คืนกำไรให้ชีวิต เพื่อพิชิตไปในโลกกว้าง
space
space
space
<<
มีนาคม 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
space
space
30 มีนาคม 2559
space
space
space

ล่องเรือ มารีน่า สิงคโปร์ ตอน 2



ล่องเรือ มารีน่า  สิงคโปร์  ตอน 2

    วันที่ 20 มกราคม 59

    เช้านี้ พวกเราตื่นสายกัน กว่าจะลงไปทานข้าวมื้อเช้าก็  ประมาณ 8.30 น.เช้านี้ เราทานกันที่ชั้น 3 มีทั้งอาหารที่ให้เรา  สั่งเป็นพิเศษและยังมีอาหารบุฟเฟ่ให้เราไปเลือกตัก มีน้ำส้มมี ผลไม้  และมีข้าวต้มกับข้าวด้วย ค่ะ ดีจังเลย ที่เรามีโอกาสได้ เลือกอาหาร  ที่เราพอใจมาดูหน้าตาอาหารมื้อเช้าวันนี้จ้ะ  


        ห้องอาหาร มื้อนี้ มีการตกแต่งห้องสวยงาม ประดับด้วย  โคมไฟระย้า ที่เราเรียกเป็นศัพท์เฉพาะว่า "อัจกลับ" มาชมค่ะ 


       เช้านี้  ทานอาหารเช้าแล้ว  เรือจอดเทียบท่า เพื่อให้      นักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งไปเที่ยวเกาะ ลังกาวี นักท่องเที่ยวบางส่วนได้ซื้อ  ทัวร์ที่ขายบนเรือ  ก็จะมีรถมารับไปเที่ยว ส่วนเรา 4 คน ดู  เหตุการณ์ก่อน เพราะมีทัวร์ ซึ่งมีทั้งรถตู้ รถแท็กซี่  ที่เราสามารถ  ต่อรองราคา ได้ ระหว่างทางที่ลงจากเรือ ทิวทัศน์ สวยงาม ถ่ายเห็น  เรือ มารีน่า ที่จอดอยู่ด้วย เราเลย แอ๊กชั่นถ่ายรูปกันก่อน จ้ะ 


     เมื่อเดินข้ามทางซึ่งเหมือนเป็นสะพาน ทอดมาถึงตัวแผ่นดิน     ดูสภาพของสถานที่แล้ว ไม่มีโอกาสที่จะได้เดินเที่ยวเองแน่นอน     เพราะมีแต่ บ้านของชาวบ้าน มีแท็กซี่มาติดต่อ เสนอเรื่องพา       เที่ยว ก็เลยสอบถามราคา เขาเสนอแบบราคาเหมา 4 ชั่วโมง       160 เหรียญมาเลย์ เราต่อเหลือ 150 เหรียญ  เรยาเกิดปวด     ท้องรู้สึกไม่สบาย เลยไม่ได้ไปด้วย เดินกลับเรือไป เหลือเรา       3 คน เฉลี่ยกันคนละ50 เหรียญ ตกประมาณ เกือบ 500 บาท     ก็ไม่แพงนัก  พาไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์และบ้านของพระนางมัตสุหนี่   ไปชมทะเลทรายดำ ลังกาวี ที่มีรูปอินทรีย์ สัญลักลักษณ์ของเกาะ   ลังกาวี เท่านั้น เวลา ก็เหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คนขับก็พาไป       ช้อปปิ้งเพราะเป็นทางผ่าน ได้เวลาช้อป 10 นามี เพราะเขาต้อง     ไปส่งเราที่เรือ อีกประมาณ 15 นาที 

      ที่จริง ฉันเคยมาเที่ยวที่ลังกาวี เมื่อ เกือบ 20 ปีที่ผ่านมา     แล้วครั้งหนึ่ง ยังไปหอบซื้อหม้อแก้วทนไฟ 1 ชุด 3 ใบ ป่านนี้     ยังไม่ได้เปิดออกใช้เลย  สมัยนั้น แก้วทนไฟที่กรุงเทพฯแพงมาก     ใบเล็กใบละ พันกว่าบาท  ที่ลังกาวี 3 ใบ เล็ก กลาง ใหญ่ 3     ใบราคาไม่ถึงสองพันบาทมั้ง เลยหอบกันมาคนละชุดสองชุด อิอิ     สภาพของ สถานที่ที่เคยไป ก็เปลี่ยนแปลงไปมากพอควร โดย     เฉพาะ สัญลักษณ์รูปนกอินทรีย์ ที่นักท่องเที่ยวชอบไปเที่ยวและ     ถ่ายรูป มีการปรับปรุงให้สวยงามมากกว่าเดิมมาก  จัดเป็นลาน       กว้าง มีการปลูกต้นไม้ เป็นสวนดอกไม้ มีป้ายชื่อ ลังกาวีให้       นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันด้วย พวกเรา ก็เดินเที่ยวชมและถ่ายรูป     กัน ท่ามกลางสายแดดอันร้อนแรง แผดเผาผิวระอุไปทั้งตัว  อิอิ     แต่ได้รูป สวย ๆ วิวทะเล ที่งดงาม จ้ะ 





      จากที่นี่ ลุงแท็กซี่ก็พาพวกเราไปเที่ยวที่หาดทรายดำ  ซึ่งฉันเคยไปเมื่อครั้งที่แล้ว  ปัจจุบันทรายที่นี่ดูไม่ดำเท่าเมื่อหลายสิบปีที่ฉันเคยเห็นนะ  ที่หาดทรายดำนี้ เชื่อกันว่า ที่ดำ เพราะต้องคำสาปแช่งของพระนางมัตสุหนี่(มัตสุหรี)เล่าต่อๆกันมา ว่าพระนางนั้นเป็นคนไทยชาวภูเก็ตได้อพยพมาอยู่ที่เกาะลังกาวี(ซึ่งแปลว่านกอินทรีย์สีน้ำตาล)เป็นหญิงสาวที่งดงามฉลาด ชาวบ้านรักใคร่เพราะเป็นคนงดงามทั้งกายและใจ ต่อมา เจ้าชายรัชทายาทของสุลต่านแห่งเกาะลังกาวี ได้ยินกิตติศัพท์ของนางจึงปลอมตัวมาเป็นขอทานมาขอข้าวขอน้ำที่หน้าบ้านของนางมัตสุหนี่ ซึ่งนางก็ใจดีให้ข้าวให้น้ำขอทานเจ้าชาย อยู่หลายครั้ง โดยไม่สงสัยว่า เป็นเจ้าชาย  จนทำให้เจ้าชายหลงรักนางและให้พระมารดามาสู่ขอ(ตามประเพณีชาวมุสลิม) 

      แต่พระมารดาของเจ้าชายไม่ทรงพอพระทัย เพราะนางมัตสุหนี่เป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา จึงไม่ยอมไปสู่ขอให้ เจ้าชายวันดารุส ทรงขู่ว่า ถ้าไม่ไปสู่ขอให้พระองค์  พระองค์จะฆ่าตัวตาย พระมารดาจึงจำพระทัยไปสู่ขอให้เจ้าชาย ซึ่งพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายและพระ   นางมัตสุหนี่เป็นที่ยินดีปรีดาของประชาชน ยกเว้นพระมารดา ที่พยายามหาทางกลั่นแกล้งพระสุณิสา  ด้วยความจงเกลียดจงชัง 

       ต่อมาพระนางมัตสุหนี่ทรงพระครรภ์และได้พระราชโอรส พระองค์ทรงดีพระทัยมากตั้งพระนามพระราชโอรสว่า "วันฮาเก็ม" แต่ว่า พระโอรสมีพระชนม์ได้เพียง 3 วัน เจ้าชายก็ต้องนำกองทัพไปต่อสู้กับข้าศึก เจ้าชายทรงห่วงพระมเหสีมากได้ฝากฝังให้องครักษ์คนสนิทให้ช่วยดูแลพระนางมัตสุหนี่  
       หลังจากที่เจ้าชายไปออกศึก พระมารดาของเจ้าชายก็ยิ่งหาทางกลั่นแกล้งพระสุณิสา  โดยการใช้ให้ทำงานสารพัด ไม่ให้คนใช้ช่วยทำงาน พระนางมัตสุหนี่ ทรงอดทน เพื่อหวังว่า ความดีของพระนางจะช่วยให้พระมารดาของเจ้าชายพระทัยอ่อน พระนางทำงานหนัก องครักษ์ของเจ้าชายจะช่วยทำ แต่พระนางก็ไม่ยอม จนองครักษ์ทนไม่ไหว ต้องคุกเข่าอ้อนวอนไม่ยอมลุกขึ้น ถ้าไม่ให้ช่วยทำงาน พระนางมัตสุหนี่ จึงต้องทรงยอม  เป็นสาเหตุทำให้ พระมารดาของเจ้าชายใส่ร้ายว่า ทั้งสองเป็นชู้กัน ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง สั่งประหารองครักษ์ จับพระนางมัตสุหนี่มัดไว้กับต้นไม้ให้เพชฌฆมาตใช้กริชแทงนางให้ตาย เพชฌฆาตแทงด้วยความจำใจ  น้ำตาไหลพราก แต่กริช ไม่สามารถทำอะไรพระนางได้  พระนางมัตสุหนี่ได้บอกว่า  มีกริชประจำตระกูลของพระนางเท่านั้นที่จะใช้ประหารนางได้  พระมารดาของเจ้าชาย จึงให้ไปนำกริชจากพ่อแม่ของพระนางมัตสุหนี่มาประหารพระสุณิสา พระนางได้กล่าวคำอธิษฐานก่อนตายว่า 

 " ฟ้าดินเป็นพยานข้านี้ถูกใส่ร้าย ข้ามิเคยคบชู้สู่ชายแต่อย่างใดหากข้าไม่ผิด ของให้โลหิตเป็นสีขาว และอย่าให้โลหิตข้าหลั่งลงพื้นดิน ฟ้าดินเป็นพยานสิ้นคำกล่าวของพระนางฯ เพชฌฆาตก็ลงมือปักกริช ลงตรงคอเสียงร้องของพระนางดังไปทั่วบริเวณ เลือดสีขาวพระนางฯพุ่งขึ้น เหมือนร่มโดยไม่ตกลงพื้นแม้แต่หยดเดียว หันไปมองบุตรตัวน้อยวัยสามเดือน ที่ร้องเสียงดังเหมือนรับรู้ความเจ็บปวดของแม่"

      ก่อนจะสิ้นลม พระนางมัตสุหนี่ ขอโอกาสได้กอดพระโอรสก่อน แต่พระมารดาของเจ้าชายไม่ยอม  พระนางมัตสุหนี่ จึงสาปแช่งว่า   "ากนางเป็นผู้บริสุทธิ์ มันผู้ใดที่อยู่บนเกาะลังกาวีจงประสบทุกข์เข็ญนานตราบ ชั่วอายุคน และบอกพ่อกับแม่ของตนให้เอากล้วยน้ำหว้าป้อนลูกของตนแทนนม แล้วจึงสิ้นใจ
     ส่วนเจ้าชายกลับจากสงครามกลับเกาะลังกาวี ทั้งเกาะเงียบเหงา เหมือนไร้ผู้คน จึงไปหาพ่อตาแม่ยาย จนทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพระชายา  ทรงเศร้าโศกเสียพระทัยมาก ได้เสียสละออกจากตำแหน่งรัชทายาท  หอบลูกน้อยไปอยู่ที่ภูเก็ต

     ส่วนพระมารดา เมื่อถึงสิ้นอายุขัย  พระศพของพระนางไม่สามารถจะนำไปฝังที่ใดได้  เพราะไปฝังที่ใด  ทรายที่นั่น ก็จะดันขึ้นมา  จนต้องไปทำพิธีบนบานขอขมาที่สุสานของพระนางมัตสุหนี่  จึงสามารถนำไปฝังในบริเวณหาดทราบ  หาดทรายที่ฝังพระศพนั้น ก็กลายเป็นสีดำทันทีหลังจากที่ฝังพระศพเสร็จ  นี่เป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาของ หาดทรายดำแห่งนี้ จ้ะ มาชมรูปที่ฉันนำมาฝาก ค่ะ 


      หลังกลับจากหาดทรายดำแล้ว เหลือเวลาครึ่งชั่วโมง ไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้แล้ว  ผ่านซุปเปอร์มาร์เก็ต เขาเลยแวะให้เรา10 นาทีไปช้อปปิ้ง  ฉันมีเงินมาเลย์อยู่หน่อยซื้อได้แต่ช็อกโกแลตไม่กี่อันไว้มาฝากเพื่อนบ้านเท่านั้น แล้วก็มาขึ้นรถกลับไปที่เรือสำราญ 

      กลับถึงเรือ ประมาณ บ่ายสองครึ่ง พวกเราก็ขึ้นไปชั้นที่ 11 ไปทานอาหารมื้อบ่าย ซึ่งเขามีให้กินได้  เราไปเจอหญิงสาวชาวสิงคโปร์เลยได้ใช้ภาษาจีนกลางคุยกันสนุกสนาน เป็นหญิงนักธุรกิจ เขาให้นามบัตรไว้ด้วย บอกว่า ถ้าจะมาเที่ยวอีก เขาจะพาเที่ยวได้ พวกเราได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกด้วยค่ะ


     หลังจากทานอาหารและพูดคุยกับเพื่อนใหม่ได้เวลาพอประมาณแล้ว พวกเราก็กลับเข้าห้องพักไปนอนเอาแรงก่อน เพราะคืนนี้ จะมีรายการพวกกัปตันแผนกต่าง ๆ ออกมาให้เห็นหน้าเห็นตาและกล่าวอำลา กล่าวขอบคุณลูกทัวร์ที่มาทริปนี้ เช่น กัปตันเรือ กัปตันเกี่ยวกับการดูแลเรื่องอาหารเป็นต้น 
     แวะไปชมการเล่นสเก็ตน้ำแข็งด้วย เรือของเขายิ่งใหญ่จริง ๆ เหมาะสมที่ใช้ชื่อว่า เรือสำราญ  มีทุกอย่างให้หมด 




     ประมาณ 18.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่นัดหมายพวกกัปตันมาโชว์ตัว  พวกเราทั้ง 4 คนก็ลงจากที่พักลงไปชั้น 5 เพื่อนรอชม ซึ่งพวกกัปตันจะมาโชว์ตรงที่เป็นสะพานเชื่อมด้านบนของเรือชั้น 5 พวกเรารออยู่ข้างล่าง  ขณะนี้ มีนักท่องเที่ยวมายืนรอกันมากมาย ทุกคนแต่งกระโปรง เป็นชุดราตรีบ้าง กระโปรงบ้าง  รองเท้าส้นสูง พวกเราก็แต่งแบบธรรมดาของเรา กางเกง เสื้อ  เจอ พวกเทยเที่ยวไทย แต่งมาเต็มยศเลย ชุดราตรียาว  ชุดไทยบ้าง  รอชมจากภาพค่ะ 

       มีวงดนตรีเล็ก ๆ และนักร้องมาร้องเพลง แลัวพวกนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะพวกฝรั่ง(หญิง) ก็ออกไปเต้นรำอย่างสนุกสนาน รวมทั้ง เรยา ด้วย ส่วนฉัน น้อง และวัชรี ยืนชมการเต้นรำ ก็สนุกไปอีกอารมณ์หนึ่ง อิอิ  มาดูภาพที่ฉันเก็บมาฝากค่ะ 





      ร่วมงานอำลากันเสร็จแล้ว พวกเราก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 11 เพื่อทานอาหารซึ่งเป็นอาหารบุฟเฟ่ เลือกทานได้ตามใจชอบ ทานอาหารกันตอน สองทุ่มครึ่งเสร็จก็ไปชั้นดาดฟ้าของเรือ เพื่อเดินย่อยอาหาร  เขามีหนังจอใหญ่มาฉายด้วย มีเตียงผ้าใบให้นอนรับลม ซึ่งลมพัดแรงมากทีเดียว ดูเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ได้เป็นอย่างดี  มาชมภาพกันค่ะ 



   จากดาดฟ้า  เราก็ไปชมการเต้นรำ ซี่งเขาจัดให้นักท่องเที่ยวไปชม  กัน พวกเราก็ไปนั่งชมการแสดงเต้นโชว์ของพวกฝรั่ง ก็เป็นอาหารตา  ไปอีกบันเทิงหนึ่ง อิอิ  ฉันเก็บภาพมาฝากด้วยค่ะ 



       กลับจากดูโชว์ แวะดูของลดราคา แต่ก็ยังแพง ไม่มีใครซื้อ เลยกลับห้องใครห้องมันอาบน้ำ นอนเลย เพราะเที่ยงคืนกว่าแล้ว 
       วันที่ 21 มกราคม  59

       เช้านี้ ไปทานข้าวเช้าที่ชั้น 3 เป็นอาหารบุฟเฟ่ ค่อนยังชั่ว เราก็เลือกกินได้ตามใจชอบ มีบริการช็อกโกแลตร้อนด้วย อร่อยดี พวกเราส่วนใหญ่ตักข้าวต้ม กินกับกับข้าว มีเต้าหู้ยี้ กิมจิ ผัดผัก ตามแต่จะเลือก อาหารของเรือสำราญ มารีน่า  ใช้ได้ทีเดียว เจอกัปตันคนไทยด้วย เขาได้ยินพวกเราคุยภาษาไทย ก็เข้ามาทักและแนะนำว่า เป็นคนไทยมาทำงานที่เรือสำราญ มารีน่า หลายปีแล้ว เงินเดือนดี เดือนละเป็นแสน แต่ก็เหนื่อยมากทีเดียว  มาดูหน้าตาเขาหน่อย อิอิ


      วันนี้ทั้งวันเราต้องเดินชม เที่ยว กิน อยู่แต่ในเรือทั้งวัน เขาปล่อยข่าวว่า วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ร้านค้าต่าง ๆ จะลดราคา  พวกเรา  ก็เลยไปเดินเตร่ ๆ ดูซิว่า มีการลดราคาจริงไหม ปรากฏว่า ราคาก็เท่าเดิม พวกเราเลยไม่ได้ัซื้ออะไร  พอดีเห็นเขาเอาสินค้าใหม่ คือแก้วที่ก้นแก้วมีแบตเตอรืรี่ใส่อยู่พอเปิดจะมีแสง แว้บ ๆ เออ  น่าสนใจดี ถ้าซื้อ 5 ใบแถม 1 ใบ ราคา 19.95 ดอลล่า เราแบ่งกันคนละ 2 ใบ เรยา ไม่เอา แต่เวลาไปจ่ายเงินด้วยจริง ๆ มันบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่สินค้าอื่นที่เราซื้อไปคือกระเป๋าที่เล่าไปนั้น มันลดราคาให้อีก 15 ดอล เออ! เป็นการลดราคาจริง ๆ ในบางอย่าง แต่บางอย่างมันก็คิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ชะแพง ตลกดี ถ้ารู้ว่า มันลดเยอะจากที่มันลดตอนจ่ายเงิน จะซื้อกระเป๋าสะพานมาอีก  อิอิ
      นอกจากนี้ ก็มีกิ๊บเซ็ทที่ลดราคา แต่ก็ไม่ได้ซื้อเพราะไม่ได้ถูกใจของในนั้น เห็นคนรุมกันเยอะแยะ ไปดูนาฬิกาคอส เห็นลดราคาเหลือ  71.9 ฉันกับวัชรี เห็นว่าราคานี้ ก็โอเค ไม่ถึง สามพันบาท ก็น่าซื้อ แต่เวลาบิลออกมา  น้องตาดี มองแล้ว ปรากฏว่า เท่ากับเรือนละ 171.9 เพราะเขาเขียนเลข 1 ข้างหน้าเลข 7 เล็กมากเหมือนเป็นลูกน้ำ นี่เป็นกลโกงในการหลอกลูกค้า  ฉันกับวัชรี ไม่ยอมจ่าย ขอคืน เพราะเขียนตัวเลขไม่ชัดเจน ขอโทษเขาแล้วบอกว่า เราไม่มีเงินสดที่จะจ่าย (เพราะของฉันตอนมาแจ้งจ่ายเงินสด) คนขายจึงไปเรียกเจ้านายเขามา ว่าจะทำอย่างไร เขาก็ต่อว่าเรานิดหน่อย เราก็พูดกับเขาด้วยเหตุด้วยผลและบอกว่าอย่างไรเราก็ไม่มีเงินสดจะจ่ายให้ ในที่สุดเขาก็ต้องยอม (คงเห็นว่าเราพูดภาษาจีนกับเขาได้ เถียงอย่างมีเหตุมีผล) เฮ้อ! รอดตัวไป ไม่งั้นต้องจ่ายเพิ่มอีกตั้ง 100 ดอลล่า เชียว  อิอิ 
     อาหารมื้อเที่ยงไปทานชั้น 11 เป็นบุฟเฟ่  มีไอศกรีมด้วยเป็นของหวานอีกคนละถ้วย  บ่าย ๆ ก็ไปทานร้าน 24 ชั่วโมง คือพวกขนม คุ้กกี้ พิซ่า เรียกว่า กินทั้งวันเลย อิอิ

     ช่วงเย็นไปตามที่เขากำหนดให้ไปทานอาหารมื้อเย็นที่ชั้น 5 เจอ บริกร ที่บริการดี เอาใจนักท่องเที่ยวของตนที่ตนรับผิดชอบ (เขาจะแบ่งงานรับผิดชอบนักท่องเที่ยว กี่คน กี่โต๊ะ ก็ว่าไป )คนนี้ เจอตั้งแต่วันแรก  และมื้อสุดท้ายของวันนี้ก็เจออีก ต่างคนต่างจำกันได้ อาหารที่เราเลือก ก็ขอเพิ่มได้ด้วย (มื้อนี้) ได้กินต้มยำไทยด้วย แต่รสชาติแปลก ๆ ดี  ห้าห้า มาดูภาพอาหารและบริกร น่ารักบริการดีทีเดียว ชื่อว่า Julusorencio  เป็นชาวฟิลิปปินส์ก่อนจากกันพวกเราก็ถ่ายรูปกับเขาไว้เป็นที่ระลึก ด้วยนะ



     คืนนี้ พวกเราต้องเตรียมตัวจัดกระเป๋าให้เรียบร้อย เพราะพรุ่งนี้เช้า ต้องรีบตื่น เพราะห้องอาหารเขาจะเปิดเวลา 6.30-8.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เรือจะเทียบท่าให้พวกเราขึ้นฝั่ง 

     วันที่ 22 มกราคม 59 

     เช้านี้เราตื่นกันเช้ามากกว่าปรกติ เพื่อไปทานอาหารเช้า มื้อสุดท้ายสำหรับทริปล่องเรือสำราญในครั้งนี้ อาหารก็เหมือนทุกครั้งที่เราเคยทานนั่นแหละ  ทานเสร็จ เราขั้นห้องพัก เพื่อเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะลากระเป๋าลงมาข้างล่างและเตรียมไปจ่ายเงินสดตามที่เราไปซื้อสินค้าเขาไป กว่าจะเสร็จ ก็พอดี เรือเทียบท่า แต่กว่าจะลงจากเรือได้ เขามีการแบ่งคนลงจากเรือตามบัตรสีที่เราได้รับมาครั้งแรก โดยมีเจ้าหน้าที่มาคอยชี้แจงและปล่อยคนออกจากเรือ นับเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมากพอควร 

       เรามาถึงภาคพื้นดินแล้ว ก็ต้องจ้างแท็กซี่ไปสนามบิน  ครั้งแรก คิดว่าจะไปเที่ยวก่อน เพราะเครื่องบินออกตั้งบ่ายสามกว่า แต่ก็กลัวกลับไม่ทัน เลยไปเที่ยวสนามบินเทอร์มินอล 1 (เราต้องไปขึ้นเครื่องที่ เทอร์มินอล 2) แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะมีรถรับส่งใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น 

       สนามบินของสิงคโปรสวยงามมาก พวกเราเดินเที่ยวและถ่ายรูปที่สนามบิน 1 หลายรูปอยู่  




       เดินจนขาเมื่อยไปหมด และเห็นเวลาจะเที่ยงนี้  อาหารที่ เทอร์มินอล 1 เราก็เข้าไปไม่ได้ จึงขึ้นรถรับ ส่ง ผู้โดยสารของสนามบินเขามาที่เทอร์มินอล 2 ซึ่งเราต้องมาขึ้นเครื่งนี่ บ่ายสามกว่า ใช้เวลา ประมาณ 5 นาที ก็มาถึง โห! สวยกว่า เทอร์มินอล 1 นะ คงเพราะเพิ่งสร้างใหม่  และใกล้วันตรุษจีน  เขาจัดสถานที่ไว้สวยงามมากเลย ลงจากรถ ก็มีวิวให้ถ่ายภาพเลย  อิอิ




     หลังจากที่พวกเราถ่ายรูปสวย ๆ งาม ๆ แล้ว  เราก็เดินหาร้านอาหาร เพื่อทานมื้อเที่ยวก่อนขึ้นเครื่องบิน ได้ร้านข้าวมันไก่กินแล้ว คนไปซื้อกินกันเยอะเหมือนกัน พวกเราทุกคนชิมข้าวมันไก่ของประเทศสิงคโปร์  รสชาติก็ใช้ได้นะ แต่ไม่ใช่ร้านที่มีชื่อเสียงว่าอร่อยตามคำแนะนำของชาวจีนที่เราเจอและถามเขาไว้  เราไม่มีเวลาไปกินตามร้านที่เขาแนะนำหรอก  กินในร้านอาหารสนามบินไปก่อนก็แล้วกัน

       และแล้วพวกเราก็ได้ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยอันแสนอบอุ่นของเราโดยสวัสดิภาพ  หลังจากที่ผ่านด่านคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว  ก็ประมาณ น่าจะ หกโมงกว่า  น้องกับเรยาไปทางเดียวกัน จ้างแท็กซี่ไป  ส่วนฉันอาศัยรถลูกสาวของวัชรีมารับ เลยไม่ลำบาก กลับถึงบ้านทุ่มกว่าแล้ว  เฮ้อ ! เหนื่อยเหมือนกันนะ

       การท่องเที่ยวของฉันก็จบลงไปอีกทริปหนึ่งแล้ว เป็นความสุขในชีวิตจริง ๆ หวังว่า ฉันคงมีโอกาสได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้ไปอีกมากมายในโลกกว้าง  อิอิ แล้วมาเขียนเล่าให้เพื่อน ๆใน บล็อกนี้ อ่านอีก ค่ะ หวังว่า บล็อกเรือสำราญ ครั้งนี้ ท่านผู้อ่านคงได้รับความเพลิดเพลินบ้าง นะคะ  สวัสดี ค่ะ   




Create Date : 30 มีนาคม 2559
Last Update : 13 เมษายน 2559 22:40:43 น. 53 comments
Counter : 1737 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะอาจารย์

ดีใจที่แวะไปอ่านฉันท์นะคะ

*************

ล่องเรือสำราญอยากเที่ยวแบบนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเหมือนกันค่ะ
ยังไม่มีโอกาสเลย

เกาะลังกาวีก็อยากไปเยือนเพราะตำนานของพระนางมัตสุหนี่
แต่ก็ยังไปไม่ถึงเช่นกันค่ะ

โหวตให้ Travel Blog นะคะ


โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:12:07:46 น.  

 
โหวต Travel Blog ครับอาจารย์

ผมยังไม่เคยล่องเรือท่องเที่ยวเลยครับ
เรือสำราญคงมีกิจกรรมมากมายตลอดการเดินทาง
น่าสนใจมากๆเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:15:17:51 น.  

 
ม่ีรูปปั้นผมก็ชอบเข้าไปทำท่าทำทางแล้วถ่ายรูปเหมือนกันนะครับ

บ้านเมืองหลายๆ ที่ที่เราเคยไป ไม่ได้ไปมันก็มีการเปลี่ยนแปลง พูดถึงบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป ผมยังอยากไปคุนหมิงอีกรอบเลย เห็นเค้าว่าเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย

บนเรือมีการแสดง และมีกิจกรรมให้เราได้ทำเยอะจริงๆ ผมไม่เคยล่องเรือเที่ยวเลย ดูแล้วน่าสนุกดีเหมือนกัน


โหวตให้ Travel Blog ให้ครับ
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:17:19:07 น.  

 
เดี๋ยวปลายเดือนนี้ผมไปเที่ยวลังกาวีเหมือนกัน ขอมาส่องบล็อกอาจารย์เป็นแนวทางไว้ก่อน
แต่คงต้องอ่านประวัติศาสตร์แถวนั้นไว้หน่อยนะครับ เผื่อจะอินอะไรขึ้นบ้าง ประวัติศาสตร์มาเลเซียนี่ผมแทบไม่รู้อะไรเลยนะ รู้สึกมันไกลประวัติศาสตร์บ้านเรามากกว่าพม่า ลาว หรือเขมร (อย่างพระนางมัตสุหนี่เนี่ย ไม่รู้จัก แต่ได้อ่านตำนานที่อาจารย์เล่ามาเลยได้ปูพื้นไปด้วย)
เวลาไปเที่ยวทัวร์ชอบข้าวเช้าแบบอเมริกันนะครับ ยังไงก็กินได้แน่ๆ
ศัพท์อัจกลับนี่ผมไม่เคยได้ยิน ถ้าไม่ได้เป็นอาจารย์ภาษาไทยคงน้อยคนที่จะรู้จัก
หาดทรายดำผมเคยไปที่ตราดครับ ดำสนิทกว่านี้เยอะเลยนะ
เรือลำใหญ่นี่ดีจริงๆ เหมือนโรงแรมเคลื่อนที่เลยครับ มีการแสดง มีกระทั่งสเก็ตน้ำแข็ง นอนตากลมยามค่ำคืนบนดาดฟ้าก็ดูน่าสบายดีนะครับ
และเคล็ดลับการช้อปปิ้งที่ยังใช้ได้ดีทุกที่คือยิ่งซื้อของวันท้ายๆยิ่งได้ของถูกครับ
ยินดีที่อาจารย์สนุกกับทริปนี้นะครับ ไม่เหมือนสิบสองปันนา หุหุ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
คนผ่านทางมาเจอ Diarist ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


สงกรานต์ปีนี้ผมเที่ยวแต่ห้างครับ ไม่มีเนื้อหาให้เอามาอัพบล็อกเลย แต่ที่เที่ยวดองๆไว้อัพบล็อกได้อีกปีนึงเลยมั้งครับ ดองไว้เยอะจริงๆ


โดย: ชีริว วันที่: 14 เมษายน 2559 เวลา:21:13:35 น.  

 
ฉัตรเคยลงเรือสำราญครั้งนึงเองค่ะ
ไปฟรีกับบริษัท ตื่นตาตื่นใจมากกกกก
เรือช่างใหญ่โตมโหฬาร และนึกถึงเรื่อง ไททานิค เลยล่ะค่ะ

แวะมาสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะอาจารย์ ^ ^


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:0:36:16 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
โหวดสาขา
Travel Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:0:53:47 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:6:34:42 น.  

 
ปีนี้การ์ตูนเยอะจริงๆ ครับ แต่มันอ่านจบเร็วเมื่อเทียบกับหนังสือทั่วๆ ไป พวกหนังสือทั่วๆ ไปตอนนี้มีอยู่กองนึงที่ซื้อมาแล้วยังอ่านไม่หมด (การ์ตูนก็เช่นกัน) สงกรานต์นี้คงได้อ่านครับ (แค่ส่วนหนึ่ง)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:11:21:54 น.  

 
เมื่อวานออกไปสองวัดค่ะ ร้อนมากเลยเหนื่อยมากด้วย
เข้ามาอ่านได้นิดเดียว ง่วงมากเลยไปนอนก่อน
วันนี้มาต่อ

ทริปนี้มีหลายรสชาติเลยนะคะ น่าสนุกมาก อยากไป
บ้างแต่ปูนนี้แล้วถ้าจะไม่ไหว ตามดูใครไปแล้วมา
เล่าให้ฟังแบบนี้ดีกว่า เคยไปภูเก็ตกับซีทราน หลาย
สิบปีแล้ว ก็สนุกดีพอประมาณค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

ขอบคุณมากนะคะ อาจารย์



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:14:55:37 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

เรื่องการท่องเที่ยงทางเรือ
ถ้ามีโอกาสคงจะพาครอบครัวไปเที่ยวบ้างครับ

ผมว่าน่าสนใจมากๆเลยล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2559 เวลา:15:27:38 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:7:54:13 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

วันนี้เชียงใหม่ร้อนเป็นพิเศษเลยครับ
ผมว่าปีนี้มีสิทธิร้อนถึง 45 องศาได้เลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:13:03:35 น.  

 
ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยครับ ต้องเริ่มจากทำความสะอาดบ้านก่อนถึงจะสร้างความรู้สึกอยากอ่านได้ (ฮา)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:17:24:02 น.  

 
ทำบุญคงต้องโอกาสอำนวยนะคะ
บางทีตั้งใจไปทำแต่ไม่ได้ได้ไป ที่ไม่ได้
ตั้งใจกลับได้ไป

ดีใจด้วยค่ะ ได้ไปเที่ยวเรื่อยเลย
ยังแข็งแรงอยู่ อยากไปไหน รีบๆไปเสีย
พอหมดแรงแล้วก็ไปลำบาก ถึงใครอยาก
พาไป เราก็เกรงใจเขา

ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะคะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:21:03:54 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์


ป้ากุ๊กหายไปต่างจังหวัดเสียหลายวัน เพิ่งกลับมาค่ะ


อาจารย์บันทึกได้ละเอียดยิบ ทั้งภาพทั้งคำ อ่านแล้วเห็นภาพชัดทุกขั้นตอน


ยังอ่านไม่จบ ค่อยกลับมาอ่านต่อค่ะ


อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 เมษายน 2559 เวลา:21:30:37 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:6:27:01 น.  

 
กราบสวัสดีค่ะ
ตามมาเที่ยวด้วยนะคะ
แต่เขา Vote ไดอารี่กัน
ก็ตามกระแสด้วยค่ะ

รักษาสุขภาพ Take care มาด้วยความเคารพรักค่ะ





อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:8:30:24 น.  

 
กลับมาอ่านอีกค่ะ สายตาไม่อำนวย บล็อกยาวๆเนื้อหาอัดแน่น
ต้องค่อยๆมาอ่าน ต้อมซูมด้วย อยากอ่านอยากได้ความรู้ก็ต้อง
ค่อยๆทะยอยอ่าน

ถ้าไม่ซุมก็คอมเม้นท์ไม่ได้ด้วย ตัวเล็กมาก ถึงอยากคุยมากก็
พิมพ์ไม่ค่อยไหว ได้แค่ย่อๆ ช่วงนี้รู้สึกว่าความสามารถในการ
ทำบล็อกและเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงน้อยลงหลายอย่าง

วันนี้ก็ร้อนมากอีกแล้ว รักษาสุขภาพนะคะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:10:35:14 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ ไม่เคยนั้งเรือเที่ยวมาก่อนเลย ขอบคุณที่แชร์ความสนุกนะคะ


โดย: ชลบุรีมามี่คลับ วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:12:30:10 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

วันนี้พาลูกๆหลานๆไปเที่ยว
เหนื่อยและร้อนมากเลยครับ

แต่พอกลับมาถึงบ้านอากาศแปลกๆ
เหมือนฝนจะตกครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:16:20:35 น.  

 
เวลาออกไปท่องบล็อกก็ต้องซูมตลอดเลยค่ะ
บ้านไหนยังใช้ตัวอักษรขนาด default ก็ต้อง
ซูมมาก ไม่ซูมเนื่อหาก็ต้องซูมกล่องคอมเม้นท์
ขนาดซูมแล้วก็ยังพิมพ์ผิดเรื่อย

บล็อกตัวเองต้องกำหนดตัวใหญ่น่าดูเลย อิอิ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:19:56:28 น.  

 
อ.เต๊ะ มาแล้วคร้าบ มาอ่านตอน2แล้ว อดใจไม่ได้ ต้องย้อนกลับไปอ่านตอน 1 ด้วย แฮ่ๆ

ตอนนี้ข้อมูลในหัวอัดแน่นมากๆ จำอะไรไม่ได้เลย จำได้แต่ตอน อ.สุ ปะทะ แก๊งค์ เทยเที่ยวไทย อย่างเดียว เย้ย 555

อ.สุ ใจเย็นๆนะครับ อย่าวู่วาม รีบอัพบล็อกใหม่ รอ อ.เต๊ะ วันสองวัน
ทริปอลังการ งานสร้างแบบนี้ เดี๋ยว อ.เต๊ะ เม้นท์ให้ขาดใจ ตายไปข้างนึงเลยละครับ อิอิ

อ.สุ บอก เออ รอเอ็งก็โง่แล้วซี้ เอ็งกะจะเม้นท์ข้าถึงตายเลยนี่
เดี๋ยวข้าต้องรีบแบน ไอพี เอ็ง แล้วปิดบล็อกหนีเลยดีฝ่า 555 เอิ้กๆอ้ากๆ



โดย: multiple วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:20:44:04 น.  

 
สวัสดียามดึกครับอาจารย์ ผมเคยเที่ยวแบบนั่งเรือตอนไปอียิปต์ ล่องเรือตลอดลำน้ำไนล์ เป็นทริปที่แฮปปี้มากครับ ทีแรกคิดว่าอียิปต์มีแต่ทะเลทรายจะร้อนเสียอีก แต่ลมบนเรือเย็นตลอดทางเลย และอียิปต์ได้เปรียบตรงที่โบราณสถานต่างๆจะเรียงอยู่ตลอดลำน้ำไนล์เลย (เพราะนอกเส้นทางลำน้ำมีแต่ทะเลทราย) แวะเที่ยวง่าย


โดย: ชีริว วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:23:43:54 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ อาจารย์สุ
มาชมภาพล่องเรือสำราญด้วยครับ เรือลำใหญ่มากครับ
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:23:57:47 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 เมษายน 2559 เวลา:6:57:24 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

พูดถึงพวกชอบขีดชอบเขียน
เมื่อวานพาลูกหลานไปเดินเที่ยวที่ถ้ำเมืองออน
มีรอยขีดเขียนชื่อเต็มไปหมด
เสียดายมากๆเลยครับ
ไม่น่าทำลายธรรมชาติเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 เมษายน 2559 เวลา:10:35:53 น.  

 
แวะมาเที่ยวด้วยครับ ผมเคยไปลังกาวีแต่นั่งเรื่อจากสตูลไป อยากไปนั่งเรือแบบอาจารย์บ้างจังครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog


โดย: The Kop Civil วันที่: 18 เมษายน 2559 เวลา:10:39:16 น.  

 
เห็นแล้วอยากไปเลยค่ะ ยังไม่เคยไปเลย ทำบล็อกได้งดงามละเอียดมากเลยค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 18 เมษายน 2559 เวลา:18:49:16 น.  

 
มีข้อความหลังไมค์นะคะ อาจารย์



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 18 เมษายน 2559 เวลา:19:51:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:6:36:13 น.  

 
มาแล้วคร้าบบบๆๆๆๆ

เรือยิ่งใหญ่ อลังการ งานสร้างมากๆเลยนะครับ
อ.เต๊ะ ขอสารภาพว่า อิจฉา ริษยา อ.สุ จริงๆ ที่ได้ไปท่องเรือสำราญแบบนี้นะครับ แฮ่ๆ

นี่ ถ้า อ.เต๊ะ รู้ล่วงหน้า จะขอติดสอยห้อยตามไป คอยรับใช้ดูแล จัดยา หลังอาหารให้ เย้ย คอยถือกระเป๋า จูงมือ ให้ตลอดทริปเลยนะครับนี่ อิอิ

อ.สุบอก ข้าขอบใจเอ็งมาก แต่ทางที่ดี เอ็งอยู่ห่างๆข้าดีฝ่า ขืนให้เอ็งถือกระเป๋าให้ สตางค์ข้าต้องหาย แหงๆ ชัวรืป้าบๆเลย ข้ามั่นใจ 555

บนเรือนี่ เค้าวางระบบดีมากเลยนะครับ มีการแยกเป็นกรุ็ป แบ่งบริกรมาคอยบริการ ตลอดเวลา เสียดายเป็นบริกรผู้ชาย ขัดใจ อ.เต๊ะมาก
เรือสำราญแบบนี้ อ.เต๊ะ นึกถึงเคยดุหนังสมัยก่อน เรื่อง loveboat หรือไงนี่
พนักงานจะใส่ชุดบิกินี่ บริการตลอด ดุแล้วถูกใจที่ซู้ดเลยละครับ แฮ่ๆ

อ.สุบอก เอ้า ข้าก้ไม่รู้ว่าเอ็ง ชอบแบบนี้ เดี๋ยวถ้าเอ็งไปคราวหน้า ข้าจะกระซิบบอกให้ คณะ เทยเที่ยวไทย เค้าใส่ บิกินี่ คอยบริการเอ็งดีมั้ย อิอิ เย้ย 555

อ.เต๊ะดูแล้วบนเรือนี่เหมือนยก รร.ห้าดาวมาลอยน้ำเลยนะครับ มีครบหมดทุกอย่าง ค่าตั๋วสมัยนั้นก้ไม่แพงมากด้วย ได้กินฟรีก้หลายอย่าง
ดุๆแล้ว คิดว่ามีอาหารบริการ ครบทุกชาติเลยมั้งครับนี่ เยี่ยมจริงๆ

แต่ๆๆ สถานที่สวยงามตั้งเยอะแยะ อ.สุ ไหงไปถ่ายรูป เซลฟี่ กับรูปปั้นแข็งทื่อ ซะงั้น

น่าจะขึ้นดาดฟ้า ไปยืนกางแขนถ่ายรูปกะหนุ่มๆที่หัวเรือ จะได้เหมือนโรส กะแจ๊ค ในเรื่องเรือไททานิคไงละครับ อิอิ

แล้วก็ที่น่าเสียดายอีกอย่าง อ.สุ ไปถึง เกาะลังกาวี หาดทรายดำ
น่าจะลงเล่นน้ำทะเล ที่นั่นซะหน่อย หรือว่า อ.สุไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำไป
เสียดายจัง อดเห็น อ.สุ ตีโป่งเลยอ่า อิอิ

อ.สุบอก เออ ข้าลืมไปจริงๆ อดตีโป่งเลย เย้ย ข้าไม่ได้เอาผ้าถุงไปเฟร้ย
ชุดว่ายน้ำระดับข้า ต้องจีสตริงเท่านั้น ให้เอ็งรู้ไว้ด้วย เดี๊ยะๆ เอาทรายดำยัดปากซะดีมั้ย 555

ส่วนงานเลี้ยงอำลากลางคืนวันสุดท้ายนี่ ดูแล้วยิ่งใหญ่อลังการมากๆเลยนะครับ ทั้งผู้คนการแต่งกาย งานแสดงต่างๆ ดูแล้วคล้ายๆ ละครเพลง หรือโอเปร่า ก็ไม่แน่ใจนะครับ เสียดาย ภาพเล้กไปหน่อย ถ้าได้แบบรูปใหญ่ชัดๆ ก็แจ่มเป็ดเลยละครับ อิอิ

อ.สุบอก อ่อ ข้ารู้ จริงๆเอ็งอยากดูสาวๆ แก๊งค์เทยเที่ยวไทยให้ถนัดๆ ละซี้ เสียใจ
ข้าไม่ขยายให้เอ็งดูหรอก 555

แล้วก้ไม่น่าเชื่อนะครับ บนเรือสำราญนี่ยังมีแก็งค์ขายสินค้า เจ้าเล่ห์ซะด้วย โชคดี ที่มีอ.สุ เจ้าแม่ประตูน้ำ พุดไหหลำเป็น ไปด้วย ไม่งั้นต้องซื้อนาฬิกาแพงซะแล้ว คุณพระคุณเจ้า คุ้มครองจริงๆอิอิ

สำหรับ อ.เต๊ะแล้ว ทริป ของอ.สุ ทริปนี้ สุดยอดมากๆครับ เสียแต่เวลาที่จอดแวะประเทศต่างๆนี่น้อยไปหน่อย แต่ประสบการณ์บนเรือสำราญระดับนี้นี่ น้อยคนจะได้สัมผัสนะครับ

สำหรับ อ.เต๊ะ หรูสุดก็ได้แต่นั่งเรือข้ามฟาก แค่นั้นเองละครับ 555





บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: multiple วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:8:59:02 น.  

 
สวัสดีอีกครั้งค่ะอาจารย์ ขอบคุณที่แวะมาอ่านรีวิวหนังค่ะ เมาคลีสนุกนะคะ ลองหาเวลาไปดูค่ะ // ขอบคุณที๋โหวตค่ะ


โดย: BabyInk วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:17:47:22 น.  

 
เชียงใหม่ตอนเย็นมีฝนตกครับอาจารย์
แต่ที่แปลกคือพอฝนหยุด
ควันมากกว่าเก่าอีกครับ
ตอนนี้เหม็นควันมากๆ
แสบคอแสบตาหนักกว่าเก่าอีกครับ

แย่เลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:20:29:25 น.  

 
เห็นชื่อลังกาวีแล้วนึกถึงคุกที่ตะรุเตาเลยนะครับอาจารย์
เวลาจะหนีต้องว่ายไปเกาะนี้กันทุกคน


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:21:03:54 น.  

 
็อกมวยปล้ำที่อัพเพราะใจรักยิ่งกว่าบล็อกการ์ตูนหรือท่องเที่ยวโบราณสถานอีกครับ เพราะแทบไม่มีคนดูมวยปล้ำเหลือแล้วตั้งแต่ทรูไม่เอามาฉาย
ช่วงนี้ร้อนมากมาย รักษาสุขภาพด้วยนะครับอาจารย์ หวังว่าฝนจะเทลงมาเร็วๆนี้


โดย: ชีริว วันที่: 19 เมษายน 2559 เวลา:23:04:22 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:6:42:35 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

วันนี้อากาศก็ยังแย่อยู่ครับ
รู้สึกได้จริงๆครับ
ออกนอกบ้านปุ๊บ แสบตา แสบคอและไอทันทีเลย

อากาศแย่ลงเรื่อยๆในทุกปีครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:10:49:56 น.  

 
อยู่ใกล้ๆกันครับอาจารย์ อ่านเรื่อง ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ของคุณ วินทร์ แล้วเจอมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:15:40:20 น.  

 
วันนี้เป็นวันขึ้น15ค่ำ
ครั้งแรกของปีใหม่ไทย
เป็นวันดีที่ควรทำบุญใหญ่
เพี่ออุทิศส่วนบุญกุศล ให้กับทั้ง3ภพ
รวมทั้งเทวดารักษาตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรเรา
เจ้ากรรมนายเวรจากสัมมาชีพ
ทายาทแห่งกรรม ทั้ง 3 ภพจะเปิดเพียงวันนี้วันเดียว
รีบทำบุญยิ่งใหญ่ยิ่งดี จะช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรือง
เงินทองไหลมาในเร็ววัน
(โดยเฉพาะผู้ชายจะได้ผลบุญเต็มที่ตามที่ขอ
ส่วนผู้หญิงก็ได้เช่นกันโดยเฉพาะมีร่างกายแข็งแรง
ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บจะหายในเร็ววัน)


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:5:28:21 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:6:58:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ อาจารย์
เมื่อวานทักเพื่อนๆได้ไม่กี่บ้าน เหมือนวิ่งผ่านบ้านเพื่อนเลย
ทั้งร้อนและเหนื่อย นอกจากงานแล้วก็พยายามอัพบล็อกและ
ตัดกรอบภาพแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยค่ะ เลยเมามาก



เรือรำใหญ่มากนะคะ มีหลายชั้นเหมือนคอนโดเลย
เป็นการไปเที่ยวที่ได้ความรู้หลายอย่างจริงๆ

ถ้าว่างเชิญไปดูคนสวนคนใหม่ของเราบ้างนะคะ
เธอตลกดี



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:12:32:54 น.  

 
ทักทายค่ะอาจารย์


ในที่สุดอาจารย์ก็สามารถแอดเฟรนด์ได้สำเร็จ

ต่อไปเชื่อเถอะเฟรนด์ของอาจารย์จะยาวเป็นกิโลเลย 555


อาจารย์ใช้ชีวิตหลังเกษียณได้คุ้มสุดคุ้ม ได้ท่องเที่ยวไปดูต่างบ้านต่างเมือง......มากจนนิ้วมือไม่พอนับ


แถมทุกที่ที่ไปยังได้บันทึกเรื่องราวเก็บไว้ละเอียดยิบ


เมื่อถึงวันที่ไม่อยากไปเที่ยวอีกแล้ว แค่ได้ย้อนมาเปิดดูบันทึกเก่าๆก็เหมือนอาจารย์เปิดดูหนังฉายที่ถ่ายทำและให้เสียงพากษ์ด้วยตนเอง


ดังนั้นแม้วันจะล่วงเลย อาจารย์ก็จะยังมีวันวานที่หวานและสดใสอยู่เสมอ


เป็นความสุขเล็กๆ เป็นความสุขง่ายๆ สำหรับคนในวัยปลายนะคะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:15:01:43 น.  

 
สวัสดีค่ะตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
น้องฟอนต์โหวตTravel Blogให้ด้วยนะคะ


โดย: nongfont วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:17:12:51 น.  

 
อิจฉาอาจารย์จังเลยครับ
ไป 12 วัน
เที่ยวครบแน่นอน
ของผมไม่ค่อยได้เที่ยวอะไรมากเลยครับ
แป๊บเดียวก็ครบ 6 วันแล้ว
ตัดวันเดินทางอีก 2 วัน เท่ากับเหลือวันเที่ยวจริงๆแค่ 4 วันเองครับ 555

ครั้งหน้าคิดว่าน่าจะไปเองได้แล้วล่ะครับ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:20:20:32 น.  

 
อยากไปเหมือนกันค่ะ ตลาดเก่า ตลาดน้อย พวกนี้
มีอะไรๆหลายอย่างที่อยากซื้อ ไม่ได้ไปนานแล้วด้วย
พออายุมากๆแล้วสุขภาพไม่สู้ดี ไม่อยากซนให้คนอื่น
ห่วงใยเลย รู้สึกว่ามันจะบาป

พี่ก็คงแอบเขียนเรื่องของแขกแทรกไว้ในเอนทรี่หมวด
ต้นไม้ไปเรื่อยๆ ถ้าเขายังอยู่กับเรา มีอะไรน่าสนใจ
อยู่ไม่น้อยจริงๆค่ะ

ขอบคุณที่โหวตให้ด้วยนะคะ วันนี้ไปเหนื่อยมาเยอะแล้ว
พักผ่อนแต่วันนะคะ ฝันดีด้วยค่ะ อาจารย์



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 21 เมษายน 2559 เวลา:20:57:18 น.  

 
อร๊ายยย ๆ ๆ ๆ หนูอยากไปบ้างจังค่ะ
น่าสนุกมาก ๆ
เคยไปสิงคโปร์นานมาแล้ว แต่ยังไม่เคยล่องเรือเลยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:0:17:55 น.  

 
สวัสดีค่ะอาจารย์
อาจารย์อัพตะพาบหรือเปล่าคะ อิอิ
รอชมนะคะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:0:50:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับอาจารย์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:6:37:04 น.  

 

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาจารย์สุวิมล Diarist

อ่านเพลินมากเลยค่ะ เรือใหญ่มากๆ ถ้าซีไปต้องชอบมากๆ มีทั้งการแสดง มีสเก็ตน้ำแข็งด้วย มีสัตว์น้ำให้ดู

ได้รูปตำนานทะเลดำ เศร้าจังนะคะ แงแง การที่ได้ไปที่เดิมเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว ดีจังนะคะ ได้มาเยือนอีกครั้ง


โดย: kae+aoe วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:8:30:48 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ทริปนี้เน้นภาพครับ
ข้อมูลน้อยมาก 555

เมื่อก่อนผมทำการบ้านเอยะมาก
เก็บหมดทั้งตั๋ว ทั้งบัตร โบรชัวร์

ตอนนี้ไปเที่ยว
เหมือนไปพักผ่อนอย่างเดียวเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:15:29:40 น.  

 
ไป 3 คน พ่อแม่ลูก ก็เปลืองมากเลยนะคะ 5555 เก็บเงินก่อนค่ะ น่าไปมากๆ


โดย: kae+aoe วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:15:48:03 น.  

 
อิจฉาอาจารย์จริงจี๊งงงงง มีคนมารับออกไป
เทียวไปเม้าส์ไปทุกวันเยย พี่นั่งอยู่บ้านเงียบๆ
ทุกวันจนน้ำลายบูดแล้ว ฮือฮือ

พี่ก็ยังไม่ได้ส่งตะพาบเหมือนกันค่ะ ว่าพรุ่งนี้ละ
หมดเวลาของยัยแขกแล้ว

พักผ่อนบ้างเด้อค่ะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:17:02:24 น.  

 
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

อยากไปเที่ยวเรือแบบนี้นานแล้ว ยังไม่มีโอกาศซักทีค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 22 เมษายน 2559 เวลา:20:36:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]




เป็นครูสอนภาษาไทยที่เกษียณอายุราชการแล้ว สนใจเรื่องการเขียนหนังสือให้ความรู้ ชอบการท่องเที่ยว หากท่านที่เข้ามาชมและอ่านแล้ว มีความสนใจและต้องการสอบถามเรื่องความรู้ด้านภาษาไทย ถ้ามีความสามารถจะให้ความรู้ได้ ก็ยินดีค่ะ

http://i697.photobucket.com/albums/vv337/dd6728/color_line17.gif
space
space
space
space
[Add อาจารย์สุวิมล's blog to your web]
space
space
space
space
space