..........การที่คู่แต่งงานจะมีลูกสักคนก็ว่ายากแล้ว แต่การที่จะได้ลูกที่เกิดมามีอวัยวะครบ 32 ประการสมบูรณ์แข็งแรง แลพปลอดจากโรคติดต่อทางพันธุกรรมถือเป็นเรื่องที่ยากกว่า
..........แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่เรียกว่า PGD-PCR ( Preimplantation Genetic Diagnosis ) นับเป็นวิทยาการแพย์สมัยใหม่จากประเทศออสเตรเลียที่ประยุกต์จากเทคนิค IVF ( In Vitro Fertilization ) หรือ การทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งสามารถคัดกรองพันธุกรรมได้อย่างแม่นยำ และป้องกันการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมจากพ่อ-แม่ไปสู่ลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
..........โดยนักวิทยาศาสตร์จะทำการคัดเลือกตัวอ่อนที่ได้จากการผสมเทียมในหลอดแก้วที่ผ่านการวิเคระห์หาความผิดกปติของเซลล์ตัวอ่อนในระดับยียและโครโมโซมอย่างละเอียด จนได้ตัวอ่อนที่ไม่เป็นโรคและแข็งแรงสมบูรณ์ที่สุด และนำตัวอ่อนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าไปในครรภ์ของฝ่ายหญิง เพื่อให้เจริญเติบโตตามปกติต่อไป
..........สำหรับขั้นตอน และวิธีการทำ PGD-PCR นั้น สูตินรีแพทย์สามารถสรุปได้ 5 ขั้นตอนดังนี้
1. สูตินรีแพทย์จะทำการกระตุ้นรังไข่ของภรรยาโดยการให้ฮอร์โมน เพื่อให้รังไข่สามารถผลิตไข่ที่สมบูรณ์ได้ประมาณ 10-20 ใบ
2. หลังจากนั้นจะทำการนำไข่ออกมาโดยการเจาะดูดไข่ผ่านทางช่องคลอด
3. นักวิทยาศาสตร์จะนำไข่ที่สมบูรณ์มาทำการปฏิสนธิกับอสุจิของฝ่ายสามีที่เตรียมไว้ภายนอกร่างกาย แล้วเลี้ยงตัวอ่อนในห้องทดลองประมาณ 5 วัน โดยมีนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลจนได้ตัวอ่อนระยะ บลาสโตซิสท์ ซึ่งมีจำนวนเซลล์มากกว่า 100 เซลล์
4. จากนั้นจะทำการดูดเซลล์รอบนอกของตัวอ่อนออกมา 4-5 เซลล์ เพื่อทำการตรวจผิดปกติของยีนด้วยเทคนิคของการเพิ่มปริมาณชิ้นส่วนของดีเอ็นเอภายในหลอดทดลองให้มีปริมาณมากเพียงพอ (PCR) เพื่อที่จะตรวจสอบความผิดปกติของตัวอ่อน
5. หลังจากนั้นสูตินรีแพทย์จะทำการใส่ตัวอ่อนที่ไม่มีความผิดปกติของสารพันธุกรรมกลับคืนสู่โพรงมดลูก เพื่อให้ไปฝังตัวเกิดเป็นการตั้งครรภ์ต่อไป
..........ทั้งนี้ การคัดเลือกตัวอ่อนโดยการตรวจหาความผิดปกติของตัวอ่อนโดย PGD-PCR นั้นสามารถตรวจวินิจฉัยได้แม่นยำถึง 95% จากการตรวจตัวอ่อนทั้งหมด และสามารถป้องกันโรคทางพันธุกรรมได้มากกว่า 100 โรค เช่น โรคธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย และโรคมะเร็งทางพันธุกรรมบางชนิด ...ซึ่งที่ผ่านมาคู่สมรสทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติประเทศที่ได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีนี้ และประสบความสำเร็จไปแล้วหลายราย