เชื่อใน "โชคชะตา" เดินตามทางที่อยากไป

<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2553
 

กลยุทธ์สู้หุ้น

เลือกเก็บเฉพาะข้อที่ขาหมูชอบคะ ข้ออื่น ๆ สามารถดูได้จากกระทู้ที่บอกไว้นะคะ ^_^

..................................................

กลยุทธ์สู้หุ้น !! ของคุณ สิปปกร ขาวสอาด บทความคัดลอก
กลยุทธ์สู้หุ้น โดย สิปปกร ขาวสอาด

1. เล่นหุ้นอย่างมีแบบแผน
วางแผนการแบ่งเงินลงทุน มีเงินเท่าไร จะเล่นหุ้นหรือจะเก็บออมเท่าไร ศึกษาว่าหุ้นกลุ่มใด หุ้นตัวใดคือเป้าหมาย แบ่งเงินออกเป็น 5 ก้อน และเลือกหุ้นเป้าหมาย 5 ตัวในจำนวนเงินเท่า ๆ กัน ตัวใดขึ้น ปล่อยให้ขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่าไปขวางทางการได้เงิน ตัวใดทรง อาจจะขายทิ้งก็ได้ ตัวใดลงให้รีบขายทิ้งทันที เมื่อขายแล้วก็นำเงินไปหาเลือกซื้อหุ้นตัวอื่นแทน

4. ต้องสงบนิ่งเมื่อสงสัยทิศทางตลาด
บางช่วง ทิศทางของตลาดจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ หันหัวจับทิศจับทางอะไรไม่ถูกเลย นักลงทุนต่างรอดูท่าทีซึ่งกันและกัน รวมทั้งการดูหุ้นแบบรายตัว ถ้าหุ้นตัวใด มีอาการเริ่มส่อนิ่งเงียบ ห้ามเข้าไปเล่นเด็ดขาด ไม่ต้องรอรีบาวน์หรือนั่งคาดการณ์ว่าถึงจุดรับควรรับได้แล้ว ถอยห่างดีกว่า จะไม่เสียอะไรเลยแม้แต่น้อย

5. รอจังหวะอย่างชาญฉลาดและอดทน
ถ้าเราหาโอกาสรอจับจังหวะหุ้นได้ มองรู้จังหวะเข้าออก เราเป็นต่อเขาแน่นอน แต่ปัญหาอยู่ที่ทำอย่างไร เราถึงจะค้นหา มองทิศทางของตลาดได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น ถ้าจะเล่นหุ้นให้ได้เงิน ได้กำไร จะต้องเล่นหุ้นช่วงขาขึ้นอย่างเดียว เลือกเล่นหุ้นตามจังหวะ คือสภาพตลาดดีซื้อ ตลาดแย่ขาย เข้าซื้อหุ้นก็ต่อเมื่อมองเห็นจังหวะหุ้นที่น่าจะมีรีบาวน์ โอกาสทำกำไรจะมีมากกว่าขาดทุน

6. เล่นหุ้นไม่เกิน 5 ตัว
กำหนดจำนวนหุ้นที่จะเล่น ไม่ควรเกิน 5 ตัว เพราะจะได้ติดตามได้ง่าย และถ้าหากตลาดเกิดแพนนิคขึ้นมาจะได้ขายทัน เลือกซื้อหุ้นเอาแต่ตัวเด่น ๆ เลือกเฟ้นมาอย่างดี เอาแค่ 2-3 ตัวก็พอแล้ว คนที่เขาเล่นหุ่นแล้วร่ำรวยจากหุ้นจริง ๆ เขามีหุ้นอยู่ในพอร์ต 2-3 ตัวเท่านั้น ขออย่างมากไม่เกิน 5 ตัวนะครับ

10. ซื้อหุ้นต่ำ...ขายหุ้นสูง
นักเล่นหุ้นที่คิดว่า จะซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำสุด หรือจะขายหุ้นได้ในราคาที่สูงสุด ถือว่าเป็นการเพ้อเจ้อที่สุด จริง ๆ แล้วทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ คนที่อยากขายหุ้นในราคาที่สูงสุด จะยังคิดว่าจุดนั้นราคายังไม่สูง ตรงนี้ยังไม่สูง ยังไม่ขาย สุดท้ายหุ้นก็ตกลงมาจนขายไม่ได้กำไรเลย หรือการซื้อหุ้น ด้วยหวังรอรับซื้อของถูก แต่เมื่อหุ้นมีการเด้งกลับขึ้นไป ก็ไม่สามารถซื้อได้ จะเสียเวลาเล่นหุ้นและไม่สามารถทำรอบกับหุ้นได้

16. ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
เล่นหุ้นบนพื้นฐานการตัดสินใจของตัวเองเท่านั้นเป็นดีที่สุด ในตลาดหุ้นมีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น เราอย่าเชื่อใครเด็ดขาดนอกจากตัวเราเอง แม้กระทั่งมาร์เก็ตติ้งที่ใกล้ชิดที่เป็นที่ปรึกษาก็ตาม เพราะมาร์เก็ตติ้งก็ต้องพยายามทำวอลุ่มเหมือนกัน เราต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ต้องทำการบ้าน ต้องมองแก่นแท้ของหุ้นแล้วค่อยกระโดดเข้าไป หรือเรามองสถานการณ์ออก มองภาพรวมชัดเจนค่อยเข้าไป

17. ความผิดพลาดถือเป็นบทเรียน
ต้องพิจารณาวิเคราะห์ความผิดพลาดของเราเสมอ อะไรคือดี อะไรคือแย่ เราจะต้องเป็นคนมองอะไรหลาย ๆ มุมแล้วเราจะปรับตัวเองได้ เมื่อปรับตัวเองได้ ความผิดพลาดทั้งหลายที่เกิดขึ้น ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ จนในที่สุดจะกลายเป็นจุดเด่นของเรา ตรงไหนเป็นจุดดีให้คงไว้ ตรงหนเป็นสิ่งที่ผิดพลาด ต้องพิจารณาวิเคราะห์สิ่งผิดพลาดที่ผ่านมาและมีการพิจารณาปรับปรุงครับ

18. ข่าวลือ ข่าวล่อ ข่าวหลอก ข่าวลวง
ข่าวเหล่านี้เกิดขึ้นปะติดปะต่อกันในตลาดหุ้นทุกยุคทุกสมัย ข่าวเหล่านี้ จะถูกนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ใช้ทำกำไรในตลาดหุ้น เราจะมองเห็นในเรื่องของตลาดหุ้น "เท็จคือจริง จริงคือเท็จ" ตลอด ดังนั้น เมื่อเราได้ยินข่าวมาแล้วควรจะต้องฟังหูไว้หู และใช้วิจารณญาณเฝ้าพิจารณา

19. อย่าเล่นหุ้นเกินตัว
เข้าตลาดหุ้นห้ามกู้หนี้ยืมสินชาวบ้านมาเล่นเด็ดขาด แบบนี้ถือว่าเล่นเกินตัว หมดตัวกันมาแยะแล้ว ในบรรดาพวกจับสือมือเปล่า หรือพวกเล่นหุ้นแบบมาร์จิ้นก็เช่นกัน ซื้อเช้าขายเย็น ปลายตลาดถ้าหุ้นตก ต้องมอบตัว ถูกกินและขาดทุนในที่สุด เราต้องรู้จักการจัดสรรเงินที่มีอยู่ ถ้ามีเงินอยู่หนึ่งล้าน ไม่จำเป็นจะต้องเล่นทั้งหมดหนึ่งล้าน

20. อย่าเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป
บางคนเข้าตลาดหุ้นแล้วคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้วิเศษ มองการเล่นหุ้นเป็นเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก มองอะไรก็คิดว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นหมด เวลาซื้อหุ้นก็ใส่เต็มที่ หากเราจะเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง ขอให้เชื่อในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องทำตัวอวดเก่ง ต้องยอมรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ ของคนอื่นบ้าง รู้จักผ่อน รู้จักไหลตามกระแส

21. อย่าสับสนคล้อยตามคำแนะนำของโบรกเกอร์
ที่ผ่านมา การลงทุนในตลาดหุ้น นักเล่นหุ้นมักจะขาดทุนจากตลาดหุ้น เพราะว่าการชี้นำจากพวกโบรกเกอร์ทั้งหลาย โบรกเกอร์เขาทำหน้าที่ของเขา เพื่อที่จะสร้างรายได้ให้กับเขาเอง บางโบรกเกอร์ต้องหาหุ้นมาให้ลูกค้าเล่นเพื่อเป็นการสร้างรายได้ ส่วนใหญ่แล้วโบรกเกอร์มักพลิกลิ้นได้เสมอ เมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ พาไป

22. อย่าลงทุนเพราะเชื่อคำบอกของนักลงทุนคนอื่น
การไว้วางใจนักลงทุนด้วยกัน ก็มีผลเสียอย่างที่ได้เรียนไว้หลาย ๆ ครั้งแล้ว อยู่ในตลาดหุ้นเชื่อคนอื่นมาก ๆ ก็ไม่ได้ เพราะเราจะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน เขาคิดทำอะไร ในวงการหุ้นเวลาเขาจะปั่นหุ้นสร้างราคา บางทีบางครั้งจะส่งคนมานั่งตามห้องค้า แล้วสร้างกระแสกระจายข่าวในห้องค้า สร้างข่าวต่าง ๆ ออกมา หากใครเชื่อตามก็จะหลงเป็นเหยื่อพวกขบวนการนี้

23. อย่าซื้อหุ้นด้วยอารมณ์
การซื้อหุ้นด้วยอารมณ์อาจะทำให้เราสูญเสียได้มาก เพราะเราไม่สามารถพิจารณาอะไรได้ถ้วนถี่ บางคนที่ทำหุ้นปั่นหุ้น หากจะเรียกคนเข้ามาซื้อหุ้นตามเขา เขามักจะสร้างภาวะตลาด สร้างภาวะหุ้นให้ดูดี ให้คนเกิดอารมณ์ร่วมเล่นด้วย ถึงแม้ว่าหุ้นตัวนั้นจะเป็นหุ้นเน่าก็ตาม เมื่อเขาดึงดูดอารมณ์ของคนอื่นให้คล้อยตาม แห่ไปตามแนวทางที่เขาได้วางไว้แล้ว ก็จะเริ่มขายออกมา เราจะไม่ให้อารมณ์ของเราคล้อยตามไปอิงแอบกับคนใดคนหนึ่งให้เขาชักจูงเราไปง่าย ๆ

...........................

จากกระทู้ //www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I9645827/I9645827.html


Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 18:27:29 น. 0 comments
Counter : 893 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Ooh 1234
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Hello all of you.
Welcome to my blog....
[Add Ooh 1234's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com