สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
เชื้อบ้าหน้าร้อน

เรื่องสั้น เชื้อบ้าหน้าร้อน
โดย สุภารัตถะ


ร้อนนี้ ร้อนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เป็นคำพูดที่จะต้องได้ยินไปเสียทุกครั้ง เมื่อถึงช่วงเวลาสภาพอากาศมีอุณหภูมิสูงสุดของฤดูกาลหนึ่ง ซึ่งจะเพิ่มอุณหภูมิมากขึ้นไปกว่าปีก่อนเสมอ

“ถ้าไม่แน่ใจว่าสุนัขตัวนั้นจะบ้าหรือไม่ ให้จับขังไว้ก่อนเพื่อดูอาการ หรือจะเอามาให้หมอดูก็ได้ แต่ถ้าคุณจับสุนัขตัวนั้นไม่ได้ สิ่งควรทำคือการฉีดยาป้องกันโรคกลัวน้ำ เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน” หมอพูดพร่ำ ไม่เชื่อว่าคนสมัยนี้จะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้

“เขาไม่ได้ถูกหมากัดค่ะ” แอนนิต้าเสียงเบาลงเหมือนหมดแรง ยังคงยืนยันด้วยประโยคเดิมทั้งน้ำตา หลังการพูดคุยซึ่งคล้ายถกเถียงด้วยถ้อยคำซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง จนคนเป็นหมอเริ่มมีน้ำโห หล่อนเหมือนไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายทั้งที่ดูมีการศึกษา ทำให้คนมีการศึกษาทั้งคู่ ถกกันด้วยประโยคเดิมในอาการต่างฝ่ายต่างไม่พอใจ ครั้นจะหาร่องรอยการถูกสุนัขกัด เนื้อตัวของธนูก็มีแต่รอยฟกช้ำดำเขียวและเป็นแผลเหวอะหวะหลายที่ อีกทั้งมีอาการบาดเจ็บสาหัสจนต้องนำเข้าห้องไอซียู



ธนูเป็นคนรุ่นใหม่ มีอิสระกับการจับจ่ายอย่างบรมสุขจากบัตรขนาดมินิ ใช้ชีวิตเบ็ดเสร็จตามสูตรของความครบครัน คอนโดหรู รถยนต์ มือถือ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอุปโภคบริโภค และสารพันวัตถุอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตแทบทุกอย่าง ด้วยหน้าที่การงานที่ดีและช่องทางการใช้เงินที่ไม่ยาก จนแทบไม่รู้จักว่า วิถีชีวิตชาวบ้านอันสมถะกับวัตถุ ใช้น้อย ใช้นาน และใช้อย่างคุ้มค่า เป็นอย่างไร

อาจเป็นเพราะ เขาอยู่ในยุคซึ่งโลกมีเรื่องราวให้เล่นสนุกเกลื่อนกลาดทีเดียว แต่ยิ่งมีเรื่องราวให้คนคาดหวังมากเท่าใด ก็รังแต่จะเป็นภาระให้ผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น บางคนถึงกับยอมเอาชีวิตเข้าแลกเปลี่ยนกับความผิดหวังไม่กี่เรื่อง หรืออาจเป็นเรื่องน้อยนิดสำหรับคนอื่นด้วยซ้ำ เมื่อกังวลแต่เรื่องภายนอกเช่นนี้ ก็ย่อมทำให้ลืมเลือนเรื่องภายใน ตราบวาระสุดท้ายของชีวิตที่หมดไปก็อาจยังไม่ได้ตระหนัก เพราะเฝ้าพะวักพะวนจดจ่อกับเรื่องนอกตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่พวกเขาอ่อนล้ากับการวาดหวังให้ชีวิตเป็นไปตามต้องการครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทันทีแค่พอมีแรง ก็พร้อมจะกระโจนเข้าหาความหวังให้กับชีวิตอีก ยิ่งเป็นยุคอันมีเรื่องราวน่าลองน่าเล่นให้เลือกเข้าปฏิบัติสัมพันธ์ได้มากมาย อย่างที่เรียกว่าเป็นอิสระต่อกิเลสตัณหาทุกรูปแบบ

แต่แล้ว..โดยไม่คาดหมาย ธนูเหมือนจะเดินแยกจากเส้นทางเดิม เข้าสู่วิถีแห่งจิตวิญญาณด้วยแรงดลใจบางอย่าง คิดได้กับการกระทำอันเอาแต่เพลินเพลิดเทคโนโลยีและชีวิตสุดสะดวกจากสังคมบริโภค ด้วยการจับจ่ายทันใจนึกกับสิ่งต้องการและยั่วให้ต้องการอย่างไม่มีขีดจำกัด จนแทบไม่เคยมีเวลาสังเกตเลยว่า ที่ผ่านๆ มา ธรรมชาติรอบตัวเป็นอย่างไร หน้าร้อนอากาศมันจะร้อนขนาดไหน ก็เพราะเจ้าเครื่องปรับอากาศสองตัวนั่นแท้เทียว ส่วนหน้าหนาวอากาศจะเหน็บหนาวเพียงใด กับเสื้อกันหนาวหลากยี่ห้อมากเกินพอ ภัยธรรมชาติแสนโหดร้ายทารุณ ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า พายุหิมะ ทะเลโคลน และอีกมากมาย จะกลืนกินชีวิตผู้คนและเหล่าสัตว์ไปมากมายเท่าใด ธนูผู้ก้าวทันโลกเสมอ ราวจะถอยหลังกลับมารับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและสัมผัสมันได้อย่างลึกซึ้ง น้ำตาของคนยากไร้ผู้ใดกันมีอำนาจรดรินลงบนขั้วหัวใจของเขาได้ ทั้งที่เคยสาละวนหลงโลกซึ่งเต็มไปด้วยจิปาถะเรื่องราวอันเป็นสีสันตระการตาให้กับชีวิตยิ่งนัก

สองวันมานี้ ราวเขารับรู้ได้ถึงกลีบดอกไม้อันอ่อนบางเหลือเกิน สัมผัสมันอย่างแผ่วเบา น้ำหูน้ำตามันตื้ออยู่ภายใน เสียงลมร้อนกระซิบบอกเขาว่า นอกจากชีวิตง่ายที่จะตายทุกขณะ แม้ดูเหมือนยากสำหรับคนประเภทอยากตายก็ตาม ชีวิตยังง่ายที่จะระเบิดอารมณ์อันแสนรันทดได้ทุกวินาทีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงเวลาหน้าร้อน กับอากาศร้อนแรงกระทั่งทำให้สุนัขเป็นบ้าได้ หรือว่าบรรยากาศอันร้อนรุ่มนั้น มีผลกระทบจิตใจให้รุ่มร้อนทวีคูณ ขาดความสามารถต่อการควบคุมหรือยับยั้งชั่งใจได้ง่ายๆ

หน้าร้อน ร้อนขึ้นทุกปี ประโยคซ้ำๆ ที่ไม่เคยสนใจ แต่ไม่ใช่สำหรับปีนี้ เสมือนคำพูดนั้นได้เข้ามานั่งอยู่ในกลางใจของเขาเสียแล้ว ภาพวิกฤตภัยแล้งซึ่งชาวเกษตรกรต้องเผชิญ ถ่ายทอดผ่านจากหน้าจอทีวี แสดงความหนักข้อ และมีทีท่าว่าอากาศจะร้อนเร็วขึ้นทุกปี อันหมายถึงช่วงเวลาของความแห้งแล้งก็จะยาวนานขึ้นด้วย

ต้นลำไยยืนต้นตายท่ามกลางท้องฟ้าระอุไปด้วยเปลวแดด บนผืนดินระแหงกับรอยแตกปริ ซึ่งราวจะพยายามระบายไอร้อนขึ้นมาอย่างเหลือทน ชวนให้ธนูปลงว่า ใบลำไยสีน้ำตาลไหม้พาดูกันปลิวไสวไปตามแรงลมร้อนอย่างรื่นเริงนั้น คงแสดงความยินดีปรีดาเมื่อผ่านความตายและช่วงเวลาอันเจ็บปวดไปแล้ว จิตใจของเขาแห้งเหี่ยวและเป็นสุขสลับกันอย่างน่าตระหนก ความเศร้าจู่โจมอย่างรุนแรงและหนักหน่วง แต่นั่นยังไม่เทียบเท่าการพิจารณาถึงความทุกข์ ความโกรธ ความท้อแท้ ความสิ้นหวัง ความหมดอาลัยตายอยากของหมู่มวลมนุษย์ จากมหันตภัยที่เกิดกับโลก หรือเขาเริ่มจะสำนึกแล้วว่า ชีวิตเป็นภาระอันหนักอึ้ง และการเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคขาดเงินไม่ได้อย่างสมัยนี้ แต่การเข้าถึงสัจจะสภาวะด้วยความเข้าใจกับการเสียศูนย์นั้น มันมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง



พยานหลายรายให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เห็นธนูตาขวาง เดินตัวตรงทื่อ ใครเรียกก็ไม่หัน หากจะหันเพราะสำนึกได้ว่ามีใครเรียก ก็จะเอี้ยวตัวมาอย่างยากลำบากไม่เป็นไปโดยธรรมชาติ เหมือนจะต้องหันไปเสียทั้งตัวและใช้พื้นที่มากในการเปลี่ยนทิศทาง เขาคำรามอยู่ในลำคอตลอดเวลา น้ำลายฟูมอยู่มุมปาก เมื่อเดินถึงใคร ก็จะทำร้ายด้วยอาการจะเข้ากัด สลับกับการหยุดชะงักด้วยกิริยาประดุจว่าเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งนัก วัยรุ่นท่าทางเอาเรื่องสองสามคนวิ่งไปคว้าไม้มาตีเขา ทันทีที่ตั้งตัวได้หลังจากถูกเขาเข้าไปคำรามใส่

“มีเด็กๆ วัยรุ่นด้วยกันอีกหลายคน เข้ารุมกระหน่ำตีเขาครับ”
“คงเป็นพวกๆ เดียวกัน เด็กสมัยนี้มันใจร้อนจริงจริ๊ง”
“โอย มันน่ากลัวเหลือเกินค่ะ”
“พวกนั้นตีเขาเหมือนตีหมา”
“เขาทั้งสู้ทั้งร้อง และวิ่งหนีไปที่พงหนาม”
“คนที่รู้จักเขา พยายามเรียก พอถามอะไร.. เขาก็เอาแต่คำราม”
“พอเขาวิ่งออกมา ฝูงคนก็แตกฮือ เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายเอา”
“แต่พอมีกลุ่มเด็กจะเข้ามาตีเขาซ้ำ พวกเราก็ตัดสินใจเข้ารวบตัวเขาทันที ไม่งั้นไอ้เด็กเลือดร้อนพวกนั้นมันเอาตายแน่”
“พอจับได้ ก็มัดเอาไว้ที่เสานี่แหละครับ”
“พวกเราทุกคน พยายามซักถามเขาแล้วนะครับ ว่าเป็นอะไร อยากได้อะไร ผิดหวังเรื่องอะไร.. เขาก็เอาแต่คำราม ตาขวาง และจะทำร้ายคนอื่นๆ..”

ขณะนั้นแอนนิต้า กำลังเดินผ่านมาตามเส้นทางเกิดเหตุเพื่อกลับห้องพอดี เธอชะเง้อมองกลุ่มไทยมุงด้วยความใคร่รู้ พอชำเลืองเห็นธนูถูกมัดกับเสาในสภาพสะบักสะบอม ถึงกับร้องกรี๊ด แร่ถลาเข้ามากลางกลุ่มคนอย่างขวัญเสีย ครั้นจะเข้าไปหาใกล้ๆ ก็ถูกรั้งไว้และมีคนเตือนให้ระวังตัวหน่อย ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมเขาจึงเป็นอย่างที่เห็น สงสารคนรักจนทำนบน้ำตาพังทลาย หลายคนเข้ามาบีบนวดและให้ดมยาลม เมื่อเห็นเธอแทบจะหมดสติ

เมื่อรู้สึกดีขึ้น จึงให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่เป็นรายสุดท้ายว่า เพิ่งกลับมาจากการไปซื้อยาหน้าปากซอย เพราะช่วงสงกรานต์สามวันนี้ ธนูเอาแต่นอนอยู่ในห้อง ชวนไปเล่นน้ำ ก็บ่นว่าปวดหัว เจ็บคอ ไม่ทานข้าว แรกๆ ก็เห็นเอาแต่ดื่มน้ำ หลังๆ กลับไม่ยอมกินน้ำ ไม่อาบน้ำ พอวันนี้ถามว่าไม่ไปทำงานหรือ ก็เอาแต่คำรามในลำคอ ตาลอย เธอก็เลยออกไปข้างนอกเพื่อซื้อยามาให้ ขณะเดินกลับเข้ามา ก็เห็นเขาถูกมัดอยู่กับเสาอย่างน่าเวทนาเช่นนี้

ตำรวจรีบปล่อยตัวธนู และให้เธอพาไปโรงพยาบาล เขาถูกมัดอย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่รายงานหมอว่า ข้อมูลซึ่งฟังจากชาวบ้านทั่วไป ธนูอาจมีอาการของโรคกลัวน้ำก็ได้ ส่วนสภาพถูกรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็น่าหนักใจไม่แพ้กัน หมอผู้เชี่ยวชาญโรคพิษสุนัขบ้าเข้าร่วมตรวจอาการด้วย แอนนิต้ายืนยันว่าธนูไม่เคยถูกสุนัขกัดแน่นอน อาการของเขาหนักเกินคณะแพทย์จะรักษาชีวิตไว้ได้ โดยหมอเองก็ยังไม่รู้ว่า ธนูตายเพราะบาดเจ็บสาหัส หรือเชื้อพิษสุนัขบ้าขึ้นสมองเสียแล้ว นอกจากจะพิสูจน์โดยทำการผ่าศพ



กลับมาถึงห้องพักด้วยความสับสนและหมดเรี่ยวหมดแรง โลกทั้งโลกพังครืนชั่วพริบตา แอนนิต้าอยู่ในสภาพนิ่งงันทั้งที่อยากหวีดร้องให้สุดเสียงกับเรื่องราวสุดคาดคิด เมื่อเข้าไปดูที่โต๊ะทำงานของคนรัก สภาพโต๊ะกลับถูกจัดเรียบร้อยอย่างไม่น่าเชื่อ จดหมายกองพะเนินเทินทึกแฝงไว้ด้วยความเป็นระเบียบ มันคงถูกเปิดอ่านแล้วนับครั้งไม่ถ้วนและถูกจัดวางลำดับเป็นอย่างดี เธอค่อยๆ เปิดดูจดหมายเหล่านั้นด้วยมืออันสั่นเทา เป็นจดหมายเชิญธนูให้ออกจากงานมาตั้งแต่ต้นปี เพราะบริษัทจะปิดตัวหลังประสบภาวะขาดทุนมาหลายปี แม้จะยังเห็นว่าเขาออกไปทำงานอยู่ก็ตาม จดหมายฟ้องร้อง จดหมายทวงหนี้และประนอมหนี้จากการกู้ต่างๆ ทั้งธนาคาร ไฟแนนท์ ทั้งหนี้รถ หนี้บัตรเครดิต หนี้โน้ตบุ๊ค แม้แต่มือถือรุ่นใหม่ซึ่งสามารถเล่นคาราโอเกะ รับส่งสัญญาณทีวี ส่งข้อความและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็ยังผ่อนชำระไม่หมด

ภาพความทรงจำถึงวันจดทะเบียนสมรสระหว่างเธอกับเขา เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ ผุดขึ้นเป็นระลอก ความสมหวังเกินบรรยาย กับชายหนุ่มเพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง จนเพื่อนๆ วัยสาวคราวเดียวกันต้องพากันรุมอิจฉา ความสุขในทรัพย์สินส่วนใหญ่มีชื่อของเธอร่วมอยู่ด้วย ภาพต่อภาพแห่งความสุขลอยคว้างอยู่ตรงหน้า ทว่าความเจ็บปวดทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นั้นบีบอัดแน่นอยู่ที่ใจ ฉับพลัน รู้สึกมีอาการชาไปทั้งมือและเท้า คอเริ่มแข็ง ไม่รู้ตัวว่าตาเริ่มขวาง หน้าตาอันงดงามของเธอบิดเบี้ยว น้ำลายเริ่มแตกฟอง ค่อยๆ ทะลักออกมาฟูมปาก.. การควบคุมอารมณ์ในหน้าร้อนเป็นเรื่องยากลำบากยิ่ง สังเกตได้จากผู้ที่มีเล็บงามเช่นสุนัข..ซึ่งมีอารมณ์ร้อนแรงขึ้นทุกปี ไม่ต่างจากสภาพอากาศของเมืองไทย




Create Date : 05 ตุลาคม 2548
Last Update : 10 มิถุนายน 2549 16:11:02 น. 0 comments
Counter : 510 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.