สุภารัตถะ บล็อก
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
23 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 

มาฆบูชา วันแห่งรักแท้


วันมาฆบูชา
คือวันแห่งความรักแท้จริงและยิ่งใหญ่


พุทธศาสนิกชนมีความเชื่อในเรื่องกรรม ซึ่งก่อให้เกิดกาลเวลา อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นผลพวงและการส่งจากผลกรรมที่ไม่มีวันหมด โยงใยจากอดีตชาติ มาถึงปัจจุบันชาติ และไปถึงอนาคตชาติ ความทุกข์แห่งวัฏฏะนั้นยาวนานจนยากเกินจะสามารถนับเวลาได้ ว่าเนิ่นนานมาแล้วเท่าใด ที่มนุษย์คนหนึ่งมีความเป็นมาอย่างไร และจะเป็นต่อไปอย่างไร จมอยู่ในสังสารวัฏชั่วกัปกัลป์กับสถานะอันขึ้นๆ ลงๆ เพราะจิตนั้นล้วนสนุกอยู่กับความดี-ชั่ว ความชอบ-ชัง ความรัก-เกลียด ฯลฯ ว่ายเวียนอยู่กับลักษณะทวิภาวะเช่นนี้ เมื่อมาสุดโต่งทางหนึ่ง ก็วิ่งกลับไปยังอีกทิศทางหนึ่ง ด้วยความขัดแย้งในใจที่เป็นทุกข์หมุนวนไม่เคยสิ้นสุด จนกว่าจะเกิดปัญญา ลอยบุญลอยบาปดับขันธ์ปรินิพพาน เข้าสู่ความสงบมั่นคงในสภาวะที่ไม่หวั่นไหว ไม่แปลกแยก และไม่หลงเหลืออัตตา

และหากเรารู้ซึ้งถึงความสุขที่สุดแห่งดวงจิตว่าเป็นเช่นใด เราก็ย่อมอยากจะมอบความสุขเช่นนั้นให้กับคนที่เรารัก สุขที่ไม่ต้องกลับมาเป็นทุกข์ สุขที่เป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวง ไม่มีสุขใดเท่ากับสุขในความรักที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แบ่งแยกเราเขา ว่างเปล่าและเป็นอิสระ ความจริงเช่นนี้เป็นความจริงของพุทธะในจิตทุกดวง ที่สามารถเข้าถึงเมื่อดับตัวตนลงได้ พระโพธสัตต์จึงยังคงอยู่กับพวกเรา เพื่อชี้ทางและประกาศสัจจะแห่งปรมัตถสภาวะจิตเดิมของพวกเราเอง ให้พวกเราได้รับรู้

จิตแห่งความรัก จะเกิดขึ้นได้เมื่อเข้าถึงภาวะบริสุทธิ์ เราจึงจะสามารถคิดถึงและปรารถนาดีต่อผู้อื่นได้ จิตแห่งความรักจึงเป็นจิตอิสระ เป็นจิตที่ปรกติไม่เป็นทุกข์ ไม่ต้องการยึดใครไว้เพื่อตน เรียบง่ายและพอใจที่จะเห็นคนอื่นมีความสุข โดยไม่หวังผลตอบแทนหรือสร้างความคาดหวังใดๆ แต่มนุษย์สัมผัสมันได้เพียงชั่วขณะ และกลับปล่อยให้กิเลสตัณหาเข้าครอบครองจิต ด้วยความที่เคยชินต่อการตามใจตัวและคิดถึงแต่ตัวเองอยู่เสมอ อัตตาจึงแสดงภาวะของความอยากครอบครอง หึงหวง ริษยา และเคืองขุ่น ความรักนอกจากจะไม่ได้สร้างความทุกข์โศกเช่นนี้ แต่ทันทีที่จิตมีความรัก ความรักนั่นเองที่มีพลังและเป็นตัวทำลายความทุกข์ต่างๆ เหล่านี้ลง แต่ทว่า..มนุษย์มีความรักต่อกันจริงๆ หรือ?

เมื่อพระโพธิสัตต์ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ โดยในวันมาฆบูชาคือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม หรือเดือนสี่ในปีอธิกมาส ซึ่งเป็นวันจาตุรงคสันนิบาต เพราะเป็นการประชุมพร้อมด้วยองค์สี่คือ จันทร์เพ็ญเสวยมาฆฤกษหนึ่ง พระสงฆ์ 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันหนึ่ง ล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาหนึ่ง และเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้นหนึ่ง เพื่อที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงประทานโอวาทปาติโมกข์ คือการทำดี ละชั่ว ทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว จึงถือได้ว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรักอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ที่เราได้ประจักษ์แจ้งต่อความรักความเมตตาแผ่ไพศาลของพระพุทธองค์ที่มีต่อสรรพสัตว์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ น้ำพระทัยในความอดทนอย่างยาวนานนับอสงไขยต่อความพากเพียรในบารมีที่กระทำได้โดยยาก ซึ่งต้องใช้ทั้งมหากำลัง ทั้งการเสียสละในทานอย่างใหญ่หลวง ในศีล ในขันติและวิริยะอย่างยิ่งยวด ตั้งใจมั่นในสัจจะ ในอธิษฐาน มั่นคงไม่หวั่นไหวในอุเบกขา และในพรหมจรรย์เนกขัมมะ อีกทั้งเปี่ยมไปด้วยมหาเมตตา และปัญญาในพระสัทธรรมอย่างเป็นเอกในโลก นี้ก็เพื่อความเป็นพระสัพพัญญู ที่จะรื้อขนสัตว์ให้หลุดจากบ่วงทุกข์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อีกทั้งยังถือได้ว่า เป็นวันประกาศสัจธรรม ถึงความลึกซึ้งของสภาวะความรักในจิตพุทธะของพวกเราทั้งหลาย นั่นก็คือการทำจิตให้สะอาดบริสุทธิ์นั่นเอง

การละชั่ว ทำดี และทำจิตให้บริสุทธิ์ จึงจะเป็นจิตที่ตื่นตัวด้วยสติปัญญา สดใหม่และเป็นอิสระ ไม่เจ็บปวดและไม่หวังผล ตระหนักถึงสำนึกแห่งความดีงามและรับผิดชอบต่อสรรพสิ่งรอบตัว จิตที่ไม่ผิดปรกติไปด้วยอัตตาเช่นนี้ จะไม่สามารถทำร้ายใครได้ เข้าถึงความจริงแท้ของชีวิตและความงามของการดำรงอยู่ จิตที่เบิกบานเช่นนี้ เมื่อเห็นความงามของดอกไม้ จะไม่กระชากทึ้งลงมาเป็นของตัว จิตที่มีความรักเช่นนี้เท่านั้น ที่จะทำให้โลกอยู่รอด ที่จะสามารถทำลายมานะตัวตน และบรรลุภาวะอันเป็นสัจจะของโลกุตตระได้ ความรักเช่นนี้ก็คือภาวะของจิตซึ่งเป็นปรกติ ที่สรรพจิตจะต้องเดินทางไปให้ถึง และค้นพบพุทธภาวะภายในตน ดับซึ่งทุกข์จากกิเลสตัณหา ความรักเช่นนี้เอง ที่ผู้มีปัญญายอมเหนื่อยยาก เพื่อนำพาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเดินทางเข้าสู่ความจริงแท้อันไม่แปลกแยก ยุติภาวะแห่งความโลภโกรธหลงทั้งปวง




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2548
6 comments
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2548 8:50:47 น.
Counter : 1206 Pageviews.

 

สาธุค่ะ เย็นนี้จะได้ไปทำบุญไหมนะ -*-

 

โดย: เชิญร่วมงาน (V-FAN ) 23 กุมภาพันธ์ 2548 9:38:16 น.  

 

สา..ธุ

 

โดย: rommunee 23 กุมภาพันธ์ 2548 9:48:59 น.  

 

สาธุ

 

โดย: ตุ๊กตารอยทราย 23 กุมภาพันธ์ 2548 15:22:42 น.  

 

ค่ะอยากทราบว่าวันมาฆบูชานี้ควรทำบุญอะไรบ้างคะ ที่กะไว้คือถวายโลงศพ ถวายสังฆทาน ค่ะ ต้องเวียนเทียนหรือเปล่าคะ แล้วต้องทำอะไรเป็นพิเศษอีกหรือเปล่าค่ะ และการทำบุญในวันนั้นได้บุญต่างกับวันอื่นอย่างไรคะ ขอบคุณมากๆคะ

จากคุณ : เด็กใหม่ - [ 22 ก.พ. 48 00:01:41 A:61.91.66.43 X: TicketID:071683 ]


ความคิดเห็นที่ 1

ตอบคุณ เด็กใหม่
ควรทำตามโอวาทปาฏิโมกข์ ที่พระพุทธเจ้าเทศน์ไว้ในวันมาฆบูชา คือ

1. เว้นความชั่ว คือสิ่งใดที่ไม่ดี ก็หลีกเลี่ยง เช่น ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่เล่นการพนัน ฯลฯ

2. ทำความดี คือ สิ่งใดที่ดี ก็ควรทำ เช่น ทำบุญตักบาตร
เชื่อฟังพ่อแม่ พูดคุยกับพ่อแม่ หรือให้ของแก่พ่อแม่ ฯลฯ

3. ทำใจให้ใสสะอาด บริสุทธิ์ คือ สิ่งใดที่ทำให้จิตใจดี สงบเย็น เป็นสุข ก็คิดถึงแต่สิ่งนั้น
และทำสิ่งนั้น เช่น สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ

ถ้าทำได้ครบ 3 ข้อ ได้บุญครบทั้งเรื่องของ ทาน ศีล และภาวนา

จากคุณ : คนเก่า - [ 22 ก.พ. 48 12:03:27 A:203.113.71.36 X: TicketID:069986 ]

เห็นว่ามีประโยชน์ เลยก็อปมาจากโต๊ะหว้ากอครับ

 

โดย: ก็อปมา IP: 203.118.121.96 23 กุมภาพันธ์ 2548 19:54:27 น.  

 

เชิญไปเม้าท์ที่บล็อกของแดดเช้าบ้างนะคะ : )

 

โดย: แดดเช้า 1 เมษายน 2548 23:22:08 น.  

 

 

โดย: rebel 13 กุมภาพันธ์ 2549 19:31:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


suparatta
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..วัชรปรัชญาปารมิตาสูตร..
..ท่านนาคารชุนะ..
วิภาษวิธี..เกริ่นนำ..ตอนจบ..

๐ สมุดเยี่ยมและบ่นได้..
**ทางลัด**
๐ สารบัญทักทาย(ทั้งหมด)
๐ ชวนคุย&ฟังเพลงปี48(ทั้งหมด)
๐ นอนดูจันทร์..(ส่วนตัว)

**log in หน่อยน่า..



Google.co.th
Friends' blogs
[Add suparatta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.