Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
6 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
hi5 ::: Gang of Five returns

เกาะติดสถานการณ์ ขบวนการ 5 พาลธมิตรฯ คืนชีพ

เสี้ยมด้วยสื่อ กระพือด้วยนักวิชาการ
สุดยอดวิชามาร พาลธมิตรปอชอปอเพื่อป๋าธิปไตย




25.02.2551 [บ้านพระอาทิตย์]

แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2551ซึ่ง มีเนื้อหา 7 ประการ และให้ตอบคำถามพร้อมตอบโต้ทุกรูปแบบ










สนธิ

เรากำลังระดมให้พันธมิตรฯ หรือประชาชนที่รักความเป็นธรรมทั่วประเทศไทย ให้เตรียมตัวอยู่ คุณพิภพก็พูดแล้ว ท่าน พล.ต.จำลอง ก็พูดแล้ว ทุกๆ ท่านพูดแล้วว่า เราจะมีมาตรการในการเคลื่อนไหว โปรดสังเกตคำพูดนะครับ "ทุกรูปแบบ" "ทุกรูปแบบ" และผมอยากจะต่อท้าย และผมเชื่อว่าพันธมิตรฯ ทั้งหลายจะเห็นด้วย ว่า "ถึงไหนถึงกัน" นะครับ ไม่เชื่อถามพันธมิตรฯ ทุกคนว่าเห็นด้วยกับคำพูดผมหรือไม่ เพราะนี่คือมติของพวกเรา ว่า "ทุกรูปแบบ" และ "ถึงไหนถึงกัน"

มาตรการการเคลื่อนไหวนั้นมีทุกรูปแบบ รูปแบบของการชุมนุมก็เป็นรูปแบบหนึ่ง มันยังมีอีกหลายรูปแบบนะครับ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่เราจะเอายุทธวิธีของเรามาเล่าให้ฟัง ยังเร็วเกินไปนะครับ

เราคัดค้านแน่นอนแล้วครับ ต้องเข้าใจเหตุผลการคัดค้านนะครับ ก่อนหน้านั้นเราไม่คัดค้าน แต่เมื่อมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เราจะคัดค้าน แต่เราอาจจะไม่ได้ไปคัดค้านที่สนามบิน แต่เราจะมีวิธีคัดค้าน เราจะไม่ไปครับ ให้คนที่รับเงินคุณทักษิณและต้องการโบนัส ไปรับที่สนามบิน แต่เราจะใช้ประชาชนทั่วประเทศคัดค้าน และวิธีการคัดค้านมีมากหมายหลายแบบนะครับ











สนธิ

ผมพูดให้พี่น้องประชาชนที่ดูรายการนี้อยู่ ตลอดจนท่านสื่อมวลชน ผมเป็นคนเคารพกติกา ถึงแม้ว่าในที่สุดถ้าศาลฎีกาพิพากษาผม และผมต้องติดคุก 10 ปี ผมจะเดินหน้าเข้าคุกอย่างหน้าชื่นตาบาน ผมไม่หนี ถึงแม้ว่าในข้อเท็จจริงกระบวนการยุติธรรม "บางส่วน" ได้ถูกครอบงำไปแล้วผมยังเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลสถิตยุติธรรม ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ที่รักความเป็นธรรมอยู่ ธรรมขั้นสูงของ ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ก็คือว่า เมื่อสละได้แม้กระทั่งความตาย จะไปยี่หระอะไรกับคำพิพากษาให้จำคุก กระบวนการข่มขู่ผม กระบวนการให้ร้ายผมว่าผมรับเงินคุณทักษิณมา กระบวนการสาปแช่งผม บอกว่าคนที่ทำไม่ดีกับคุณทักษิณนั้นต้องมีอันเป็นไป เห็นไหมสนธิกับจำลองเป็นอัมพาตแล้ว เริ่มตลอดเวลา มันเป็นยุทธวิธีต่ำๆ ซึ่งผมไม่สนใจนะครับ จะบอกว่าผมเสียใจไหมถ้าผมถูกพิพากษาจำคุก ผมเสียใจ แต่ว่าจำคุกแล้วอย่างไร ไม่จำคุกแล้วอย่างไร ในเมื่อเราใช้ธรรมนำหน้า คือถ้าเราตัดความกลัวตรงนี้ออกไป เราเอาธรรมนำหน้า ผมเชื่อว่าชัยชนะของสังคมที่เต็มไปด้วยธรรมาภิบาลจะต้องมาสักวันหนึ่ง ถ้าผม หรือพวกผมจะต้องเสียสละหลายๆ เรื่อง มันก็คุ้มค่าไม่ใช่หรือครับ











จำลอง

เรามาเพื่อตกลงกันว่าเราจะทำอะไร แต่เรายังไม่บอกเท่านั้นว่าเราจะทำอะไร เรามีขั้นตอนของเราอยู่ พร้อมมูล ถ้าเพื่อเฝ้าดูเราไม่ต้องมาประชุมกันหรอกครับ แค่โทรศัพท์ถึงกันแล้วบอกว่า เฝ้าไว้นะ ดูไว้นะ อย่างนี้มันไร้ผลครับ











สนธิ

ถ้ารัฐบาลชุดนี้เข้าใจปัญหาการใช้ธรรมนำหน้า ก็ต้องคืนตำแหน่งให้ท่านอธิบดีสุนัย เพราะการคืนตำแหน่งให้อธิบดีสุนัยนั้น แทบจะทำให้ความชอบธรรมของเราในการที่จะมาชุมนุม ประชุมกันครั้งนี้ หายไป 50 เปอร์เซ็นต์ หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ เสียด้วยซ้ำ ท่านอธิบดีสุนัย ท่านเป็นชนวนตัวจริง ทั้งๆ ที่พวกเราเองก็มีความรู้สึกว่า วุฒิภาวะของ กกต.บางท่านนั้นท่านไม่สมควรที่จะออกมาปฏิบัติตนเช่นนั้น ทั้งๆ ที่เรื่องหลายเรื่องซึ่งควรที่จะถูกส่งไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งก็ถูกดอง เราก็ยังมีน้ำอดน้ำทน เพราะเราหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่การโยกย้ายท่านอธิบดีสุนัย และโอกาสที่จะย้ายท่านปลัดฯ จรัญ ภักดีธนากุล และโอกาสที่จะย้ายท่านเสรีพิศุทธ์นั้นมาแรงมาก...











สมเกียรติ

หากคนถาม หรือพี่น้องประชาชนสงสัย ก็ไปเปิดดูรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 เอกสิทธิ์ ส.ส. ไม่ถูกครอบงำใดๆ จากพรรค และไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรค ผมอิสระนะครับ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และการเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือการเมืองภาคประชาชน รัฐบาลเส็งเคร็งที่ล้มลงอย่างน้อย 3 รัฐบาล ล้มลงจากการเมืองภาคประชาชนทั้งสิ้น การเมืองในสภามีความหมายน้อยมาก เต็มไปด้วยผลประโยชน์ เต็มไปด้วยการแย่งชิงอำนาจกัน จึงเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ผมยังมีจุดยืนเพื่อการโค่นล้มรัฐบาลที่ เป็นรัฐบาล สมัยก่อนเรียกว่า ทรราช ตอนนี้เรียกว่า รัฐบาลหุ่นเชิดโดยทุนสามาร ไม่เปลี่ยนแปลงครับ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง











สนธิ

ผมฝากนิดหนึ่งนะครับ ท่านสื่อมวลชนอยากจะพาดหัวว่า พันธมิตรฯ ประกาศชุมนุม แล้วพยายามจะให้เรายืนยันว่า จะมีชุมนุมหรือเปล่า อันนั้นก็คือคีย์เวิร์ดที่ท่านต้องการ แต่จริงๆ แล้วคีย์เวิร์ดที่สำคัญกว่านั้นถ้าท่านอ่านในแถลงการณ์ ท่านจะเห็นว่าเราบอกว่า เราพร้อมจะเคลื่อนไหวในทุกรูปแบบ ส่วนรูปแบบไหน ท่านต้องไปวิสัชนาเอง ผมให้ปุจฉาไปเรียบร้อยแล้ว อย่างที่ท่านพิภพพูด การชุมนุมนั้นต้องเป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้อง ถามว่าจะมีโอกาสไหม ก็ตอบว่า ขึ้นอยู่กับการกระทำของรัฐบาล ขึ้นอยู่กับคุณทักษิณ ถ้ายังกระทำในทิศทางที่ไม่ใช้ธรรมนำหน้าโอกาสก็มีแน่นอน วิธีการอื่นมีอีกเยอะแยะไปหมด ในขณะนี้เราเพียงแต่ระดมให้กับประชาชนทั่วประเทศไทยพร้อมที่จะลุกขึ้นมาในรูปแบบใดก็ตามที่เราจะเสนอเข้าไป


26.02.2551 [พรรคประชาธิปัตย์]

นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยหลังหารือกับนายสมเกียรติว่า ได้ทำความเข้าใจกับนายสมเกียรติ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในนามกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว โดยเข้าใจตรงกันว่า พรรคไม่ได้ปิดกั้น การทำงานการเมืองภาคประชาชน แต่เชื่อว่า นายสมเกียรติจะกำหนดท่าที ที่เหมาะสม ในการเคลื่อนไหวได้










อภิสิทธิ์-สมเกียรติ

“สมาชิกพรรคหลายคน ไม่ได้ติดใจบทบาทในการทำหน้าที่ของอาจารย์สมเกียรติ เพราะการให้ข้อมูลข้อเท็จจริง การออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม สามารถทำได้อยู่แล้ว หากเป็นการเคลื่อนไหวโดยสุจริตใจ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

“ผมเป็น 1ใน 5 ของพันธมิตรฯ เกิดจากการเมืองภาคประชาชน จนได้เป็น ส.ส.หากผมไม่ไปร่วมแถลงด้วย ผมก็เสียหาย เพราะเกิดมาจากภาคประชาชน ผมไม่ลืมกำพืดของตัวเองได้ เพราะประชาชนส่วนหนึ่งเลือกผมเข้ามาเพราะจากบทบาทการทำหน้าที่ทางการเมืองภาคประชาชน นี่คือจุดยืนของผม ดังนั้น เมื่อผมถูกเลือกเข้ามา จึงต้องทำหน้าที่ทั้งการเมืองในสภาฯ และการเมืองภาคประชาชนด้วยความสมดุล” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ส.ส.พรรคอื่น ซึ่ง ส.ส.อีสานหลายคนไปตั้งชมรมคนรักทักษิณ หลังจากได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการบางคน ก็ไปเป็นรัฐมนตรีกันอย่างเอิกเกริก ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ขณะที่เดิมเคยเป็นแกนนำพันธมิตรฯ การกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงไม่น่าจะกระทบกับพรรค และไม่ใช่เรื่องเสียหาย ซึ่งการทำงานการเมือง ต้องไม่ลืมการเมืองภาคประชาชนด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม อภิสิทธิ์ ในรายการกรองสถานการณ์ช่อง 11


01.03.2551 [โรงแรมเวียงใต้ บางลำพู]

เปิดตัว "สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย" องค์กรภาคประชาชนพันธุ์ใหม่ แนวร่วม"พาลธมิตรฯ" รับ "ทักษิณ" ผวา "ระบอบทักษิณ" ฟื้น "บิ๊กสงค์” นั่ง ปธ.ที่ปรึกษา "ไชยวัฒน์" เป็น เลขาธิการ สปท.พร้อมคณะหน้าเดิมเพียบ รับเป้าหมายเดียวพันธมิตรฯ แยกกันเดิน เดินหน้าดึง ขู่หากใช้กลไก รธน.ไม่ได้ อาจมีชุมนุม พร้อมปลุก ขรก.รวมตัวต้านคำสั่งไม่ชอบธรรม









พาลธมิตรฯ ตั้งองค์กร ชนรัฐบาล

โครงสร้าง สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท.)

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานที่ปรึกษา สปท.
นายปราโมทย์ นาครทัพ ที่ปรึกษา สปท.
นายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา สปท.
นายประพันธ์ คูณมี ที่ปรึกษา สปท.
นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ที่ปรึกษา สปท.
นางมาลีรัตน์ แก้วก่า ที่ปรึกษา สปท.

พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
ดร.ณรงค์ พิริยะเอนก ประธานคณะกรรมการกิจการรัฐบาลและรัฐสภา
นายไพศาล พืชมงคล ประธานคณะกรรมการโรงเรียนการเมืองการปกครองภาคประชาชน

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการ สปท.

เมื่อถามว่าทาง ส.ป.ท. กับพันธมิตรมีการทำงานที่เกี่ยวโยงกันหรือไม่?

นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เราตกลงว่าจะมีเป้าหมายร่วมกัน คือการต่อสู้กับระบอบทักษิณ โดยกระทำภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ใช้การเผชิญหน้า หรือความรุนแรง โดยวิธีการดำเนินการเพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณนั้น ส.ป.ท.จะเน้นสร้างความเข้าใจในทฤษฎีการปกครอง เพราะกิจกรรมหลักของเราคือสร้างโรงเรียนการเมืองการปกครองภาคประชาชน ซึ่งทาง ส.ป.ท.จะมีการหารือกับพันธมิตรทุกวันพุธของสัปดาห์ ซึ่งเราจะอยู่ภายใต้การทำงานร่วม กับกับพันธมิตร แต่จะแยกกันไปรับผิดชอบงานใครงานมัน แล้วจะมีการพูดคุยกันเพื่อกำหนดบทบาทต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติม


04.03.2551 [สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์]

คณาจารย์นิด้าออกแถลงการณ์ ระบุการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง สะท้อนความไม่เป็นธรรม ขัดหลักการบริหารบุคคลภาครัฐของรัฐบาล เรียกร้องรัฐบาลตระหนักถึงคุณธรรมในการบริหารคนมากกว่าการใช้อำนาจหรือตามอำเภอใจ ขอให้รัฐบาลฟังเสียงนักวิชาการบ้าง และกลับมาเยียวยาสังคมและสร้างสมานฉันท์อย่างแท้จริง










คณาจารย์นิด้า

รศ.ดร.นิสดารก์ (นิ-สะ-ดาน) เวชยานนท์ ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน คณะรัฐ
รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) อ่านแถลงการณ์ของคณะจารย์ฯ กรณีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในขณะนี้ 3 ตำแหน่ง คือ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และเลขาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรม ในการโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งขัดต่อหลักการบริหารบุคคลภาครัฐ ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ 1.การโยกย้ายข้าราชการไม่เป็นไปตามหลักการบริหารคนที่ดี และการโยกย้ายข้าราชการจะสามารถทำได้ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน แต่ต้องพิจารณาถึงหลักคุณธรรม โดยเฉพาะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เสียงของประชาชนสนับสนุนเข้ามาและประกาศจะสร้างความสมานฉันท์ จึงไม่ควรกระทำอย่างรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ การบริหารราชการเพียง 5 วันหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่โยกย้ายข้าราชการระดับสูงในเวลาไล่เรี่ยกัน โดยอ้างเหตุผลเพื่อความเหมาะสมไม่มีเหตุผลอื่นรองรับ ทำให้กระทบต่อขวัญกำลังใจข้าราชการโดยรวม

ประการที่ 2. ฝ่ายการเมืองแทรกแซงการบริหารงานของข้าราชการประจำ ทำให้สูญเสียความเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ไม่ว่ารัฐบาลเปลี่ยนอย่างไรข้าราชการประจำต้องเป็นกลาง และนำนโยบายของนักการเมืองที่มาบริหารไปปฏิบัติ ซึ่งรัฐบาลต้องให้โอกาสข้าราชการประจำทำงานสักระยะเวลาหนึ่ง แต่การโยกย้ายครั้งนี้ไม่ได้ให้โอกาสแก่ข้าราชการประจำในการปรับตัว จึงอาจทำให้สังคมคิดไปว่า นักการเมืองที่เข้ามามีวาระซ่อนเร้นหรือรับคำสั่งจากใครบางคน ซึ่งไม่น่าเป็นผลดีกับการเริ่มต้นของรัฐบาลที่อ้างจะมาสร้างความสมานฉันท์ ไม่ได้ทำเพื่อการแก้แค้น คำสั่งโยกย้ายโดยกะทันหันจะทำให้บรรยากาศในการบริหารตกอยู่ในสภาพของความกลัว จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนักถึงคุณธรรมในการบริหารคน ให้มากกว่าการใช้อำนาจตามตัวบทกฎหมายอย่างเดียว เพราะถ้าข้าราชการประจำต้องทำงานด้วยความกลัว ผู้เสียประโยชน์คงหนีไม่พ้นประชาชน

ด้าน รศ.ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนนิด้า กล่าวว่า การบริหารบุคคลภาครัฐไม่เหมือนการบริหารงานเอกชน เพราะเอกชนมีเจ้าของชัดเจน จะโยกย้ายใครหากปฏิบัติกฎหมายแรงงานถือว่าทำได้ แต่การบริหารภาครัฐไม่มีใครเป็นเจ้าของ นักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของราชการ จึงมาโยกย้ายตามอำเภอใจไม่ได้ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลหรือรัฐมนตรีตั้งหลักไปศึกษาระบบในการบริหารไม่ใช่บริหารตามสามัญสำนึก ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวตามมา นอกจากนี้ สังคมต้องจับตามองการโยกย้ายไม่เป็นธรรมถือเป็นการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งจะทำลายระบบข้าราชการประจำที่ต้องสะสมประสบการณ์การทำงาน ทำให้สูญเสียความเป็นธรรมในสังคม

รศ.ดร.อุดม ทุมโฆสิต ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิตภาคพิเศษ จ.สงขลา นิด้า กล่าวว่า การโยกย้ายที่ผ่านมาในเวลาไม่กี่วันของรัฐบาลชุดนี้ ทำให้สังคมและประชาชนไม่มั่นใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ เราบอกกันว่ารัฐบาลขี้เหร่ แต่ในทางวิชาการถ้ามาจากประชาชนถือว่าไม่ขี้เหร่ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลขาดคุณธรรมก็จะขี้เหร่ไปทันที และสังคมก็จะเกิดกลียุค และหากมีการโยกย้ายเกิดขึ้นอีกต่อเนื่อง จนเกรงว่าสังคมจะรับไม่ได้ จะมีวงเสวนาต่าง ๆ จะขยายตัว อยากให้รัฐบาลฟังเสียงนักวิชาการและกลับมาเยียวยาสังคมและสร้างสมานฉันท์อย่างแท้จริง.- สำนักข่าวไทย


05.03.2551 [บ้านพระอาทิตย์]

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.) หลังจากแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ประชุมกันเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในรอบสัปดาห์แล้ว ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2551 “กลียุคมาแล้ว” ลั่นฟื้นกลไก “ต้านระบอบทักษิณ”










05.03.2551 [ห้องเวิลด์บอลลูม โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์]

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้จัดงาน วันนักข่าว 2551 "Thai Journalists 53rd Anniversary" โดยในงานได้มีการอภิปรายเรื่อง " มุมมอง 2 อธิการบดี เรื่องการเมืองไทย" ซึ่งมีนายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมอภิปราย










วันนักข่าว-นายสุรพล นิติไกรพจน์-นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์

นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ กล่าวว่าตั้งแต่การปฏิรูปการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2475 การเมืองไทยได้พัฒนาในเชิงบวกมากขึ้น จะเห็นได้จาก

1. คณะที่ทำการรัฐประหารก็จะไม่สามารถเข้ามาใช้อำนาจได้นาน จะต้องจัดให้บุคคลภายนอก ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน และที่ปรากฎเด่นชัดคือ การปฏิรูปการปกครอง เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก็ไม่กล้าที่จะมีอำนาจ จึงรีบให้มีการเลือกตั้ง เพราะคณะปฏิวัติได้รับรู้ถึงแรงสะท้อนจากรประชาชนว่าไม่ได้ให้การยอมรับ หากเข้ามาใช้อำนาจนานๆ

2.ความนิยมในการเลือกตั้งได้เน้นนโยบายพรรคมากกว่าตัวบุคคล เห็นได้จากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีนโยบายที่ถูกใจประชาชน แม้จะถูกปฎิวัติ สั่งให้ยุบพรรค แต่เมื่อฟื้นมาเป็นพรรคพลังประชาชน ก็ได้รับความนิยมจากประชาชน จนชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น

3.การเมืองไทยได้เปลี่ยนเข้าสู่ระบบ 2 พรรค เห็นชัดจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าประชาชนโหวตเลือกเพียง 2 พรรคใหญ่เท่านั้น

4. พื้นที่การเลือกตั้ง จะส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกตั้งโดยสอดคล้องกับเศรษฐกิจและภูมิประเทศ อย่างการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะมีเศรษฐกิจที่ต่ำ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนการเลือกตั้งมากในพื้นที่กรุงเทพ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ซึ่งมีเศรษฐกิจดี

5.การเมืองภาคประชาชนมีความเข้มแข็ง และมีบทบาทในการตรวจสอบมากขึ้น

6. องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมีความเป็นอิสระมากขึ้น และ

7. สังคมไทยจะให้ความสนใจเรื่องการตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนักการเมืองมากขึ้น

นายสมบัติ ยังกล่าวถึงทิศทางการเมืองในอนาคตว่า รัฐบาลผสม 6 พรรค จะมีเสถียรภาพมาก เนื่องจากรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา พรรคฝ่ายค้านไม่สามารถที่จะคว่ำรัฐบาลได้ง่าย ยกเว้นแต่มีความขัดแย้งกันเองภายในพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนั้นแล้วตนมองว่ารัฐบาลจะสูญเสียเสถียรภาพด้วยเหตุผล คือ

1. พรรคร่วมมีอำนาจต่อรองมาก และในรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้พรรคฝ่ายค้าน สามารถยื่นถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ แม้พรรคฝ่ายค้านจะมีอยู่เพียง 164 เสียง แต่ก็ถือว่าเพียงพอ ถ้าหากรัฐบาลบริหารงานพลาด ก็อาจจะเป็นโอกาสที่พรรคฝ่ายค้านจะรวมชื่อเพื่อขอให้มีการถอดถอนได้

2. อำนาจการบริหารราชการแผ่นดินของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชาชนไม่ได้มีอำนาจเด็ดขาดผู้เดียวในพรรค มีอำนาจอยู่หลังมู่ลี่ และรัฐมนตรีไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของพรรค ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถคุมแกนนำพรรคได้ ก็อาจจะใช้อำนาจที่มี คือการยุบสภา เพื่อต่อรองกับผู้นำที่แท้จริงได้

3. คดียุบพรรคพลังประชาชน เนื่องจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถูก กกต.ให้ใบแดง และ พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย ที่เสี่ยงต่อการถูกยุบพรรค

4. คดีส่วนตัวของ นายสมัคร ที่ค้างอยู่ หากศาลรับคำฟ้อง ก็อาจจะถูกกดดันจากสังคมได้

5. การเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ

6. การเร่งรัดโยกย้ายข้าราชการระดับสูง แม้จะเป็นอำนาจของรัฐบาล แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ อย่างที่ประกาศไว้

"สิ่งที่รัฐบาลเริ่มต้นมานั้น สะท้อนเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลต้องเหนื่อยมากขึ้น เพราะฝ่ายตรงข้ามอาจหยิบไปเป็นประเด็นโจมตี และประชาชนเกิดความไม่ไว้ใจว่าจะรัฐบาลจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร แต่หากรัฐบาลเลือกทำในสิ่งที่ประชาชนเห็นด้วย ก็อาจจะได้รับแรงสนับสนุนทางบวก แต่หากคนไม่เห็นด้วยอาจจะกลายเป็นอุปสรรค ต่อการบริหารงานของรัฐบาล" นายสมบัติ กล่าว

ด้าน นายสุรพล นิติไกรพจน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับความจริงว่า อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง รัฐบาลชุดนี้จึงไม่ใช่ทีมเอ แต่เป็นทีมบี ที่มีนายสมัครเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งได้มีผู้ใหญ่บอกกับตนว่าระวังจะมีทีมซี ที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นแล้วตนมองว่าปัจจัยที่จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ด้วยองค์กระกอบที่คณะรัฐมนตรีไม่สง่างามในเชิงความรู้ ความสามารถ, การตกลงผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังต่อรองเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองไม่จบ ซึ่งคาดว่าจะสร้างความร้าวฉานในคณะรัฐบาลพอสมควร และที่สำคัญที่สุด คือรัฐบาลที่ไม่มีศูนย์การนำ ต่างคนรู้ว่าจะเข้ามาบริหารงานในช่วงเวลาสั้นๆ จึงต่างคนต่างพูดนโยบายของตนเองทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา อาทิ นโยบายที่จะเปิดบ่อนคาสิโนซึ่งไม่ใช่นโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา

"คนในรัฐบาล แต่ละคนคิดว่าตัวเองดี และการมีรัฐมนตรี 36 คน ซึ่งมาจากต่างพรรค ก็ยากต่อการดึงไปทิศทางเดียวกัน ส่วนการย้ายข้าราชการระดับสูงบ่อยๆ นั้น ทำให้รัฐบาล และรัฐมนตรีเกิดความเสื่อม อย่างเช่นการย้ายอธิบดี กรมประชาสัมพันธ์ อาจจะอธิบายด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ดีพอที่จะประชาสัมพันธ์รัฐบาล แต่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการองค์การอาหารและยา ไม่มีเหตุผลที่ดีเลย" นายสุรพล กล่าว

นายสุรพล กล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐบาลชุดของนายสมัคร จะอยู่ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี ส่วนปัญหาทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คาดว่ารัฐบาลที่ขี้เหร่ จะส่งผลให้รัฐบาลมีความอ่อนแอมากกว่ารัฐบาลของ คมช. หรือ รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้เป็นที่ชอบใจของคนเมือง และแทบจะไม่ได้คะแนนเลือกตั้งในพื้นกรุงเทพ ถ้าใช้ทฤษฎี 2 นคราประชาธิปไตย ของ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการอิสระ ที่ว่าคนชนบทตั้งรัฐบาล แต่คนเมืองจะล้มรัฐบาล ซึ่งก็เป็นที่ปรากฎให้เห็นกันอยู่

นอกจากนั้นระบบการตรวจสอบ ระบบรัฐสภาจะมีความเข้มแข็ง องค์กรการตรวจสอบจะเข้มแข็งขึ้น และการเมืองภาคประชาชนจะย้ายขบวนการจากการชุมนุมที่สนามหลวง หน้ารัฐสภา ย้ายเข้าไปในรัฐสภา โดยให้นักการเมืองที่มาจากตัวแทนของประชาชนใช้อำนาจในการตรวจสอบ

"ผมไม่คาดว่าจะมีการรัฐประหาร ม็อบล้มรัฐบาลเกิดขึ้นอีก เพราะทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหาร นักการเมือง ก็จะรู้ตัวเองมากขึ้นว่าปฏิวัติแต่ละครั้ง ทหารมีอำนาจน้อยลง ส่วนนักการเมืองถ้าหยิ่งในอำนาจ ไม่วยใจกติกา ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นก็จะเหมือนในอดีต ผมเชื่อว่าต่อนี้ไปจะเป็นการเริ่มต้นของกระบวนการประชาธิปไตยใหม่ คนเมืองเรียนรู้ที่จะอยู่กับรัฐบาลที่คนส่วนใหญ่ในชนบท เป็ณผู้เลือกมากขึ้น และหากรัฐบาลอยู่ได้ 2 ปี การเมืองไทยก็จะเปลี่ยนไป " นายสุรพล กล่าวในที่สุด

เก็บตก สุรพล ถูกหวยล้างบาง คมช.

05.03.2551 [ทำเนียบรัฐบาล]

ครม.เห็นชอบตามที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ เสนอขอเปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกระทรวงศึกษาฯ ในยุคที่นายวิจิตร ศรีสะอ้าน เป็น รมว.ศึกษาฯ ทั้งนี้ยังเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ของกรรมการเดิม โดยเพิ่มอำนาจในการให้ความเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินงานตามภารกิจของกระทรวงศึกษาฯ ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การพัฒนากฎหมาย และการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และระเบียบของกระทรวงศึกษาฯ แก่ รมว.ศึกษาฯ จากเดิมที่มีอำนาจเพียงเสนอแนะเท่านั้น ทั้งนี้ยังสามารถเรียกกรรมการทั้งคณะหรือบางคนซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นที่จะต้องพิจารณามาประชุมร่วมกันได้ โดยจากเดิมที่จะต้องร่วมประชุมทั้งคณะ

ทั้งนี้ รายชื่อคณะกรรมการชุดเดิมของรัฐบาลที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น เช่น นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายศรีราชา เจริญพานิช นายคมสัน โพธิ์คง เป็นต้น

รายงานแจ้งเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงศึกษาธิการตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ต.ค.2549 ประกอบด้วย ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ ร.ศ.ศรีราชา เจริญพาณิช รองประธานกรรมการ ส่วนกรรมการประกอบด้วย ร.ศ.กมลชัย รัตนสกาววงศ์ นายจุณวิทย์ ชลิดาพงษ์ นายคมสันต์ โพธิ์คง นายโอภาส เขียววิชัย นายเอกศักดิ์ คงตระกูล ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนผู้อำนวยการสำนักนิติการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาฯ เป็นกรรมการ และเลขานุการ นายกิตติรัตน์ มังคละคีรี เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ น.ส.วนิดา แสงสารพันธ์ เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ

แต่ในส่วนของนายณัฐวุฒิ กลับตั้งข้อสังเกตเรื่องการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายครั้งนี้ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าคุณสมบัติของคณะกรรมการชุดใหม่ก็คือ จะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานที่ไม่มีความสับสนในเรื่องประชาธิปไตย


12.03.2551 [บ้านพระอาทิตย์]

พาลธมิตรฯ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3/2551 “เคลื่อนไหวครั้งที่ 1 : ต้านเผด็จการทุนนิยมสามานย์และรัฐตำรวจ” 28 มีนา เปิดตัว “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” หอประชุมธรรมศาตร์











ใครที่ยังหลงเชื่อคารมลมปากของเดอะแก๊งค์โปรดดูคลิปนี้?



กวางหรือเปล่า?

credit : TaksinReturn



Create Date : 06 มีนาคม 2551
Last Update : 17 มีนาคม 2551 2:07:16 น. 5 comments
Counter : 875 Pageviews.

 
mv เจ๋งมากเลย สะใจดี แบบว่ามันใช่เลย


โดย: myshumi วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:13:54:03 น.  

 
เสื้อยืดเวอร์ชั่นใหม่มีรูปธงชาติ พรีเซนเตอร์เจ้าเก่า หวังว่าคงขายดีเหมียนเดิมนะ


โดย: noblog IP: 58.9.147.140 วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:14:33:44 น.  

 


โดย: fedexfc วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:15:38:25 น.  

 

บ้านเมืองฉิบหายก็เพราะพวกมึงนี่แหละ ไอ้อัณฑะมารเอ๋ย


โดย: eddy IP: 124.122.231.108 วันที่: 27 มีนาคม 2551 เวลา:22:29:25 น.  

 
ทำไมต้องยุบฮาย5วยคระ

มานม่ายเกี่ยวกับที่พระมาเล่น

พวกท่านก้อล็อกอินไว้สำหรับพระ ตำรวจ

สิคระ

สงสัยพวกหนูด้วยเถอะ

พวกหนูไม่มีอะไรจะเล่นแล้วคระ

ได้โปรดถิดนะคระ



โดย: คัยยุบฮาย5 IP: 125.24.67.80 วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:23:09:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นักกวนเมือง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





สนทนาประสาสมัคร ย้อนหลัง
อาทิตย์ 8.30-9.30น. ทีวี วิทยุ
วิธีสมัครรับข่าวสารจากรัฐบาล

ไทยTVonlineช่อง 3 5 7 9 NBT TPBS
TNN FTV PTV truemusic
การประชุมสภา>โทรทัศน์รัฐสภา


[vdo clip] ตาดูดาว เท้าติดดิน


Friends' blogs
[Add นักกวนเมือง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.