เงินล้านแรกยากที่สุด

คำพูดนี้ผมมักจะได้ยินบ่อยๆสมัยตั้งแต่ยังเด็ก เค้าว่า เงินล้านแรกจะยากที่สุด หากได้ล้านแรกแล้ว ล้านต่อๆไปจะง่ายมาก ผมมองว่าคำพูดนี้ สำหรับคนสมัยก่อนถือว่าจริงทีเดียว แต่คงใช้ไม่ได้กับยุคปัจจุบันเท่าไหรนัก

ผมคิดว่าคำพูดนี้ใช้กับยุคก่อนได้ เพราะสมัยก่อน เงินเดือนสำหรับพนักงานประจำหรือข้าราชการไม่ได้สูงนัก การที่จะเก็บเงินให้ถึงล้านแรกได้นั้น เป็นไปได้ยาก คนที่จะมีเงินถึงล้าน ต้องเป็นเถ่าแก่ หรือเจ้าของกิจการ และการที่จะสร้างกิจการซักกิจการหนึ่งให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หลายคนต้องล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะประสบความสำเร็จจนได้ล้านแรกมานั้นยากแสนยาก แต่เมื่อคนๆนั้นผ่านจุดนั้นมาได้ ความรู้ที่ใช้ทำเงินล้านแรก ก็สามารถนำมาสร้างล้านต่อไปได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ผิดกับสมัยนี้ การที่พนักงานกินเงินเดือนธรรมดาจะมีเงินล้าน ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนสมัยก่อน บางคนอย่างหมอ มีเงินเดือนเป็นแสนๆ แค่ปีเดียวก็ได้แล้วล้านนึง หรือบางคนจบปริญญาตรี ทำงานซักสิบปี เงินเดือนเดือนละหมื่นสองหมื่น ก็สามารถมีเงินล้านได้ แต่เงินที่ได้จากการเป็นพนักงานกินเงินเดือน กับ การเป็นเจ้าของกิจการนั้นต่างกัน พนักงานกินเงินเดือนเริ่มได้เงินอย่างง่ายๆ แต่คงที่ หรือเพิ่มนิดหน่อย ผิดกับ เจ้าของธุรกิจ ตอนแรกๆอาจได้น้อยหรือไม่ได้เลย แต่หากประสบความสำเร็จ รายได้สูงอย่างไร้จำกัด เหตุผลที่คนโดยมากอยากเป็นพนักงานกินเงินเดือน เพราะไม่กล้าเสี่ยงกับการเริ่มต้นของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะคนที่เงินเดือนสูงๆ อย่างที่หนังสือพ่อรวยใช้คำว่า หนูติดจั่น

จริงๆจำนวนเงินไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญ มันอยู่ที่วิธีที่ได้เงินมามากกว่า การที่เราขายแรงงานเพื่อให้ได้เงินมา แม้มันจะเป็นเงินที่สูง แต่ทุกครั้งที่เราต้องการเงินอีก เราก็ต้องทุ่มแรงกาย และเวลาเท่าเดิมเพื่อที่จะให้ได้เงินจำนวนเท่าเดิม คำว่าล้านที่สองสามจึงไม่ง่ายกว่าล้านแรกซักเท่าไหรนัก ผิดกับคนที่ทุ่มเทเวลาและแรงกาย เรียนรู้วิธีหาเงินจนได้ล้านแรก การจะได้ล้านที่สองที่สามมา ย่อมง่ายและเร็วกว่าล้านแรก เพราะไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกอีก

Create Date : 28 พฤษภาคม 2554		0 comments
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 11:24:33 น.
Counter : 2111 Pageviews.
Share Tweet