... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
หนีตามโจ๊ก ติ่มซำ ทาร์ตไข่ ชานมถุงน่องไหม ขนมรังผึ้ง ฯลฯ ณ เกาะฮ่องกง (2)


เข้าสู่วันที่ 2 ของทริปตระเวนกินแล้วนะคะ ^^

สำหรับวันนี้ สองสาววางแผนกันไว้ว่าจะเที่ยวแบบสบายๆ ตื่นสายๆ แล้วค่อยออกไปหาอาหารกลางวันกินกันที่ร้านติ่มซำ Sweet Dynasty ที่จัดการถามที่ตั้งจากพนักงานของโรงแรมมาเรียบร้อย จากนั้นก็ข้ามไปสู่ฝั่งฮ่องกง ขึ้น Victoria Peak และตระเวนไล่ล่าหาของกินอร่อยๆ กันแถวๆ Central ต่อ ร้านที่หมายตากันไว้ได้แก่ร้านโจ๊ก Wai Kee Congee Shop บนถนน Stanley ที่หนังสือตระเวนกินในฮ่องกงบอกเอาไว้ว่าปาท่องโก๋ที่นี่อร่อยที่สุดในเกาะฮ่องกง มีคนมาซื้อถึงวันละเป็นพันชิ้นเลยทีเดียว จากนั้นก็เป็นทาร์ตไข่จากร้าน Honolulu Coffee Shop บนถนนเส้นเดียวกัน เพราะในหนังสือบอกว่าร้านนี้เป็น “ราชาแห่งทาร์ตไข่” เปิดขายทาร์ตไข่มาถึง 50 ปี มีคนมาซื้อถึงวันละเป็นหมื่นชิ้น!! ฟังดูน่าสนใจใช่มั้ยล่ะ แล้วนัก (อยาก) กินอย่างเราสองคนจะพลาดได้ยังไง

สำหรับต้อง การได้เดินเล่น ตระเวนกินเท่านั้นก็พอแล้วเพราะต้องแค่อยากพักผ่อน แต่โน้ตยังแอบอยากไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะหาทางไปถูก เพราะเคยไปครั้งนึงเมื่อนานมาแล้วและก็ไปกับทัวร์ด้วย เลยลองศึกษาวิธีการเดินทางไปเอาไว้ กะว่าถ้าหลงทางก็แล้วแต่โชคชะตาจะพาไปก็แล้วกัน ^^’’’ ประมาณว่าทริปนี้ไม่หวังอะไรมากค่ะ แค่ได้เดินเล่นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องคิดเรื่องงานก็สุดแสนจะแฮปปี้แล้ว

ราวๆ เกือบ 11 โมง โน้ตกับต้องถึงได้ออกเดินทางจากโรงแรมไปยังร้าน Sweet Dynasty เป็นที่แรก... ที่ออกเร็วนิดนึงเพราะพนักงานโรงแรมพูดเหมือนไปค่อนข้างยาก ต้องเผื่อเวลาไว้ หรือดีไม่ดีควรจะนั่งแท็กซี่ด้วยซ้ำ แต่เอาเข้าจริงหาเจอง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆ ร้านอยู่แถวๆ ต้นถนน Canton เลยด้วยซ้ำ อยู่แถวๆ จุดที่โน้ตกับต้องมัวแต่มองร้านช้อปปิ้งจนไม่ทันเห็นร้านอาหารน่ะค่ะ ^^’’’ เวรกรรมที่สุด แต่หาเจอง่ายก็ดีแล้ว โน้ตกับต้องเลยเดินขึ้นไปร้านอาหารเกาหลีที่อยู่ข้างๆ กันเพื่อจองโต๊ะสำหรับมื้อกลางวันวันรุ่งขึ้นก่อน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าไม่ต้องจอง ร้านเปิดตอนเที่ยง มาตอนใกล้เวลาเปิดก็ได้ เราก็เลยกลับลงมากิน Sweet Dynasty กัน ...ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพิ่ง 11 โมงนิดหน่อยคนก็เยอะมากแล้ว ขนาดเป็นวันธรรมดานะเนี่ย

สำหรับมื้อนี้ ด้วยความหิวจัดเลยลืมคว้ากล้องเสียสนิท อิอิ แต่ติ่มซำที่นี่อร่อยมากกกกกกกกกกกกก ทำให้นึกถึงร้าน Dragon Inn ร้านโปรดย่านไชน่า ทาวน์ สมัยอยู่อังกฤษเลย (ร้านที่ตอนนี้กลายเป็น Four Seasons ไปแล้วนั่นแหละ กระซิกๆ T^T) ไม่รู้ที่ฮ่องกงเขาทำกันได้ยังไง ของทอดถึงได้อร่อย แห้ง กรอบ ไม่อมน้ำมันแบบนี้ ขนาดปาท่องโก๋ห่อด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดยังกรอบอร่อยเลย มื้อนี้เลยจบลงด้วยความแฮปปี้ของโน้ตกับต้อง แม้สองสาวจะแอบบ่นกันว่ากินแต่แป้งๆ ของทอดๆ แบบนี้ มีหวังอ้วนแหงๆ แต่...ทั้งๆ ที่รู้อย่างนั้น อาหารบนโต๊ะก็หมดเรียบนะคะ (ฮา...)

หมดมื้ออาหาร โน้ตกับต้องก็พากันเดินฝ่าแดดร้อนจ้า ขึ้น MTR (ของเราเรียก MRT) จากสถานี Jordan ไปยัง Central ระบบรถไฟใต้ดินที่ฮ่องกงดีมาก จริงๆ ไม่ใช่แค่รถไฟหรอก รถเมล์ก็ดีเหมือนกัน สะดวก รวดเร็ว เข้าใจง่าย และคล้ายกับที่อังกฤษทำให้รู้สึกคุ้นเคยได้ไว ...พอข้ามฝั่งมาถึง เดินตากแดดไต่เนินไปนิดหน่อยก็ถึง Peak tram จุดขึ้นรถ tram เพื่อขึ้นไปชม Victoria Peak …งานนี้โน้ตกับต้องลงความเห็นกันว่าถ้าอากาศไม่ร้อนขนาดนี้จะดีมาก เพราะช่วงที่เราไปเรียกได้ว่าร้อนนรก... ร้อนพอๆ กับหรือยิ่งกว่าช่วงกลางวันที่เมืองไทยอะค่ะ แดดเปรี้ยงพอๆ กันเลย แถมยังมีความชื้นในอากาศสูงอีกต่างหาก แต่เราก็พูดกันว่ายังโชคดีที่ไม่เจอฝน เพราะเพียงแค่ 2 วันก่อนที่เราจะเดินทาง ไต้ฝุ่นระดับ 8 พัดเข้าฮ่องกงค่ะ เจ้านายโน้ตที่บินไปเทรนนิ่งในวันนั้นบอกว่ากลางคืนนอนไม่ได้เลย ลมพัดกระทบตึกตึงๆๆๆๆ ตลอดเวลา เรียกได้ว่าตอนที่โน้ตไปน่ะฝนซาฟ้าใสแล้ว แต่ผลตามมาก็คือนี่แหละค่ะ ร้อนตับแตกปนชื้น ดีที่ไหวตัวทันตั้งแต่ตอนจัดกระเป๋าไม่งั้นล่ะแย่เลย (เพิ่งจะได้ความรู้ใหม่นี่แหละค่ะว่าถ้าพายุจะเข้า พระจันทร์จะกลายเป็นสีส้ม ตอนแรกนึกว่าคนที่บอกล้อเล่นซะอีก ^^’’)

ในที่สุดก็มาถึง Victoria Peak เย้ๆๆๆ หลังจากดูละครหยกลายเมฆจนฝังหัวว่าอยากมาฮ่องกง ในที่สุดก็มาถึง The Peak แล้ว....... งานนี้คุณหนูต้องบอกว่าถ้าอีกหน่อยชั้นทะเลาะกับผู้ชายแล้วหนีมาที่ฮ่องกง แกต้องบอกให้เค้ามาง้อชั้นที่ Victoria Peak นะ โน้ตเลยจัดการจัดฉากให้ว่า คุณหนูต้องต้องไปนั่งรอเขาอยู่ที่ศาลาด้านบนแบบในละครนะจ๊ะจะได้ไม่ร้อน หุๆ

ภาพประกอบจาก The Peak ค่ะ







ตรงนี้อะค่ะ ศาลาที่โน้ตบอกให้คุณหนูต้องมานั่งรอพระเอกมาง้อ 55 แอบถ่ายภาพนี้ไว้เพราะตาช่างภาพคนนี้ดูลงทุนกับงานจริงจริ๊งงงง




รูปสองสาวสักหน่อย เดี๋ยวจะว่าเอ๊ะ ทำไมมีแต่วิว ไม่มีคน...




มาถึงบนนี้แล้วต้องถ่ายรูปนี้ด้วย...




เดินจนมึนค่ะ อากาศร้อนสุดๆ เลยแวะนั่งดับร้อนที่ร้านสมูตตี้ร้านนึง ชอบบรรยากาศของร้านนี้เพราะเจ้ารถไฟของเล่นที่วิ่งอยู่ด้านบนของร้านนี่แหละค่ะ ทำให้รู้สึกว่าเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนสบายๆ ดี อยากทำแบบนี้ที่บ้านบ้างจัง...







อยู่บน The Peak นานจนตัวเริ่มไหม้เกรียม เราก็เปลี่ยนบรรยากาศลงมาตามล่าหาของกินบ้างค่ะ งานนี้อีกแล้ว... ความหิวครอบงำเลยไม่สนใจจะถ่ายรูปประกอบ ส่วนนึงเพราะร้านอาหารไม่ได้มีบรรยากาศสวยงามด้วยค่ะ เลยกินแล้วเก็บมาเล่าอย่างเดียวพอ

หลังจากนั่ง tram กลับลงมาจาก Victoria Peak (โดยไม่สนใจปีนเขา) โน้ตกับต้องก็ดูแผนที่ แล้วดั้นด้นหาถนน Stanley ราวกับลายแทงขุมทรัพย์ เดินๆๆๆ กันอยู่นานกว่าจะพบถนน และได้พบว่าร้านโจ๊กดั๊นนน อยู่ซะลึกสุดถนนเลยทีเดียว ด้วยความที่ชื่อร้านเป็นภาษาจีนล้วน เราเลยเหวอเอ๋อไปแว้บนึงว่า เอ... ใช่รึเปล่าว้า จนโน้ตสังเกตเห็นว่าในหนังสือมีชื่อร้านภาษาจีนตัวเล็กจิ๋วอยู่ เลยลองเอาไปเทียบกับหน้าร้านดู ใช่จริงๆ แหละ เลยจัดแจงเข้าไปนั่งกินกันเรียบร้อย

สำหรับร้านนี้ ต้องกับโน้ตลงความเห็นกันว่าโจ๊กใช้ได้... แต่ปาท่องโก๋ร้อนๆ ที่ Sweet Dynasty อร่อยกว่าเลยแอบผิดหวังนิดนึงเพราะคาดหวังกันไว้ใหญ่โตมากกกกก แต่โน้ตก็ปลอบต้องว่าเอาน่า มันเย็นแล้วไงเลยอาจไม่อร่อยถูกใจเรา ดูสิ มีคนเดินเข้ามาซื้อปาท่องโก๋ด้วยนะ แสดงว่าร้านนี้ทำอร่อยจริงๆ นั่นแหละ ^^ อีกสิ่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของร้านนี้คือขนมแครอทที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวและมีรูปลงหนังสือ (ทำจากข้าวเหนียวแท้ๆ ไหงเรียกขนมแครอทไม่รู้เนอะ) ที่ร้านยกมาให้เพราะคิดว่าเราจะต้องสั่งแน่ๆ แต่สองคนนี้ไม่สนฮ่ะ ข้อแรกคือไม่ได้หิวขนาดนั้น ที่แวะมากินเพราะอยากชิมหรอก ข้อสองคือดูๆ แล้วไม่น่าจะถูกปากแหงๆ อย่าสั่งมาให้เสียของเลยดีกว่า

จากร้านโจ๊ก เราสองคนก็ยังดั้นด้นหาร้านทาร์ตต่อไป กะว่าถึงตอนนี้จะอิ่มจนกินไม่ไหว แต่ซื้อไปก่อนก็ยังโอเคน่า ...แล้วเจ้าทาร์ตนี้ก็ได้เป็นอาหารว่างของเราขณะขึ้นรถสาย 260 ไปยัง Repulse Bay ค่ะ โน้ตกับต้องชิมแล้วแอบผิดหวังเหมือนกัน คือไส้ทาร์ตน่ะอร่อย แต่ตัวแป้งมันร่วนมาก กินแล้วเลอะเทอะน่าดู ต้องเอาถุงขนมมารอง โน้ตกับต้องเลยลงความเห็นกันว่าเราชอบทาร์ตสูตรมาเก๊าของร้านวันแรกมากกว่า และตั้งใจว่าตอนเย็นขากลับโรงแรมต้องแวะไปสำรวจสักหน่อยว่าร้านตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ วันกลับจะได้แวะไปซื้อ

หลังจากขึ้นรถแบบงงๆ จนเลยป้ายไปหนนึง ในที่สุดสองสาวก็มาถึงศาลเจ้าแม่กวนอิมที่ Repulsy Bay กันตอน 6 โมงเย็นค่ะ เกือบมืดแล้ว.... ซึ่ง.... สิ่งที่เราสองสาวไม่ทันคาดคิดและถือเป็นโชคดี คือการล่าช้าของเราทำให้เราได้มายืนดูพระอาทิตย์ขณะกำลังตกดินพอดิบพอดีเลยค่ะ ท้องฟ้าสีฟ้าอมเทาถูกระบายด้วยสีส้มเหลือบทองจางๆ สวยมากๆๆๆๆๆๆๆ สวยชนิดที่ว่าภาพที่โน้ตถ่ายมาไม่ได้เศษเสี้ยวของบรรยากาศจริง ณ ตอนนั้นเลย พระอาทิตย์สีส้มที่ค่อยๆ หายลับเข้าไปด้านหลังภูเขาเป็นภาพที่มหัศจรรย์มากๆ และทำให้โน้ตยืนมองนิ่งด้วยความซาบซึ้งอยู่นานเลยค่ะ




ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาคุณหนูต้องเพ้อไปเหมือนกัน เราสองคนมองหน้ากันแล้วบ่นว่า "เฮ้อ... แกน่าจะเป็นผู้ชายนะ" 5555555 และแล้วสถานที่โรแมนติกในใจของต้องก็เปลี่ยนไปค่ะ จาก Victoria Peak เป็นริมหาด Repulse Bay ยามพระอาทิตย์ตกดินแทน...




ถึงตอนนี้โน้ตเลยตัดสินใจว่า ถ้าจะเขียนนิยายเกี่ยวกับฮ่องกง สถานที่โรแมนติกประจำเรื่องก็ควรจะเป็นที่นี่แหละ เวิร์คสุดๆ ...ชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยวของที่นี่ถือเป็นหาดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง... ถ้าเป็นไปได้ โน้ตก็อยากอยู่รอจนถึงเวลามืดสนิท ตึกกลายเป็นสีสวยๆ นะคะ เสียแต่ว่าเรากลัวว่าหากมืดแล้วจะอันตรายเพราะแถวๆ นี้ก็ไม่ใช่ตัวเมือง เลยตัดสินใจรีบกลับกันตอนที่คนยังเยอะๆ ดีกว่า...

อ้ะ... มีภาพกลับไปตอนที่ฟ้ายังไม่มืดให้ดูอีกนิดค่ะ







จะเห็นว่าวิวสวยมาก แต่นางแบบโทรมมาก ฮา... ตากแดดตากลมมาทั้งวัน เหนื่อยสุดๆ ค่ะ


สำหรับวันนี้โน้ตกับต้องกลับไปถึงถนนนาธานแล้วยังไม่วายแวะไปร้านน้ำมะม่วงที่ Haiphong Road กันอีกรอบ แหม... ก็มันทั้งร้อนทั้งเหนื่อยนี่นา ขอน้ำมะม่วงชื่นใจอีกสักนิดนึงเถอะ จากนั้นก็แวะไปแอบดูร้านทาร์ตไข่ แต่วันนี้ไม่ไหวค่ะ กินอะไรไม่ได้อีกแล้ว เลยได้แต่เหล่ๆ ทาร์ตเอาไว้แล้วกลับโรงแรมในสภาพที่เมื่อยล้าสุดๆ

กินเยอะขนาดนี้ แต่เชื่อปะคะ โน้ตเดินจนกางเกงหลวมอะ ตอนท้ายๆ ของวันถึงกับต้องเดินไปดึงกางเกงไป แต่ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะโน้ตกินเยอะจนกางเกงระเบิดไซส์ไปแล้วหรือเปล่า ไม่ใช่เพราะผอม

สรุปว่าวันนี้ตามหาร้านอาหารได้ค่อนข้างครบตามเป้าหมายค่ะ แอบเสียดายที่ไม่มีเวลามากพอจะแวะร้านชานมถุงน่องไหมที่ย่าน Wan Chai ร้านขนมปังสับปะรดที่บรรดาดาราฮ่องกงชอบแวะมากินอาหารเช้าแถวๆ Happy Valley และร้านซาลาเปาไส้ไก่ที่แถวๆ Central ตอนขึ้นรถไป Repulse Bay ร่ำๆ จะกระโดดลงหลายครั้งแล้วค่ะถ้าไม่มีสติยั้งคิดว่าคนเราควรจะทำตามแผนที่ตัวเองวางไว้...

แม้ของกินจะครบสมบูรณ์ดีพอควร แต่ทริปนี้ก็ยังไม่มีตัวละครเพิ่มเติมผ่านมาให้พบนะคะ ต้องรอลุ้นกันว่าใกล้จะกลับแล้ว ชีวิตของเชอรี่โน้ตกับนุ่นต้องจะมีอะไรผ่านเข้ามาหรือเปล่า





Create Date : 22 กันยายน 2552
Last Update : 23 กันยายน 2552 14:17:25 น. 7 comments
Counter : 1207 Pageviews.

 
บล็อกนี้ยังคงเป็นเพลงเดิมนะคะ อารมณ์ยังไม่เปลี่ยน อิอิ

ลืมบอกไป สำหรับใครที่เป็นแฟนเครื่องสำอางในเครือลอรีอัล ตอนนี้บริษัทมีจัด Mega Sale ที่อาคารบางกอก ซิตี้ ทาวเวอร์ ชั้น 24 อยู่นะคะ มีวันนี้จนถึงวันศุกร์นี้ช่วงเย็น โน้ตแว้บไปตอนเช้ามาแล้ว ทีแรกกะจะไปซื้ออะไรเลย แค่ไปดูเล่นเฉยๆ ปรากฏว่าเสียเงินหน้ามืด เพราะของที่มาลดรอบนี้ดีและลดเยอะค่ะ ขนาดหยิบแล้ววางๆ หลายชิ้นแล้วก็ยังหอบออกมาจนเหนื่อยเลยค่ะ

อุตส่าห์ไม่ช้อปอะไรเลยที่ฮ่องกง กินอย่างเดียว กลับมาก็ยังอดไม่ได้กับของเซลล์นะ ขอบอกว่างานนี้น้ำหอมลดเยอะมากกกกกก คนหยิบกันยังกะแจกฟรี ขนาดโน้ตไม่อยากได้น้ำหอมแล้ว ก็ยังได้ YSL Babydoll รุ่น Honeymoon Edition มาค่ะ กล่องโรแมนติกซ้า... พวกน้ำหอมอาร์มานี่ Limited Edition แพ็กเกจสวยมากก็เหลือพันเดียวเองค่ะ สุดยอดเลย

ที่น่าทึ่งสุดๆ คือ Lancome Platineum ขนาดพิเศษ 15 ml เหลือเพียงกระปุกละ 200 บาทเพราะเป็นไซส์พิเศษ!! งานนี้ถึงจะเกินอายุตัวเองไปมาก ก็ยังซื้อไปฝากคุณแม่ พี่ป้าน้าอาได้ค่ะ เพราะคุ้มมาก

อีกอันที่กรี๊ด คือชุด hair care สวยหรูของ Matrix ข้างในมีแชมพู คอนดิชันเนอร์ และมาส์ก ไซส์ปกติ พร้อมผ้าขนหนู บรรจุใส่กล่องผ้าสวยงาม ราคาแค่ 450 บาท!!! งานนี้มีแต่คนบอกว่าเหมือนได้เปล่า ถูกสุดๆ

ตอนนี้กำลังจ้องกองของอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกำลังคิดว่าจะแว้บลงไปอีกตอนเย็นๆ ค่ะ มีของที่ลังเลๆ แล้วหยิบออกที่กำลังตัดสินใจว่าจะกลับไปสอยดีหรือเปล่า ...แง้ โปรดส่งใครหยุดช้านที... กิเลสกำลังครอบงำสุดๆ


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:13:17:18 น.  

 
มาแล้วๆ มาตามเสียงเรียกร้องจ้า

โอ้ อ่านแล้วก็จินตนาการตามไป เสียดาย เสียใจที่ไม่ได้ไปด้วย ก็งี้แหละ ใช้วันหยุดจนหมดเกลี้ยงก็งี้เนอะ

ว่าแต่...เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยอัพบล็อค bloggang เท่าไรนะ คือถ้าอะไรก็เป็นความลับเนี่ย จะไปอัพใน Windows Live อันที่ใช้ msn น่ะ ว่างๆ ก็เข้าไปอ่านได้ อิอิ


โดย: อุรัสยา IP: 203.154.188.20 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:13:58:40 น.  

 
อุซ่าเขียนนิยายเกี่ยวกับฮ่องกงแล้วให้ซาเป็นนางเอกนะ อิๆ ซาขอพระเอกเป็นคนไทย ไม่เอาต่างชาตินะ

ซาว่าคราวหน้าเราไปลองชิมชานมถุงน่องไหมกะซาลาเปาไส้ไก่กันดีกว่า จะได้รู้ว่าอร่อยจริงป่าว

คิดถึงน้ำมะม่วงจังเรยยย...


โดย: ต้อง IP: 61.91.242.3 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:15:40:36 น.  

 
ชันย่า -- รับทราบเน้อ ไว้จะตามไปอ่านจ้า ^^
อิอิ ปีนี้วันหยุดฉันก็จะหมดแล้วเหมือนกัน เหลือ 3 วันไว้เผื่อฉุกเฉินอะ

ซาร่า -- ฮี่ๆ ซาอยากเป็นนางเอกจริงป่าว จะเขียนให้....
อืม หนหน้าจะลองไอ้ที่อยากกินแต่ไม่ได้กินให้หมดเลย แต่ชันย่าบอกว่าชาที่นั่นมันไม่อร่อยล่ะ ยังไงก็สู้บ้านเราไม่ได้

ตั้งแต่กลับมานี่ อุซ่ากินมะม่วงสุกกับชาเย็นทุกวันเลย แถมยังโหยหาของทอดๆ ตลอดเวลา อุซ่าจะกลายเป็นปลาวาฬในไม่ช้าแน่ๆ ถ้าไม่รีบควบคุม - -'''


โดย: ...ศุวิลา... IP: 81.255.154.129 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:18:05:20 น.  

 
ตอนนี้ตาร้อนผะผ่าวเลยค่ะ

อิจฉาพี่โน๊ตที่สุ๊ดดดดดดดดดดดดดดด

วิวสวยมั่กๆๆๆ น่าไปมากเลย หนูอยากไปฮ่องกงที่สุดเลยค่ะ กรี๊ดดดๆๆๆ อยากไปบ้างจังเลย

อยากไปลองชิมอาหารทุกอย่างเลย น่ากินทั้งนั้นเลย

น้ำลายไหลย้อยเลย


โดย: เดหลี IP: unknown, 202.44.135.35 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:21:29:27 น.  

 
อู้งาน มาดูรูปสาวสวยและเกาะงามๆ ก่อนจ้า

ปล ชอบสีผมโน้ตวุ้ย เปรี้ยวได้ลุคนางเอกพี่มาก (หมายเหตุ มีนางเอกค้างในสต็อกเพียบบบบ ไม่รู้จะได้เขียนเมื่อไหร่ ฮา)


โดย: bookmark IP: 58.147.94.130 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:9:57:55 น.  

 
น้องเดหลี -- พี่ว่าฮ่องกงอยู่ใกล้ๆ และมักจะมีโปรโมชั่นดีๆ อะ ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ไปนะเพราะใช้เวลาไม่เยอะก็เที่ยวได้ทั่ว ...ช่วงนี้ปลายปีแล้ว ราคาอาจจะขึ้นบ้าง แต่ช่วงต้นถึงกลางปี พี่มักจะเห็นมีทัวร์ไปฮ่องกง 3 วัน 2 คืน รวมตั๋ว ที่พัก และรถรับส่งสนามบิน อยู่ที่ 7000 - 8000 พันเองอะ แต่ช่วงนี้ถ้าหาดีๆ ก็ยังพอจะมีทัวร์ราคา 12000 - 13000 อยู่นะ แค่ค่าตั๋วก็คุ้มแล้วอะ เพราะตอนที่ไป ตั๋วการบินไทย 8000 เศษบวกภาษีราวๆ 3500 ซื้อทัวร์ที่ไว้ใจได้คุ้มกว่าเยอะ

พี่นี -- อิอิ ขอให้สุขภาพจิตดีขึ้นไวๆ น้าพี่นี เอาใจช่วยค่ะ
ว่าแต่ว่านางเอกเรื่องไหนง่ะ... ที่ทำออกาไนเซอร์ที่พี่นีเคยเล่าให้ฟังป่าวคะ


โดย: ...ศุวิลา... IP: 81.255.154.129 วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:16:17:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.