BlogGang.com : : สุริยาอัสดง : บิ๊กเซอร์ไพร์ซ..ของใคร?

บิ๊กเซอร์ไพร์ซ..ของใคร?

Monday, 27 July 2009 18:05

น่าติดตามกับปฏิบัติการ"จัดตั้ง"อย่างเป็นระบบ อลังการงานสร้าง กรณีพิธีกรรม และพิธีการ "งานแซยิด"การฉลองวันเกิดครบรอบ ๖๐ ปีของ"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกรัฐมนตรี(๒๖ก.ค.๕๒) ที่กลายเป็น"ปรากฎการณ์"อันสามารถช่วงชิง"พื้นที่ข่าว"ได้เหนือกว่าทุกข่าวในห้วงเวลาเดียวกัน..ทั้งก่อนหน้าและหลัง..

ขณะที่ยัง เรียกเร้าความสนใจจาก"สื่อมวลชน" ทั้งยังสามารถปลุกเร้าอารมณ์ร่วมของ"มวลชน"คนเสื้อแดงให้ออกมาร่วมกันจัดกิจกรรม"ทำบุญ"แก้กรรมให้"ทักษิณ"ในหลายพื้นที่ทั้งใน(๖๒ จังหวัด)และต่างประเทศ(คนไทยในต่างประเทศ) และสามารถ"ขยายผล"ทำให้สังคม หันมาสนใจ"ปรากฎการณ์"ดังกล่าวและหันมาจับตา และบ้างบางส่วนถูกโน้มน้าวให้"เห็นใจ","เชื่อ"และ"สงสาร"เจ้าของงานวันเกิดที่ต้องกลายเป็น"นกขิ้นเหลืองอ่อน"อยู่นอกประเทศ..

น่าสนใจที่การออก"อาวุธ"หนนี้ มีการใช้ทุก"สรรพสื่อ"ออกมาเรียกร้องความเห็นใจจากสังคม และปลุกเร้าการเคลื่อนไหวของ"มวลชน"คนเสื้อแดง ในอีกลักษณะที่ไม่ใช่การ"ก่อม็อบไล่รัฐบาล"หรือใช้ความรุนแรง..แบบที่ทั้ง"เสื้อแดง"และ"เสื้อเหลือง"เคยทำกันมาแล้ว..โดยมี"เป้าหมายหลัก"ไปที่ผลถัดไป..อันเกี่ยวข้องกับ การยื่นถวายฎีกา"พระราชทานอภัยโทษ"..ตามรัฐธรรมนูญ ม.๑๑๙

น่าสนใจที่"ทีมงาน"ของ"พ.ต.ท.ทักษิณ"สามารถ"อ่านขาด"และ จับอารมณ์ของสังคมไทยได้..ว่ากำลังรู้สึกอย่างไรกับ"รัฐบาล"ของ"นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"เวลานี้..โดยเฉพาะเมื่อกล่าวถึงสภาวะการผลกระทบ"ปากท้อง"ของประชาชน ที่ยังไร้หวังจากสารพัดมาตรการ"กระตุ้นเศรษฐกิจ"ของรัฐบาล ที่ผ่านมา ๗ เดือน ยังไร้วี่แววแห่ง"ประสิทธิผล"หรือ"ประสิทธิภาพ"ที่พอจะให้ประชาชนสามารถให้คะแนนได้เต็มๆ นอกจากอารมณ์ประมาณ"ให้โอกาส"ต่อไป...เหมือนเช่นเดือนที่ ๓ และเดือนถัดๆมาหลังรัฐบาลเข้าบริหารประเทศในห้วงวิกฤติตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๒ ทีผ่านมา

ที่ไม่แปลกนักหาก"ทักษิณ"จะเลือกวิธีการปลุกเร้าแนวร่วม"มวลชน"ที่รับสัญญาณผ่าน"คลื่น"แห่ง"สื่อนอกกระแส"..ที่เขาเริ่มถันดและช่ำชองมากขึ้น กดดัน"รัฐบาล"และ"ผู้มีอำนาจ"ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ผ่าน"สัญญาน"ที่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันระหว่าง"อดีต"-"ปัจุบัน" และ"อนาคต" ในลักษณะของ"การเปรียบเทียบ"ที่"ยากปฏิเสธการมีอยู่จริง" โดยเฉพาะกับ"รูปธรรม"ที่จับต้องได้ใน"ผลงาน"ระหว่าง "รัฐบาลไทยรักไทย"ที่มีนายกฯชื่อ"ทักษิณ ชินวัตร"ในอดีต กับ"รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์"ที่มีนายกชื่อ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ในปัจจุบัน

ที่แน่นอน..ด้วยสภาวะการณ์แห่งเงื่อนไขของสถานการณ์การเมืองและวิกฤติการณ์เศรษฐกิจของโลกห้วงนี้(วิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก,โรคระบาด,การเมืองขัดแย้ง,สถานการณ์ชายแดนเขมร,พม่า,ปัญหาความมั่นคง ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ฯลฯ) แม้จะเป็น"เหตุผล"ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์สามารถอ้างได้ถึง"ข้อจำกัด"ดังกล่าว ...แต่ธรรมชาติของ"มนุษย์"ที่ทุกผู้คนมิอาจปฏิเสธว่าล้วนซ่อนความรู้สึก"เห็นแก่ตัว"และ"เอาตัวรอด"เมื่อภัยมาถึง..ไว้ทุกผู้ตัวคน..และ..ความรู้สึกที่ซ่อนไว้เหล่านี้เอง ก็พร้อมแสดงออกมาเป็น"เงื่อนไข"หากว่าเขาได้รับผลกระทบทาง"กายภาพ"อย่างใดอย่างหนึ่ง...ที่ทำให้"สัญชาติญานดิบ"เหล่านี้พร้อมสำแดงออกมา...(ที่รัฐบาลหรือฝ่ายปกครองของแต่ละประเทศในอดีตเคยประสบกับชะตากรรมการถูกโค่นทำลายอำนาจ..จากทฤษฎี "โมโหหิว" ในท่วงทำนอง"กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่"แบบนี้มาแล้ว)

โดยเรื่องนี้สามารถ"เชื่อมโยง"เข้าด้วยกัน..กับสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังประสบ..นั่นคือ"วิกฤติเศรษฐกิจ"ที่กระทบถึง"ปากท้อง"ของผู้คน..จากระดับล่าง ลาม สู่ระดับบน และขยายวง..แผ่ซ่านความ"ผิดหวัง"(จากรัฐบาลปัจจุบัน ดังโพลสำรวจการให้คะแนนแก้ไขเศรษฐกิจของรัฐบาล-โพลความนิยม"นายกอภิสิทธิ์"ที่ตกลง )...เป็น"ความกลัว"ความวิตกกังวลในอนาคตที่ไม่มั่นคง..ของผู้คน..แปรสภาพกลายเป็น"ความโกรธ"และหา"ผู้รับผิดชอบ"กับสิ่งที่เกิดขึ้น ....

ในท่ามกลาง"รูปธรรม"ที่จับต้องได้ กับภาพที่"ผู้คน"ส่วนหนึ่ง(ชนชั้นล่างผู้ใช้แรงงาน)ที่ได้รับผลกระทบแล้ว อย่างแรงงานตามโรงงานต่างๆที่ถูกเลิกจ้าง เนื่องจากสภาพความเสื่อมทรุดทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบกับ"การส่งออก"ของประเทศไทยมา ๑-๒ ปี รวมถึง"การท่องเที่ยว"ที่ได้รับผลกระทบ ไม่รู้จักกี่รอบจากผลทางจิตวิทยา และผลของสถานการณ์ทั้งที่"สามารถควบคุม"(แต่รัฐบาลกลับไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ กรณีปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ที่กระทบปัจจัยการท่องเที่ยวที่ผ่านมา)และที่"ไม่สามารถควบคุม"เช่นปัญหา"โรคระบาด"ภัยธรรมชาติ (ที่รัฐบาลก็ไม่สามารถเช่นกัน)...เพราะอย่าลืมว่า ๗๐% ของ"รายได้"ของประเทศไทย คือ การส่งออก และ ธุรกิจบริการ ที่เกี่ยวข้องกับ"การท่องเที่ยว"...

ในขณะที่"ทิศทาง"ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล นอกจากถูกมองว่าสะเปะสะปะ(เพราะขัดแย้ง ขัดขา มุ่งผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาล)กลับมุ่งไปที่"การกู้เงิน"มาโปะปากถึงงบประมาณ และกระตุ้นไปที่"โครงสร้างพื้นฐาน"ผสม"ประชานิยม"..ที่กลายเป็นภาพของการ"ฉุกกระชากเศรษฐกิจ"ระยะสั้น..(จากการจ้างงาน)..โดยที่"ผลระยะยาวที่จะเกิดขึ้น"ตามที่รัฐบาลอ้างนั้น อาจ"ไม่ทันใจ"หรือ"ทันการ"ในความรู้สึกของภาคเอกชน ประชาชน

นี่เองจึงเป็นที่มาของ"จังหวะ"ของ"ทักษิณ"ในการเคลื่อนไหวเพื่อนำพาตัวเขากลับประเทศไทยโดยมี"มวลชน"เป็นเกราะกำบัง..โดยถ้าหากจำได้"ทีมงาน"ของเขา หรือแม้กระทั่งตัวเขาพยายาม"เสนอตัว"มาก่อนหน้านี้แล้วว่า..เขาละจากความต้องการ"อำนาจ"แล้ว แต่ด้วย"ความสามารถ"ที่ยังมีอยู่ เขามิอาจนิ่งดูดายให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจนพังพินาศต่อไปได้ เขาจึงอยากกลับเข้ามาเพื่อรับใช้ชาติด้วยการช่วยแก้วิกฤติเศรษฐกิจ..กระนั้นในความเป็นจริงย่อมเป็นไปได้ยากที่"ทักษิณ"จะกลับเข้ามาเพื่อช่วยรัฐบาลปชป.แก้เศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลเองก็มั่นใจว่า นโยบายที่ดำเนินมานั้น"ถูกต้อง"แล้วเพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลาเท่านั้น..

นี่เองจึงเป็นที่มาของ"สัญญาน"บางอย่างจาก"ผู้ใหญ่"บางท่าน..ที่ถูกส่งผ่านออกมาถึง"ทักษิณ"ผ่านการสื่อสัญญานต่อสังคม..ในห้วง ๒ เดือนก่อนหน้านี้ กับ"ข้อต่อรอง"การ"เปิดช่อง"ให้"ทักษิณ"กลับมาและให้ เข้าไปจัดการปัญหา เฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ในฐานะ"กูรู"และผู้ที่มี"เครือข่าย"กว้างไกลในสังคมทุนโลกเท่านั้น..แต่ทัศนะและ ข้อตกลงนี้ กลับถูก"ไม่เห็นด้วย"จาก"ผู้ใหญ่"อีกท่านหนึ่ง..

ที่ทำให้ต่อมาประเด็นนี้ ได้กลายเป็นประทุ"ความขัดแย้ง"กรุ่นๆ กระทั่ง"แตกประทุ"และ"ระเบิด"บานปลาย ภายในรัฐบาลในระหว่าง ๓ ขั้วอำนาจ "การเมือง-ทหาร"ที่ผนวก"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"เข้าไปด้วย..โดยมีประเด็น..คดีลอบสังหาร"นายสนธิ ลิ้มทองกุล"แกนนำพรรคการเมืองใหม่ เป็น"ตัวแสดงออก"ซึ่งความขัดแย้งที่เต็มไปด้วยร่องรอย"ความไม่ไว้วางใจ"ระหว่างกันของปีก"อำนาจรัฐ"ที่"ขั้วอำนาจที่สาม"ปีก ๓ ป.(พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ,พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา,พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ) และรวมถึง"สุเทพ เทือกสุบรรณ"ตกเป็น"เป้าหมาย"ต้องสงสัย"ไส้ศึก"และ"จอมบงการ"(ในท่ามกลาง"ความระแวง"กับการเคลื่อนตัวของ"พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์"และ"บุคคลสำคัญ"หลายส่วน ที่ถูกเชื่อมโยงสายสัมพันธ์เข้ากับ"บิ๊กป้อม"และ"บิ๊กป๊อก").. ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวเป็นที่มาของข่าวร่ำลือว่ากลายเป็นเรื่อง"ผลักมิตรเป็นศัตรู" และข่าวร่ำลือ ปฏิบัติการ"ดึงศัตรูมาเป็นมิตร"จากฝ่าย"ทักษิณ"..

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่"สัญญาน"ที่แรงถี่ของ"ทักษิณ"แบบอลังการงานสร้าง(สัญญาน..เซอร์ไพร์ซ ทั้งร้องเพลง"ฉันจะกลับมา"และ การตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ๑๐๐ช่อง แบ่งประเทศไทย ๓ ช่อง.. )ต่องาน"แซยิด" วันเกิดครบ ๖๐ ปี (๒๖ก.ค.๕๒) และเคลื่อนตัวของ"เสื้อแดง"เพื่อ ถวายฎีกา นับล้านรายชื่อ กับ"สัญญาน"จาก"ผู้ใหญ่"บางฝ่าย ข้างต้นอันเน"เบื้องต้น"ของ"ชนวนเหตุ"แห่งปมความขัดแย้งภายใน"ขั้วอำนาจรัฐ"ระยะ๒ สัปดาห์ที่ผ่านมา จะทำให้เกิดความหวั่นไหวในฝ่าย"อำนาจรัฐ"ทั้งที่อยู่"เบื้องหน้า"และ"เบื้องหลัง"ไม่น้อย(ดังภาพการพลิกเกม..ของทีมกุนซือที่พยายาม"เร่งเกม"เดินสายของ"นายกอภิสิทธิ์"ในพื้นที่อีสาน-เหนือ ..และการ"รุก"เข้าจัดการกับ"สื่อ"ของ"เสื้อแดง"อย่างหนักห้วง ๑-๒ สัปดาห์ก่อน )..โดยเฉพาะ"ความหวั่นไหว"ที่กับ"สัญญาน"อันคุ้นชินเหล่านี้ ที่เป็น"สัญญาน"เดียวกันกับ"อำนาจเหนืออำนาจ"ที่มักทำให้เรื่องที่"เป็นไปไม่ได้"ทางการเมือง กลายเป็นเรื่องทำได้ และ"เป็นไปได้"มาแล้ว

ที่ทั้งหมดทั้งมวลยิ่งหนักหน่วงในความรู้สึกแห่ง"สัญญาน"..เมื่อนำมาเทียบเคียงไปกับปรากฎการณ์"ถดถอย"ทั้งใน"สัมพันธภาพ"และถดถอยในเชิง"อำนาจ"จาก"วงรอบ"ภายนอก สู่ ภายใน ของรัฐบาล ตั้งแต่ปรากฎการณ์ความเสื่อมถอยใน ๙ กฎเหล็ก จากกรณี อาการยินยอมพร้อมใจ ทั้งอย่าง"จำใจ"และ"จำเป็น"เพื่อการดำรงอยู่ จาก ผลประโยชน์และความขัดแย้ง รัฐมนตรีกระทรวงเกรด A จากพรรคภูมิใจไทย ของ"เนวิน ชิดชอบ"มาจนถึง ผลแห่งแรงกระเพื่อมจาก"กษิต ภิรมย์"รมว.ต่างประเทศ ที่มีแรงหนุนส่งจาก"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"(พธม.)

กระทั่งกลายเป็น"ความจำเป็น"และสาเหตุที่ต้อง"ดำรงอยู่ต่อไป"แม้ว่า จะไม่ได้รับความพอใจจากมิตรประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เขมร พม่า ...ที่ต่อมา"เงื่อน"นี้บานปลายมาสู่"ประเด็นใหม่"ของความขัดแย้งใน"ขั้วอำนาจรัฐ"จาก ประเด็น ๓ ป.กับ คดี"ลอบสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล"..กระทั่งมาถึงการเสื่อมทรุดแห่ง"อำนาจ"ของ"ผู้จัดการรัฐบาล"อย่าง"สุเทพ เทือกสุบรรณ"อีกครั้ง จาก กรณี ผลเลือกตั้ง นายกอบจ.สุราษฎร์ธานี (หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "ภูมิใจไทย"ทำเสียหน้า จากการเสียท่าในพื้นที่ จ.สกลนคร และศรีสะเกษ มาแล้ว)ที่พ่ายแพ้ให้กับ"เสื้อแดง"และ"ทักษิณ"ในพื้นที่ฐานที่มั่นของตัวเอง.

โดย อาทิตย์

Create Date : 08 ตุลาคม 2552

Last Update : 8 ตุลาคม 2552 21:54:00 น.

0 comments

Counter : 515 Pageviews.