ล่า เหยื่อที่เขาหรือใครไม่อาจเอาชนะได้ง่าย ๆ

   'จงเป็นเหยื่อที่เหนือกว่าผู้ล่า...นาค ขอบคุณพรสวรรค์ของตัวเอง แล้วก็ใช้มันให้เต็มที่ด้วย'

   ถ้าถามว่า... พรสวรรค์ของ ฤทัยนาค คืออะไร ? อืม... หวานเย็นคิดว่า... ไม่ใช่แค่มันสมองเท่านั้นหรอกนะคะ เพราะ... กว่าเธอจะได้ใช้ความอัจฉริยะของตนให้เป็นประโยชน์ ฤทัยนาค ก็ต้องดิ้นรนทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง, เสิร์ฟอาหาร, ส่งหนังสือพิมพ์ เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ กระทั่งวันหนึ่ง... เจ้าหนี้มาดขรึม ผู้แสนจะเย็นชาก็เสนองานเจรจาธุรกิจครั้งสำคัญให้เธอทดลอง เมื่อจะเริ่มทำธุรกิจใหญ่ การต่อรองก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรพลาดนับตั้งแต่วินาทีของการรับงาน Smiley

   "หนึ่งล้านดอลลาร์ฮ่องกง ฉันยอมรับว่ามันเยอะสำหรับคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ต้องแบกปัญหาอะไร นอกจากเอาเงินนั่นไปถลุงเล่น... แต่สำหรับคนติดหนี้ยี่สิบล้านแบบฉัน รู้สึกว่าไม่คุ้มเท่าไหร่เลย ว่าไหม" นาคกอดอกถามกลับด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ แต่นัยน์ตาของเด็กสาวที่เคยฉายแต่ความสนุกสนานไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งรอบข้างกลับเปลี่ยนไป...มันไม่ได้ฉายความอวดดี หรือหาเรื่องท้าทาย แต่กำลังฉายความหนักแน่น...มันเป็นสายตามเดียวกับที่ผู้กุมอำนาจมืดในมืออย่างเขามักใช้ยามต่อรองหรือยื่นข้อเสนอในยามทำธุรกิจกับใคร
   สายตาของคนที่มั่นใจในความเหนือชั้นของข้อต่อรองตนเอง...สายตาของคนที่ถือไพ่เหนือกว่า
   น่าสนใจ
   ชายหนุ่มถึงกับเผลอขยับยิ้มเล็กน้อย เจ้าเด็กสาวตรงหน้ามีอะไรน่าสนใจกว่าที่คิด...ถึงจะทำอะไรแปลก ๆ มาเยอะก็เถอะ
   เพราะถ้าเจ้าหล่อนกระโดดตะครุบเงินหนึ่งล้านทันทีโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่สนใจข้อต่อรองใด ๆ หรือผลได้ผลเสีย ไม่มีแม้แต่การคิดคำนวณ...เธอก็ไม่เหมาะจะทำงานนี้...
   ยอมรับว่ามันน่าหงุดหงิดเล็ก ๆ กับการเล่นแง่ของลูกหนี้รายนี้ เพราะถือว่าจ่ายมากไปกับการจ้างคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพมาทำงานของมืออาชีพระดับนี้... แต่ถ้าหากเจ้าหล่อนไม่มีฝีมือในชั้นเชิงการต่อรอง หรือไม่รู้จักหยิบไพ่ที่เหนือกว่าขึ้นมาใช้ เพียงถูกเงินล่อแล้วตกลงรับทำทันใด เธอก็ถือว่าไม่มีคุณสมบัติที่เขาต้องการจริง ๆ ...ประวัติของเธอในแฟ้มมีสิ่งที่บอกความสามารถของเธอก็จริง แต่มันก็ยืนยันอะไรไม่ได้หมด นอกจากต้องเห็นด้วยตาตัวเอง
   ด่านทดสอบแรก...ถือว่าผ่าน...


   อืม... ถ้ายึดหลักความเป็นจริงเป็นที่ตั้งแล้วล่ะก็... การเลือกใช้คนของ หลินหลานเซ่อ ใน คิวบิก นั้นค่อนข้างจะขัดแย้งกับหลักความเป็นไปได้จนเกินไป แต่...ก็นะ... โดยรวมแล้ว B 13 s.t ก็มีความสามารถพอจะนำเหตุผล (แบบข้าง ๆ คู ๆ) มาอธิบายเข้าข้างการกระทำดังกล่าวได้แบบไม่ประดักประเดิดมากนักอยู่เหมือนกันค่ะ ทำให้หวานเย็นรับได้กับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ตามมาภายหลัง ชื่นชมในการวางแนวทางสำหรับการดำเนินเรื่องจริง ๆ ค่ะ

   การเจรจาธุรกิจกับ คารอส ทาร์เปีย ทำให้ ฤทัยนาค ต้องตกกระไดพลอยโจน และก้าวเข้าสู่แวดวงมาเฟีย ก้าวเข้าวงวันของการไล่ล่า และตกเป็นผู้ถูกล่า ไปพร้อม ๆ กับ หลินหลานเซ่อ

   "เธอ...รู้แน่รึเปล่า...ว่าฉันเป็นเจ้าหนี้"
   นาคที่กำลังกวาดสายตาหาเป้าหมายของตน จำต้องหันหน้าที่โทรมไปด้วยเหงื่อไปมองใบหน้าซีดเซียวของมาเฟียหนุ่ม ที่อยู่ ๆ ก็ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงแผ่วหวิวข้างตัวเธอ เธอกะพริบตาปริบ ๆ สองสามครั้งมองเขาเพื่อทำความเข้าในคำถามก่อนตอบ
   "รู้สิ ไม่งั้นฉันจะมานั่งทำงานงก ๆ ใช้หนี้นายอยู่แบบนี้เหรอ"
   คำตอบยังฟังง่ายดายสมเป็นเธอ
   เขายังจ้องนัยน์ตาสีดำของเธอนิ่งนาน ให้ความเงียบงันเกิดขึ้นเพียงครู่ "งั้น...ปล่อยฉันทิ้งไป...น่าจะง่ายกว่าไม่ใช่รึไง" นาคชะงัก เอียงศรีษะน้อย ๆ พลันในคำถามครั้งนี้จากชายหนุ่ม ซึ่งเขาก็ยังคงเสนอตัวเลือกให้เธอ "ถ้าฉันตาย...เธอจะปลดหนี้ได้สบาย...ไม่ต้องห่วงพี่สาวเธอ...หนีไปซะตอนนี้...เธอมีแต่ได้กับได้" นัยน์ตาปรืออ่อนแสงลง แต่ยังคงเต็มไปด้วยความจริงจังในสิ่งที่ตนพูด
   ไปซะสิ...เธอช่วยเขามาได้มากขนาดนี้ โอกาสก็ควรเป็นเธอ ถ้ายังแบกกันไปในสภาพนี้ ทั้งเขาและเธอไม่มีใครรอดแน่นอน...เธอไม่จำเป็นต้องมาทิ้งชีวิตให้แก่คนที่เป็นแค่เจ้าหนี้
   ไปซะ...ตอนที่ยังมีโอกาส นาคจะเป็นคนเดียวที่เขายอมปล่อยให้หนีไปโดยที่ยังมีลมหายใจ...
   ทว่ากลับเป็นอีกครั้งที่เขาได้เห็นรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้าธรรมดาที่เหนื่อยอ่อนตามด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่เข้ากับสถานการณ์จนมาเฟียหนุ่มประหลาดใจ ความตึงเครียดที่กระจายอยู่รอบตัวพวกเขามลายหายไปทันที
   "ว้าว...ข้อเสนอยั่วกิเลสจัง" นาคว่ากลั้วหัวเราะ และยังกล่าวต่ออย่างแจ่มใสไม่เปลี่ยนราวกับไม่มีอะไรให้เธอต้องเก็บมาคิดมากมายอย่างเขา "คราวหน้าถ้านายโดนยิงอีก ก็อย่าลืมเตือนฉันรีบทำอย่างที่นายบอกแล้วกัน ตอนนี้ฉันเปลี่ยนแผนไม่ทันแล้วละ"
   ไอ้คำว่า 'คราวหน้า' นั้น กลายเป็นการบอกว่ายังไงตอนนี้เธอก็จะต้องช่วยเขาให้ได้งั้นสิ...
   เด็กคนนี้...เป็นคนฉลาดที่โง่ที่สุดจริง ๆ ด้วย...ไปเอาความมั่นใจบ้า ๆ นั่นมาจากไหน
   หลานเซ่อจ้องใบหน้าด้านข้างที่ยังฉาบรอยยิ้มขำ ๆ ของนาค รอยยิ้มที่ไม่ควรปรากฎขึ้นในเวลาเช่นนี้ แต่มันกลับเด่นชัดอยู่บนใบหน้าของเธอ...เด่นชัดอย่างไม่มีการโกหก
   และเพียงไม่นานเธอก็หันกลับมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมเหตุผลอีกข้อ "ความจริงฉันไม่ใช่คนดีเด่อะไร แต่ว่า...ฉันไม่ได้เกลียดนาย...เท่านั้น ก็น่าจะเป็นเหตุผลมากพอที่ฉันควรจะไม่ทิ้งนายแล้วจริงไหม"


   การที่ ฤทัยนาค ไม่ทิ้ง หลินหลานเซ่อ กลายเป็นจุดพลิกผันที่เปลี่ยนแปลงความรู้สึกในใจของเจ้าหนี้ผู้แสนเพอร์เฟกต์ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างช่วยไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดา...เมื่อฝ่ายที่เสียเปรียบ ย่อมเป็นฝ่ายที่ความรู้สึกนั้นก่อตัวขึ้นมาก่อน
   ...รัก


   เสียเปรียบอย่างไรน่ะเหรอคะ ? ก็... ดันมาตกหลุมเด็กที่มีนิสัยหัวดื้อ แล้วก็ชอบรั้นในบางเรื่อง... ...ชอบคิดแต่ว่าคนอื่นจะไม่สนใจ และหายตัวไปเฉย ๆ ...มักทำอะไรโดยไม่บอกล่วงหน้า ชอบมีเรื่องปวดหัวและมีแต่แผลประจำ ทั้งที่ฉลาดแต่ก็เหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องคอยสั่งสอนตลอดเวลา...ไม่มีทิฐิ เอ่ยคำขอโทษง่าย ยิ้มง่าย และมักไม่เคยรู้ว่าตัวเองก็สำคัญ...กับคนอื่น น่ะสิคะ จะบอกรักทั้งทียังกลายเป็นเรื่องชวนฮาไปเสียนี่

   "นายรู้เรื่องส่วนตัวพี่นันก็หลายข้อแล้ว แล้ว...เรื่องส่วนตัวของนายล่ะ"
   "เรื่องส่วนตัวของฉัน...ทำไม" มาเฟียหนุ่มทวนคำน้ำเสียงเรียบตามแบบตนพร้อมย่นหัวคิ้วมาชนกันเล็กน้อย
   "ก็เช่นว่า นายชอบสีอะไร ชอบอาหารประเภทไหน ชอบเล่นกีฬาอะไร หรือชอบคนแบบไหน..." หยุดคำพูดแค่นั้น เพราะเห็นชัดว่าเจ้าหนี้ตนคงไม่ให้ความร่วมมือ ดูจากสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาแถมยังนิ่งเงียบหลังจบคำถามของเธอ เล่นเอาเด็กสาวต้องอ้อมแอ้มว่า "โทษที...ฉันแค่อยากรู้..."
   ขอโทษจบก็ก้มหน้าลงไปสนใจงานของตนต่ออย่างเงียบ ๆ เพราะคิดได้ว่าหลานเซ่อไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัวเขา ครั้งที่เธอพูดเรื่องสีผมกับเชื้อสายยุโรปครึ่งหนึ่งของเขา มาเฟียหนุ่มก็เคยเตือนเธอไปแล้ว เธอก็น่าจะรู้ว่าไม่ควร...อาจเพราะว่าช่วงหลัง ๆ เจ้าหนี้จอมเย็นชาคนนี้เหมือนปล่อยให้เธอเข้าใกล้าตนเองได้ง่ายขึ้น และเหมือนจะผ่อนปรนให้เธอหลายอย่างต่างจากครั้งแรกที่เจอกัน จนทำให้นาคเผลอลืมไปว่าไม่ควรละลาบละล้วงเรื่องส่่วนตัวของเขา แม้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เถอะ...ต่อให้ทำงานให้เขามากแค่ไหน แต่สถานะลูหหนี้กับเจ้าหนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน
   "...สีดำกับสีน้ำเงิน"
   นาคเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงทุ้มต่ำทันใด รู้ทันทีว่าไอ้สีดำกับสีน้ำเงินที่มาเฟียหนุ่มบอกนั้นคือคำตอบของคำถามที่ตนถามไปเมื่อกี้ เมื่อเธอเริ่มถามเขาจากเรื่องสีก่อนเป็นอันดับแรก
   เจ้าหนี้ตรงหน้ายอมตอบคำถามอย่างที่เธอไม่คาดคิด
   และหลานเซ่อก็ไม่ได้อธิบายอะไรอื่นนอกจากพูดขึ้นต่อว่า
   "หมาผอโต้วฟู่"
   นาคแปลกใจนิดหน่อยที่เจ้าหนี้ตนชอบอาหารเสฉวน ทั้งที่คิดว่าน่าจะชอบพวกอาหารฝั่งยุโรปหรู ๆ ซะอีก กระนั้นก็ตั้งใจฟังต่อโดยไม่ได้ถามขัด
   "กีฬาไม่ได้มีอะไรพิเศษ..." มาเฟียหนุ่มหยุดคำตอบของตนไว้เพียงเท่านั้น ในขณะที่เห็นว่าคนถามยังตั้งใจฟังคำตอบต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ เบนสายตามองไปทางอื่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า "...ฤทัยนาค"
   "หือ ?" เจ้าของชื่อขานรับด้วยความฉงนทันใด "อะไร มีอะไร" นาคถามพลัน เมื่ออยู่ ๆ ก็โดนเจ้าหนี้เรียกชื่อขึ้นมาเฉย ๆ
   "...เปล่า" หลานเซ่อเพียงปฏิเสธอย่างเฉยชาราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ต้องปลงตกกับคนความรู้สึกช้าที่เหมือนจะลืมคำถามตัวเองที่ถามเขาไว้ในตอนแรก ซึ่งเขาก็ตอบให้หมดทุกคำถามแล้ว... ทั้งเรื่องสีที่ชอบ อาหารที่ชอบ กีฬาที่ชอบ หรือคนที่ชอบ...ทั้ง ๆ ที่ตอบออกชัดเจนขนาดนี้ เจ้าเด็กตรงหน้าก็ยังไม่รู้เลยจริง ๆ


    แอบขำเล็ก ๆ ค่ะ อย่าว่า ฤทัยนาค เลยค่ะ ฤทัยไอยราอย่างหวานเย็นผสมโซดายังงงเลยค่ะ อะไร มีอะไร ? ? ? ! ! ! อยู่ดี ๆ มาเรียกชื่อกันทำไม ? ตอบอะไรไม่เคลียร์เองแล้วจะมาโทษว่าเด็กความรู้สึกช้าได้อย่างไรคะ

   แค่ รัก แล้ว ใช่ว่าเรื่องราวทุกอย่างจะจบลงด้วยดีนะคะ เมื่อศึกภายนอกยังคงรุมเร้า และศึกภายในของ ฉายหงกรุ๊ป ก็กำลังร้อนระอุ สาวน้อยร่างท้วมผู้กุมหัวใจของมาเฟียหนุ่ม ต้องขบคิดหาวิธีกระชากหน้ากากหนอนบ่อนไส้ออกมาให้ได้ ก่อนที่ความตายจะมาเยือนทั้งเขาและเธอ เจ้าของโค้ดเนม คิวบิก

   อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่หวานเย็นแอบปลื้มและเทใจให้ไม่น้อยไปกว่าสาวน้อยวัย ๑๗ ปี ที่ทั้งฉลาด มีไหวพริบ ใจกล้าบ้าบิ่นพอที่จะเสี่ยงภัยแบบไม่ห่วงสวย (เพราะเธอคิดว่าเธอไม่ใช่คนที่มีความสวยให้ต้องห่วงนั่นเอง) ใครคนนั้นคือ... แดนนี่ ทาร์เปีย ลูกชายคนเดียวของ คารอส ทาร์เปีย เจ้าพ่อค้าอาวุธเถื่อน ที่แม้จะยียวน กวนประสาท แต่ก็น่ารัก (ในสายตาของหวานเย็นเสมอ ) แดนนี่ คือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของ ฤทัยนาค และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ถูกลากเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องเสี่ยงตายแทบทุกครั้ง นับตั้งแต่การรับงานคนอาวุธเถื่อนให้กับ คารอส ทาร์เปีย เพื่อแลกกับลายมือชื่อของเจ้าพ่อค้าอาวุธเถื่อนในสัญญาลงทุนธุรกิจร่วมกับ ฉายหงกรุ๊ป โดยวางแผนการฝ่าด่านตำรวจสากลผู้บ้าบิ่นและทำทุกอย่างได้ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์ใด ๆ อย่าง แพทริค บัตตัน กระทั่งการตามหา ฉินฝู มือปืนผู้รอดชีวิตให้ได้ก่อนฝ่ายตรงข้าม แม้ไม่เต็มใจร่วมด้วยช่วยกัน แต่เขาก็ขัด ฤทัยนาค ไม่ได้ ซึ่งงานนี้ไม่ใช่แค่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงเท่านั้น ยังมีพาหนะคู่ใจอีกด้วย

   "เร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ !" นาคตะโกนถามสุดเสียง เมื่อเสียงลมที่พัดเข้ามาในรถผ่านช่องหน้าต่างที่แตกทำให้เสียงของเธอโดนลมหอบหายไปหมด ขณะเห็นว่ารถไล่ล่าด้านหลังเริ่มจี้เข้ามาติด ๆ พร้อมสาดกระสุนเป็นระยะจนเฉียดท้ายรถของแดนไปหลายจุด
   ให้ตายเถอะ...ทำไมเธอต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ตลอดเลย
   "เธอคิดว่ารถฉันเป็นอะไร เฟอร์รารี่ติดกระบอกสูบห้ากระบอกไว้ที่ท้ายรถรึยังไง นี่มันรถคลาสสิค รู้จักไหม รถรุ่นคลาสสิน่ะ" เด็กหนุ่มตะโกนโต้แข่งกับสายลมที่ปะทะเข้าหน้าและปากพลัน เมื่อเด็กสาวเหมือนจะโทษเจ้ารถโฟล์กคู่ทุกข์คู่ยากของเขาว่าเป็นเหตุให้โดนไล่ตามทัน เขายอมไม่ได้...ถึงมันจะจริงก็เถอะ
   ทว่ามือปืนหนุ่มกลับสวนมาทันทีว่า "แถวบ้านฉันเขาเรียกตกรุ่น"
   คนรักรถจนออกนอกหน้าตวัดนัยน์ตาขุ่นเคืองมองคนปรามาสทันใด "คลาสสิคมันแปลว่าไม่เปลี่ยนแปลง คงทน และนิยมตลอดกาล ไม่ได้มีไว้เหยียบคันเร่งในสนามแข่งเหมือนรถที่ตกรุ่นทุก ๆ ครึ่งปีพวกนั้น..."
   ปัง !
   เด็กหนุ่มลูกครึ่งคิวบา - อเมริกันยังว่าไม่ทันจบ คนทั้งสามในรถก็พากันเงียบกริบ และมองไปข้างรถทันที ก่อนเห็นว่ากระจกข้างรถด้านขวาโดนยิงจนดีดกระเด็นออกไป
   "กระจกข้างฉัน !" เด็กหนุ่มร้องลั่นหนักกว่าเก่า ก่อนตวัดนัยน์ตาอาวรณ์อย่างสุดแสนมองตามกระจกข้างรถของตนที่ปลิวไปนอนนิ่งอยู่กลางถนน แถมไอ้รถคันหลังที่ไล่มายังเหยียบมันซ้ำจนเละเทะหนักเข้าไปอีก ทำเอาแดนต้องตวาดเสียงกร้าวอย่างเหลืออด "จะมีมือปืนไว้ในรถทำไม ถ้ายิงมันกลับไปไม่ได้น่ะ หา !"
   "เลิกห่วงรถซะทีเถอะน่าแดน" เด็กสาวต้องท้วงเสียงดังเช่นกัน ซึ่งคนฟังก็สวนกลับทันใจอย่างไม่หยุดคิดเลยว่า
   "งั้นเธอมาชดใช้ให้ฉันไหมเล่า ฉันจะเอากระจกข้างแบบเดิมด้วย"


   ฮาค่ะ ถูกไล่ยิงขนาดนี้ยังจะมีอารมณ์รักรถยิ่งชีพได้อีกนะเนี่ย

   อีกหนึ่งที่หวานเย็นชอบและชื่นชมไม่แพ้กัน คือ... เหม่ยจิง ดาราสาวพราวเสน่ห์ คู่ควงของ หลินหลานเซ่อ หวานเย็นชอบ เหม่ยจิง เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักวางตัว รู้ว่าจุดยืนของตัวเองอยู่ที่ตรงไหน ไม่เคยออกอาการฟูมฟาย ไม่เรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และเมื่อล่วงรู้ถึงความรู้สึกที่ หลินหลานเซ่อ มีต่อ ฤทัยนาค เธอก็แค่...

   "คุณรักเธอจริง ๆ งั้นเหรอ"
   "ถ้ามัน...เป็นคำที่ถูกต้องที่สุด..."
   เหม่ยจิงกระตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อยทันใด
   "สมน้ำหน้า" นางแบบสาวฝืนยิ้ม มันเป็นคำซ้ำเติมที่ทั้งเงียบเหงาและอาดูร ก่อนเธอจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังสดใสขึ้นอีกนิดว่า "ลองอยู่ในฐานะคนที่เป็นฝ่ายหลงรักบ้าง จะได้รู้ว่าความรู้สึกคนอื่นมันเป็นยังไง"
   จะได้รู้ว่าความรู้สึกของเธอมันเป็นยังไง


   แค่เพียงเท่านี้จริง ๆ ค่ะ ไม่ตีโพยตีพาย ไม่โวยวาย ชอบค่ะ...ชอบ

   ฉากที่ชอบมากที่สุดของภาคแรก (เล่ม ๑-๒) ต้องยกให้ฉากระเบิดตึก ฉายหงกรุ๊ป ค่ะ ทั้งตื่นเต้น ลุ้นระทึก ชวนติดตาม และเอาใจช่วย ฤทัยนาค ชอบค่ะ...ชอบ

   สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน หวานเย็นแนะนำเลยค่ะเรื่องนี้ สนุก ตื่นเต้น ชวนติดตาม แม้หลายคนจะบอกว่ามัน เว่อร์ แต่ในความเว่อร์นั้นก็สนุกดีค่ะ ก็นะ... ในนิยายน่ะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละค่ะ

   ขอขอบคุณ คุณบอล (กล้ายางสีขาว) อีกครั้ง สำหรับ คิวบิก นะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ






Create Date : 21 มีนาคม 2557
Last Update : 21 มีนาคม 2557 11:43:00 น. 15 comments
Counter : 2383 Pageviews.

 
ว่าจะอ่านหลายหนแล้ว จนกระทั่งละครออกอากาศก็ยังไม่มีโอกาสได้อ่านซะทีครับ เห็นว่าในละครต่างกับหนังสือพอดูเลย


โดย: สามปอยหลวง IP: 122.154.3.131 วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:13:04:11 น.  

 
อ่านเมื่อหนังสือออกได้ไม่นาน เป็นนิยายฉีกแนวดี พล็อตเรื่องสนุก อ่านแล้วลุ้นมากกกกกกกก

ที่ชอบอีกอย่างคือน้องแบ้งค์เขียนได้สนุกโดยไม่ต้องพึ่งพาฉากเรทเหมือนนักเขียนรุ่นใหม่หลายคน แถมแค่หลานเซ่อจูบนาคแบบแผ่วๆ ตอนที่เปียกฝน น้องเขาบรรยายได้ดีมาก อ่านแล้วรู้สึกถึงความรักที่หลานเซ่อมีต่อนาค และรู้สึกว่ามันหวานชวนจิกหมอนยิ่งกว่านิยายเรทแรงๆ ไม่รู้กี่เท่า รู้สึกว่าทั้งสองรักในตัวตนของกันและกันมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก

ส่วนละคร ไม่กล้าดู ตั้งแต่เห็นแคสติ้ง ค่ายที่ได้ไป แต่เห็นคอมเม้นต์ในพันทิปว่าพระเอกแสดงได้แข็งโป๊กมาก ที่ขัดใจก็คือทำไมต้องเปลี่ยนบุคลิกตัวละครด้วย ตัวละครหลายๆ ตัวมีเสน่ห์ในตัวเองมาก แต่โดนคนเขียนบทฆ่าจนเสน่ห์หายหมด ไม่ว่าจะเป็นพระเอกกลายเป็นมาเฟียแข่งความง้องแง้งกับนาค แล้วยังให้จงซินเหมือนเป็นเพื่อนหลานเซ่อ แถมไปหลงรักเหม่ยจิง ทั้งจงซินและเหม่ยจิงเป็นตัวละครที่เราชอบมาก จงซินในนิยายเท่ ไม่ค่อยพูด แต่ในละครกลายเป็นพูดมาก เหม่ยจิงก็กลายเป็นนางร้ายคอยจับหลานเซ่อ ทั้งที่จริงหม่ยจิงรักหลานเซ่อ แต่นางมีศักดิ์ศรีเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น เพลียกับละครมาก

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ค่ะ





โดย: ข้าวปั้น IP: 192.99.14.34 วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:15:00:33 น.  

 
อ่านเมื่อหนังสือออกได้ไม่นาน เป็นนิยายฉีกแนวดี พล็อตเรื่องสนุก อ่านแล้วลุ้นมากกกกกกกก

ที่ชอบอีกอย่างคือน้องแบ้งค์เขียนได้สนุกโดยไม่ต้องพึ่งพาฉากเรทเหมือนนักเขียนรุ่นใหม่หลายคน แถมแค่หลานเซ่อจูบนาคแบบแผ่วๆ ตอนที่เปียกฝน น้องเขาบรรยายได้ดีมาก อ่านแล้วรู้สึกถึงความรักที่หลานเซ่อมีต่อนาค และรู้สึกว่ามันหวานชวนจิกหมอนยิ่งกว่านิยายเรทแรงๆ ไม่รู้กี่เท่า รู้สึกว่าทั้งสองรักในตัวตนของกันและกันมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก

ส่วนละคร ไม่กล้าดู ตั้งแต่เห็นแคสติ้ง ค่ายที่ได้ไป แต่เห็นคอมเม้นต์ในพันทิปว่าพระเอกแสดงได้แข็งโป๊กมาก ที่ขัดใจก็คือทำไมต้องเปลี่ยนบุคลิกตัวละครด้วย ตัวละครหลายๆ ตัวมีเสน่ห์ในตัวเองมาก แต่โดนคนเขียนบทฆ่าจนเสน่ห์หายหมด ไม่ว่าจะเป็นพระเอกกลายเป็นมาเฟียแข่งความง้องแง้งกับนาค แล้วยังให้จงซินเหมือนเป็นเพื่อนหลานเซ่อ แถมไปหลงรักเหม่ยจิง ทั้งจงซินและเหม่ยจิงเป็นตัวละครที่เราชอบมาก จงซินในนิยายเท่ ไม่ค่อยพูด แต่ในละครกลายเป็นพูดมาก เหม่ยจิงก็กลายเป็นนางร้ายคอยจับหลานเซ่อ ทั้งที่จริงหม่ยจิงรักหลานเซ่อ แต่นางมีศักดิ์ศรีเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น เพลียกับละครมาก

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ค่ะ





โดย: ข้าวปั้น IP: 192.99.14.34 วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:15:01:32 น.  

 
คุณหวานเย็นยังไหวตัวทันนะคะ
กับ Pd กว่าจะได้มีเวลาหยิบมาเขียน
Pd ว่า...ละครคงจบไปไกลแล้วละค่ะ

อย่าเครียดค่ะ อย่าเครียด


โดย: Pdจิงกุเบล วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:15:49:58 น.  

 
อ่านไปรอบนึงค่ะ ชอบนะ แต่ก็ไม่ถึงกับกรี๊ดมากมายค่ะ (อ่านตั้งแต่ออกมาใหม่ ๆ ตอนนี้ลืมหมดแล้วค่ะ) มีอีกสองเล่มออกมาก็ยังไม่ได้อ่านค่ะ กะว่าจะเริ่มเล่มแรกใหม่เลย แต่ก็ยังไม่มีคิวอ่านซะที
ละครไม่ได้ดูค่ะ เวลาไม่ตรงกัน5555




โดย: polyj วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:16:51:14 น.  

 
ล่าสุดพี่ที่ทำงานหนอนไปสอยบ๊อกเรื่องนี้มา หนอนเลยจะได้ยืมอ่านเล่มสามและสี่แล้ววว เย้ๆ หลานเซ่ออของช้านนน
ปล ไม่ดูละครเลยค่ะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 21 มีนาคม 2557 เวลา:22:28:19 น.  

 
เป็นเรื่องที่ชอบนิยายมากค่ะ
แต่ละครคงต้องรอดูต่อ ยังไม่ค่อยโดนใจเลย ><

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า


โดย: lovereason วันที่: 22 มีนาคม 2557 เวลา:0:10:29 น.  

 
แหะ ๆ สงสัยว่าตัวเองจะสว.สูงวัยแล้วจริง ๆ ที่อ่านนิยายชุดนี้ไม่ผ่านตั้งแต่เล่มแรก เห็นใครต่อใครเขารีวิว่าสนุกสนาน น่าติดตาม...งือ...

ถ้าอยากกระชากวัย ต้องกลับไปอ่านใหม่ให้รู้เรื่องไหมเนี่ย...?


โดย: แม่ไก่ วันที่: 22 มีนาคม 2557 เวลา:22:24:15 น.  

 
ชอบเรื่องนี้ค่ะ...สนุกดี ส่วนละคร...ก็ดูนะคะ ตอนดูก็พยายามคิดว่าเรายังไม่เคยอ่านมาก่อนแล้วจะดูสนุกค่ะ


โดย: Aneem วันที่: 23 มีนาคม 2557 เวลา:19:19:25 น.  

 
อาจารย์ศราวุธ :: เท่าที่หวานเย็นมีโอกาสได้ดูละครเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ หวานเย็นว่าละครแตกต่างจากในหนังสือเยอะมากอะค่ะ เสน่ห์ของตัวละครหายไปเยอะเลย บุคลิกของตัวละครก็ถูกปรับเปลี่ยนเสียจนไม่อยากติดตามต่ออะค่ะ

คุณข้าวปั้น :: เห็นด้วยกับทุกความคิดเห็นของคุณข้าวปั้นเลยค่ะ ละครไม่ชวนดูเลยจริง ๆ ค่ะ

คุณ Pdจิงกุเบล :: จริง ๆ แล้วเป็นเพราะช่วงนี้หวานเย็นไม่ได้อ่านนิยายอะค่ะ เน้นรีวิวหนังสือที่ดองรีวิวไว้เสียเป็นส่วนใหญ่อะค่ะ ก็เลยได้เวลาหยิบเรื่องนี้มารีวิวเสียที ไม่อย่างน้อยคงดองไว้อีกสักพักอะค่ะ

คุณ polyj :: เล่ม ๓-๔ หวานเย็นก็ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ ส่วนละคร... เพิ่งมีโอกาสได้ดูเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บอกตรง ๆ ค่ะว่าไม่ค่อยชอบเท่าไร บุคลิกและบทบาทของตัวละครถูกปรับเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะเลยอะค่ะ

คุณ nonnoiGiwGiw :: หวานเย็นก็ไม่ดูแล้วค่ะ เสียอารมณ์อะค่ะ

คุณ lovereason :: ละครไม่สร้างประทับใจเลยค่ะ หวานเย็นคงไม่ติดตามแล้วอะค่ะ

คุณแม่ไก่ :: อ่านเรื่องนี้ต้องทำใจค่ะ คิดมากไปก็ไม่สนุกอะค่ะ

คุณ Aneem :: ชอบเวอร์ชั่นหนังสือมากกว่าค่ะ ดูละครแล้วพยายามไม่คิดมาก แต่ก็อดเสียดายที่เปลี่ยนแปลงบทบาทและบุคลิกของจงซินกับเหม่ยจิงอะค่ะ ฮือ...ฮือ จงซินกับเหม่ยจิงในหนังสือออกจะน่ารักดีอยู่แล้วอะค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 23 มีนาคม 2557 เวลา:19:31:18 น.  

 
อ๊ะ ตุ๊กตาน่ารักจัง

เรื่องนี้อ่านได้สนุกนะคะ เบา ๆ ดี แม้ว่ามันจะเว่อร์แสนจะเวอร์ในหลาย ๆ เรื่อง
ความสมจริงก็น้อย ....แต่คนเขียนสร้างบรรยากาศในเรื่องได้ดีค่ะ


โดย: Serverlus วันที่: 23 มีนาคม 2557 เวลา:23:13:35 น.  

 
เคยอ่านแค่ ภาค 1- 2 ครับ มาดูละครแล้วนักแสดง... ว่าไงดีละ มันไม่ใช่อ่ะ


โดย: Nat_NM วันที่: 24 มีนาคม 2557 เวลา:10:13:18 น.  

 
คุณ Serverlus :: เห็นด้วยเลยค่ะ คนเขียนบรรยายได้ดีจริง ๆ ค่ะเรื่องนี้

คุณ Nat_NM :: ละครนี่ต้องบอกว่ามันไม่ใช่จริง ๆ ค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 24 มีนาคม 2557 เวลา:10:57:54 น.  

 
ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ หลายคนที่อ่านและดูละครกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไม่ใช่...ละครแตกต่างจากในนิยายลิบลับ แต่แม่ของชบาหลอดซึ่งไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้กลับชอบมาก...เข้าขั้นติดและดูทุกตอนค่ะ 5555


โดย: ชบาหลอด วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:0:37:42 น.  

 
คุณชบาหลอด :: คือ... จริง ๆ เวอร์ชั่นละครก็น่ารักดีนะคะ แต่... พออ่านจบแล้ว ให้ดูละครตามหลัง บุคลิกตัวละครที่เคยปลื้ม เคยประทับใจตอนอ่านมันพลิกไปหมดเพราะถูกปรับเปลี่ยน มันเลยไม่ชวนดูอะค่ะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:13:42:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หวานเย็นผสมโซดา
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




คนขี้เหงา...เจ้าน้ำตา
ใช้ชีวิตเหว่ว้าบนโลกกว้าง
ท่ามกลางความวุ่นวาย...สบายดี
New Comments
Friends' blogs
[Add หวานเย็นผสมโซดา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.