พัลลภแนะรัฐบาลปูระวัง อย่าประมาท..เสธ.อ้าย

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2012 เวลา 16:35 น.
พัลลภแนะรัฐบาลปูระวัง อย่าประมาท..เสธ.อ้าย ก่อแก้วจี้ให้'ปิดสนามม้า' เงินอบายมุขล้มรัฐบาล

"พัลลภ" ออกโรงเตือน "รัฐบาลปู" อย่าประมาทเสธ.อ้าย ชี้เป็นคนมีบารมีเพียบ พูดแล้วต้องทำให้ได้ แถมม็อบนี้มีโครงสร้างไม่ธรรมดา อย่ามองข้ามเด็ดขาด ด้าน "ก่อแก้ว" จี้รัฐปิดสนามม้านางเลิ้ง

เพราะเป็นแหล่งอบายมุข แต่จะมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แนะรัฐบาลอย่าคิดว่าไม่มีอะไร

วันที่ 29 ต.ค. 2555 พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย นำโดยพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ "เสธ.อ้าย"

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่สนามม้านางเลิ้งว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้เราอย่าประมาท ถ้าทุกคนรู้ประวัติของ "เสธ.อ้าย" จะเข้าใจดี สมัยตนเป็นผู้พันอยู่พล.ร.9 เสธ.อ้ายเป็นรองผู้พัน ตนทำงานกับเสธ.อ้ายมา

นาน จนกระทั่งปี 2520 ตนนำกำลังไปภูหินร่องกล้า ช่วงนั้นเสธ.อ้าย ถือโอกาสนำกำลังปฎิวัติร่วมกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ แต่ก็แพ้และเป็นกบฎ ต้องถูกจำคุกกับพล.ต.สนั่น พอตนยึดอำนาจ

พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ตนก็ขอให้นิรโทษกรรมให้พล.อ.บุญเลิศกับพวก

พล.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ พล.อ.บุญเลิศเป็นเลขาธิการราชตฤนมัยสมาคมนานนับสิบปี ก็ต้องมีบารมี นอกจากนั้น พล.อ.บุญเลิศ ยังเป็นเตรียมทหารรุ่นหนึ่ง รุ่นเดียวกับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

และเป็นประธานเตรียมทหารรุ่นหนึ่งด้วย และยังเป็นประธานมวยโอลิมปิก คนที่มาถึงระดับนี้ได้ย่อมไม่ธรรมดา ดังนั้นตนต้องขอเตือนรัฐบาลว่า "อย่ามองข้ามเขา" ดูจากที่เขารวบรวมคนที่มาชุมนุม

เมื่อวานนี้ก็มาจากหลายองค์กร ซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่ถึง 2,000 แต่ก็มาร่วม 20,000 คน ตนถึงเตือนว่า อย่าได้ประมาทพล.อ.บุญเลิศ ตนรู้จักเขาดีว่า เขาเป็นคนกล้า จริงใจ พูดแล้วต้องทำให้ได้ และ

นอกจากนี้เขายังเป็นคนมีฐานะร่ำรวย

ขุดประวัติ "ไม่ใช่คนธรรมดา" ม็อบเสธ.อ้ายมีโครงสร้างไม่ธรรมดา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ม็อบของกลุ่มพล.อ.บุญเลิศ จะหนักกว่าม็อบของพันธมิตรฯหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า ดูจากโครงสร้างต่างกันมากกมาย ม็อบของกลุ่มพล.อ.บุญเลิศ มีโครงสร้างไม่ธรรมดา ไม่มี

เรื่องธุรกิจ ประวัติเขา ก็ไม่ใช่คนธรรมดา ตนโทรหาเขา ก่อนที่จะมีการชุมนุมสองวัน ถามว่า “อ้าย...มึงจะทำอะไร” ซึ่ง “เสธ.อ้าย” ก็ไม่ตอบ ได้แต่หัวเราะ และถามตนว่า ตนมาทำเนียบฯทุกวันหรือ

เปล่า ตนเลยบอกว่า มาเป็นบางวัน แต่ถ้าวันไหน จะมายึดทำเนียบฯขอให้บอกก่อน ตนจะได้ไม่ต้องมา

เมื่อถามว่า จะมีการป้องกันอย่างไร ในการล้มรัฐบาล พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องการป้องกันตนไม่รู้ ตนเป็นแค่ที่ปรึกษา ม็อบของพล.อ.บุญเลิศ จะล้มได้หรือไม่ได้ ก็ต้องรอดูกันต่อไป ม็อบครั้งนี้คง

ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่น่าจะเป็นอย่างที่เขาแถลงไว้ 3 ข้อ คือเรื่องการจาบจ้วง เรื่องรัฐบาลหุ่นเชิด และการคอร์รัปชั่น 3 เรื่องนี้เป็นสูตรสำเร็จการปฎิวัติล้มร้ฐบาล ตั้งแต่อดีตจน

ถึงปัจจุบัน สมัยก่อนตนเป็นนักปฎิวัติมา การปฎิวัติก็ต่างจากสมัยนี้ สมัยก่อน ทหารจะคิดว่า กองทัพเป็นผู้ดูแลความสงบของประเทศชาติ เหมือนเป็นกรรมการฟุตบอล ถ้าใครเล่นผิดกติกา เราก็เป่า

ให้หยุดเล่น แล้วจัดทีมเล่นกันใหม่ แต่สมัยนี้ไม่รู้ทหารเขาคิดอย่างไร

ตอกย้ำชัดๆ "อย่าประมาทเสธ.อ้าย"

เมื่อถามว่า พล.อ.บุญเลิศคิดจะประสานใช้กำลังทหารออกมาปฎิวัติได้หรือไม่ เพราะถือเป็นผู้มีบารมีในระดับหนึ่ง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้คงบอกไม่ได้ ว่าจะมีหรือไม่มี เพราะขนาด สมัย

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถามพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ว่าจะปฎิวัติหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่าไม่มี แต่หลังจากนั้น 3 วัน ก็มีการปฎิวัติขึ้นมา คิดดูขนาดถามแล้วยังไม่ยอมบอกว่า จะปฎิวัติหรือไม่ เมืองไทย

มันพูดยาก ถ้าเรื่องนี้ไม่ทำเอง ก็มีคนสั่งให้ทำ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ทหารจริงๆ แล้วก็คงไม่คิดแล้ว

พล.อ.พัลลภ กล่าวย้ำว่า พล.อ.บุญเลิศ เป็นผู้บังคับหน่วยทหารมา และเป็นประธานเตรียมทหารรุ่นหนึ่ง เป็นทหารรุ่นใหม่ มีลูกน้องในกองทัพมาก ถึงบอกว่า อย่าประมาทพล.อ.บุญเลิศ

"ก่อแก้ว" จี้ตรวจสอบความสัมพันธ์ "มาร์ค-กลุ่มพิทักษ์สยาม"

ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม และภาคีเครือข่ายที่สนามม้านางเลิ้ง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

ว่า การชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามซึ่งมีมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากนั้น ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งตนได้พยายามตรวจสอบความเคลื่อนไหวหลายๆพื้นที่ และเชื่อว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมี

ความเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง

อย่างไรก็ตาม อยากให้สังคมช่วยตรวจสอบเพื่อหาความสัมพันธ์จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปที่จ.นครปฐม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้มีการพบกับ

อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของคอกม้า ซึ่งอดีตส.ส.คนดังกล่าว มีความสัมพันธ์กับกลุ่มของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ "เสธ.อ้าย" แกนนำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามด้วย

อย่างไรก็ตามอยากให้มีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวด้วย

จี้รัฐปิดสนามม้านางเลิ้ง อย่าใช้เงินอบายมุขมาล้มรัฐบาลเลือกตั้ง

นายก่อแก้ว กล่าวว่า มวลชนที่เดินทางมาจากอีสานใต้เพื่อร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ได้มีข้อมูลจากนักการเมืองในพื้นที่ ระบุว่ามีการรับเงินจากนักการเมืองซีกเสื้อน้ำเงิน แต่ไม่ใช่นาย

เนวิน ชินชอบ ทั้งนี้ตนต้องการเตือนไปยังรัฐบาลว่าอย่านิ่งนอนใจ และอย่าคิดว่าไม่มีอะไร วันนี้รัฐบาลต้องตั้งรับ เฝ้าระวังและติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม

“ขอฝากไปยังรัฐบาลอีกว่าในเมื่อกลุ่มทุนจากอบายมุขสนามม้าเข้ามาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล ซึ่งสนามม้าทุกคนเชื่อว่าเป็นบ่อนการพนันรูปแบบหนึ่ง ในเมื่อรัฐบาลไม่สนับสนุนการพนันทุกรูปแบบ

ดังนั้นบ่อนในรูปแบบของสนามม้าก็ควรถูกปิดด้วย อย่าให้มีการใช้เงินที่มาจากอบายมุขมาล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง”นายก่อแก้วกล่าว

“มาร์ค” ตอกหน้า “ก่อแก้ว” ซัด ปูดข่าวไร้สาระ รัฐ-เพื่อไทย ปลุกม็อบแดง ชน ม็อบ “เสธอ้าย”

เวลา 15.40 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ระบุว่า

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปพบกับอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของคอกม้า ที่จ.นครปฐม ซึ่งอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ทราบว่าหมายถึงใคร

ที่ไหน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนไปจ.นครปฐม 2 ครั้ง คือ ไปงานทำบุญคุยกับพระ แทบไม่ได้พูดคุยกับใคร ส่วนครั้งที่ 2ไปปราศรัยในงานราตรีสีฟ้า ไม่ได้คุยกับใครเช่นกัน แต่การที่ออกมาพูด

เช่นนี้คงเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานในสมัยที่ตัวเองเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเกณฑ์คนมาร่วมชุมนุม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลต้องคิดว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นมีคนไปร่วมจำนวนมาก แสดงออกถึงความอึดอัดบางประการ ผู้ชุมนุมไม่ได้เจาะจงถึงรัฐบาลไหน แต่ต้องการให้รัฐบาลทำงานด้วย

ความซื่อสัตย์ ไม่ทุจริต ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ดังนั้นรัฐบาลควรตั้งหลัก และตอบโจทย์ตรงนั้นมากกว่า จะได้ไม่ต้องมีการชุมนุม แต่การที่รัฐบาลไม่รับฟังความเห็น ถือว่าไม่ใช่แนวทางที่

ควรจะเป็น การประมาทความรู้สึกของประชาชนไม่ใช่ผลดี เพราะจะทำให้เกิดการยั่วยุอารมณ์ คนขัดแย้งกันมากขึ้น ทางที่ดีคือ รัฐบาลต้องรับฟัง ชี้แจง และทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่

องค์การพิทักษ์สยามจะนัดชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งนั้น ตนไม่ทราบแต่อยากให้ทุกคนระวัง เพราะสังคมอยากเห็นความสงบ แต่ก็ต้องการให้ทุกคนสามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้ ดัง

นั้นทางออกที่แท้จริงคือ ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองตามกฎหมาย และเจตนารมณ์ตามระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ห่วงว่ารัฐบาลจะมีการปลุกมวลชนเสื้อแดงขึ้นมาทำให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วง เพราะพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลก็มีลักษณะแบบนี้อยู่ อย่าให้เกิด

ความวุ่นวายมากขึ้นเลย ขอเรียกร้องว่า งานปรองดองที่แท้จริงควรสานต่อแนวทางของคอป. และหยุดแนวคิดเรื่องมวลชนชนกับมวลชน ปลุกความขัดแย้งในสังคม การเอากระบวนการสานเสวนา

ปลอมมาสร้างความชอบธรรมในประเด็นที่จะนำสู่ความขัดแย้ง

"สันติบาล" รับประเมินการชุมนุมต่ำไป ลืมคนในกรุงเทพฯ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส. กล่าวว่า การประเมินผู้มาชุมนุมร่วมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่สนามม้านางเลิ้งเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ยอมรับว่าทางการ

ข่าวของสันติบาลประเมินผู้มาชุมนุมต่ำไป ทั้งนี้ตัวเลขที่ประเมินไว้นั้น เป็นการประเมินขั้นต่ำไว้ ซึ่งต่อไปสันติบาลต้องพิจารณาประชากรจากกรุงเทพฯด้วย รวมถึงเจาะลึกว่า กลุ่มที่มาชุมนุมมีที่

มาที่ไปอย่างไรเป็นกลุ่มแฟนพันธ์แท้หรือจัดตั้งขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม สันติบาลเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับการชุมนุม โดยประเมินสถานการณ์แย่ที่สุดไว้แล้วและเตรียมแผนการกับมือไว้ นอกจากนี้สถานที่ที่ใกล้การ

ชุมนุมมากที่สุดคือ ทำเนียบรัฐบาลก็มีการวางแผนรับมือไว้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น แต่การเตรียมแผนของสันติบาลไม่ใช่เป็นการกดดัน เพราะในระบอบประชาธิปไตยเปิดกว้างให้

ประชาชนแสดงความคิดเห็น

พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้กำชับให้มีความละเอียดในการปฏิบัติหน้าที่และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับหน่วยความมั่นคง ซึ่งต้องเกาะติด

สถานการณ์ ประเมินการข่าวทุกวันเพื่อรองรับการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในครั้งต่อไป

“ภราดร” ไม่สนม๊อบเสธ.อ้าย

เวลา 16.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่ายว่า สำนักข่าวกรอง

และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รายงานต่อที่ประชุมสภาความมั่นคง (สมช.)ที่มีนายกฯเป็นประธาน โดยระบุว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ประเมินไว้อยู่แล้วในช่วงเช้าก็มาจากต่างจังหวัด ส่วนช่วงบ่ายมีการ

เกณฑ์ในภายในกทม.เข้ามา ส่วนที่บุว่าจะมาชุมนุมที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ยังอยู่ในวิสัยที่พูดคุยได้ เพราะการชุมนุมก็อยู่ในกรอบที่กำหนดในพื้นที่ควบคุม อาจจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

เป็นหลักในการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนที่มีอดีตเลขาฯสมช.ร่วมชุมนุมก็ไม่กังวล เพราะเลขาฯสมช.ทุกคนต้องตระหนักว่าจะไม่นำประเทศนี้เข้าสู่สภาวะสงคราม เชื่อว่าหลักคิดท่านยังเป็นเช่น

นั้นอยู่

"องค์การพิทักษ์สยาม"เคาะแนวทางไล่รัฐบาลรอบสองสัปดาห์นี้

พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการหารือร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง และที่สำคัญ

ต้องรอดูท่าทีของประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมด้วยว่าหลังจากรับปากจะเพิ่มอัตราส่วน 1 ต่อ 100 คน จะมีเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะต้องการให้ประชาชนเป็นผู้กำหนดแนวทางเคลื่อนไหวเอง ทั้งนี้ ยอมรับ

ว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา มีประชาชนให้การตอบรับมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ส่วนการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ จะเดินอยู่ในแนวทาง 3 ข้อ และคงไม่มีประเด็นอื่นเพิ่มเติม

พท.ติง “เสธ.อ้าย” ระวังทำไทยเสียโอกาสในการแข่งขัน ขุดอดีตสร้างรอยด่างในกองทัพทำพี่น้องฆ่ากันเอง

เวลา 15.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามที่องค์การพิทักษ์สยามนำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประกาศจะชุมนุมอีกในเดือนพ.ย.นี้

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ห้ามการชุมนุม นอกจากนี้รัฐบาลจะให้การดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมด้วย แต่ขอความร่วมมือไปยังแกนนำผู้ชุมนุมเคารพกฎหมาย ชุมนุมโดยความสงบ ปราศจาก

อาวุธและความรุนแรงทุกรูปแบบ รัฐบาลยืนยันรับฟังความเห็นที่แตกต่างและพร้อมนำข้อเสนอปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลด้วย ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหารัฐบาลเรื่องความไม่จงรักภักดีนั้นไม่

เป็นความจริง เพราะตั้งแต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยมีข้อบ่งชี้ความไม่จงรักภักดี น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารประเทศ บรรยากาศการเมืองที่เคยตึงเครียดก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี

ขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันกลับมาขยายการลงทุนในประเทศไทยหากประเทศกลับมาวุ่นวายก็อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก เสียโอกาสในการพัฒนาประเทศได้

“ขอวิงวอนไปยังแกนนำอย่าให้เกิดความสูญเสียเหมือนเมื่อครั้งที่พล.อ.บุญเลิศ เคยร่วมในเหตุการณ์กบฏ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2520 ซึ่งเป็นการปฏิวัติที่ล้มเหลวและมีการเสียเลือด

เสียเนื้อ ทำให้พล.ต อรุณ ทวาทศิน อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าเจ็บปวดของกองทัพ เพราะพี่

น้องฆ่ากันเอง และการที่พล.อ.บุญเลิศ ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิโรงเรียนเตรียมทหาร จึงมีทหารและตำรวจสะท้อนความเห็นเข้ามาที่พรรคจำนวนมากโดยรู้สึกไม่สบายใจเพราะกลัวสังคมจะ

มองว่ากองทัพเข้าไปยุ่งเกี่ยวการเมืองมากเกินไป จนเป็นสาเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ดังนั้นขอฝากไปยังพล.อ.บุญเลิศคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับพี่น้องที่อยู่ในสถาบันเดียวกันด้วย”

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย
-----------
“พัลลภ” เตือนรัฐบาลอย่าประมาท “เสธ.อ้าย” บารีมีเพียบ เป็นนักปฏิวัติไม่ใช่คนธรรมดา

พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษานายกฯ ให้สัมภาษณ์ เผยการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย ที่สนามม้านางเลิ้ง คิดว่าเรื่องนี้เราอย่าประมาท ถ้าทุกคนรู้ประวัติของ เสธ.อ้าย จะ

เข้าใจดี สมัยผมเป็นผู้พันอยู่พล.ร.9 เสธ.อ้าย เป็นรองผู้พัน ผมทำงานกับ เสธ.อ้าย มานาน จนกระทั่งปี 2520 ผมนำกำลังไปภูหินร่องกล้า ช่วงนั้น เสธ.อ้าย ถือโอกาสนำกำลังปฎิวัติร่วมกับ พล.ต. สนั่น

ขจรประศาสน์ แต่ก็แพ้และเป็นกบฎ ต้องจำคุกกับ พล.ต. สนั่น พอผมยึดอำนาจนายเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ผมก็ขอให้นิรโทษกรรม พล.อ. บุญเลิศ กับพวก ในวันนี้ พล.อ. บุญเลิศ เป็น เลขาฯ ราช

ตฤนมัยสมาคม นานนับสิบปี ต้องมีบารมี พล.อ. บุญเลิศ ยังเป็นเตรียมทหารรุ่น 1 รุ่นเดียวกับ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ และเป็นประธานเตรียมทหารรุ่น 1 ด้วย และยังเป็นประธานมวยโอลิมปิก คนที่

มาถึงระดับนี้ได้ย่อมไม่ธรรมดา ผมต้องขอเตือนรัฐบาลว่าอย่ามองข้ามเขา ดูจากที่เขารรวบรวมคนที่มาชุมนุมเมื่อวานนี้ก็มาจากหลายองค์กร ตอนแรกคิดว่าไม่ถึง 2,ooo แต่ก็มาร่วม 20,000 ผมถึง

เตือนว่า อย่าได้ประมาท พล.อ. บุญเลิศ ผมรู้จักเขาดีว่า เขาเป็นคนกล้า จริงใจ พูดแล้วต้องทำให้ได้ และนอกจากนี้เขายังเป็นคนมีฐานะร่ำรวย

ม๊อบของ พล.อ. บุญเลิศ กับ ม๊อบของพันธมิตรฯ ดูจากโครงสร้างต่างกันมากกมาย ม๊อบของกลุ่ม พล.อ.บุญเลิศ มีโครงสร้างไม่ธรรมดา ไม่มีเรื่องธุรกิจ ประวัติเขา ก็ไม่ใช่คนธรรมดา ผมโทรหาเขา

ก่อนที่จะมีการชุมนุมสองวัน ถามว่า “อ้าย มึงจะทำอะไร” เสธ.อ้าย ก็ไม่ตอบได้แต่หัวเราะ และถามผมว่า ผมมาทำเนียบทุกวันหรือเปล่า ผมเลยบอกว่า มาเป็นบางวัน แต่ถ้าวันไหนจะมายึดทำเนียบ

ขอให้บอกก่อน ผมจะได้ไม่ต้องมา

เรื่องการป้องกันในการล้มรัฐบาล ผมไม่รู้ ผมเป็นแค่ที่ปรึกษา ม๊อบของพล.อ.บุญเลิศ จะล้มได้หรือไม่ได้ก็ต้องรอดูกันต่อไป ม๊อบครั้งนี้คงไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่น่าจะเป็นอย่างที่

เขาแถลงไว้ 3 ข้อ คือเรื่องการจาบจ้วง เรื่องรัฐบาลหุ่นเชิด และการคอร์รัปชั่น 3 เรื่องนี้เป็นสูตรสำเร็จการปฎิวัติล้มร้ฐบาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนผมเป็นนักปฎิวัติมา การปฎิวัติก็ต่างจาก

สมัยนี้ สมัยก่อนทหารจะคิดว่ากองทัพเป็นผู้ดูแลความสงบของประเทศชาติ เหมือนเป็นกรรมการฟุตบอล ถ้าใครเล่นผิดกติกา เราก็เป่าให้หยุดเล่น แล้วจัดทีมเล่นกันใหม่ แต่สมัยนี้ไม่รู้ทหารเขาคิด

อย่างไร

พล.อ. บุญเลิศ จะประสานใช้กำลังทหารออกมาปฎิวัติได้หรือไม่ เพราะเป็นผู้มีบารมีในระดับหนึ่ง เรื่องนี้คงบอกไม่ได้ ว่าจะมีหรือไม่มี เพราะขนาดสมัย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ถาม พล.อ. สนธิ ว่า

จะปฎิวัติหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่าไม่มี แต่หลังจากนั้น 3 วัน ก็มีการปฎิวัติขึ้นมา คิดดูขนาดถามแล้วยังไม่ยอมบอกว่าจะปฎิวัติหรือไม่ เมืองไทยมันพูดยาก ถ้าเรื่องนี้ไม่ทำเอง ก็มีคนสั่งให้ทำ ก็เป็นไป

ได้ทั้งนั้น แต่ทหารจริงๆแล้วก็คงไม่คิดแล้ว พล.อ. บุญเลิศ เป็นผู้บังคับหน่วยทหารมา และเป็นประธานเตรียมทหารรุ่น 1 เป็นทหารรุ่นใหม่ มีลูกน้องในกองทัพมาก ถึงบอกว่าอย่าประมาท พล.อ. บุญเลิศ

Create Date : 29 ตุลาคม 2555		0 comments
Last Update : 29 ตุลาคม 2555 22:31:46 น.
Counter : 730 Pageviews.
Share Tweet