อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!!
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
18 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
เกิดอะไรที่ทีวีสาธารณะ-จดหมายเปิดผนึกพนักงาน TPBS (ภาคชำแหละ เละ!)

จดหมายเปิดผนึกพนักงาน TPBS (ภาคชำแหละ เละ!)

Wed, 2012-07-18 20:49

หมายเหตุ:ประชาไทได้รับจดหมายเปิดผนึกจากพนักงานและลูกจ้างองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยอีกฉบับซึ่งมีเนื้อหาและรายละเอียดแตกต่างจากฉบับที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ (ดูฉบับก่อนหน้า)อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบที่มาแล้ว และพิจารณาแล้วเห็นว่าแม้มีสาระสำคัญในข้อเรียกร้องไม่แตกต่างกันในเรื่องสิทธิแรงงาน แต่มีเนื้อหารายละเอียด และการอภิปรายที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะจึงได้นำเผยแพร่อีกฉบับ ทั้งนี้พาดหัว "จดหมายเปิดผนึกพนักงาน TPBS (ภาคชำแหละเละ!" เป็นการพาดหัวของกองบรรณาธิการ)

/////////

18 กรกฎาคม 2555

จดหมายเปิดผนึก

ในนามของพนักงานและลูกจ้างองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยมีความตระหนักถึงพันธกิจที่มีค่าขององค์กรในฐานะสื่อสาธารณะของประชาชนมีพันธกิจในการเผยแพร่ข่าวสาร ชี้นำปัญญาสนับสนุนส่งเสริมสังคมการมีส่วนร่วมตามครรลองประชาธิปไตยตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2551 (มาตรา 7)

ตลอดระยะเวลาร่วมสี่ปีที่ผ่านมาไทยพีบีเอสได้ใช้พื้นที่หน้าจอสาธารณะแห่งนี้เรียกร้องสิทธิเสรีภาพความเป็นธรรมให้แก่พี่น้องประชาชนตามพันธกิจหลักในการส่งเสริมและปลูกฝังสังคมประชาธิปไตยและความเสมอภาคซึ่งนับเป็นความภูมิใจของชาวไทยพีบีเอส

แต่เป็นที่น่าเสียดายและอดสูแทนประชาชนผู้เสียภาษีให้กับรัฐเมื่อภาษีบาปไม่ได้ถูกผันแปรให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเต็มร้อยเนื่องด้วยความล้มเหลวในการบริหารจัดการภายในทั้งเรื่อง การงาน คน และการคลังด้วยเชื่อว่าศูนย์อำนาจการบริหารงานและผู้บริหารบางกลุ่มใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเกื้อหนุนสนับสนุนพวกพ้องเดียวกันให้เข้ามามีบทบาทการบริหารงานต่างๆอย่างขาดความชอบโปร่งใส ปิดกั้นโอกาสให้ผู้มีความสามารถมีศักยภาพที่แท้จริงได้เข้ามามีบทบาทพัฒนาสื่อสาธารณะแห่งนี้ผ่านวิธีและกระบวนการคัดเลือกที่ถูกต้องโปร่งใสหนึ่งในปัญหาที่สะสมจนเป็นภาพพจน์ที่เน่าเสีย คือการบริหารงานด้านบุคลากรแม้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกสรรพวกพ้องเครือข่ายเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันบริหารงานนั้นเป็นวัฒนธรรมของสังคมไทยหากดึงสมุนพรรคพวกพ้องที่มีความสามารถมีศักยภาพการทำงานเข้ามาเป็นผู้ช่วยมือซ้ายมือขวาก็จะถือว่าผลประโยชน์ “ส่วนตัว” นั้นกลายเป็นผลประโยชน์ส่วนรวมเพราะได้บุคลากรที่เก่งจริงเข้ามาขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างสง่าผ่าเผย

ความล้มเหลวในการบริหารบุคลากรเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับไทยพีบีเอสซึ่งสมควรได้รับการตรวจสอบโดยเร่งด่วนก่อนที่จะกลายเป็นวงจรอุบาวท์กัดกร่อนป้ายใหญ่โตมโหฬารด้านหน้าสถานีโทรทัศน์สาธารณะด้วยข้อความงดงาม “สื่อเพื่อสาธารณะ เที่ยงตรง โปร่งใสสังคมเป็นธรรม” ซึ่งเป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์การประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะชนเท่านั้น

ความไร้ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการรอบด้านสะท้อนความละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ละทิ้งเจตนารมณ์บทบาทของสื่อสาธารณะข้อความจารึกบนเสาแท่งแรกว่า “สื่อเพื่อสาธารณะ” ซึ่งในข้อเท็จจริงกลับกลายเป็น “สื่อเพื่อพวกพ้อง” ข้อความที่ปรากฏจารึกบนเสาต้นที่สอง “สังคมเป็นธรรม” ก็กลับกลายเป็น “สังคมเสื่อมไร้เสรีภาพขั้นพื้นฐาน” พนักงานภายในองค์กรมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง ขวัญกำลังใจลดหายสมองไหลหายไปกู่ไม่กลับ ผู้บริหารใช้ช่องโหว่งของการบริหารด้านบุคคลและกฏระเบียบเพื่อการโยกย้ายถ่ายเทพนักงานหลายคนเป็นผู้จัดการอยู่ดีๆ ก็ถูกลดตำแหน่งกลายเป็นผู้ชำนาญการผู้เชี่ยวชาญทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆไม่มีแนวทางการชี้นำหรือกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนเพื่อส่งเสริมบุคลากรได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพการทำงานของตนเองก่อนคำสั่งการถูกโยกย้ายโอนย้าย ฯลฯ ราวกับพนักงานเป็นน้ำเป็นวุ้นเป็นอิฐเป็นปูนขาดความเป็นธรรมในการบริหารจัดการด้านพัฒนาส่งเสริมบุคลากรโดยไร้หลักธรรมาภิบาลหรือความมีเมตตาธรรมแต่กล้าประกาศต่อสาธารณะชนบนเสาต้นที่สามหน้าองค์กรว่า “เที่ยงตรง โปร่งใส” ทั้งที่ปรากฏการณ์ความเป็นจริงเบื้องหลังจอคือ“ ความผิดของพวกพ้องมองไม่เห็นเก่งวิ่งเต้นป้องพวกพ้องพัลวัน”

ร่วมสี่ปีที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แน่ชัดแล้วว่าผลงานความล้มเหลวของการบริหารงานหลังจอสาธารณะแห่งนี้ด้วยเหตุเพราะไม่เคยมีเสียงสะท้อนใดใดจากพนักงานได้รับการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงใจและเร่งรีบให้ความเป็นธรรมจนอาจเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารที่มีอำนาจในการบริหารจัดการและมักถูกซ้ำเติมว่า เป็นแค่เสียงเล็กๆของพนักงานหรือพนักงานกลุ่มหนึ่งที่เสียผลประโยชน์ แทนที่จะช่วยกันรีบเร่งตรวจสอบทบทวน เร่งแก้ไขปัญหา นำมาซึ่งความเป็นธรรม หลายกรณีที่ร้องเรียกกลับถูกเพิกเฉยซ้ำยังใช้อำนาจกระทำการต่อพนักงานอย่างมีอคติและรดรอนสิทธิในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นทั้งที่สวมบทบาทสื่อสาธารณะสื่อมวลชนไทยพีบีเอสกลับถูกกระทำเหมือนเป็นมนุษย์แรงงานที่ไม่สามารถเรียกร้องสิทธิที่พึ่งชอบธรรมหลายคนหวาดกลัวที่จะเผยความจริงเพราะเจ้านายผู้เป็นใหญ่สามารถใช้อำนาจในการให้คุณให้โทษน่าเสียดายจิตวิญญาณความเป็นสื่อมวลชนที่มีพันธกิจในการนำเสนอความจริง แต่สื่อ

 

มวลชนหลายท่านที่นี่อาจไม่มีความกล้าหาญหรือถูกลิดรอนสิทธิจนเป็นความเคยชินและเกิดความหวาดกลัวที่จะพูดความจริงในขณะที่พนักงานหลายชีวิตที่นี่กลับเกิดความละอายทุกครั้งที่มีการโหมโรงประชาสัมพันธ์องค์กรฯว่าเป็นผู้มีจิตสาธารณะบ่มเพาะสังคมประชาธิปไตย ทั้งที่ในความเป็นจริงพนักงานไทยพีบีเอสกำลังถูกลิดรอนสิทธิพื้นฐานของการแสดงและสะท้อนความคิดเห็นขาดความรู้สึกภาคภูมิใจไปกับความมั่นคงเติบโตได้ในวิชาชีพตามครรลองที่ควรจะเป็นภายใต้ร่มเงาสื่อสาธารณะของประชาชนเพื่อประชาชน

เมื่อผู้บริหารทั้งหลายไม่ได้ยึดมั่นในหลักการแห่งความโปร่งใสตามที่ชอบป่าวประกาศสู่สาธารณะ เช่นการคัดเลือกพนักงาน ซึ่งใช้วิธีดึงสมัครพรรคพวกของตนเข้ามาเป็นเครือข่ายเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งบริหารกิจการของประชาชนในหลายภาคส่วนตั้งแต่ระดับบริหารยันถึงระดับปฏิบัติการโดยไม่ได้คำนึงถึงความมีประสบการณ์ความมีศักยภาพ ความสามารถรอบรู้ด้านงานสื่อสาธารณะ และประสบการณ์เฉพาะด้านตลอดจนวิสัยทัศน์ อุดมการณ์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบุคลากรไทยพีบีเอสที่นี่นิยมระบบอุปถัมภ์ดันพวกพ้องสู่ระดับผู้บริหารส่วนผู้ที่มีควาสามารถแต่ไม่เป็นพวกเดียวกันหรือมีทัศนคติที่ผิดแผกแตกต่างก็ถูกกดตำแหน่งกดเงินเดือนบวกลบคูณหารคะแนนการประเมินได้ตามอำเภอใจและไม่ละลายต่อบาปทั้งผู้กระทำและผู้สนับสนุนเซ็นอนุมัติจนเป็นวงจรอุบาวท์หมิ่นศักดิ์ศรีเพื่อนสื่อมวลชนและภาษีจากประชาชนสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวการบริหารการจัดการรอบด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารงานจัดการด้านบุคลากร องค์กรขาดวัฒนธรรม มากด้วยความเหลื่อมล้ำกระบอกเงินเดือนซึ่งเป็นเรื่องต้องเปิดเผยอย่างโปร่งใสแต่ไม่กล้านำมาเผยเพราะความเหลื่อมล้ำเรื่องฐานเงินเดือนที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขให้เที่ยงธรรม

 

หากกลับยิ่งสร้างให้เกิดความเหลื่อมล้ำทวีคูณหากเข้ามาแบบเครือข่ายรู้จักลากกันมา ก็สามารถใช้อำนาจบันดาลให้เงินเดือนสูงลิ่วหรือปรับเงินเดือนพนักงานพวกพ้องเสมือนเจ๊ดันแม้มีข้อพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นบุคลากรที่มีความสามารถที่แท้จริงเพื่อนพ้องผู้ใหญ่ก็คว่ำบาตรแต่ก็ดันทุรังผลักดันจนเป็นใหญ่ได้ในขณะที่ผู้เข้ามาด้วยความชอบธรรมหรือเป็นพนักงานเดินดินกินข้าวแกงถูกต่อรองแบบไม่ได้ศึกษาตลาดแรงงานโดยอ้างว่าที่นี่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระบอกเงินที่เปี่ยมด้วยความเท่าเทียมเป็นธรรมซึ่งล้วนส่งผลร้ายต่อขวัญและกำลังใจพนักงานที่ไม่สามารถมองเห็นอนาคตความก้าวหน้ายามที่พนักงานแสดง อริยะขัดขืน ก็จะแสดงทัศนคติแห่งความเมตตาคือ “อยู่ไม่ได้ก็ออกไปซะ” (จะได้เอาคนของเครือข่ายตนเองมาแทน)ผลพวงของวงจรอุบาทว์นี้ทำให้องค์กรสาธารณะแห่งนี้ขาดบุคลากรที่มีความสามารถจริงในวิชาชีพขาดผู้นำที่บริหารงานด้วยเมตตาธรรม คุณธรรม ความโปร่งใสและดำรงไว้ซึ่งความเท่าเทียม

ไทยพีบีเอสวันนี้จึงเป็นแค่องค์กรที่มุ่งเน้นแต่การสร้างผลผลิตหน้าจอเพื่อสร้างภาพลักษณ์ในขณะที่หลังจอนั้นขาดเสถียรภาพในการบริหารงานการปกครองคนรอบด้านอย่างสิ้นเชิงที่นี่ไทยพีเอสจึงไม่แตกต่างจากภาพของสังคมไทยที่ผู้มีอำนาจละเลยการตรวจสอบละเลยการให้ความเป็นธรรมซ้ำยังมีกลุ่มผู้ยึดมั่นในอำนาจหน้าที่ร่วมด้วยช่วยกันปกผิดความผิด ความไม่โปร่งใสของพวกพ้องและสร้างภาพไปวันๆ ด้วยการไล่จับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้เข้าข่ายการผิดวินัยทั้งที่ผู้ตั้งตนเป็นประธานกรรมการสอบสวนโดยไม่มีมีคุณสมบัติด้านจิตสำนึกแห่งความยุติธรรมใช้ถ้อยคำข่มขู่พยานหรือผู้ถูกกล่าวหา สะท้อนการขาดความรู้ด้านการสอบสวนทางวินัยและใช้อำนาจหน้าเกินขอบเขตในการไต่สวนอย่างไร้หลักธรรมาภิบาล

ที่นี่...ไทยพีบีเอสกำลังขาดบุคลากรระดับผู้นำที่มีความเป็นผู้นำ มีความกล้าหาญที่จะพูดความจริงมีความกล้าหาญที่จะลบล้างสิ่งผิดเนื่องด้วยมีประเพณีที่กระทำอยู่คือเมื่อใดที่มีอารยะขัดขืน ใครทำงานแข็งขืนไม่เป็นที่ได้ใจก็จะถูกสั่งโยกย้ายถ่ายเท ลดตำแหน่ง และนำเอาพวกพ้องคนสนิทเข้ามาแทนที่แม้ไม่มีอัตราก็จะมีวิธีในการสร้างกล่องงาน เพื่อเอาคนของตนมาวางในตำแหน่งต่างๆได้อย่างแนบเนียนในขณะที่หลายฝ่ายขาดอัตรากำลังคนที่ขับเคลื่อนเดินหน้าสร้างคุณภาพงานและการทำงานที่มีประสิทธิภาพด้านการจัดจ้างบริษัทภายนอกเพื่อประเมินค่างานกลับได้รับผลการวัดค่างานที่ถอยหลังเข้าคลองทั้งที่สูญเสียค่าใช้จ่ายเป็นล้านแต่การประเมินค่างานที่ได้กลับขาดความความชัดเจนกว่าเดิม

 

สะท้อนความล้มเหลวในการจัดการบริหารบุคคลขั้นพื้นฐานการบริหารการจัดการภายในเรื่องเล็กๆ ยังพายเรืออยู่ในอ่างพูดเรื่องซ้ำๆแต่ไม่เคยจัดการให้ขยับได้ ลำพังแค่เรื่องจะจัดตั้งศาลพระภูมิการติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ แต่งตั้งคณะกรรมการหารือกันเป็นปีจนบัดนี้เป็นองค์กรที่ไร้ศาลพระภูมิ ไร้พระบรมฉายาลักษณ์ เรื่องวิบัติวุ่นวายต่างๆจึงเกิดขึ้นเป็นประจำ นี่เป็นตัวอย่างสะท้อนให้เห็นการจัดการเรื่องง่ายๆแต่บริหารงานอย่างล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง

ผลพ่วงการบริหารงานถอยหลังเข้าคลองแบบนี้เป็นเหตุให้เกิดปัญหาสมองไหลพนักงานที่มีความสามารถลาออกไปอยู่หน่วยงานอื่นทั้งที่รายได้ไม่ได้สูงกว่าที่นี่และนี่ถือเป็นบทพิสูจน์การบริหารงานชิ้นโบว์ดำของคณะผู้บริหารชุดนี้ด้วยภาวะผู้นำที่ล้อมรอบด้วยยุทธเสนาแบบไร้ซึ่งศักยภาพและวิสัยทัศน์บริหารจัดการงานอย่างขาดธรรมาภิบาลไม่เหมาะสมที่จะบริหารงานขององค์กรที่มาจากภาษีประชาชนได้ เพราะผู้บริหารที่ดีจะต้องมีความเสียสละรับฟังปัญหาของพนักงานอย่างจริงใจตรึกตรองเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบนำความเป็นธรรมกลับมาให้ได้

ในนามพนักงานขององค์กรขอ “สานพลัง” เพื่อปกป้องพื้นที่สื่อสาธารณะแห่งนี้และขอสงวนไว้ให้เฉพาะผู้บริหารที่มีคุณธรรม มีความสามารถเข้ามานำทิศทางสื่อสาธารณะไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันนนี้ขอชื่นชมผู้บริหารที่มาจากตัวแทนภาคประชาสังคมในส่วนต่างๆ ท่านได้พยายามใช้ศักยภาพความรู้ความสามารถของท่านอย่างเต็มที่ในการร่วมกำหนดกรอบนโนบายการตรวจสอบการวางแผนงานบริหาร การจัดการปัญหา ฯลฯ และในขณะเดียวกันพวกเราต้องขอแสดงความเห็นใจที่ท้ายสุดท่านไม่สามารถเดินหน้าเพื่อตรวจสอบความถูกต้องความโปร่งใสได้ตามเจตนารมณ์แม้แต่น้อยเพียงเพราะที่นี่ ไทยพีบีเอส ยังมีนักอุดมการณ์จอมปลอมและผู้มีอำนาจปกป้องการตรวจสอบ และหวนแหนพื้นที่เพื่อเสวยอำนาจเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อนและการเอื้อประโยชน์พวกพ้องตนเอง

วงจรอุบาทว์เหล่านี้ควรจบสิ้นด้วยพลังบริสุทธ์ของพนักงานไทยพีบีเอสที่ต้องใช้ความกล้าหาญและร่วมสานพลังด้วยเจตนารมณ์ในการรักษาปกป้องสื่อสาธารณะแห่งนี้ให้พ้นจากผู้มีอำนาจซึ่งมากด้วยมลทินและพ้นจากภาพจำลองสังคมไทยที่อันตรายและเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนสิ่งดีๆผลพวงแห่งการบริหารจัดการที่ล้มเหลวมาจากการที่ “ผู้มีอำนาจละเลยสิ่งที่ถูกต้อง และปกป้องสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”

ในนามพนักงานไทยพีบีเอสขอใช้สิทธิภายใต้ระเบียบ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯเพื่อเรียกร้องให้เกิดการตรวจสอบการบริหารการจัดการภายในองค์กรทุกภาคส่วนนับตั้งแต่ การบริหารงานของสำนักทรัพยากรบุคคล /ประสิทธิภาพการตรวจสอบทุจริตของสำนักตรวจสอบภายใน /การบริหารงานของรองผู้อำนวยการด้านบริหารที่เชื่อว่ามีการใช้อำนาจลักษณะครอบงำสำนักบริหารสำนักการคลัง สำนักทรัพยากรมนุษย์ สำนักกฎหมายซึ่งถือเป็นศูนย์อำนาจการบริหารงานที่สามารถเอื้อประโยชน์ต่อการทุจริตเชิงบริหารตลอดจนสำนัก / หน่วยงานต่างๆขององค์กรที่ถือเป็นแหล่งรวมผล

ประโยชน์ขององค์กรปรากฏตามเอกสารประกอบที่แนบมานี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน /ข้อมูลสำคัญชี้นำไปสู่การตรวจสอบโดยอาศัยอำนาจหน้าที่และกลไกการตรวจสอบทั้งจากคณะกรรมการรับร้องเรื่องร้องเรียนภายในองค์กรและหน่วยงานอิสระภายนอกองค์กรเพื่อนำประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาลภายใต้การบริหารงานของผู้นำองค์กรในด้านต่างๆ ที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถและมีคุณธรรมผู้ที่สามารถขับเคลื่อนฟันเฟื่องทุกชิ้นส่วนของไทยพีบีเอสด้วยการมองเห็นหัวใจของความเป็นมนุษย์ท้ายสุดเพื่อการนำมาซึ่งขวัญกำลังใจของพนักงานทุกระดับ

เพื่อสร้างสรรค์และผลิตคุณภาพงานหน้าจอให้แก่สังคมไทย

พนักงานไทยพีบีเอส ขอใช้พลังน้ำใจและอุดมการณ์และเจตนารมณ์ที่ต้องการรักษาปกป้องสื่อสาธารณะแห่งนี้เพื่อนำไปสู่การบูรณาการด้านโครงสร้างการบริหารจัดการทุกภาคส่วนทุกระบบของสื่อสาธารณะแห่งนี้จึงขอเรียกร้องให้เกิดความชอบธรรมในข้อปฏิบัติต่อไปนี้เป็นการเร่งด่วนที่สุดและทำการชี้แจงต่อพนักงานทุกภาคส่วนขององค์กรภายใน 3 วัน นับจากการยื่นคำร้องเรียน

1. ผู้บริหารที่เข้ามาด้วยความไม่ชอบธรรมและไม่ผ่านการประเมินที่ถูกต้องขาดความโปร่งใสด้วยระบบเครือข่ายดึงกันมาเพราะเป็นคนของตนเองซ้ำยังทิ้งผลงานแห่งการบริหารงานจัดการที่ล้มเหลวไว้ กระทำการซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าขาดความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรสื่อขอให้พิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษาภาพลักษณ์และอนาคตที่ดีขององค์กรสื่อสาธารณะ

 

โดยขอให้มีการตรวจสอบผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนักภายใต้รองผู้อำนวยการส.ส.ท.ด้านบริหาร ตลอดจนตำแหน่งผู้ชำนาญการตำแหน่งผู้จัดการที่เข้ามารับตำแหน่งนับตั้งแต่ปี 2554-ปัจจุบันนับตั้งแต่กระบวนการสัมภาษณ์-คัดเลือกการประเมินผลเพื่อผ่านการบรรจุเป็นผอ.สำนัก/ผู้จัดการว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์และมีความโปร่งใสอย่างไรโดยเฉพาะข้อสงสัยที่เชื่อว่าผอ.สำนักกฎหมาย ผอ.การคลัง ผอ.สำนักบริหารมีผลงานการบริหารที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพทิ้งผลงานที่สร้างความปั่นป่วนเละเทะไว้ให้แก่องค์กรมากมายพนักงานเชื่อว่ามีการหาช่องทางกฎหมายจากผิดให้เป็นถูก

เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผลประโยชน์ทับซ้อนเพื่อนำพวกพ้องบรรจุเข้าสู่ตำแหน่งต่างๆในองค์กร งบการคลังปิดไม่ลงเป็นจำนวนเงินกว่าสิบล้านเฉพาะจากโครงการใช้งบประมาณโครงการหนึ่ง

(ยังไม่รวมงบที่ปิดไม่ลงอื่นๆ)แต่กลับให้การแถลงเท็จต่อหน้ารัฐสภา การใช้จ่ายบานเบอะขาดความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการด้านการคลังขององค์กรสื่อเรื่องเน่าเฟะจะถูกโยนให้นักกฎหมายหัวอ่อนในสำนัก ฯเพื่อจัดการดำเนินปัญหาต่างๆด้วยการหาช่องทางแบบผิดๆถูกๆเพื่อขุดขุ้ยหาความผิดหรือบกพร่องให้ผู้อื่นแต่ท้ายสุดก็กำลังสะท้อนความแปดเปื้อนเข้าตัวเองกันอย่างจัด

 

ฯลฯ

หากตรวจสอบประวัติจะพบว่าแต่ละท่านมิได้มีประสบการณ์ตรงและผ่านประสบการณ์งานบริหารอย่างมืออาชีพในองค์กรใหญ่มาก่อนและมีการเชื่อว่า “ล็อคสเป็ก” เกิดขึ้นจริงในองค์กรนี้เป็นผลหายนะขององค์กรเพราะจะได้บุคลากรที่ไร้คุณภาพมาเป็นแกนนำองค์กรในส่วนต่างๆโดยเฉพาะสำนักทรัพยากรบุคคล มีการรับพนักงานพวกพ้องมาจากหน่วยงานเดิมของผอ.สำนัก ฯเข้าเป็นพนักงานในสำนักของตนเองอย่างขาดความชอบธรรม

2.ผู้บริหารที่พึงกระทำการข่มคู่คุกคามพนักงานทั้งด้วยวาจาและการกระทำใดใดที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และขวัญกำลังใจพนักงานใช้อำนาจในการกระทำใดใดให้ผิดเป็นถูก แม้ว่าไม่มีหลักฐานใดใดพิสูจน์ได้เนื่องด้วยคุณธรรมธรรมภิบาลล้วนเป็นนามธรรมแต่จะเป็นกรรมเวรและเวรกรรมของท่านและตราบาปติดตัวติดใจของผู้กระทำไว้จึงขอให้พิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษาภาพลักษณ์และอนาคตที่ดีกว่าขององค์กรสื่อสาธารณะและเปิดพื้นที่ให้ผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาพัฒนาองค์กรได้อย่างถูกทิศทาง

3.ขอให้เผยเปิดกระบอกเงินเดือนและการประเมินค่างานตามโครงสร้างค่างานที่ปรับใหม่ทั้งหมดเพื่อนำไปสู่การพิจารณาทบทวนรื้อฐานปรับปรุงเงินเดือนใหม่และการปรับโครงสร้างค่างานใหม่ทั้งหมดโดยความสามารถและประสบการณ์ของพนักงานนั้นๆอย่างถูกต้องเป็นธรรมเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ โดยศึกษาจากคู่แข่งขันตลาดแรงงานในแต่ละสาขาและให้พิจารณาจากประสบการณ์ ความสามารถและผลงานในสายวิชาชีพของพนักงานทุกชั้นทุกระดับอย่างเป็นธรรมและส่งเสริมกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดแรงงาน

4.ขอให้พิจารณาทบทวนปรับปรุงสวัสดิการการรักษาพยาบาลต่างๆตลอดจนอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงทั้งการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเปลี่ยนแปลงไปรวมทั้งค่าเบี้ยเสี่ยงภัย ค่าปฏิบัติงานล่วงเวลา ฯลฯ

5. ขอให้ผู้บริหารชุดใหม่ตลอดจนผู้บริหารที่ดำรงตำแหน่งในส.ส.ท. จากทุกภาคส่วนตระหนักในความสำคัญของการพัฒนาสื่อสาธาณะเพื่อประชาชนละเว้นการสืบทอดอำนาจเพื่อผลประโยชน์พวกพ้องของตนเองเหมือนเช่นตลอดสี่ปีที่ผ่านมาและให้สัตยาบรรณต่อพนักงานทุกชีวิตที่ร่วมใช้สิทธิในการตั้งกระทู้ต่อสังคมเพื่อนำไปสู่การตรวจสอบการบริหารงานทุกระบบโดยเฉพาะการบริหารทรัพยากรบุคคล และการบริหารจัดการองค์กรทุกภาคส่วนเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดอำนาจการคุกคามด้วยอคติทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อพนักงานผู้ใช้สิทธิและเสียงในการสะท้อนความเป็น

จริงขององค์กรครั้งนี้บนเจตนารมณ์ในการปกป้องศักดิ์ศรีองค์กรสื่อสาธารณะเพื่อสาธารณะ

6. พนักงานที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในเรื่องต่างๆที่ถูกละเลยจาการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ขอให้มีการนำกลับมาพิจารณาโดยเร่งด่วนโดยเฉพาะเพื่อนพนักงานที่ถูกลดตำแหน่งทั้งที่ไม่เคยกระทำความผิดทางวินัยใดใดหรือการถูกโอนย้ายไปในตำแหน่งต่างๆอย่างขาดความชอบธรรม

7.ขอให้มีการกำหนดกลไกใหม่ในการการประเมินผลงานของระดับผู้อำนวยการทุกๆสองปีเพื่อการบริหารสื่อสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของสังคม

ประกาศโดย

พนักงาน ส.ส.ท.ที่ต้องการสงวนรักษาสื่อสาธารณะให้เป็นสมบัติของประชาชนต่อไปอย่างยั่งยืน

//////////////////

(จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1)

จดหมายเปิดผนึกพนักงาน TPBS เรียกร้องให้สรรหาผู้บริหารโปร่งใส ละเว้นการสืบทอดอำนาจพวกพ้อง

Wed, 2012-07-18 19:09

กลุ่มพนักงาน TPBS ร่อนจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องความโปร่งใสของกระบวนการสรรหา ผอ. TPBSคนใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ผู้บริหารใน TPBS ละเว้นการสืบทอดอำนาจเพื่อพวกพ้อง ปรับปรุง

 

สวัสดิการพนักงานรวมถึงให้นำเรื่องที่พนักงานไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกลดตำแหน่ง โอนย้าย กลับมาพิจารณาโดยเร่งด่วน

วันนี้ (18 ก.ค.)มีพนักงานของสถานีโทรทัศน์ TPBS ใช้ชื่อกลุ่มว่า"พนักงาน ส.ส.ท. ที่ต้องการสงวนรักษาสื่อสาธารณะให้เป็นสมบัติของประชาชนต่อไปอย่างยั่งยืน"ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก

 

ถึงประชาไทโดยมีรายละเอียดของจดหมายเปิดผนึกดังนี้ (หมายเหตุตัวเน้นเป็นการเน้นในจดหมายเปิดผนึก)

000

จดหมายเปิดผนึก

ในนามของพนักงานและลูกจ้างองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยมีความตระหนักถึงพันธกิจที่มีค่าขององค์กรในฐานะสื่อสาธารณะของประชาชนที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์

 

สังคมคุณภาพและคุณธรรม มีพันธกิจในการเผยแพร่ข่าวสาร ชี้นำปัญญาสนับสนุนส่งเสริมสังคมการมีส่วนร่วมตามครรลองประชาธิปไตย ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียง

 

และแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551(มาตรา 7)

พนักงานไทยพีบีเอสขอใช้พลังน้ำใจและอุดมการณ์และเจตนารมณ์ที่ต้องการรักษาปกป้องสื่อสาธารณะแห่งนี้ เพื่อนำไปสู่การบูรณาการด้านโครงสร้างการบริหารจัดการทุกภาคส่วน ทุกระบบ

 

ของสื่อสาธารณะ เพื่อทำให้สถาบันแห่งนี้สร้างคุณค่าและความเชื่อมั่นให้เกิดกับสังคมโดยรวมของ จึงขอเรียกร้องให้การตรวจสอบในประเด็นต่างๆตามเอกสารแนบ เพื่อนำไปสู่การบริหารงาน

 

การบริหารคนและการบริหารการคลังความชอบธรรมในข้อปฏิบัติต่อไปนี้เป็นการเร่งด่วนที่สุด และทำการชี้แจงต่อพนักงานทุกภาคส่วนขององค์กรภายใน3 วัน นับจากการยื่นคำร้องเรียน

1. ขอให้ผู้บริหารส.ส.ท.ทุกตำแหน่งมีความตระหนักยึดมั่นในการบริหารงานที่โปร่งใส มีคุณธรรมเพื่อเป้าหมายในการพัฒนาสื่อสาธารณะเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยแท้จริง

 

ละเว้นการสืบทอดอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง และให้สัตยาบรรณต่อพนักงานทุกชีวิตที่ร่วมใช้สิทธิ์ในตั้งกระทู้ต่อคณะกรรมการตรวจสอบร้องเรียนการร้องทุกข์ของพนักงาน

 

องค์กร/หน่วยงานอิสระภายนอกเพื่อปกป้องไม่ให้เกิดอำนาจคุกคามต่อพนักงานที่ดำเนินการเรื่องร้องเรียนด้วยการกระทำใดใดที่จะส่งผลกระทบต่อพนักงานทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องด้วย

 

พนักงานใช้สิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงมีในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นด้วยเจตนารมณ์ในการเรียกร้องให้เกิดการชี้แจงและตรวจสอบระบบบริหารงานในประเด็นต่างๆ

2.เรื่องการแต่งตั้งและคัดเลือกพนักงานระดับบริหารซึ่งต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ผู้บริหารและพนักงานระดับผู้บริหารต้องไม่มีผลประโยชน์ทั้งทางตรงและแอบแฝงตามข้อ

 

บังคับว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการผู้บริหาร และพนักงาน พ.ศ. 2551 ข้อ 4 (1) หลักผลประโยชน์สาธารณะ ข้อ 4 (5)หลักความโปร่งใส หากตรวจสอบประวัติจะพบว่ามีบุคลากรหลายภาคส่วน

 

มิได้มีประสบการณ์การบริหารอย่างมืออาชีพและ/หรือมีประสบการณ์เฉพาะด้านมาก่อนส่งผลเสียหายต่อองค์กรเพราะจะนำมาซึ่งบุคลากรที่ไม่มีศักยภาพและคุณภาพการทำงานการทำงานมาร่วม

 

ขับเคลื่อนองค์กรในส่วนต่างๆ

ผู้บริหารที่เข้ามาด้วยความไม่ชอบธรรมและไม่ผ่านการประเมินที่ถูกต้องขาดความโปร่งใสด้วยระบบเครือข่ายดึงกันมาเพราะเป็นคนของตนเองซ้ำยังทิ้งผลงานแห่งการบริหารงานจัดการที่ล้ม

 

เหลวไว้ กระทำการซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าขาดความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการองค์กรสื่อ ขอให้พิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษาภาพลักษณ์และอนาคตที่ดีขององค์กรสื่อสาธารณะ

 

โดยขอให้มีการตรวจสอบผู้บริหารระดับผู้อำนวยการสำนักตลอดจนตำแหน่งผู้ชำนาญการ ตำแหน่งผู้จัดการที่เข้ามารับตำแหน่งนับตั้งแต่ปี2554-ปัจจุบัน นับตั้งแต่กระบวนการสัมภาษณ์-คัดเลือก

 

การประเมินผลเพื่อผ่านการบรรจุเป็นผอ.สำนัก/ผู้จัดการว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์และมีความโปร่งใสอย่างไร

ตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการผู้บริหาร และพนักงาน พ.ศ. 2551 ตามข้อ 4 (5) หลักความโปร่งใสผู้บริหารต้องแสดงให้เห็นและพร้อมชี้แจงความโปร่งใสในการกำหนดการปฏิบัติงาน

 

ขององค์กรในกรณีกระบอกเงินเดือนและการประเมินค่างานตามโครงสร้างใหม่ โดยขอให้พิจาณาตรวจสอบฐานเงินเดือนตามความสามารถและประสบการณ์ของพนักงานนั้นๆอย่างถูกต้องเป็น

 

ธรรมเพราะมิเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดความสงสัยว่ามีเจตนาอันไม่สุจริต ตามข้อบังคับฯ ข้อ 4(4) ว่าด้วยหลักความสุจริตเนื่องด้วยเชื่อได้ว่ามีปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านกระบอกเงินเดือนของพนักงาน

 

ในองค์กร

เพื่อนำไปสู่การพิจารณาทบทวนรื้อฐานปรับปรุงเงินเดือนใหม่และการปรับโครงสร้างค่างานใหม่ทั้งหมดโดยความสามารถและประสบการณ์ของพนักงานนั้นๆอย่างถูกต้องเป็นธรรม เพื่อสร้าง

 

ขวัญกำลังใจโดยศึกษาจากคู่แข่งขันตลาดแรงงานในแต่ละสาขา และให้พิจารณาจากประสบการณ์ ความสามารถและผลงานในสายวิชาชีพของพนักงานทุกชั้นทุกระดับอย่างเป็นธรรม และส่ง

 

เสริมกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดแรงงาน

3.ขอให้พิจารณาทบทวนปรับปรุงสวัสดิการการรักษาพยาบาลต่างๆ ตลอดจนอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงทั้งการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

 

เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งค่าเบี้ยเสี่ยงภัย ค่าปฏิบัติงานล่วงเวลา ฯลฯ

4.พนักงานที่ได้รับความไม่เป็นธรรมในเรื่องต่างๆที่ถูกละเลยจากการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ขอให้มีการนำกลับมาพิจารณาโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะเพื่อนพนักงานที่

 

ถูกลดตำแหน่งทั้งที่ไม่เคยกระทำความผิดทางวินัยใดใด หรือการถูกโอนย้ายไปในตำแหน่งต่างๆอย่างขาดความชอบธรรม

5. ผู้บริหารที่พึงกระทำการข่มขู่พนักงานทั้งด้วยวาจาหรือการกระทำใดใดที่เป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล และขวัญกำลังใจพนักงานซึ่งอาจละเมิดสิทธิมนุษยชนตามข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรม

 

ของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ตามข้อ 4(3) และข้อปฏิบัติของกรรมการและผู้บริหารองค์กรต้องมีข้อประพฤติปฏิบัติ ตาม (9)(11) เนื่องด้วยคุณธรรมธรรมภิบาลล้วนเป็นนามธรรม แต่จะ

 

เป็นกรรมเวรและเวรกรรมของท่านและตราบาปติดตัวติดใจของผู้กระทำไว้ จึงขอให้พิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อรักษาภาพลักษณ์และอนาคตที่ดีกว่าขององค์กรสื่อสาธารณะ และเปิดพื้นที่ให้

 

ผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาพัฒนาองค์กรได้อย่างถูกทิศทาง

6.ขอให้มีการกำหนดกลไกใหม่ในการประเมินผลงานของระดับผู้อำนวยการทุกๆสองปีเพื่อการบริหารสื่อสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของสังคม

ประกาศโดยพนักงาน ส.ส.ท. ที่ต้องการสงวน

รักษาสื่อสาธารณะให้เป็นสมบัติของประชาชนต่อไปอย่างยั่งยืน




Create Date : 18 กรกฎาคม 2555
Last Update : 18 กรกฎาคม 2555 23:34:02 น. 0 comments
Counter : 2096 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สุริยาอัสดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เปิดโลกด้วยแสงแห่งปัญญา
Thaiflood
Friends' blogs
[Add สุริยาอัสดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.