อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
สื่อโดนอีก"ภูวดล"กระชากนักข่าวหญิงร่วง

ผู้สื่อข่าวรายงาน(๒๘ส.ค.๕๑)ว่า เมื่อเวลา 15.30 น. หน่วยรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้สร้างแนวป้องกันด้วยยางรถยนต์ ที่ประตู 9 ฝั่งสะพานอรทัย พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ต่างๆเพื่อสกัดกั้นตำรวจทั้ง เหล็กแป๊ป ไม้พลอง หนังสะติ๊ก ก้อนหิน ซึ่งทันทีที่รถตู้ตำรวจ และรถ 6 ล้อ สำหรับคุมขังนักโทษ ประมาณ 20 คัน เคลื่อนผ่านฝั่ง
ตรงข้ามวัดโสมนัส ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้โห่ร้อง โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าว 3 คน ประกอบด้วยนายมนตรี จิรพรพนิต หนังสือพิมพ์ข่าวสด นายสุทธา พิมาลัย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และน.ส.ศศินภา วัฒนวรรณรัตน์ หนังสือพิมพ์มติชน ที่ขึ้นไปสังเกตการณ์อยู่บริเวณทางเชื่อมอาคารบัญชาการ 1 และ 2 ได้ถูกการ์ดพันธมิตรฯไล่ลงข้างล่างให้หมด

ทำให้ผู้สื่อข่าวทั้งสาม ได้ชี้แจง พร้อมกับโชว์บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวว่าเป็นสื่อมวลชน ขอสังเกตการทำหน้าที่รายงานตรงจุดนี้ ทางการ์ดพันธมิตรฯบอกว่า ไม่สนเพราะกลัวว่าจะเป็นนปก.ปลอมตัวมา ถ้าไม่ลงจะใช้หนังสติ๊กยิง จากนั้นได้มีรปภ.ของพันธมิตรฯ 2 คนขึ้นมาเชิญตัวลงไป แต่ผู้สื่อข่าวได้ยืนยันว่า จะขอสังเกตการณ์ต่อไปโดยยืนยันว่าสามารถดูแลตัวเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เจรจากับการ์ดพันธมิตรฯเป็นที่เรียบร้อย ปรากฎว่า นายภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ได้ขึ้นมายังบริเวณดังกล่าวด้วยอาการเกรี้ยวกราด พร้อมกับชี้หน้าไล่ผู้สื่อข่าวให้ลงไปด้านล่าง และด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยไม่ฟังคำชี้แจงใดๆ รวมทั้งได้กระชากตัว น.ส.ศศินภา อย่างรุนแรง ทำให้เพื่อนนักข่าวอีกสองคน ต้องเข้าไปกันเอาไว้พร้อมกับบอกว่า ทำอย่างนี้ไม่เหมาะสม เพราะน้องเป็นนักข่าวผู้หญิง จนทำให้น.ส.ศศินภา ร้องไห้ด้วยความตกใจในท่าทีของนายภูวดล ซึ่งนายภูวดล ได้เอ่ยปากขอโทษ แต่ก็ขู่ว่าจะลงดีๆหรือไม่ ถ้าไม่ลงจะตามรปภ.มาไล่ให้ลงไป เพราะมันอันตราย ผู้สื่อข่าวทั้งสามจำเป็นต้องลงมาด้านล่าง ซึ่งนายภูวดล ตะโกนสั่งทีมรปภ.ไล่หลังว่า "ให้เอาพวกมันลงไป"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนั้นกลุ่มพันธมิตรประมาณ 10 กว่าคนกรูกันขึ้นไปชั้นบน โดยมีหญิงกลางคน ตะโกนใส่หน้าผู้สื่อข่าวว่า เอาลงไปเลย และขณะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวเดินลงจากชั้นสอง กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านล่างพากันตะโกนไล่ กระทั่งเพื่อนผู้สื่อข่าวที่ทราบเรื่องต้องมาช่วยกันพากลับเข้าห้องผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบ แต่ก็มีมวลชนจากพันธมิตรฯฮือมาล้อมที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล จนผู้สื่อข่าวต้องขอร้องให้การ์ดพันธมิตรฯมาช่วยรักษาความปลอดภัย และได้ปิดประตูล็อคกลอนทุกด้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแจ้งว่า น.ส.ศศินภา ต้องการจะกลับบ้านแต่รถของบริษัท จอดอยู่บริเวณที่เกิดเรื่องเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย นายสนธิได้อาสาพาตัวน.ส.ศศินภา ไปส่งขึ้นรถกลับบ้าน

จากนั้นนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯได้มาเจรจากับผู้สื่อข่าว ที่รังนกกระจอกใหม่ โดยนายพิภพได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บางคน ที่ทำให้เกิดปัญหา ยอมรับว่า มีการ์ดบางส่วนไม่เข้าใจว่า นักข่าวที่ติดบัตรสื่อมวลชนต้องการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น จึงขอให้การ์ดเข้าใจและปฏิบัติตัวกับนักข่าวที่มีบัตรสื่อมวลชนอย่างให้เกียรติ ก่อนที่จะมีการกล่าวหาใดๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะการ์ดเกรงว่า จะมีฝ่ายตรงข้ามแฝงตัวมากับนักข่าว ดังนั้น หากมีปัญหาในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้ติดต่อกับแกนนำได้ 24ชั่วโมง จะแก้ปัญหาให้ทันที แต่รับประกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะการ์ดมีหลายประเภท แต่รับปากว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้

ทั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้ขอให้กลุ่มพันธมิตรฯกรุณาให้สื่อมวลชนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย และให้เกียรติในการทำงาน เพราะผู้สื่อข่าวปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ขอให้ความคุ้มครองสื่อเพราะไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ

การ์ดพธม.เกือบลุยนักข่าวอีก อ้างล้าเพราะอดนอน

ขณะเดียวกัน เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์แนวหน้า กำลังเดินสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณแยกมิสกวัน ได้มีชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้ นายชัยรัตน์ต้องเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ชายคนดังกล่าวกลับไปยอมหยุดต่อว่า นายชัยรัตน์จึงแสดงบัตรสื่อมวลชนให้ดู ทว่ากลับทำให้ชายคนดังกล่าวเกรี้ยวกราดมากขึ้น และปรี่เข้ามาจะทำร้าย แต่หน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ได้เข้ามาห้ามปราม และพยายามพูดคุยนานกว่า 15 นาที ชายคนดังกล่าวจึงสงบลง และยอมขอโทษแต่โดยดี พร้อมชี้แจงว่า เนื่องจากไม่ได้นอนหลายวันติดต่อกัน ทำให้
เกิดความเหนื่อยล้า และกดดัน คิดว่า นายชัยรัตน์เป็นตำรวจแฝงตัวมาหาข่าว ประกอบกับเกิดกระแสข่าวว่า จะมีบุคคลที่ 3 แฝงตัวมาก่อความวุ่นวาย จึงแสดงอาการดังกล่าว

วันบุกNBTสื่อก็โดนคุกคามหลายสำนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้(26ส.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ชายฉกรรจ์ ๘๒ คนบุกสถานีโทรทัศน์NBT ทำลายทรัพย์สินของทางราชการและมีการข่มขู่คุกคามและขับไล่ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสื่อมวลชนNBT ที่เข้าเวรช่วงกลางคืนถึงเช้า ออกจากที่ทำงาน ทำให้สมาคมนักข่าวมีการออกแถลงการณ์ประณาม ซึ่งได้เหตุการณ์ทำนองเดียวกันกับผู้สื่อข่าวสาวจากเครือเนชั่น ซึ่งได้ขับรถมาฝั่งสะพานอรทัย เพื่อเข้ารายงานข่าวภายในทำเนียบฯเมื่อเวลา๐๕.๓๐น. แต่ถูกรปภ.ของพันธมิตรฯปิดทางเข้า โดยนักข่าวพยายามเจรจาขอให้เปิดเส้นทางเพื่อเข้ามาทำข่าว ซึ่งระหว่างเจรจา กับหัวหน้า รปภ.พันธมิตรฯ ก็มีการ์ดของพันธมิตรฯเดินเข้ามาใช้มือทุบที่ประตูรถหน้าด้านซ้าย นักข่าวสาวจึงลงจากรถไปต่อว่าทำพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้ ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์และทำลายทรัพย์สิน ส่วนบุคคล

หัวหน้ารปภ.พันธมิตรฯพยายามเคลียร์แต่ระหวางนั้นรปภ.พันธมิตรฯอีกคนก็เดินอ้อมมาด้านขวาคนขับ โดยตรงไปที่ล้อรถขวาด้านหลัง จึงถามว่าจับที่จุกลมยางทำไม ซึ่ง รปภ.คนดังกล่าวก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ แต่เมื่อตรวจดูพบว่าจุกยางหายไป คาดว่าจะพยายามปล่อยลมยาง นอกจากนี้ยังได้นำโทรศัพท์มือถือถ่ายทะเบียนรถ แต่เมื่อนักข่าวหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปกลุ่ม
คนดังกล่าวบ้าง ก็ถูกปัดออก จากนั้นมีปากเสียงกันขึ้นและถูกการ์ดพันธมิตรฯล้อม จึงโทรแจ้ง 191 ซึ่งก็ได้ประสานไปยังตำรวจ สน.นางเลิ้ง ให้ส่งร้อยเวรมาดู

ผู้สื่อข่าวเนชั่น กล่าวว่า ระหว่างที่รอตำรวจอยู่นั้น ก็ได้โทรหานายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เพื่อแจ้งถึงพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งนายสุริยะใส ก็บอกว่าจะส่งคนของพันธมิตรฯมาดูให้ พร้อมทั้งขอโทษเหตุที่เกิดขึ้น แต่นักข่าวไม่ยอม และบอกว่าได้แจ้งความแล้ว กระทั่งตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ และลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ไม่สามารถจับผู้ที่ก่อเหตุได้เพราะสลายตัวไปก่อน โดยเปลี่ยนตัวให้รปภ.คนใหม่มายืนแทน และไม่มีแกนนำของพันธมิตรฯ มาตรวจสอบตามที่รับปากแต่อย่างใด

ซึ่งวันเดียวกัน(๒๖ส.ค.)นายกิตติ สิงหาปัด พิธีกรรายการ "3 มิติ" ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 ให้สัมภาษณ์ ว่า วันอังคารไม่มีรายการข่าวสามมิติที่ทำอยู่ช่วง 22.30 น. จึงว่างและไม่ต้องเตรียมตัวประชุมข่าว แต่เห็นข่าวว่าพันธมิตรฯบุกเข้าไปยึดสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที จึงแต่งตัวออกจากบ้านมาสังเกตการณ์ เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีมากนัก

ระหว่างที่ดูอยู่นั้นก็มีผู้หญิง 2-3 คนในม็อบ ที่จำผมได้ ก็มาขอจับไม้จับมือ คล้องแขน และขอถ่ายรูป คนอื่นๆ เห็นก็มาขอถ่ายรูปด้วย วงก็เริ่มกว้างขึ้น จาก 2-3 คน กลายเป็น 7-8 คน คนที่อยู่ข้างนอกก็คงสงสัยว่า วงที่เรากำลังถ่ายรูปนั้นมีอะไรเกิดขึ้น อาจจะมีการคิดว่ามีใครเข้ามาป่วนในม็อบ เพราะวงใหญ่เค้าเริ่มส่งเสียงโห่แล้วหันมาทางเรา ตอนนั้นการ์ดพันธมิตรฯเห็นท่าไม่ดีเลยคล้องแขนกันเข้ามากันเราออกไป ยิ่งทำให้คนในม็อบคิดว่าการ์ดจะทำร้ายเรา เขาเลยกรูเข้ามา มีหลายคนพยายามต่อยผ่านวงล้อมของการ์ด โดนบ้างไม่โดนบ้าง แต่ที่โดนเต็มๆ มี 3 หมัด ไม่ได้เจ็บมาก เพราะการ์ดกันอยู่

"ผมพยายามตะโกนบอก ปอง (นส.อัญชลี ไพรีลักษณ์) ที่อยู่บนเวทีว่า อย่าทำอะไรผม ปองพยายามตะโกนห้าม แต่ห้ามไม่ได้ เพราะนาทีนั้นไม่มีใครฟังใครแล้ว พอดีพี่คนหนึ่งในพันธมิตรฯ เรียกรถแท็กซี่ให้ ผมก็เลยรีบขึ้นรถทันที แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เข้าใจกรูกันเข้ามาทุบรถจนกระจกรถข้างซ้ายแตก แต่รถก็ขับนำผมออกมาจากพื้นที่ตรงนั้นได้อย่างปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิตการทำข่าว" นายกิตติ กล่าว

เมื่อถามว่า เห็นหน้าคนที่ชกได้หรือไม่ นายกิตติ กล่าวว่า เห็นก็จำไม่ได้เพราะชุลมุนวุ่นวายไปหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้โทรศัพท์สอบถามบุคคลใกล้ชิด นายกิตติ สิงหาปัด ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกิตติ ซึ่งมีบ้านอยู่ย่านวิภาดีรังสิต ได้เดินออกมาดูเหตุการณ์หน้าบ้านใกล้ร้านอาหารตะวันแดงสาดแสงเดือน เพื่อดูสภาพการจราจรก่อนเดินทางไปทำงานที่ช่อง 3 ปรากฎว่าท้ายแถวของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรพบเห็นนายกิตติเข้า จึงเดินเข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยกันตามปกติ ต่อมาผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งเกิดโทสะขึ้น จึงตะโกนด่านายกิตติด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นชายคนหนึ่งได้พุ่งชกใบหน้านายกิตติอย่างจัง ต่อมากลุ่มคนกว่า 10 คนได้รุมทุบตีตามร่างกายและใบหน้านายกิตติ จนต้องหนีขึ้นรถแท็กซี่ไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวันเดียวกัน(๒๖ส.ค.)ขณะที่ น.ส.อนันญา ตั้งใจตรง ผู้สื่อข่าวโมเดิร์นไนท์ทีวี.กำลังรายงานสดสถานการณ์การชุมนุมของพันธมิตรบริเวณด้านหน้าตึกทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่รายงาน ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความไม่พอใจการรายงานของน.ส.อนัญญา ด้วยการตะโกนต่อว่า และโห่ร้อง รวมถึงได้มีการสาดน้ำและขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ จนทำให้ น.ส.อนันญา ต้องยกเลิกการรายงานข่าว และต้องเดินทางออกจากบริเวณทำเนียบรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากนั้นในวันเดียวกันในการปักหลักทำข่าวของสื่อมวลชน ที่ประจำในรังนกกระจอก ที่เป็นที่ทำงานของสื่อทำเนียบรัฐบาล ยังได้ถูกกลุ่มมวลชนพันธมิตรเข้ามารุมดูและบางครั้งมีการแสดงความไม่พอใจการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวด้วย.



Create Date : 29 สิงหาคม 2551
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 0:12:09 น. 1 comments
Counter : 1188 Pageviews.

 
นี่แหละ..
พันธมารประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(ซะเมื่อไหร่)


โดย: ครูเอก วันที่: 29 สิงหาคม 2551 เวลา:10:04:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.