Bloggang.com : : Mr.Bear's dream : ^^+^^ พบกับช่วงเวลาที่สวยงาม (Divine timing)^^+^^

^^+^^ พบกับช่วงเวลาที่สวยงาม (Divine timing)^^+^^

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆๆ

บล๊อกนี้ตั้งใจเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต ที่ได้พานพบน่ะค่ะ
และ มีบางสิ่งเมื่อพบแล้ว อยากมาแบ่งปันกับเพื่อนๆๆค่ะ

วันนี้สิ่งที่ได้พบ คือ ช่วงเวลาที่สวยงาม (Divine Timing)

ที่มาของเวลาที่สวยงามนี้ ได้มาจากนางฟ้าค่ะ
อะ อะ เพื่อนอาจจะเริ่ม งง งง งง มาจากนางฟ้ายังไงรือ??

เป็นนางฟ้าจริงๆค่ะ
เป็นการ์ดนางฟ้าน่ะค่ะ (Angle card)

เริ่มจากมีเรื่องบางอย่างคาใจตัวเองอยู่น่ะค่ะ
จึงถาม(การ์ด)นาง
ฟ้า นางฟ้าตอบว่า Divine timing

เมื่อเห็นเรางง งง งง นางฟ้าจึงอธิบายต่อว่าหมายถึงอะไร (อิอิอิ อ่านจากคู่มืออ่ะค่ะ )

ซึ่งข้อความที่สื่อมาโดนใจมากเลยค่ะ
เป็นข้อความที่เตือนสติเราได้ดีทีเดียวเชียว
ทำให้เราได้พบช่วงเวลาที่สวยงามค่ะ

Divine timing ช่วงเวลาที่สวยงามนั้น ก็คือ

การเข้าใจว่า อะไรในชีวิตของเราที่ประตูปิดไปแล้ว
และ อะไรที่ประตูยังเปิดรอเราอยู่

นางฟ้าแนะนำต่อว่า
เรื่องราวใดในชีวิตที่ประตูปิดไปแล้ว
เราไม่ควรฝืน ไม่ควรพยายามเปิด พยายามง้างจะเปิดให้ได้ดั่งใจ

เพราะรังแต่จะ ทำให้เจ็บตัว เหนื่อยใจ ผิดหวัง

สิ่งที่ควรทำคือ

ให้เรียนรู้ เรื่องราวและตัวเองจากประตูบานที่ปิด
พูดง่ายๆคือ ให้เป็นบทเรียนหรืออุทาหรณ์สอนใจ ให้เราเข้าใจชีวิต และ รู้จักตัวเองมากขึ้น
ดีกว่าไปคอยเฝ้าหวังลมๆแล้งๆ อยากให้โอกาสมาอีกครั้ง อยากให้ลมพัดหวน เป็นต้น

และ พร้อมกันนั้นให้เรามีสติที่จะเห็นว่าประตูบานไหนที่เปิดอยู่
ให้เราเดินไปหาประตูบานนั้น ด้วยใจเปิดรับและเห็นคุณค่าเราจึงจะพบเวลาที่สวยงามค่ะ

เมื่ออ่านแล้วจึงได้คิดว่า
ช่วงเวลาที่สวยงามเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
ขอเพียงแค่เรามีสติ จะเกิดดวงตาเห็นธรรม

เราจะเห็นได้ว่าประตูบานที่เปิดรอเราอยู่ เรายังมีสิ่งดีๆ ในชีวิตเราอยู่ เช่น เรายังมีดวงตาที่มองเห็นสิ่งต่างๆได้ เรายังมีขาที่เดินได้ เรายังมีหูที่ได้ยินเสียงได้ เป็นต้น เห็นโอกาสที่ยังรอเราอยู่อีกหลายๆอย่าง และนี่คือสิ่งดีๆๆที่เรามีได้ตลอด ถ้าเราเพียงแต่จะใส่ใจ เราก็จะเห็นค่ะ

ปัญหาคือคนเรามักจะ สนใจ ใส่ใจกับประตูบานที่ปิดไปแล้ว
และคอยๆๆๆ คาดหวัง คอยๆๆๆ ลุ้น
อยากให้ประตูเปิด เปิด เปิดอีกครั้ง
ซึ่งหลายๆๆครั้งโอกาสก็น้อยเต็มที

แต่ก็ยังจะเฝ้าหวังไปเรื่อยๆๆ

ซึ่งความหวัง ความอยากอันนั้น ก็ตรงข้ามกับความเป็นจริง(เพราะความจริงประตูปิดแล้ว แต่เราอยากให้เปิด)
จึงเป็นที่มาของความเจ็บปวดเพราะผิดหวังซ้ำๆๆๆ

อย่างที่มีคนบอกว่า เราผิดหวัง เพราะ เราหวังผิด

และ เมื่อใจมุ่งสนใจแต่ประตูบานที่ปิด
ทำให้มองข้าม ไม่ได้ใส่ใจ หรือ มองไม่เห็น ประตูบานที่เปิดรอเราอยู่
ละเลยจนกระทั่ง
ประตูบานที่เปิดรอเราอยู่ ก็ปิดลง
และเมื่อประตูที่เคยเปิดมาปิดลง
อีกนั้นแหละ
เราเพิ่งจะเริ่มเห็นค่า ตอนปิดไปแล้ว มาคร่ำครวญ ฟูมฟายเสียดาย เสียใจ อยากให้ประตูบานนี้เปิดอีก เปิดอีก

มันจึงเป็นวงจรไม่มีที่สิ้นสุด
และ ทำให้เรารู้สึกเศร้าซ้ำๆๆ มองว่าชีวิตไม่เคยสมหวัง ไม่เคยมีช่วงเวลาที่สวยงาม

ที่จริงเป็นเพราะเรามัวแต่มองประตูบานที่ปิดอยู่ต่างหาก และ ละเลยประตูบานที่เปิดรอเราอยู่

ดังนั้น เวลาที่สวยงามมีได้เสมอ
เมื่อเรามองเห็นและให้ความสำคัญกับประตูบานที่เปิดรอเราอยู่
และสำหรับประตูบานที่ปิดไปแล้วนั้น
ให้เรายอมรับความเป็นจริงและเรียนรู้จากมัน

หลายครั้งประตูบานที่เปิดอยู่ เรามักมองไม่เห็นคุณค่า เพราะสิ่งนั้นไม่ตรงกับใจเรา ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้

ไม่ว่าเราจะอยากได้หรือไม่
สิ่งดีๆนี้เมื่อมีอยู่ หรือ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็คือสิ่งที่ดี อาจจะดูไม่มีค่า ไร้ความหมาย(สำหรับเรา ณ ตอนนั้น)

เมื่อเพื่อนๆลองมองอย่างตั้งใจ จะพบเจอสิ่งที่สวยงามค่ะ

และบางครั้ง ประตูที่ปิดลง ปิด เพราะ ความคาดหวังของเราเองค่ะ
เพราะ ความคาดหวังที่สูง(หลายครั้งสูงเกินจริงซะด้วยง่ะ แบบตามฝันเลยง่ะ)

ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้สิ่งนี้สักที
เหมือนเรื่องนี้เป็นประตูที่ปิดตายสำหรับเรา
แต่ถ้าเราสามารถลดความคาดหวังลง
ประตูบานนั้นที่เรารู้สึกว่าปิดตายกับเรามาตลอด ก็เปิดขึ้น
เช่น เราคบกับใครสักคนแบบแฟน
เราคาดหวังให้เขารักเราแบบแฟน
แล้วเขาก็ไม่รักเราแบบแฟน
เราก็ผิดหวัง เสียใจ เหมือนประตูปิดใส่เรา เราเจ็บปวด

แต่เมื่อลดความคาดหวังลงมานิดนึง
มองดีๆจะพบเห็นว่า
แม้เขาไม่ได้รักเราแบบแฟนเหมือนที่เราคาดหวังไว้
แต่เขาก็มีมิตรภาพที่ดีกับเรา เขาเอ็นดูเรา ใส่ใจเรา
ซึ่งประตูความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเรา(ที่เหมือนปิดใส่เราจนเราเจ็บตอนนั้น)
ที่จริงมันเปิดอยู่ และ เปิดอยู่ตลอดมา
ตอนแรกที่เราไม่เห็นว่าเปิด
เพราะไม่ตรงกับความคาดหวัง ความต้องการของเรา

เมื่อพิจารณาตามจริงแล้ว ประตูบานนั้นก็เปิดอยู่ตลอดในแบบที่มันจะเปิดได้
ถ้าเราวางความคาดหวังลง จะเห็นประตูเปิดหลายๆๆ บานขึ้นในชีวิต

กับตัวเราเองเหมือนกัน
ถ้าเราคาดหวังกับตัวเอง เช่นเราต้องเจ๋งกว่าใครๆๆ
พอเราไม่เจ๋งกว่าใครๆๆ ก็รู้สึกว่าเราไม่เอาไหน
ประตูบานที่จะภาคภูมิใจในตัวเองก็ปิดลง
ความภูมิใจในตัวเองก็สูญสิ้นไป

ถ้าเราสามารถลดความคาดหวังลง แม้ไม่เจ๋งอย่างฝัน
เราจะเริ่มเห็นสิ่งดีๆ หลายๆ อย่างนะคะ
ประตูความภาคภูมิใจในตัวเองของเราก็จะเปิดขึ้นมา
และเปิดได้หลายๆๆบานด้วยค่ะ

และเมื่อนั้น คุณจะพบช่วงเวลาที่สวยงาม ค่ะ

ขอฝากบทกวีที่เกี่ยวกับ ประตูและความสุขค่ะ

"When one door of happiness closes,another open;but often we look so long at the closed door that we do not see the one which has been opened for us"

"เมื่อประตูแห่งความสุขบานหนึ่งปิดลง อีกบานก็จะเปิดขึ้น แต่บ่อยครั้งเรากลับมองอยู่แต่ที่ประตูที่ปิดนั้นเนิ่นนาน จนไม่เห็นว่ามีประตูอีกบานเปิดรอเราอยู่"
Helen Keller
จากหนังสือความสุข แปลและเรียบเรียง โดย ธนา นิลชัยโกวิทย์และ พรศิริ นีลปัทมานนท์

ขอบคุณนางฟ้านะคะ สำหรับ ข้อความ ที่สื่อมา "Divine timing ความคาดหวังแบบฝันๆๆ กับประตูปิด-ประตูเปิด" ช่วยเตือนสติ และได้ข้อคิดมากมายค่ะ ว่า
ความผิดหวังซ้ำๆๆ นั้น
เกิดจากการเลือกหมกมุ่นอยู่กับ
ความคาดหวังแบบฝันๆๆ และประตูบานที่ปิดไปแล้ว
และ ไม่ใยดีประตูบานที่เปิดอยู่(คือสิ่งดีๆที่มีอยู่)นี่เอง

เพื่อนๆ ลองสำรวจตัวเอง สิ่งต่างๆ และโอกาส รอบๆตัวนะคะ
เพื่อนๆจะพบประตูบานที่เปิดอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ

หวังว่าเพื่อนๆๆ จะมีความสุขกับประตูบานที่เปิดนะคะ

เพื่อนสามารถฟังเพลง ผ่าน ของ Slot Machine ได้ค่ะ</b>

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2550

Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2550 19:51:30 น. 24 comments

Counter : 437 Pageviews.

Share
Tweet

เมื่อยินยอมตรอมตรงก็ซมเปล่า
ไม่รักเราเท่ากันไม่หวั่นไหว
เรื่องของเรื่องอยากเปลืองใจให้โทษใคร
ก็แค่ใจไม่ดูไม่รู้คลาย

ถ้าหวงทุกข์จะลุกเดินไม่เพลินแน่
ถ้าอยากแก้อย่าแพ้รักก็จักหาย
อย่ากอดทุกข์จงทิ้งขว้างให้ห่างกาย
ก็คลี่คลายเป็นสุขสนุกเอง

โดย: MrHuTo (HuTo

) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:44:36 น.

เห็นด้วยค่ะ

หลายคนไปนั่งคร่ำครวญกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือที่ผ่านมาแล้ว

แต่ลืมมองไปว่ายังมีบางอย่างที่รอเราอยู่

พอกว่าจะรู้ตัว สิ่งนั้นก็จากเราไปแล้ว

แล้วเราก็นั่งคร่ำครวญใหม่

มันเป็นวัฏจักรไป จนกลายเป็นว่า

ชีวิตเรามีแต่ความผิดหวัง มีแต่ความสูญเสีย

โดย: หัวใจสีชมพู

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:58:17 น.

คุณ MrHuTo ..... นั่นสิคะ สุขทุกข์ อยู่ที่เราจริงแหละค่ะ

คุณ หัวใจสีชมพู ...... ช่ายค่ะ หลายครั้งเรามักจมคิดถึงแต่อดีต หลายครั้งเรามักเฝ้ากังวลถึงแต่อนาคต
และหลายหลายครั้งเรามักลืมสิ่งที่เรามีอยู่มีอยู่ในปัจจุบัน
ดีใจจังค่ะ ที่คุณ หัวใจสีชมพู เข้ามาอ่าน มาเยี่ยมเยียนบล๊อกค่ะ

Speacial Thanks ..... คุณ"ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ป้ามด และ คุณ serenity ที่ทำให้บล๊อกนี้มีเพลง ไชโย เย้ เย้

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:46:58 น.

ผ่าน ค่ะ อิอิ

หมายถึงเนื้อเพลงนี้อ่ะค่ะ ลองอ่านดูนะคะ
เราว่าเพลงนี้ความหมายดีเหมือนกันค่ะ

ผ่าน
ศิลปิน : Slotmachine
ผ่าน Slot Machine

ไม่ว่าเจอสิ่งใด เนิ่นนานไปก็แปรเปลี่ยน สักวัน
เคยวิ่งตามความฝัน แต่บางครั้งก็ต้องหยุด แค่นั้น
เมื่อก่อนเคยรัก เคยผูกพัน แต่มาวันนี้มันเป็นเพียง คนเคยได้รู้จักกัน
วันนี้มีสุขใจ แต่ต่อไปสักวันคง วุ่นวาย
หากความทุกข์ทนจางหาย อาจมองเห็นความสุข อีกครั้ง

*จึงทำให้ฉัน ได้เข้า(มั่น)ใจ ทุกสิ่งเปลี่ยนผันสักเท่าไร
ฉันจะก้าวเดินต่อไป
**อย่าลืมเรื่องราวที่ผ่านที่เคยได้เจ็บช้ำ
ยังมีเรื่องราวที่ดีที่เคยได้จดจำ
เก็บคืนและวันที่ผ่านที่เคยได้ปวดร้าว
ยังมีเรื่องราวที่ดีที่รอให้จดจำ

วันที่ทำผิดไป อาจเจอใครที่เข้าใจ สักคน
ในความมืดมนสับสน อาจเจอคนที่จริงใจ ไม่ยากนัก

ซ้ำ *

ในความมืดมิดยังมีดวงดาว
และแดดยามเช้าพาให้เราก้าวไป

ซ้ำ **

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:54:10 น.

อ่านที่ Mr. Bear's dream เขียนเรื่อง ประดู แล้วก็เห็นภาพตามได้เลยค่ะ
รู้สึกดีจังที่มีเรื่องราวดีๆให้อ่านอีกแล้ว

จริง ๆ ชีวิตของตัวเองก็จะมีประตูหลายแบบ ตั้งแต่เปิดกว้างที่สุด จนถึงแง้มๆ เปิดๆ ปิดๆ และที่ปิดตายไปแล้ว
ส่วนตัวเอง ยอมรับว่า จะไม่ค่อยสนใจประตูที่เปิดกว้างที่สุด และ ที่ปิดตายไปแล้ว เพราะประตูเปิดกว้างคงรู้สึกว่าเป็นของตายไม่สนใจก็ยังอยู่ และ ที่ปิดตายก้คงเลิกหวังไปแล้ว

แต่มักจะสนใจประตูที่แง้มๆ และเปิดๆ ปิดๆ ไม่รู้ว่าเป็น sense ของการลุ้น และเอาชนะหรือเปล่า จนประตูที่เปิดกว้าง เปลี่ยนสถานภาพ เป็น เปิดๆ ปิดๆ ค่อยมาสนใจ แล้วพอมันต้องปิดตลอด ก็มานั่งเสียใจทีหลังเหมือนกัน

เห็นด้วยนะคะ ที่สุดท้ายแล้วเราคงต้องมองให้ครบทุกด้านในชีวิต และชื่นชมกับสิ่งที่มีอยู่ มากกว่าจะไปตามหาส่วนที่ขาดหายไปค่ะ

โดย: serenity IP: 202.28.181.9 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:14:53 น.

บางครั้งคนเราก็จะทำตัวเหมือนกับหนูถีบจักรค่ะ...คอยวิ่งตามหาแอบเอาตาไปส่องประตูบานที่เกือบจะปิด

หรือใช้แรงอย่างมากในการพยายามที่จะง้างมันไว้

แต่สุดท้ายเมื่อประตูปิดไปก็ต้องวิ่งตามหาใหม่ โดยไม่เคยเลือกบานที่เปิดไว้เลยสักที พลังที่หล่อเลี้ยงหนูเหล่านี้คือ ความตื่นเต้น ความท้าทาย

โดย: ตัวโน้ต IP: 202.28.181.9 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:30:52 น.

(ต่อค่ะ) ความต้องการ ความอยาก

ที่จะลิ้มลองของที่ว่ายาก ที่ว่าเจ๋ง แต่ไม่เคยเห็นค่าของสิ่งที่มีอยู่อย่างพอเพียง เหมือนเจ้าหนูที่มองเห็นแต่เมล็ดฟักทองบนที่สูงๆหอมหวนชวนกิน แต่ไม่เห็นเม็ดฟักทองที่ตกอยู่ตามพื้นมากมายอ่ะค่ะ

โดย: ตัวโน้ต IP: 202.28.181.9 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:33:26 น.

ดีจังที่ได้ฟังเพลงเพราะๆ ประกอบ..

และขอบคุณ Mr.Bear's dream สำหรับแรงสนับสนุนให้ทำ blog ของตัวเองนะจ๊ะ

โดย: serenity (retreatlife

) วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:58:29 น.

... อ่านแล้วรู้สึกดีและเขียนได้ดีจริงๆ

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:01:23 น.

คุณ serenity โอะ โอะ โอ๋ อย่าร้องไห้นะคะ

ยังมีประตูบานอื่นๆๆ เปิดรออยู่เสมอค่ะ
แม้กระทั่งบานนั้น เมื่อคาดหวังลดลง จะเห็นว่าประตูบานนั้นยังมีมิตรภาพที่ให้อยู่นะคะ
และเห็นด้วยค่ะ
ว่าประตูที่ทำให้ที่ดึงความสนใจ และน่าวนเวียนมากที่สุด คงเป็นประตูที่เปิดๆๆ ปิดๆๆ
เพราะ ยังมีลุ้น และ ดูน่าตื่นเต้น ดูมีค่าดีถ้าได้
ส่วนประตูที่เปิดสุดๆๆ ปิดสุดๆๆๆ ก็ไม่เหลืออะไรให้ลุ้น
แต่ประตูที่สร้างความเจ็บปวดที่สุดคือ ประตูเปิดๆๆ ปิดๆๆ นี่แหละค่ะ
เพราะหลอกให้มีความหวัง แล้ว ก็ทำให้ผิดหวัง พอผิดหวัง ก็มาหลอกให้มีหวัง แล้วก็ทำลายความความหวังลงอีกซ้ำไปซ้ำมา
เหมือนถูกประตูหนีบซ้ำๆๆ เจ็บสุดๆๆเลยง่ะ

ดังนั้นมาสนใจประตูบานที่เปิดอยู่ดีกว่า แบบว่าไม่เจ็บดีค่ะ

ดีใจจังค่ะที่ชอบเพลงนี้เหมือนกัน

คุณ น้องตัวโน้ต ช่ายค่ะ การลิ้มลองของยาก ทำให้เกิดความภูมิใจในตัวเองว่าเจ๋งได้ค่ะ และ ทำให้หลายคนพลาดสิ่งดีที่อยู่ใกล้ตัวไป(เมล็ดฟักทองบนพื้น) อย่างที่คำโบราณว่า ใกล้เกลือ (แต่ไป)กินด่าง ซะงั้น

ดีใจจังเลยค่ะ ที่คุณน้องตัวโน้ต เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อกค่ะ

คุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขอบคุณนะคะที่แวะเข้าเยี่ยมบล๊อกเป็นประจำ จนถ้าไม่ได้มาคิดถึงแย่เลย

ดีใจนะคะที่ทำให้คุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" รู้สึกดีได้ด้วยอ่ะค่ะ

แบบว่าเขินน่ะ

อิอิ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:47:49 น.

เขียนได้ดีค่ะ อ่านจนจบเลย

โดย: N_BEE810

วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:22:33 น.

สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่สดใส สำหรับประตูที่กำลังเปิดทุกๆ บาน จ๊ะ

โดย: MrHuTo IP: 61.19.65.231 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:02:20 น.

คุณ N_BEE810 ขอบคุณมากๆๆๆ ค่ะ

คุณ MrHuTo เช่นกันนะคะ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:48:59 น.

สวัสดีค่ะ
อยากแนะนำบล๊อกดีๆ
ที่อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
รับวันวาเลนไทน์ค่ะ
อ่านแล้วชอบ ชอบ ค่ะ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pinkstar&group=3

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pinkstar&group=1
(www.pinkstar.bloggang.com)

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:41:33 น.

เขียนได้ดีจังเลย อ่านและฟังเพลงไป เข้ากันดีจัง รู้สึกมีพลังที่จะใช้ชีวิตใหม่อย่างเต็มที่ สนใจแต่โอกาสและสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตเราดีกว่าเนอะ

โดย: zea IP: 124.120.149.240 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:48:41 น.

คุณ zea
ดีใจจังค่ะ ที่คุณ zea เข้ามาอ่านมาเยี่ยมชมบล๊อกค่ะ ขอบคุณนะคะ

ช่ายค่ะ ว่าเราจะพบกับช่วงเวลาที่สวยงาม
ก็คือ การมองเห็นความงามในสิ่งที่เรามี
สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา

และเพลงนี้ Mr.Bear's dream ฟังแล้วรู้สึกชอบและมีพลังเหมือนกันค่ะ
และ ดีใจที่คุณ zea รู้สึกเช่นนั้นค่ะ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:54:16 น.

อ่านแล้วนึกถึงเพลงของ 'พี่ป้าง' ขึ้นมาค่ะ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงโปรดของตัวเองมาก ๆ เลย ชื่อว่าเพลง 'ประตู' เนื้อร้องมันก็จะประมาณว่า ' .. เพียงแง้มบานประตูเธอไม่รู้หรือไง มีสวนและดอกไม้รอให้เธอไปชม ดอกไม้สำหรับเธอเพียงเธอคิดดอมดม เธอเก็บมันได้เอง ..' บางทีเราจะเอาแต่ไปมองประตูบานที่ปิดอยู่ แล้วเราก็ไม่มองอะไรอีกเลย เฝ้าแต่รอ รอ รอ เมื่อไหร่มันจะเปิดซะที เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งมันเคยเปิด (ฮือ เศร้าอ้ะ

) หมกมุ่นกับไอ้ประตูบานนั้นอยู่นั่นแหละ จนลืมดูอะไรอย่างอื่นไปเลย บางทีในชีวิตช่วงนั้นมันก็มีอะไรดี ๆ เข้ามาเราก็ไม่ได้อภิเชษฐ์กับมัน เหมือนกับมีบานที่เปิดน่ะรออยู่นะ แถมมีสวนดอกไม้รออยู่ด้วย ก็มันยังตัดใจจากบานนั้นไม่ได้นี่นา

เขียนไปเขียนมาเริ่มงง ฮ่า แต่ก็พออ่านของพี่หมีแล้วก็ได้คิดนะคะ มีแรงบันดาลใจ ต้องไปหาดูว่ามีบานไหนเปิดอยู่อีก ขอบคุณค่า

โดย: praewjang IP: 202.28.179.3 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:17:15 น.

คุณ praewjang
ดีใจจังค่ะ ที่น้อง praewjang เข้ามาอ่านค่ะ แบบว่า คิดถึงค่ะ

มนุษย์เราเข้าใจยากนะ
หลายครั้งก็รู้ว่าสิ่งที่ควรคืออะไร ประตูบานไหนเปิด
แต่ใจเจ้ากรรม(อาจเป็นเรื่องของกรรมจริงๆๆอ่ะ) ก็ยังวนเวียนกับบานที่ปิดอยู่ร่ำไปค่ะ
ใจเจ้ากรรมนั้นไม่สามารถไปที่ประตูบานที่เปิดได้สักที

ยังไงก็มองๆๆ บานที่เปิดไว้บ้างนะจ๊ะ
เดี๋ยวเขาจะน้อยใจจ้า

เดี๋ยวจะหาว่า ไม่ว่า Mr. Bear's dream ไม่เตือน อิอิ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:45:26 น.

ดีใจค่ะที่ได้อ่านเรื่องดีๆแบบนี้

ต้องไปสำรวจตัวเองบ้างแระล่ะค่ะ

ซินเจี่ยยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

อังเปาตั่วตั่วไก้ ค่า

โดย: blue_raindrop

วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:06:30 น.

คุณ blue_raindrop
ดีใจจังเลยค่ะ ที่รู้สึกดีๆค่ะ

ซินเจี่ยยู่อี่ ซินนี้ตั่วถั่งค่ะ แปลว่า ร่ำรวยๆๆๆ ยิ่งขึ้นค่ะ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:55:48 น.

มีเรื่องราวดีๆ แง่คิดมุมมองที่ไม่ธรรมดา และ wordsที่โดนใจ ทำให้เรื่องราวต่างๆเข้ามายิ้มในใจผู้อ่าน ขอบคุณค่ะ

โดย: Marron Cream IP: 203.113.33.13 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:26:33 น.

คุณ Marron Cream
ดีใจจังค่ะ ที่เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณนะคะที่รู้สึก ดีๆๆค่ะ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:16:58 น.

ประตูบานใดที่ปิดแล้ว
ให้มันแล้วกันไปเถิดใจหนา
หันมาหาประตูบานที่เปิดอย่ารอเวลา
มันยังมีคุณค่าเพียงแต่เธอแค่เปิดใจ

แต่งไว้นานแล้วค่ะ อยากให้คุณ Mr.Bear's dream อ่านจัง
ขอบคุณเรื่องราวและบทความดีๆ ที่อ่านแล้วอดไม่ได้ที่จะเขียนไว้ในสมุดกลอน
ด้วยรักและขอบคุณจริงๆค่ะ

โดย: Marron Cream IP: 203.113.32.6 วันที่: 16 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:14:37 น.

คุณ Marron Cream
ขอบคุณมากๆนะคะ
สำหรับบทกลอนดีๆและมีคุณค่าทางจิตใจค่ะ
และขอบคุณมากมายนะคะ ที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ

โดย: Mr.Bear's dream

วันที่: 17 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:09:50 น.