วันนี้ผมอยากจะบอกเล่าเก้าสิบให้ทุก ๆ ท่าน ได้ทราบถึงเรื่องของโรคเบาหวาน (Diabetes Mellistus) ซึ่งในปัจจุบันนี้นับว่าเป็นโรคยอดฮิตที่จะติดอันดับท๊อปเท็นกับเขาเหมือนกัน เพราะฉะนนั้นมารับรู้เรื่องนี้กันเอาไว้หน่อยก็ดีน๊ะครับ อย่างน้อยก็รู้ไว้สำหรับบอกต่อก็ได้น๊ะครับ
เบาหวานคืออะไรโรคนี้เกิดจากตับอ่อนสร้าง ฮอร์โมน อินซูลิน(Insulin) ได้น้อยหรือไม่ได้เลย ฮอร์โมนชนิดนี้มีหน้าที่คอยช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลมาใช้เป็นพลังงานเมื่ออิน๙ลินในร่างกายไม่พอ น้ำตาลก็ไม่ถูกนำไปใช้จึงเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เมื่อน้ำตาลคั่งในเลือดมาก ๆ ก็จะถูกไตกรองออกมาในปัสสาวะทำให้ปัสสาวะหวาน ทำให้มดขึ้นได้ จึงเรียกว่า เบาหวาน ผู้ป่วยมักจะมีอาการ ปัสสาวะบ่อยและมาก เนื่องจากน้ำตาลที่ออกมาทางไต จะดึงเอาน้ำจากเลือดออกมาด้วยจึงทำให้มีปัสสาวะมากว่าปกติ เมื่อปัสสาวะมากก้ทำให้รู้สึกกระหายน้ำ ต้องคอยดื่มน้ำบ่อย ๆ และเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถนำน้ำตาลมาเผาผลาญเป็นพลังงาน จึงหันมาเผาผลาญกล้ามเนื้อและไขมันแทน ทำให้ร่างกายผ่ายผอม ไม่มีไขมันกล้ามเนื้อฝ่อลีบ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง นอกจากนี้ การมีน้ำตาลคั่งอยู่ในอวัยวะต่าง ๆ จึงทำให้อวัยวะต่าง ๆ เกิดความผิดปกติ และนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนมากมาย
ใครบ้างที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน- ผู้ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 25 กิโลกรัม/ตารางเมตรสูตรในการคำนวณดัชนีมวลกาย เท่ากับ น้ำหนัก หารด้วยความสูง
มีญาติสายตรงคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง คนใดคนหนึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน
- เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือเคยคลอดบุตรที่มีน้ำหนักแรกเกิดมากกว่า 4 กิโลกรัม
มีภาวะความดันโลหิตสูง (ความดันตั้งต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป)
- มีระดับไขมันในเลือดผิดปกติ HDL-C มีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 35 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และ/หรือ ไตรกลีเซอร์ไรด์มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 25 มลลิกรัมต่อเดซิลิตร
อาการที่น่าสงสัยว่าเป็นเบาหวาน
หิวบ่อย
- ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมาก
กระหายน้ำ
- น้ำหนักลด
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- เป็นแผลแล้วแผลหายช้า
น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ตาพร่ามัว
ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้ จะเพิ่มความรุนแรงและลุกลามมากขึ้นตามลำดับ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีเพราะว่าโรคเบาหวานเป็นโรคที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายมาก
โรคแทรกซ้อนที่อาจพบได้ เมื่อเป็นเบาหวานมานาน โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง หรือปล่อยปละละเลย เช่น
ตา อาจเป้นต้อกระจกก่อนวัย ประสาทตาหรือจอ (retina) เสื่อม อาจทำให้ตาบอดในที่สุด
ระบบประสาท ผู้ป่วยอาจจะเป้นปลายประสาทอักเสบ มีอาการชาหรือปวดแสบปวดร้อนตามปลายมือปลายเท้า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแผลที่เท้าได้ง่าย (อาจลุกลามจนเท้าเน่า)
ไต มักเสือม จนเกิดภาวะไตวาย มีอาการบวม ซีด ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายของผู้ป่วยเบาหวานที่พบได้ค่อนข้างบ่อย
ผนังหลอดเลือดแข็งตัว (artherosclerosis) ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง อัมพาต โรคหัวใจขาดเลือดถ้าหลอดเลือดที่เท้าตีบแข็ง เลือดไปเลี้ยงเท้าไม่พออาจทำให้เท้าเย็น เป็นตะคริวหรือปวดขณะเดินมาก ๆ หรืออาจทำให้เป็นแผลหายยากหรือเท้าเน่า (ซึ่งอาจเกิดร่วมกับการติดเชื้อ)
เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากภูมิต้านทานโรคตำ เช่น วัณโรคปด กะเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ (ตกขาวและคันในช่องคลอด) เป็นฝีพุพองบ่อย เท้าเป็นแผลจนอาจลุกลามจนเกิดเท้าเน่า (อาจต้องตัดนิ้วหรือตัดเท้าทิ้ง) เป็นต้น
หากคุณมีอาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้านท่านได้ทันทีเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวท่านเอง
สรุปจบแล้วครับหวังว่าท่านคงได้รับความรู้เพิ่มเติมกันน๊ะครับ
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ
//thailandtravel.bloggang.com/
สถานที่ท่องเที่ยว จองโรงแรม