... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
ทริปวุ่น หัวใจลุ้นรัก (7)


สวัสดีค่า ^^

หยุดยาวแบบนี้ หลายคนคงไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนานแน่นอนเลย โน้ตรอปลายปีอีกนิดแล้วค่อยไปค่ะ สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอตอนที่ 7 ของ "ทริปวุ่น หัวใจลุ้นรัก"​ค่า


####################################

(7)

บทที่ 5

จากถนนคนเดินของเวียนนา สถานที่ถัดไปที่ผู้ร่วมทัวร์ 'ชื่นใจเมื่อใกล้รัก' ได้มีโอกาสเข้าชมแบบเดินผ่านๆ เพราะต้องรีบทำเวลา ได้แก่ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Church) ชื่นรักชื่นชอบโบสถ์ขนาดกลางสไตล์บาโรคที่มีหลังคาสีเขียวแห่งนี้มาก โดยเฉพาะภายในที่ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา

“สวยจัง!”

นักเขียนสาวอุทานด้วยความชื่นชมขณะแหงนดูภาพวาดลวดลายนางฟ้าสวยงามบนพื้นผิวโค้งมน รีบถ่ายรูปเป็นการใหญ่

“กรุงเวียนนาถือว่าเป็นเมืองที่โดดเด่นมากของศิลปะแบบนี้ครับ”

ชื่นรักเอียงใบหน้าไปตามเสียงพูดแค่ราวๆ สิบห้าองศา ไม่มากไปกว่านั้น เนื่องจากคนที่พูดด้วยคือคนที่ทำให้เธอออกอาการแพ้นั่นเอง แถมกำลังขยับมายืนอยู่ข้างๆ เธออีกต่างหาก

อึ๋ย!! อย่าเข้ามาใกล้นักสิคะ ระยะปลอดภัยคืออะไรน่ะรู้จักไหม...

“หรือคะ”

“ถ้าคุณชื่นรักชอบศิลปะแนวนี้ ที่เวียนนามีให้ชมอีกหลายแห่งเลยล่ะครับ อย่างโบสถ์ Karlskirche ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ก็เป็นโบสถ์สไตล์บาโรคเหมือนกัน ข้างในก็สวยงามมากเหมือนกันครับ น่าเสียดายที่วันนี้เราไม่มีเวลามากพอที่จะแวะเข้าไป”

“ว้า” หญิงสาวอุทาน แล้วหันไปหาภูวนัตถ์อย่างลืมตัว ลืมเรื่อง 'ภูมิแพ้' ไปเสียสนิท “ไม่มีเวลาเลยจริงๆ เหรอคะ”

พระเอกหนุ่มยิ้มหล่อเห็นฟันขาวเปล่งประกายเรียงเป็นระเบียบปลอบใจ

“กว่าเราจะออกมาจากพระราชวังฮอฟบวร์กก็ค่อนข้างเย็นแล้วครับ ผมว่าถึงตอนนั้นคุณชื่นรักคงจะหิวแทบแย่แล้วล่ะ”

เพราะต้องมนต์ (หรือต้องสาป) จากอานุภาพรอยยิ้มและออร่าใสวิ้งของพระเอกหนุ่มชื่อดังเข้าเต็มเปา ชื่นรักจึงเกิดอาการ 'แพ้' ขึ้นมาอีกอย่างช่วยไม่ได้ นักเขียนสาวพยักหน้าถี่ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีกว่านี้ เหมือนสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะอีกแล้ว

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด อุตส่าห์เตือนตัวเองแล้วเชียวว่าอย่าหันไปมอง... พลาดอีกจนได้ อ๊ากส์ แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ยยยยยยย...

โชคของชื่นรักยังดีเพราะมีตัวช่วยผุดขึ้นมากลางวงสนทนาพอดี ทีมงานคนหนึ่งของทัวร์ชื่นใจเมื่อใกล้รักเดินเข้ามาหาชื่นรักและเจค็อบด้วยความเกรงอกเกรงใจ

“ขอโทษนะคะ” เธอค้อมศีรษะให้นักเขียนสาว แล้วหันไปบอกพระเอกหนุ่ม “คุณเจค็อบคะ ใกล้จะได้เวลาต้องไปที่ฮอฟบวร์กแล้วค่ะ เราเชิญแขกทุกท่านขึ้นรถกันเลยดีไหมคะ”

“อ๋อ โอเคครับ” พระเอกหนุ่มพยักหน้า แล้วส่งยิ้มหล่อใสให้ชื่นรักอีกครั้งเมื่อบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นขอเชิญที่รถเลยนะครับคุณชื่นรัก เดี๋ยวผมเดินไปบอกลูกทัวร์คนอื่นสักครู่นะครับ”

“ค...ค่ะ”

พ้นหน้าภูวนัตถ์ ชื่นรักค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกยาวๆ จนลมหายใจกลับมาเป็นปกติ

ฟู่ววววว... โชคดีชะมัดที่ดูเหมือนนายเจค็อบจะยังไม่ทันได้นึกติดใจสงสัยอะไร ว่าแต่ว่าอีตาองค์รักษ์พิทักษ์ลมหายใจหายไปไหนล่ะเนี่ย ไหนรับปากซะดิบดีว่าจะช่วยกันยังไงล่ะยะ อีตาบ้าเอ๊ยยยยยย!!!!


'อีตาบ้า' ของชื่นรักจามเสียงดังสนั่นอยู่ด้านหน้าของโบสถ์เซนต์ ปีเตอร์โดยปราศจากอาการว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากไข้หวัด ดังนั้น จึงคิดถึงตัวต้นเหตุได้เพียงอย่างเดียว

“จามแบบนี้ถูกนินทาแหงๆ หนอย ไอ้ชื่น แกบังอาจนินทาฉันเหรอ”

รเณศบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ยังนึกหงุดหงิดจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นไม่หาย เมื่อตอนที่กำลังจะเดินตามนักเขียนสาวที่ตื่นเต้นกับความสวยงามจนรีบถลาเข้าโบสถ์ไปก่อน เขาเห็นแววดาริกาเดินควงแขนปริยกรอย่างหวานชื่น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นยังมีท่าทีมึนตึงอยู่เลย แต่คนที่ช่างสังเกตยิ่งกว่าเขาก็มี นิดาเอ่ยปากทักทันทีที่สังเกตเห็นว่าข้อมือและต่างหูของแววดาริกาแวววาวกว่าเก่า แถมในมือของปริยกรยังมีถุงกระดาษใบสวยแตกหน่อออกมาด้วย

'ว้าว สวยจังเลยค่ะน้อง เพิ่งซื้อสดๆ ร้อนๆ เลยใช่ไหมคะนี่ ต๊าย ตายแล้ว กลิ่นใหม่ยังติดอยู่เลย'

'ขอบคุณค่ะ'

แววดาริกาตอบอย่างสุภาพ แต่เริ่ด เชิ่ด หยิ่ง ตามวิสัยจนทำให้นิดาไม่กล้าถามอะไรต่อ ปริยกรเสียอีกที่ไม่อยากให้ใครมองหญิงสาวในแง่ลบ จึงช่วยอธิบายเพิ่ม

'ริก้าเขารสนิยมดีเสมอล่ะครับพี่นิ ถ้าลองเขาเลือกอะไรแล้วไม่พลาดหรอกครับ'

'อ๊ะ ที่ว่าเลือกแล้วนี่ไม่ใช่แค่สิ่งของ แต่หมายความรวมถึงน้องป๊อปด้วยใช่ไหมล่ะค้า'

'ถูกเผงเลยครับ แหมมมม รู้ได้ยังไงครับเนี่ย' 'ไอ้ปอบ' รับมุกพลางหัวเราะ ทำเอาครีเอทีฟหนุ่มแอบเบ้หน้า

แหวะ มันกล้าพูดออกมาได้ยังไงวะ ไม่อายปาก!!

'พี่เดาว่าสร้อยข้อมือกับต่างหูนี่ ต้องเป็นของขวัญชิ้นแรกจากเวียนนาของน้องป๊อปแน่ๆ เลย'

'โห พูดอีกก็ถูกอีก ผมควรจะถามอีกไหมครับนี่ว่ารู้ได้ยังไง'

'แหม ทำไมจะไม่รู้ล่ะคะ เรื่องแบบนี้น่ะ สัญชาตญาณของผู้หญิงมันบอกค่ะ อีกอย่าง ผู้ชายทั้งหล่อทั้งแสนดีอย่างน้องป๊อปต้องไม่มีทางปล่อยให้แฟนซื้อเครื่องประดับเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะแฟนที่สวยมากขนาดน้องริก้าด้วย'

คำตอบของแววดาริกาคือการยิ้มนิ่งๆ ไม่พูดอะไร หากแววตาเป็นประกายบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจอย่างชัดแจ้ง

'พี่ล่ะอิจช้า...อิจฉาคนที่ได้เป็นแฟนน้องป๊อป นอกจากจะน่าร้ากน่ารักแล้วยังเป็นหนุ่มอารมณ์ดีด้วย แหม ถ้าพี่อายุน้อยกว่านี้สักสิบปีแล้วยังไม่ได้เจอพี่จักรก็ดีน่ะสิ'

'อะแฮ่ม' คนถูกพาดพิงแกล้งกระแอมเสียงดัง 'ไหนบอกว่าสุดที่รักของตัวเองหล่อที่สุด ดีที่สุดอยู่คนเดียวไงจ๊ะ มาเที่ยวไม่ทันไรก็ปันใจให้คนอื่นซะแล้ว'

'โอ๋ๆ อย่างอนนะจ๊ะจักร เค้ารักตัวเองที่สุดน้า...'

ปริยกรอมยิ้มให้กับภาพการหยอกล้อนั้น หากเมื่อหันมาเห็นรเณศยืนอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกหมั่นไส้ในฐานะที่ชายหนุ่มเป็นอดีตคนรักของแววดาริกาซึ่งเป็นคนรักในปัจจุบันของเขา แถมยังเป็นคนรักคนปัจจุบันของชื่นรัก ผู้หญิงที่เขาแคร์ ก็ปะทุออกมา จึงแกล้งเอ่ยลอยๆ ใส่ครีเอทีฟหนุ่มให้ได้ยินในจังหวะที่จักรและนิดารวมทั้งแววดาริกาไม่ได้กำลังฟังอยู่ว่า

'หวังว่าคุณรเณศคงดูแลชื่นเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจนต้องแยกทางกันเหมือนคราวริก้าหรอกนะครับ'

พูดจบก็จากไปพร้อมกับรอยยิ้มหยันที่มุมปาก ปล่อยให้รเณศยืนตะลึงอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้นเพราะนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าประกาศตัวเป็นศัตรูตรงๆ แบบนี้ แถมสิ่งที่พูดก็ทิ่มแทงใจดำเข้าเต็มๆ จนอยากกระโดดถีบร่างสูงนั้นให้คว่ำลงไปจูบฝุ่นถนนเมืองเวียนนาเลยทีเดียว

ไอ้บ้าเอ๊ยยยย!! นึกว่าตัวเองวิเศษมาจากไหนวะ ก็แค่แฟนใหม่ของยัยริก้าที่ขาว สูง ตี๋ หน้าตาดีนิดหน่อยเท่านั้นเอ๊งงงงง!!

ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงหัวเสียสุดๆ และตัดสินใจดับอารมณ์ที่คุกรุ่นด้วยการไม่เดินเข้าไปข้างในโบสถ์แสนสวยหรูวิจิตรที่ปริยกรและแววดาริกาเดินควงคู่กันเข้าไปด้วยสีหน้าผ่องใส


“แกหายไปไหนมาฮะไอ้เนส”

ชื่นรักเปิดฉากแหวใส่ทันทีที่ได้พบหน้า 'คนรัก' ของเธอ

“หายเหยไปไหนอะไรเล่า ฉันก็อยู่แค่หน้าโบสถ์นี่แหละ อย่าโวยวายเสียงดังน่า คนเขามองกันใหญ่แล้ว”

“อ้าว แล้วทำไมไม่เข้าไปข้างในเล่า”

นักเขียนสาวยอมโวยแบบหรี่เสียงลงพอสมควรเพราะอย่างน้อยก็ยังสำเหนียกได้อยู่ว่าตัวเองอยู่ในฐานะคนรักของรเณศ และอยู่ในสถานที่ที่ต้องการความสงบ

“ก็แค่ขี้เกียจดูน่ะ”

“ห๊ะ...”

สีหน้าและน้ำเสียงนั้นบ่งบอกให้ครีเอทีฟหนุ่มรู้ชัดว่าชื่นรักรู้จักเขาดีเกินไปอย่างมาก มากจนไม่มีทางเชื่อเหตุผลข้างๆ คูๆ ที่เขาอ้างเด็ดขาด หากศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายและความสดใหม่ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่าอะไรทั้งนั้น

“ฉันขอรวบยอดเล่าทีเดียวแล้วกัน แต่แกน่ะ อยู่ห่างๆ ไอ้ปอบนั่นให้เยอะๆ เลยนะเว่ย คนอย่างมันดีแต่สร้างภาพไปวันๆ เท่านั้นแหละ อย่าได้ไปหลงคารมตอแหลของมันเข้าเชียว”

ฮ้า...........

นักเขียนสาวอึ้ง อ้าปากค้าง ขยับจะถามถึงที่มาที่ไปของถ้อยคำเผ็ดร้อน แต่เดาได้จากสีหน้าว่ารเณศไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะปริปากพูดแน่ๆ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะช่างมันไปก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอดีใจก็คือ ในที่สุดเธอก็ได้แนวร่วมเกลียดปริยกรแล้ว ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ช่างเถอะ

แหงล่ะ คนทุเรศๆ แบบนั้น มีแต่คนประหลาดเท่านั้นแหละที่ชอบ ถึงได้ดึงดูดได้แต่คู่รักนิสัยแปลกๆ อย่างนิดาและจักร กับยัยผู้หญิงหัวสูงทะลุฟ้าอย่างยัยริก้ายังไงล่ะ โฮะๆ


ถ้าใครเคยเฝ้าฝันถึงการเป็นเจ้าหญิงแสนสวยในพระราชวังแสนสวยแสนหรูอลังการ การได้เข้าชมพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg) นับเป็นการเติมเต็มความฝันได้อย่างแสนวิเศษเลยทีเดียว ชื่นรักแทบจะหยุดหายใจ (อีกแล้ว) เมื่อได้เดินชมรอบๆ พระราชวัง

อ้อ! แต่เธอก็แค่ตื่นเต้นมากๆ เท่านั้น ยังไม่ถึงกับตัวแข็งเป็นหินเหมือนเวลาที่อาการ 'ภูมิแพ้ภูวนัตถ์' กำเริบหรอกนะ อันนั้นเป็นอะไรที่เอ็กซ์ตรีมสุดๆ อะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ

พระเอกหนุ่มอธิบายให้ผู้ร่วมทัวร์ฟังอย่างชำนิชำนาญว่า

“พระราชวังฮอฟบวร์กที่เรากำลังยืนอยู่นี้ เป็นพระราชวังที่เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์ฮับสบูร์กมาตั้งแต่สมัยคริสตศตวรรษที่สิบสามถึงยี่สิบนะครับ ในยุคนั้น ออสเตรียเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่มาก จึงร่ำรวยมากและสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่โตโอ่อ่าได้มากมาย ส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวังแห่งนี้ ได้แก่ หอสวดมนต์ burgkapelle ในตำหนักSchweizerhof ครับ”

ชื่นรักพยักหน้าหงึกๆ อยู่ห่างๆ ไม่กล้าขยับเข้าใกล้รัศมีของพระเอกหนุ่มมากเกินไป และพยายามตั้งสมาธิไปกับการดูบรรยากาศโดยรอบเพื่อจดบันทึกความรู้สึกและถ่ายรูปด้วย

“ชั้นแรกของพระราชวังเป็นที่จัดแสดงภาชนะที่ใช้กันในราชสำนักสมัยนั้น สวยหรูและงดงามมากอย่างที่เห็นกันนะครับ มีทั้งเครื่องใช้ที่ทำจากเงิน ทอง ทองเหลือง คริสตัล รวมทั้งกระเบื้องเคลือบ ใครที่สนใจอยากซื้อถ้วยชามสวยๆ ไปดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบพระราชวังที่บ้าน สามารถแวะซื้อได้จากร้านขายของที่ระลึกก่อนที่เราจะย้ายไปชั้นสองกันนะครับ”

“ไง สนใจไหมแก”

รเณศแกล้งถามเมื่อเห็นชื่นรักทำหน้าเคลิ้มไปกับความงามเลิศหรูของภาชนะที่จัดแสดง หากนักเขียนสาวสั่นหน้าน้อยๆ โดยยังไม่ยอมละสายตาวาววับจากสิ่งที่เดินชมอยู่

“ส่ายหน้าแบบนั้นแปลว่าอะไร ไม่สวยเหรอ”

“ไม่สวยบ้าอะไรที่ไหนเล่าแก สวยมากกกกก” ไม่พูดเปล่า ชื่นรักยังระบายลมหายใจอย่างเคลิ้มฝัน “สวยจนฉันจินตนาการว่าตัวเองเป็นซินเดอเรลล่าได้เลยล่ะ”

“เอ้า เพ้อละ งั้นก็ซื้อไปใช้ที่บ้านสักชุดสิ ฉันว่าเหมาะกับนักเขียนนิยายรักอย่างแกดีนะ”

“โอ๊ย ไม่เอาหรอก” นักเขียนสาวพูดพลางรีบสั่นหน้าหวือ

“อ้าว ทำไมวะ”

“เฮ้อ ไอ้เนสเอ๊ยยยย แกนี่มันไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ น้า” คนที่คิดว่าตัวเองเข้าใจมากกว่าแกล้งยกนิ้วชี้ขึ้นโบก ทำเสียงจุปากจึ้กจั้ก “ทุกอย่างที่เราเห็นอยู่ตอนนี้เป็นแค่ภาพมายา เหมือนกับความฝันน่ะเข้าใจมั้ย มันจะสวยงามที่สุดเฉพาะเวลาที่อยู่ในห้วงฝันเท่านั้น สภาพแวดล้อมและการตกแต่งในตอนนี้ทำให้เรารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง 'ใช่' ไปหมด จานชามเหล่านี้เลยยิ่งดูสวยล้ำค่า แต่ถ้าเราซื้อกลับไปใช้ที่บ้าน มันก็เหมือนกับเราพยายามจะเอากระเป๋าเลดี้ ดิออร์ไปให้ชาวบ้านร้านถิ่นในชุมชนแออัดถือนั่นแหละแก ไม่ว่าจะพยายามปรุงแต่งแค่ไหนก็ไม่มีทางไปกันได้หรอก”

ครีเอทีฟหนุ่มทึ่งกับปรัชญาของเพื่อนสาวมาก แต่ไม่ใช่ในประโยคต้นๆ เขาแค่สงสัยว่า

“เอ่ออออออ กระเป๋าเลดี้ ดิออร์ มาเกี่ยวข้องอะไรด้วยวะ”

“เอาน่า ก็กระเป๋ามันสวย หรู ดูดี ฉันชอบ อยากพูดถึง อยากยกมาเปรียบเทียบ มีอะไรมะ”

“เฮ้อ ดุชะมัดแกนี่ จริงๆ ฉันไม่น่าจะพาแกมาด้วยเลยนะ ปากอย่างแกมันเหมาะกับการเฝ้าบ้านที่สุด รับรองเฝ้าบ้านไหนขโมยไม่กล้าขึ้น”

“ไอ้เนส แก!!!” นักเขียนสาวประท้วงเสียงดัง

“หล่อมาก” ครีเอทีฟหนุ่มต่อคำให้ ส่งผลให้คนฟังแลบลิ้น ทำท่าโก่งคอและทำเสียงเหมือนจะคายของเก่าออกมาทันที

“แหวะ แอะๆๆๆ... แหวะ”

“ว้าย!! ตายแล้ว น้องชื่นขา เป็นอะไรหรือเปล่า นี่จะอาเจียนเหรอคะ”

นิดาซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ร้องวี้ดเสียงแหลมเมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้ร่วมทัวร์รุ่นน้องมีอาการเหมือนผะอืดผะอม ชื่นรักรีบคืนสีหน้าเป็นปกติ

“คะ??”

“ตายแล้ว ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าหน้ามืด เพลีย จะเป็นลม ตอนนี้ทำท่าจะอาเจียนอีก อ๊ะๆ นี่อย่าบอกนะคะว่าน้องชื่น...”

พูดแล้ว นิดาก็รีบยกมืออวบๆ ทั้งสองขึ้นปิดปาก เผยให้เห็นแต่แก้มอูมๆ และดวงตาที่เบิกกว้าง ชื่นรักขยับจะแก้ความเข้าใจผิดเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะคิดว่าเธอเป็นอะไรแต่สายไปเสียแล้วเมื่อนิดาประกาศถามเสียงดังคับร้านขายของที่ระลึก

“มีใครมียาดมบ้างมั้ยคะ น้องชื่นจะอาเจียนค่ะ”

“ไหนครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

ภูวนัตถ์รีบรุดเข้ามาดูทันทีตามวิสัยทัวร์ลีดเดอร์ที่มีความรับผิดชอบสูง

“มะ.. ไม่ค่ะ ชื่นไม่ได้เป็นอะไร”

ชื่นรักตอบโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองพระเอกหนุ่มที่เข้ามาดูอาการเธออย่างใกล้ชิดทันที ...ขืนมองคราวนี้แน่นิ่งไปเลยจริงๆ จะทำยังไง!!

“ไม่เป็นไรจริงหรือครับ แต่ว่า...” พระเอกหนุ่มหันหน้าหล่อๆ ไปทางผู้ที่ร้องโวยวายเมื่อครู่นี้ ซึ่งสาวรุ่นพี่ก็ร้องขึ้นมาทันที

“ไม่เป็นไรที่ไหน เมื่อกี้ยังทำท่าเหมือนจะอาเจียนอยู่เลย”

“ชื่นเปล่า...”

“น้องชื่นคะ ไม่สบายก็อย่าฝืนสิคะ เดี๋ยวเกิดหน้ามืดเป็นลมเป็นแล้งไปจะยิ่งลำบาก เอ้า น้องเนส มัวยืนทำอะไรอยู่ล่ะคะ ทำไมไม่อุ้มน้องชื่นไปหาที่นั่งพัก ปล่อยให้แฟนยืนผะอืดผะอมหน้าซีดหน้าเซียวอยู่ได้ ใจร้ายที่สุด”

คำว่า 'อุ้ม' ทำเอาบุคคลทั้งสองที่มีชื่ออยู่ในประโยคสะดุ้งโหยง เหลือบตามองกันโดยไม่ต้องนัดหมาย

อิ๊บเอ๋งล่ะสิ งานเข้าแล้วววววว!!!

รเณศด่าชื่นรักทางสายตาว่า “เอาอีกแล้วนะแก ชอบทำอะไรให้คนอื่นเข้าใจผิดอีกแล้ว มันน่านัก!!”

ส่วนชื่นรักก็ตอบด้วยสายตาว่า “ใครจะไปคิดล่ะวะว่าแค่หยอกล้อกันเล่นนิดเดียว แม่เจ้าประคุณจะร้องโวยวายเสียงแหลมปรี๊ดขึ้นมาแบบนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ด้วย”

“ยาดมมาแล้วค่ะ น้ำด้วย เชิญมานั่งพักตรงนี้ดีกว่านะคะ”

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของทัวร์ชื่นใจเมื่อใกล้รักนำน้ำกับยาดมตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับเนรมิตได้ จากสายตาของมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่จ้องมองและรอลุ้นอยู่ รเณศกับชื่นรักจึงจำเป็นต้องไหลตามน้ำ ครีเอทีฟหนุ่มค่อยๆ ประคองนักเขียนสาวไปนั่งตามที่เจ้าหน้าที่คนเดิมนำทางไป ตอนนี้เองที่ผู้ร่วมทัวร์คนอื่นในทริป 'ชื่นใจเมื่อใกล้รัก' หันมาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นตาเดียว

“มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ ทำไมอยู่ดีๆ คุณชื่นรักถึงได้อยากอาเจียน จะว่าอาหารเป็นพิษ เราก็แทบจะกินทุกอย่างเหมือนๆ กันเลยนะครับ”

ใบหยกถามนิดาขณะเดินตาม 'ขบวนแห่ชื่นรัก' ซึ่งผู้ตอบก็มีนิสัยใจกว้างเป็นที่สุด เพราะแจกจ่ายคำตอบเผื่อแผ่ให้ทุกคนในบริเวณนั้นได้ยินกันโดยครบถ้วนทั่วทุกตัวตนว่า

“แหม จะอะไรซะอีกล่ะคะน้องใบหยก ถ้าไม่ใช่ว่าน้องชื่นกำลังจะมีข่าวดีน่ะค่ะ”

“ข่าวดีอะไรเหรอครับ เอ ถ้าเป็นข่าวดี ทำไมถึงต้องอาเจียนด้วยล่ะครับ”

“แหม น้องใบหยกนี่ ไม่รู้เรื่องเอาซะเลย พี่หมายถึงว่าน้องชื่นกำลังจะมีน้องน่ะสิคะ”

“มีน้อง หมายถึงมีลูกน่ะเหรอครับ!!”

“แหม จะแปลว่าอะไรได้อีกล่ะคะ น้องใบหยกนี่ล่ะก็” นิดาทำเสียงกระเง้ากระงอด “น้องชื่นนี่สาวรุ่นใหม่ไวไฟจริงๆ เลยนะคะ เปิดปุ๊บติดปั๊บ พี่ซะอีกแต่งงานมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นมีกับเขาสักคน”

เพล้ง!!

เสียงวัตถุแตกดังสนั่นดึงความสนใจของคนทั้งสองที่กำลังต่อปากต่อคำกันอยู่ ทั้งใบหยกและนิดาคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนซุ่มซ่ามสักคน ดังนั้นทั้งคู่จึงแปลกใจไม่น้อยที่ได้เห็นว่าคนที่ทำจานเคลือบสีทองใบสวยหล่นลงพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ จะเป็นหญิงสาวที่สวยเฉียบทุกกระเบียดนิ้วอย่างแววดาริกา

“ริก้า เป็นอะไรหรือเปล่า”

“มะ... ไม่เป็นไรค่ะพี่ป๊อป ริก้ามือลื่นก็เลยทำจานหล่น แค่นั้นเอง”

“แน่ใจหรือเปล่าจ๊ะ หน้าซีดเผือดเชียว หรือว่าจะเป็นลมตามชื่นไปอีกคน พี่พาไปนั่งพักก่อนดีมั้ย ส่วนที่ทำแตกตรงนี้้เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้เอง”

“ไม่ค่ะ ไม่ต้อง... ริก้าไม่ได้เป็นอะไร”

หญิงสาวพยายามฝืนปั้นยิ้มทั้งๆ ที่รู้ตัวดีว่าทั้งมือ ทั้งเท้า ทั้งใบหน้าของตัวเองเย็นเฉียบราวน้ำแข็ง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระเด้งออกมานอกอก เออีสาวรู้ดีว่าตัวเองกำลังสั่นเทิ้มไปทั้งร่างแม้จะพยายามฝืนไว้ให้แลดูเป็นเป็นปกติ

ชื่นรักท้องกับรเณศ เป็นไปได้ยังไง!!!

หัวใจทั้งดวงของหญิงสาวกรีดร้องถามตัวเองอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่มีคำตอบจากที่ไหนเลย สิ่งเดียวที่แววดาริการู้คือเธอรับไม่ได้ ทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ

รเณศเป็นผู้ชายของเธอ และเธอจะไม่ยอมให้เขาไปเป็นพ่อของลูกของผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น!!


((โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ))


Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 17:25:25 น. 6 comments
Counter : 765 Pageviews.

 
ตอบคอมเมนต์ตอนที่แล้วค่ะ

น้องเน -- 55 อย่าลืมกินยาแก้แพ้ก่อนอ่านนะค้า ^^ สำหรับผลงาน อีก 2 เดือนพบกันค่า

คุณ ree -- ต้องติดตามกันต่อไปนะค้า ^^

คุณปุ๊ก -- รู้สึกทริปนี้ยัยชื่นมึนที่สุดอยู่คนเดียวนี่ล่ะค่ะ ^^

คุณคน-เหงา -- 55 อย่าแพ้เลยค่ะ เดี๋ยวจะทำอะไรไม่ถูกนะคะ แต่เรื่องนี้วุ่นกันอีกนานแน่ๆ ค่า ^^

คุณ ao -- ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

คุณ panwat -- ขอบคุณค่า สตรอเบอรี่น่าหม่ำมากๆ เลย

คุณ don't try this at home -- ขอบคุณค่า เช่นกันนะค้า

คุณ หนูลีลี -- กรี๊ดๆ เกิดวันเดียวกัน ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ โชคดีในทุกสิ่งค่า เห็นด้วยวันคนเกิดวันนี้หน้าตาดีทุกคน 55

คุณ nootikky -- ขอบคุณค่ะ

คุณ ต้นกล้าของหัวใจ -- ว้าว กลอนเพราะจังค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำอวยพร

คุณ ป้าหู้ -- ขอบคุณมากนะคะ ขอให้โชคดีมีสุขเช่นกันค่ะ

คุณ pantawan -- ขอบคุณมากเลยค่ะ

แล้วพบกันตอนหน้านะค้า


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:18:24:15 น.  

 
เอาเลยๆ เชียร์ริก้าเต็มที่ ยัยชื่นของเราจะได้...กับพระเอกหนุ่มได้สะดวก ฮี่ๆ


โดย: nay narilin IP: 223.206.64.39 วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:19:09:43 น.  

 
อ้าว มีแฟนใหม่แล้วยังจะเห็นแฟนเก่าเป็นของของตัวอีกเหรอ ยัยริก้านี่น่าหมั่นไส้จริงๆ


โดย: ree IP: 223.206.225.189 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:2:12:17 น.  

 
อ้าว..น้องชื่นท้องซะแล้ว..อิอิอิอิอิ


โดย: คน-เหงา IP: 202.28.180.202 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:8:28:11 น.  

 
โอละพ่อไปกันใหญ่แล้ว งานนี้ เข้าชื่นรักเต็มๆ เลย เล่นจนได้เรื่อง แต่ริก้านี่สิ ไม่ยอมแล้วจะทำยังไง
ดูแล้วริก้ากับเนส ยังมีแวว แต่ชื่นนี่สิ มองไม่ออก


โดย: ปุ๊ก IP: 61.91.4.2 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:20:52:49 น.  

 


Happy New Year 2012
ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆนะค้าา


โดย: แมวเหมียวก้อย วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:23:22:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.