ChobShare : ถ้าชอบก็แชร์ ; Facebook : ป้าตะลอนทัวร์ทั่วโลก, ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภา พูลทรัพย์ อักษรดิษฐ์ ; YouTube : Chob Share
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

ข่าวล่ามาเร็ว...ใหม่สดวันนี้เอง..ว่าด้วยนักท่องเทียวฝรั่งเศส ติดอันดับนักท่องเที่ยวยอดแย่

เพิ่งเขียนเรื่องทำอย่างไร จึงจะเก็บเงินในกระเป๋าให้อยู่ได้นาน ๆ มีวิธีหนึ่ง คือ ไม่ไปเที่ยว หยุดพักเอาแรงไว้บ้าง ว่างั้น ที่เขียนนี้ ไม่ใช่ไม่ชอบเที่ยวนา เรื่องเที่ยวนี่ต้องเรียกว่า ขึ้นสมองพอสมควร แต่ก็รู้ว่า ควรเที่ยวอย่างไร และเมื่อไรจึงจะประหยัด หรือไม่ประหยัด แต่คุ้มค่า

วันนี้เปิดดู yahoo ได้ข้อความรู้เกี่ยวกับการเที่ยวของฝรั่ง ที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเรื่องของฝรั่งจริง ๆ ไม่ใช่ฝรั่งอเมริกา ฝรั่งอังกฤษ หรือฝรั่งขี้นกนา แต่เป็นฝรั่งเศส

สำนักข่าวรอยเตอร์ ในปาริสให้ข้อมูลว่ามีผลการสำรวจที่เก็บข้อมูลจากเจ้าของโรงแรมทั่วโลก รวมกว่า 4,500 แห่ง แหมงานนี้ต้องบอกว่ากลุ่มตัวอย่างของเขาเจ๋งจริง ๆ ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ คุณภาพคือผู้ให้ข้อมูลเป็นเจ้าของโรงแรม ปริมาณคือ 4,500 โรงแรมทั่วโลก นี่ไม่น้อยทีเดียว แม้ว่าเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั่วโลก หรือจำนวนโรงแรมทั่วโลกซึ่งแน่นอนมีมากกว่านี้มากมายนัก แต่คิดถึงความพยายามที่ต้องการให้ผลการสำรวจน่าเชื่อถือ ก็นับว่าใช้ได้ ไม่เลว

พูดถึง จำนวน 4,500 คน นี่มาจาก Reuters นา แต่อีกสำนักคือ AFP นี่ตัวเลขสูงมาก คือ40,000 hotels ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวกรองของใครถูกต้อง แต่ทั้งสองข่าวมาจาก yahoo ทั้งสิ้น ฝรั่งนี่มันก็มั่วเป็นเหมือนกัน

ผลการวิจัยพบข้อที่น่าสนใจเกี่ยวการท่องเทียว เท่าที่เขานำมาลงในข่าว อ่านแล้ว ได้ความว่า

.....นักท่องเที่ยวที่จัดอันดับว่าเป็นนักท่องเที่ยวยอดแย่ที่สุด คือ คนฝรั่งเศส เอ้างานนี้ พี่น้องที่เป็นคนไกลบ้าน(ไทย) และอยู่ในฝรั่งเศส ก็อย่าโกรธนา ...นี่เขาว่าไว้อย่างนั้นจริง ๆ เพราะเหตุใด ..เขาก็มีรายงานขยายให้เห็นว่า คนฝรั่งเศสที่ว่าเป็นนักท่องเทียวยอดแย่นี้ เป็นเพราะ

1. คนฝรั่งเศสพูดภาษาฝรั่งเศสจะพูดภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากล ที่จริงภาษาฝรั่งเศสนี่ก็เป็นภาษาสากล หนึ่งในห้านะ แต่จำนวนคนพูดได้ ใช้ประจำน้อยกว่าอังกฤษ การใช้ภาษาฝรั่งเศสเวลาที่คนฝรังเศสไปท่องเที่ยวยังประเทศอื่น ๆ จึงเป็นปัญหา อุปสรรคสำหรับคนฝรั่งเศส และรวมทั้งคนในประเทศนั้น ๆ

อย่างที่ไทยเรา ก็เห็นมีรายการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพูดภาษาต่างประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและช่วยให้การทำมาหากินได้ผลดีขึ้น ซึ่งภาษาที่นำมาสอน ฝึก ก็คือภาษาอังกฤษ ยังไม่เคยรู้ว่ามีการสอนภาษาฝรั่งเศสนะ

2. เขาว่าคนฝรั่งเศสขี้เหนียว tight-fisted แหมงานนี้แย่หน่อย คือไม่ค่อยอยากจ่ายเงิน เป็นนักท่องเที่ยวที่ติดอันดับจ่ายน้อยสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ นอกจากนั้นก็ยังไม่ชอบทิปเมื่อเดินทางท่องเที่ยว ทั้งนี้คนที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวของเขาก็ให้เหตุผลว่า ที่ไม่ชอบทิปเป็นเพราะในประเทศของเขา ค่าทิปจะรวมอยู่ในบิลที่เรียกเก็บอยู่แล้ว เรียกว่าชาร์จค่าทิปเบ็ดเสร็จ เขาก็เลยเคยชิน เวลาไปประเทศอื่น ๆ เขาก็เลยคิดว่า คงเหมือนกัน นี่ก็น่าเห็นใจ เพราะวัฒนธรรมและการดำเนินการทางสังคมต่างกันนั่นเอง ตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งก็เลยให้ข้อมูลประกอบว่า ด้วยปัญหาด้านภาษานี่จึงเป็นข้อดีที่ทำให้คนฝรั่งเศส 90% ชอบเที่ยวในประเทศของเขามากกว่าต่างประเทศ ทำให้เงินทองไม่รั่วไหลออกนอกดี

ในบางประเทศ เช่น อเมริกา ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่คิดค่าทิปในบิล คิดแต่ค่าภาษี เราต้องทิปเอง ค่าทิปก็ปาเข้าไป 10 - 15% ของราคาอาหาร ทำให้หนักใจคนไทยเหมือนกันเวลาต้องกินอาหารนอกบ้าน ลองคิดดูว่าค่าอาหารเย็นต่อคนตกประมาณ $15 - $30 เข้าไปแล้ว ต้องวางค่าทิปอีกอย่างน้อย ๆ ก็ตกประมาณคนละ $2 - $3 แล้ว ว่าแล้วก็ทำอาหารกินเองที่บ้าน ประหยัดและถูกปากกว่ากันเยอะ

ในบ้านเรา เราก็ให้ทิปเหมือนกัน แต่การทิปของเราส่วนใหญ่เป็นไปตามความพอใจ บริการดี ก็ทิปดี บริการไม่ดี ก็ทิปน้อย บริการแย่ หรือไม่ได้บริการอะไรเลย ก็ไม่ได้ทิป เราว่ามันก็ยุติธรรมดีนะ คนทำงานในร้านอาหารจึงต้องพยายามให้บริการที่ดีกับลูกค้า

แต่ก็มีเงื่อนไขการทิปของบางคนเหมือนกัน นี่เป็นพวกหนุ่มน้อย หนุ่มมาก ทั้งหลาย เขาให้เหตุผลของการทิปว่าใครจะได้ทิปมาก น้อย ขึ้นกับ เพศ และความสวย หรือหล่อ (น่าจะเป็นเกย์) คือ ถ้าเป็นผู้หญิง ลูกค้าผู้ชายเธอว่า แหมน่าเห็นใจน้องเขาทำงานเหนื่อย....ถ้าเป็นสาวสวย หุ่นยาว ขาวอวบ บรรดาหนุ่ม ๆ ก็จะบอกว่า...แหมวันนี้อาหารถูกปาก บรรยากาศดี ชวนให้อารมณ์ดี เอาทิปไปเยอะหน่อย...เรียกว่าการทิปแปรผันตามเพศและความสวยหรือหุ่นว่างั้น

3. เขาว่าคนฝรั่งเศสหยิ่ง แหมนอกจากขี้เหนียวแล้วยังไม่พอ ยังหาว่าเขาหยิ่งอีก ที่ว่าหยิ่งคือ ไม่ชอบพูดภาษาท้องถิ่น ชอบแสดงอาการไม่สุภาพ ไม่ให้เกียรติคนท้องถิ่น นี่คงเป็นลักษณะว่าไปเที่ยวที่ใดก็คิดว่าคนที่นั่นควรพูดภาษาของนักท่องเที่ยวได้ หรืออย่างที่ว่า อยากได้เงินฉัน ก็ต้องสื่อสาร พูดกับฉันได้ ว่างั้น ...เวลาเห็นใครพูดไม่ได้เลยอาจทำหน้าตา ไม่สบอารมณ์ หรือทำหน้าฉงน ทำนองนั้นหรือเปล่า ไม่รู้นะ ข่าวไม่ได้ให้รายละเอียด นี่คาดเดาเอาน่ะ

แต่นักท่องเที่ยวฝรั่งเศสก็มีข้อดีที่ติดอันดับนะ คืดไม่ติดอันดับยอดแย่ที่สุดในเรื่องการแต่งกายในการท่องเที่ยวช่วงวันหยุด เพราะที่ติดอันดับยอดแย่ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวอิตาเลี่ยน และอังกฤษ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ดีเมืองอังกฤษ นี่ติดอันดับยอดแย่เรื่องการแต่งกาย

ส่วนนักท่องเที่ยวประเทศไหนล่ะที่ติดอันดับดียอดเยี่ยม ผลการสำรวจบอกว่า นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นติดอันดับหนึ่ง top of the best tourist สามปีติดต่อกัน โดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นติดอันดียอดเยี่ยมในเรื่องสะอาด ความมีระเบียบเรียบร้อย ความสุภาพ และไม่ขี้บ่น

ส่วนนักท่องเที่ยวที่ติดอันดับนักท่องเที่ยวชั้นดีโดยทั่วไปในโซนยุโรปคือ อังกฤษ และเยอรมัน ส่วนที่ติดอันดับยอดแย่ในโซนยุโรปก็คือ ชาวสเปน และกรีซ ซึ่งในสองประเทศหลังนี้ ติดอันดับรั้งท้าย ในแทบทุกรายการที่สำรวจ

นักท่องเที่ยวชาวอเมริกาก็ติดอันดับยอดเยียมในเรื่องการให้ความสนใจในเรื่องการใช้ภาษาถิ่น การใช้จ่ายเงินและการทิป แต่ติดอันดับไม่เอาไหนในเรื่องความไม่เรียบร้อย ชอบส่งเสียงดัง ขี้บ่นสุด ๆ และการแต่งกายยอดแย่

จะว่าไปผลการสำรวจไม่มีที่เกี่ยวกับพี่ไทยเรานี่ก็ดีไปอย่าง...ที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวไทยนี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะไม่อยู่ในกลุ่มตัวอย่าง หนึ่งใน 27 ประเทศที่เขาสุ่ม สอบถามหรือเปล่า ข้อมูลเลยไม่ปรากฏ

อย่างไรก็ดี....ไม่อยากเห็นคนไทยติดอันดับยอดแย่น่ะ ...ไม่ว่าในเรื่องใด ๆไง ๆ ก็ช่วยกันรักษาภาพพจน์(ที่ดี) อย่าให้มี ภาพลบ มากนัก ก็ดีเน้อ....




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2552
1 comments
Last Update : 15 สิงหาคม 2552 8:43:27 น.
Counter : 1741 Pageviews.

 

เห็นด้วยๆ

 

โดย: currywurst 10 กรกฎาคม 2552 16:56:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ป้าตะลอนทัวร์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ป้าตะลอนทัวร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.