เกมซ้อนปฏิวัติซ้ำบิ๊กบัง/เบื้องหลังโจ้/สุรยุทธ์/ทักษิณสู้
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานความเคลื่อนไหวทางด้านกำลังทหารของฝ่ายต่างๆในช่วงค่ำวันศุกร์(๑๗พ.ค.๕๐)ที่ผ่านมาว่า ได้มีการเคลื่อนไหวของ"นายทหารชั้นผู้ใหญ่"หลายฝ่าย โดยเฉพาะในส่วนของ"พล.อ.สนธิ"มีรายงานจาก" วงในข่าวทหาร"ว่าได้เดินทางเข้าไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐานเพื่อเข้าเฝ้าฯพร้อมกับ"พล.อ.สุรยุทธ์" หลังจากมีข่าวสะพัดตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเดียวกันว่า อาจจะเกิดการ"ปฏิวัติซ้อน"โดย"คนใกล้ชิด"พล.อ.สุรยุทธ์ บอกกับอดีตนักข่าวสายทหาร รายหนึ่ง ก่อนที่"พล.อ.สุรยุทธ์"จะไปพูดบนเวทีช่วงบ่าย ว่า "พล.อ.สุรยุทธ์"ต้องการจะให้เลื่อนการเลือกตั้งข้นมาเร็วขึ้นอีก ๑ เดือน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเดือนใด แต่จะต้อง"มีเงื่อนไข"ของสถานการณ์
@@ขณะเดียวกัน"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ในช่วงบ่าย ได้มีความเคลื่อนไหวของทหารจากราบ๑๒ แบ่งกระจายกำลังไปตามสถานีตำรวจนครบาลทุกโรงพักๆละ ๑ หมู่ทั่วกรุงเทพฯทั้งนี้โดยอ้างว่าเป็นการปฏิบัติตามแผน"สนธิกำลังร่วม"เพื่อป้องกันเหตุ ระหว่าง ตำรวจนครบาล ทหาร และกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งทำให้"พล.ท.ประยุทธ์"รีบออกมาปฏิเสธผ่านสื่อว่า ไม่มีอะไร นอกจากการ"สับเปลี่ยนกำลัง"ตามแผนสนธิกำลังดูแล กทม.
@@อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวนี้นำมาสู่การวิเคราะห์ในหมู่นายทหารระดับสูงกลุ่มหนึ่งว่า กำลังของ ราบ๑๒ ที่เป็นของ"พล.อ.อนุพงศ์"ซึ่งมี"ผู้ใหญ่"ท่านหนึ่งให้การสนับสนุน และระยะหลัง ที่ความสัมพันธ์ระหว่าง"พล.อ.สุ รยุทธ์"ไม่เป็นที่"ปลื้ม"สำหรับ"พล.อ.เปรม"กำลังส่วนนี้ก็หันมาให้การสนับสนุนฝ่ายของ"พล.อ.สุรยุทธ์"ด้วยนั้น จะเกี่ยวกับกระแสข่าว"การปฏิวัติซ้อน"หรือไม่ ทั้งนี้ในวงการวิเคราะห์ไม่ได้ให้น้ำหนักกับ"พล.อ.สพรั่ง"เพราะจาก กรณี "โจ้ พาวเวอร์เจล"แห่งพันธมิตรฯ และกรณีพบระเบิดจำนวนมากที่บริษัทปูน ย่านสระบุรี ทำให้"พล.อ.สพรั่ง"ระวังตัวเองมาก โดยทหารระดับ"พล.อ."หลายท่านที่ติดตามสถานการณ์การเมือประเมินว่า ได้มีการเคลื่อนกำลังของทั้งฝ่าย"พล.อ.สนธิ"และ"พล.อ.อนุพงศ์"มาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว โดยเฉพาะการที่มีผู้ไปพบเห็นยุทโธปกรณ์ของทหารตาม"จุดยุทธศาสตร์"หลายแห่ง และรวมถึงการที่มีการระดมกำลังทหารจากหลายจังหวัด เข้ามาในกรุงเทพฯโดยมาพักกับ"ลูกเมียและญาติ"ตามสถานที่ต่างๆ
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า นอกเหนือไปจากความเคลื่อนไหวดังกล่าว แล้ว ในช่วงค่ำราว ๒๑.๐๐น. มีรายงานว่า ได้มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองทัพบก สั่งการไปยังนายทหารระดับ"คุมกำลัง"ยศ พ.อ.ให้ทำการเข้ากรมกองเพื่อเตรียมพร้อมกำลังในที่ตั้งหน่วย อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีคำสั่งตรงจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง เป็นนายทหารยศพล.อ.ได้สื่อสารไปยังบรรดา "ผู้บังคับหน่วย"ต่างๆที่มีการเตรียมพร้อมกำลัง ว่า "พล.อ.สุรยุทธ์"ได้เตรียมเซ็นต์คำสั่ง ปลด"พล.อ.สนธิ"จากตำแหน่ง ผบ.ทบ.แล้ว ดังนั้น ไม่จำเป็นที่"ผู้บังคับหน่วย"ที่คุมกำลังดังกล่าว จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของ"พล.อ.สนธิ"และขอให้ยกเลิกการ"เตรียมพร้อมกำลัง"
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้สถานการณ์ระหว่าง"พล.อ.สนธิ"และ"พล.อ.สุรยุทธ์""เขม็งเกลียว"มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีกระแสข่าวลือสะพัดตลอดวัน ว่า จะมีการเลือกตั้งเร็วขึ้น ๑ เดือน และก่อนที่จะมีการเลื่อนการเลือกตั้งขึ้นมา จะมีเหตุการณ์บางอย่างที่เป็น"เงื่อนไข"ของสถานการณ์เกิดขึ้น(ตามรายงานข้างต้นที่คนสนิทพล.อ.สุรยุทธ์คุยกับอดีตนักข่าวสายทหารเช้าวันเดียวกัน) ซึ่งรายงานนี้สอดคล้องกับ"แหล่งข่าวทางทหาร"ที่รายงานว่า"พล.อ.อนุพงศ์"มีความเคลื่อนไหว โดยได้มีการพูดกับคนใกล้ชิดเมื่อเร็วๆนี้ ถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดการปฏิวัติขึ้นเพื่อนำรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ มาใช้ และจัดการเลือกตั้งทันที เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ปัญหาของบ้านเมือง โดยข่าวนี้สะพัดไปทั่วในหมู่นักการเมืองต่างจังหวัดที่สั่งหัวคะแนนเตรียมการสำหรับเลือกตั้งที่จะมีเร็ววันนี้
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า สถานการณ์ที่บีบรัด "พล.อ.สุรยุทธ์"ทำให้เกิดปรากฎการณ์"ตอบโต้"ระหว่างกัน โดยเหตุการณ์การจับกุม"โจ้"หลานของ"เพียร ยงหนู"ก็เป็นส่วนหนึ่งของ"หมากการเมือง"เช่นเดียวกับการพบระเบิดพาวเวอร์เจลจำนวนมหาศาล ที่บริษัทปูน จ.สระบุรี อันเชื่อมโยงกับ ทีพีไอ.ของ"ประชัย เลี่ยวไพรัตน์"ที่มีรายงานว่า ยังคงมีความพยายามที่จะทวงคืนกิจการ ทีพีไอ.จากกระทรวงการคลัง กระทั่งเป็นที่มาของข่าวการให้"น.ต. ประสงค์"และ"ทหารเก่า"ใน สนช.ทำการติดต่อประสานกับ"พล.อ.สุรยุทธ์"เพื่อให้"ประชัย"ได้คุยกับ"สุรยุทธ์"โดยมีตัวเลขเงิน ๒๐ ล้าน เป็น"ตัวตั้ง"หากใครประสานได้ และยิ่งเมื่อเจรจาสำเร็จได้กิจการคืน จำมีการจ่ายเงินให้กับผู้ เกี่ยวข้องอีก ๒,๐๐๐ล้าน
@@ทั้งนี้"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าสำหรับ"โจ้"หลานของ"เพียร ยงหนู"นั้น มีรายงานจาก"หน่วยข่าวทหาร"ว่า เป็นหนึ่งในชุดการ์ด รปภ.พันธมิตร ภายใต้การดูแลของ"หน่อง"ซึ่งเป็นน้องชายของ"ไพศาล พืชมงคล"กุนซือสำคัญ ของ"สนธิ ลิ้มทองกุล"แห่งพันธมิตรฯ โดย"โจ้"นั้นถูกติดตามร่องรอยมาตั้งแต่เมื่อครั้งเหตุการณ์ระเบิด ๙ จุดในกรุงเทพฯ ว่าอาจจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดที่ปากซอยราชวิถีตรงข้าม วังสวนจิตรฯ ซึ่งในวันดัง กล่าวมีรายงานจากทหารหลายส่วนตรงกันว่า จะมีการเคลื่อนกำลังของฝ่าย"พล.อ.สพรั่ง" แต่ได้ถูกกำลังของอีกฝ่ายสกัด ที่หลังจากนั้นมีรายงานว่ารถของ"พล.อ.สพรั่ง"ถูกลอบยิงระหว่างออกมาจาก"สวนมิกสวัน"กระทั่งเป็นเหตุให้ระยะหลังมีข่าวการเคลื่อนกำลังในการกุมสภาพกันของกำลังหลายฝ่าย รวมถึงการเพิ่มกำลังอารักขา พระตำหนักจิตรลดาลโหฐาน หลังจากที่"ผู้ใหญ่"และนายทหารระดับ"พล.อ."หลายส่วน พยายามกราบบังคมทูลเสนอเรื่องการแปรพระราชฐานก่อนวันที่ ๑๐ พ.ค.
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า ฝ่ายของ"เพียร ยงหนู"เริ่มลังเลที่จะให้"โจ้"เข้ามามอบตัวตามหมาย เพราะไม่มั่นใจการใน"รีดเค้น"ของตำรวจ ที่อาจทำให้ประเด็นกระจายไปกว่าที่จะ"ควบคุม"ทำให้มีการนำเรื่องนี้เข้าไปยังรรมาธิการตำรวจที่มี"ไพศาล"กุมสภาพอยู่...
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคักของทหาร โดยมีการนำรถสายพานลำเลียง(ขนาดเล็ก) และรถฮัมวี่ ไปจอดคลุมผ้าใบในหลายจุดตั้งแต่วันพฤหัส(๑๗พ.ค.)อาทิ หน้ากองทัพภาคที่ ๑ ใน พาณิชยการพระนครข้างทำเนียบฯ บริเวณช่อง ๙ อส.มท. กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ โดยมีการกันเชือกไม่ให้เข้า แต่มีผู้แอบเข้าไปเปิดผ้าใบดู พบว่าเป็นรถของทหารจริง..ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นที่มาของข่าวลือว่าจะมีการ"ปฎิวัติซ้อน"ตลอดวัน ซึ่งกระแสข่าวของวันศุกร์แรงมากถึงขนาดมีรายงานว่า รัฐมนตรีหลายส่วนทราบ และบางรายเก็บข้าวของแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้น ช่วงเที่ยงคืนวันพฤหัส(๑๗พ.ค.)"พล.อ.สุรยุทธ์"ได้เข้าไปยังทำเนียบเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการส่วนตัวด้วย
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าการเคลื่อนในช่วงวันศุกร์ มีรายงานว่า"พล.อ.สนธิ"จะชิงประกาศซ้ำก่อนที่"พล.อ.สุรยุทธ์"จะประกาศปลด ผบ.ทบ.โดยนายทหารระดับ"พล.อ."หลายนายได้รับการติดต่อจาก"พล.อ.สนธิ"ที่อ้างว่าจะทำการรัฐประหารซ้ำ เพื่อใช้รัฐธรรมนูญ ๔๐ และเร่งให้มีการเลือกตั้ง แต่ยังมีอีกเงื่อนไขคือจะคืน ทีพีไอ.ให้"ประชัย"ด้วย อย่างไรก็ตามเงื่อนไขอันสำคัญคือท่าทีและกระแสความไม่พอใจของ"พล.อ.สุรยุทธ์"ที่ส่งผ่าน สนช.บางส่วนที่แอบมีการเข้าชื่อกันอย่างลับๆในการที่จะเสนออภิปรายนายกฯโดยไม่ลงมติ โดยท่าทีนี้ส่งผ่านไปยัง"พล.อ.สนธิ"และคมช. ซึ่งข้อมูลนี้มาผนวกเข้ากับ การเคลื่อนไหวของ"มวลชน"หลายส่วนที่ได้รับ"สัญญา"จาก"ทักษิณ"รวมไปถึงการส่งสัญญานผ่าน"ต่อพงศ์ ชัยสาสน์"การพบกับคนไทยในอังกฤษและโฟนอินเสียงผ่านวิทยุชุมชน ๓ แห่ง รวมไปถึงการส่งสัญญานมาเป็นละลอกเตือน คมช.ให้ระวังว่า"มวลชน"จะไม่พอใจ ทั้งนี้ไม่นับรวมถึงการเซ็นต์ซื้อ"แมนซิตี้"และข่าวการกลับประเทศไทยวันที่ ๒๙ พ.ค.๕๐ ซึ่งบ่งบอกได้ชัดเจนว่า "ทักษิณ"พร้อมแล้วกับการ"สู้"และอาจมีสัญญานบางอย่างให้กลับมาต่อสู้คดผ่านกระบวนการศาล หลังจากที่ คตส.ตัดสิใจ ส่ง"คุณหญิงพจมาน"ฟ้องศาล และหลายต่อหลายคนมีการส่งสัญญาณถึงปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังมีการตัดสินคดียุบพรรค เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ"ม็อบ"ต่างๆ ที่ทำให้"พล.อ.สนธิ"ก็ไม่แน่ใจในสถานการณ์ และกำลังที่จะควบคุม อีกทั้ง"พล.อ.สนธิ"ก็ ยังอ้างกับหลายส่วนว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ น้ำมัน และรัฐธรรมนูญที่มีแนวโน้มจะไม่ผ่านแน่นอน
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่าสถานการณ์ข่าวปลด"พล.อ.สนธิ"ที่ดังขึ้นทำให้เกิดการเจรจาดังกล่าว หลังจากนั้นคาดว่าจะมีการเคลียร์กันได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับหมดสิ้นจ้อคาใจระหว่างกัน โดย"พล.อ.สนธิ"ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่โทรศัพท์สอบถามไปในช่วงเกือบเที่ยงคืน(๑๘พ.ค.)ว่า "สถานการณ์ยังปกติ"ไม่มีการปฏิวัติซ้อน..โดยก่อนหน้าช่วงหัวค่ำมีข่าวสะพัดไปทั่วว่าจะมีการประกาศสถานการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ทำให้สื่อหลายสำนักสั่งสแตนบาย"นักข่าว"ด้วย
@@อย่างไรก็ตาม"หน่วยข่าวลับ"รายงานเพิ่มเติมเข้ามาว่า ในการเข้าเฝ้าของทั้ง"พล.อ.สนธิ"และ"พล.อ.สุรยุทธ์"มีผลออกมาที่ทำให้ฝ่าย"พล.อ.สนธิ"ไม่สบายใจโดยเฉพาะ การได้รับ"สัญญาน"ที่สอดคล้องกับ ท่าทีของ"พล.อ.สุรยุทธ์"ในช่วงเช้าวันนั้น นั่นคือ การที่ในราชสำนักต้องการให้มีการจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นโดยเร็ว และให้มีการดำเนินการต่อรัฐธรรมนูญออกมาตามกระบวนการ โดยมี"สัญญาน"ออกมาอย่างชัดแจ้งแล้วว่าหากมีการปฏิวัติซ้ำเกิดขึ้น คณะนายทหาร หรือนายกฯจะไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแน่นอน ซึ่ง"สัญญาน"นี้ได้ถูกส่งต่อเป็นที่รับทราบของหมู่นายทหารระดับสูงแล้ว
@@อย่างไรก็ตาม"หน่วยข่าวลับ"รายงานอีกว่า ส่วนหนึ่งที่"พล.อ.สนธิ"หนักใจคือ ขณะนี้"ดุลกำลัง"ในกองทัพ ถูกแบ่งแยกออกเป็นหลายส่วน ซึ่งหลังจากคืนวันที่ ๑๘ พ.ค. ทำให้"พล.อ.สนธิ"ได้เห็นอย่างชัดเจน ว่า"พล.อ.อนุพงศ์"นั้นพร้อมที่จะเคลื่อนหากได้รับคำสั่งจาก"ผู้ใหญ่"ในการเข้าปฏิบัติการซ้อน และยึดกุมสภาพทันที หากมีการสร้างสถานการณ์และเข้ากระทำของฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นของ"พล.อ.สพรั่ง"หรือ"พล.อ.สนธิ"ซึ่ง"พล.อ.สนธิ"เอง ก็ยังไม่มั่นใจว่ากำลังปัจจุบันเป็นอย่างไร โดยเฉพาะขณะที่เขาทราบว่ามีการบั่นทอนกำลังของเขาตลอดเวลา และมีการประกาศออกมาจากฝ่ายของ"ผู้ใหญ่"แล้วว่า กำลังในกองทัพขณะนี้ อยู่ทางฟากของ"พล.อ.อนุพงศ์"เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้"พล.อ.สนธิ"หันมาให้ความสำคัญกับ"มวลชน"ที่ขยายผ่านงานด้านจิตวิทยามวลชน ของกอ.รมน.
@@"หน่วยข่าวลับ"รายงานว่า สำหรับการให้"พล.อ.พัลลภ"เข้ามาใน กอ.รมน.นั้น มีรายงานความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมว่า ได้มีการเคลื่อนไหวของ"พล.อ.พัลลภ"ในการไปติดต่อกับบรรดากองกำลังที่มีส่วนในคกี"ลอบฆ่าทักษิณ"รวมไปถึง"กลุ่มไล่ล่า"ชุดของ"พี่ชาย"ของ"เพียร ยงหนู"(มีความเชี่ยวชาญการวางระเบิด)ประมาณ ๒๐ คน ให้เข้ามาร่วม ทั้งนี้รวมไปถึง"กองกำลัง"ประมาณ ๓๐๐ คน ที่"พล.อ.พัลลภ"ดูแล โดยมีการติดต่อประสานขอกำลังเหล่านี้ไปยัง หาดใหญ่ จ.สงขลา และเตรียมมอบหมายงานบางอย่างให้ทำ ทั้งนี้มีรายงานว่าแผนที่ได้รับคือ การ"หักหลัง"พันธมิตร และนำไปสู่การ"ลอบสังหาร" ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เป็นที่มาของการช่วย"โจ้"หลาน"เพียร"โดยใช้กรรมาธิการตำรวจที่"ไพศาล"ดูแล เข้าจัดการกับกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินอยู่ ในการกัดไม่ให้มีการ"มอบตัว"เพราะกลัวการ"เค้น"และอาจเชื่อมโยงกับแกนนำหลายส่วนที่ดูแลด้านการ รปภ.พันธมิตร ซึ่งกำลังถูกเชื่อมโยงคดีพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การเคลื่อนกำลังของ"พล.อ.สพรั่ง"หลายต่อหลายครั้ง
Create Date : 20 พฤษภาคม 2550 |
|
25 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2550 8:24:59 น. |
Counter : 1191 Pageviews. |
|
|
|