อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
"มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก"กับ "มาร์ค"นายกไทย

ปีนี้ไทม์ยก"มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก"ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เป็นบุคคลแห่งปีวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 11:48:23 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน(15ธ.ค.53)ว่า ไทม์ แมกกาซีนได้เลือก มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เป็นบุคคลแห่งปี 2553 (Person of the Year 2010) ทั้งนี้ ซักเคอร์เบิร์ก ในวัย 26 ปี ครองหุ้นราว 1 ใน 4 ของหุ้นทั้งหมดของเฟซบุ๊ก นอกจากเขาจะเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่อายุน้อยที่สุดในโลกแล้ว ยังเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าวิถีการใช้ชีวิตของคนมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกอีกด้วย

"ปีนี้เฟซบุ๊กมีผู้สมัครเข้าใช้งานกว่า 500 ล้านคน หรือราว 1 ใน 10 ของผู้คนบนโลก นั่นไม่เพียงเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่นั่นคือวิศวกรรมทางสังคม ที่กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราสื่อสารและติดต่อกันและกัน ผมคิดว่านั่นกำลังมีผลต่อมนุษยชาติในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน" ริชาร์ด สเตนเกล บรรณาธิการของนิตยสารไทม์ กล่าว

รายงานข่าวระบุด้วยว่า เมื่อปีที่แล้วผู้ได้รับรางวัลบุคคลแห่งปี คือ นายเบน เบอร์แนนคี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ ก็ได้รับรางวัลนี้เมื่อปี 2551 สำหรับผู้ที่เคยได้รับรางวัลนี้มาแล้ว อาทิ ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐ เจฟฟ์ เบโซส์ ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อะเมซอน

ผลการสำรวจของไทม์ยังระบุว่า ผู้อ่านนิตยสารส่วนมากยังชื่นชอบและผลักดันให้จูเลียน เอสแซงก์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ขึ้นเป็นบุคคลแห่งปีในปีนี้ด้วย แต่ทางบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวต่างเลือกซักเคอร์เบิร์ก
---------
มาร์ก เอลเลียตต์ ซักเคอร์เบิร์ก (อังกฤษ: Mark Elliot Zuckerberg) เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1984 ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก เขาร่วมก่อตั้งเฟสบุ๊กร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน ขณะกำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเกิดที่ ไวต์เพลนส์ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่อมาเติบโตที่เมืองด็อบส์ เฟอร์รี รัฐนิวยอร์ก โดยบิดาเป็นทันตแพทย์ คือ เอ็ดเวิร์ด ซักเคอร์เบิร์ก และมารดาจิตแพทย์ คือ คาเรน ซักเคอร์เบิร์ก เขามีพี่น้องสี่คน ในวัยเด็กซักเคอร์เบิร์กถูกเลี้ยงดูอย่างชาวยิว ถึงแม้เขาจะปฏิเสธว่าไม่ได้นับถือศาสนาใดๆก็ตาม[1]


ซักเคอร์เบิร์กสามารถมองเห็นสีฟ้าได้ดีที่สุด เพราะเขาเป็นโรคตาบอดสีซึ่งมองสีแดงและสีเขียวได้ไม่ชัดเจน นอกจากนี้สีฟ้ายังเป็นสีหลักในเว็บไซด์เฟซบุ๊กอีกด้วย[2]

จุดเริ่มต้นของเฟซบุ๊ก
ซักเคอร์เบิร์กยอมรับว่าเขาเป็น แฮกเกอร์ แต่ไม่ใช่ในความหมายของนักเจาะระบบ แฮกเกอร์ของเขาหมายถึงการนำความพยายามและความรู้ที่ทุกคนมีมารวมกัน แบ่งปันกัน เพื่อบรรลุสิ่งที่ดีกว่า เร็วกว่าหรือใหญ่กว่า ซึ่งคนๆ เดียวทำไม่ได้ โดยให้ความสำคัญกับการเปิดกว้าง การแบ่งปันข้อมูล เขาสร้างสิ่งที่เรียกว่า Hackathon ใน Facebook ซึ่งคล้ายกับการระดมสมองสำหรับวิศวกร

อย่างไรก็ตาม Facebook กลับมีกำเนิดมาจากการเจาะระบบจริงๆ เมื่อซักเคอร์เบิร์กเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เขาพบว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีหนังสือรุ่นที่เรียกว่า Face Book ซึ่งจะเก็บรายชื่อนักศึกษาพร้อมรูปและข้อมูลพื้นฐาน เหมือนอย่างมหาวิทยาลัยทั่วไป ซักเคอร์เบิร์กต้องการจะทำหนังสือรุ่นออนไลน์ของ Harvard แต่ Harvard กลับปฏิเสธว่า ไม่สามารถจะรวบรวมข้อมูลได้

ซักเคอร์เบิร์กจึงเจาะเข้าไปในระบบทะเบียนประวัตินักศึกษาของ Harvard และทำเว็บไซต์ชื่อ Facemash ซึ่งจะสุ่มเลือกรูปของนักศึกษา 2 คนขึ้นมา และเชิญให้ผู้เข้ามาในเว็บเลือกว่า ใคร “ฮอต” กว่ากัน

ภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง มีนักศึกษาเข้าไปในเว็บของซักเคอร์เบิร์ก 450 คน และมีสถิติการชมภาพ 22,000 ครั้ง ทำให้ Harvard ห้ามซักเคอร์เบิร์กใช้อินเตอร์เน็ต และเรียกตัวไปตำหนิ เหตุการณ์จบลงโดย ซักเคอร์เบิร์กกล่าวขอโทษเพื่อนนักศึกษา แต่เขายังคงเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง

ต่อมาซักเคอร์เบิร์กจัดทำแบบฟอร์ม Facebook เพื่อให้นักศึกษาเข้ามาเขียนข้อมูลของตนเอง Thefacebook.com ซึ่งเป็นชื่อเริ่มแรกของ Facebook เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2004 ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ นักศึกษาครึ่งหนึ่งของ Harvard ลงทะเบียนในเว็บแห่งนี้ และเพิ่มเป็น 2 ใน 3 ของนักศึกษา Harvard ทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นเริ่มติดต่อซักเคอร์เบิร์กขอให้ทำหนังสือรุ่นออนไลน์ให้แก่มหาวิทยาลัยของพวกเขาบ้าง จึงเกิดพื้นที่ใหม่ใน Facebook สำหรับ Stanford และ Yale ภายในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน โรงเรียนอีก 30 แห่งเข้าร่วมใน Facebook ตามมาด้วยโฆษณาที่เกี่ยวกับนักเรียนนักศึกษา และธุรกิจที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ทำให้เว็บชุมชนแห่งนี้ เริ่มสร้างรายได้หลายพันดอลลาร์

--------
นายกฯมาร์ค"ชี้ความเชื่อมโยงของโลกเป็นภัยที่ต้องระวัง

16 ธค. 2553 12:38 น. -เนชั่น

เมื่อเวลา 08.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธานในงาน “ 100 ปี สภาความมั่นคงแห่งชาติ ” ที่หอประชุมสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจัดโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ได้ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “มุมมองต่อสถานการณ์และปัญหาความมั่นคงปัจจุบัน” ตอนหนึ่งว่า กระแสโลกาภิวัฒน์มีการเชื่อมโยงกันทุกด้านในโลก อาทิ ภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ ที่ระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาไทยได้รับผลกระทบจากการเชื่อมโยงระบบการเงินในโลก ทั้งในปี 2540 และ 2551 2552 ที่มีวิกฤติ จะเห็นว่าความเชื่อมโยงจะสร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจไทยและความมั่นคงได้ ขณะนี้จะเห็นว่าความเสี่ยงจากการไหลเข้าของเงินทุนเข้าสู่ภูมิภาคและประเทศได้กระทบต่อค่าเงิน กระทบต่อภาคการผลิต หรือการที่ราคาน้ำมัน สินค้าต่างเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ในเรื่องของอาชญากรรมข้ามชาตินั้นมีการตั้งองค์กรก่อการร้ายสากล และเมื่อมีการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารทำให้เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างภัยผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมที่จะรับมือ
----------------




Create Date : 16 ธันวาคม 2553
Last Update : 16 ธันวาคม 2553 13:26:23 น. 1 comments
Counter : 3850 Pageviews.

 
มาร์คของเรานี่แหละแบบอย่างที่ว่าสักแต่พุดแต่ทำไม่ได้อย่าไปเทียบกับมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเลย ครั้งก่อนเรียกโอบามาร์คยังขำไม่หาย เหมาะกับงานเกาะโพเดียม เปิดป้ายเกี่ยวกะพูดๆๆๆๆๆแต่อย่าให้ทำงานน่ะ55555


โดย: mini IP: 110.169.207.70 วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:20:22:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.