สวัสดีค่าา ... ปลายเดือนที่แล้วตาลไปทานมื้อเย็นที่ร้าน Tokiya
เลยเก็บภาพอาหารมาฝากกันค่ะ
ดีเลย์ไม่นานแค่ครึ่งเดือนเอ๊งงง...
อย่าโกรธกันนะคะ
ร้านโทคิยะ อยู่ที่สยามดิสคัพเวอรี่ ชั้นสอง
เป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ อาหารที่นั่นจะเป็นแนวสเต๊กคอร์ส
ก็คือจะมีอาหาร+เครื่องดื่มรวมแปดอย่างค่ะ
แต่ตาลดันลืมราคาไปแล้วค่ะ เมื่อกี้เลยไปถามอากู๋มา
อากู๋ตอบมาว่า ราคาคนละ 499 บาทค่าา
ราคานี้ยังไม่รวม service charge อีก 10% นะคะ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาค่ะ เรามารอที่หน้าร้านกันก่อนเลย
ทางร้านตกแต่งโดยใช้สีม่วงเป็นหลักค่ะ
เป็นอีกสีที่ตาลชอบซะด้วย
เพราะพาป๊ะป๋ากับหม่าม๊ามาทานด้วย เลยมาจองโต๊ะก่อน
ทำให้ได้โต๊ะติดริมหน้าต่างแบบนี้ค่ะ
ทานไป.. มองโน่นนี่ไป มีความสุขค่ะ
หลังจากเลือกแล้วเลือกอีกให้ได้ครบ 8 อย่าง
เราก็นั่งรอค่ะ
ที่ประทับใจอีกอย่างนึงของร้านนี้คือพนักงานสุภาพน่ารักมากค่ะ
บริการดี หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
ไปกี่ครั้งๆ ก็ยังน่ารักแบบนี้ทุกครั้งเลยค่ะ
..ตบมือให้เป็นรางวัล..
เครื่องดื่มมาแล้วค่ะ เป็นชาจีนร้อน
จะสั่งเป็นแบบเย็นก็ได้นะคะ แต่ตาลว่าแบบร้อนแก้เลี่ยนได้ดีกว่า
แก้วนี้จะมีพนักงานเติมให้เรื่อยๆ ค่ะ
ทานไปได้เยอะๆ เล้ยยย
จานแรกเรียกน้ำย่อยออกมาแล้วค่ะ เป็น Appetizer
แต่ตาลลืมชื่อไปแล้ว เพราะว่ามันเป็นเมนูพิเศษน่ะค่ะ
แต่เมนูปกติของที่นี่จะเป็น เห็ดออรินจิผัดซอสโทคิยะค่ะ
เมนูนี้อร่อยเป็นปกติอยู่แล้วค่ะ
พอจานนี้มาถึงตาลก็ถ่ายรูปแช๊ะเดียว แล้วก็นั่งซัดแบบลืมสิ้นทุกสิ่งค่ะ
อร่อยดีนะคะ ข้างล่างรู้สึกจะเป็นสาหร่ายวากาเมะ
ส่วนข้างบนเป็นเนื้ออะไรสักอย่างค่ะ ไม่แน่ใจว่าใช่ทูน่ามั๊ย
เมนูถัดเป็นเป็ดเมนูสลัดค่ะ จานนี้ที่ตาลสั่งเป็นสลัดเป็ดรมควันค่ะ
ดูหน้าตาก็รู้แล้วใช่มั๊ยคะ ว่าน่าอร่อย แหะๆๆ
อันนี้คือสลัดมะละกอซีฟู๊ดค่ะ
จานนี้ตาลเองก็เคยทานแล้ว เนื้อมะละกอทานกี่ทีๆ ก็ยังหวานค่ะ
หลังจากสลัด เราก็มาจัดการกับซุปร้อนๆ ต่อค่ะ
ตาลเลือก "โอซุยโมโนะซุป"
ข้างในมีเนื้อปลา กุ้ง แล้วก็เห็ดค่ะ
ซดกันแบบเบาๆ เพลินๆ ก่อนจานถัดไป
จานข้าวมาแล้วค่ะ จานนี้ตาลสั่งเป็นเมนูพิเศษที่เพิ่มมาอีกแล้ว
ในขณะที่คนอื่นๆ สั่งข้าวหน้าหมูชาชูกันค่ะ
จานนี้รู้สึกว่าจะเป็นมากิปูนิ่มค่ะ
มีวาซาบิผสมให้เผ็ดซ่านิดๆ อร่อยดีค่ะ
แต่สำหรับตาลที่ไม่ชอบวาซาบิ ตาลว่าข้าวหน้าหมูชาชูทานง่ายกว่าค่ะ แหะๆ
อันนี้เป็นของโปรดตาลอีกอย่างค่ะ
Mulberry Vinegar Juice น้ำมัลเบอร์รี่หมัก
มาเสริฟแบบเย๊นเย็นค่ะ มีเกล็ดน้ำแข็งด้วย
รสชาติเปรี้ยวอมหวานค่ะ
แก้วนี้ตาลก็ไม่รู้ว่าขอเติมได้มั๊ย แต่พอลองขอไป พนักงานก็มาเติมให้นะคะ
อ๋อ.. แก้วนี้เค้าแนะนำให้ดื่มให้หมดก่อน Main Course มาค่ะ
Main Course มาแล้วค่าาา
ตาลสั่ง Salmon Steak ค่ะ เสริฟพร้อมโรยเกลือหิมาลายันไว้ด้วยค่ะ
ตาลไปถามอากู๋มา อากู๋บอกว่าเกลือชนิดนี้มาจากเหมืองเกลือที่ปากีสถาน
ได้รับการรับรองว่าเป็นผลึกหินเกลือที่มีคุณภาพสูงที่สุดในโลก
แถมเป็นเกลือที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 84 ชนิดเชียวค่ะ
ลักษณะเป็นเกลือสีชมพู ซึ่งตรงนี้พอรู้ทีหลังแล้วตาลแอบเจ็บใจค่ะ
ไม่ได้มองเกลือเลย มองแต่สเต๊กปลา
เรากลับมาที่ปลาของตาลต่อดีกว่า
ยังไงตาลก็ไปทานปลาไม่ได้ทานเกลือ อิอิ
ปลาของตาลกรอบนอกนุ่มในค่ะ มีซอสสองอย่างให้เลือก
ตาลเลือกไม่ถูก เลยขอมันซะสองอย่างเลยค่ะ
แต่รู้สึกว่าจะมีอันนึงที่อร่อยกว่า เป็นซอสเปรี้ยวๆ หน่อย
ตาลเลยขอเพิ่มอีกถ้วยนึงค่ะ
แท่ม แทม แท้มมม ... ของหวานมาแล้วค่ะ
อันนี้เป็น Milk Panna Cotta แพนนาคอตต้านมค่ะ
ตาลชอบตรงที่ไม่หวานจนเกินไป ข้างบนมีถั่วแดงหอมมันค่ะ
ส่วนซอสข้างล่างเป็นชาเขียว ซึ่งตาลไล่เอาช้อนปาดกินอย่างมีความสุข
สุดท้ายแล้วค่ะ เป็นเครื่องดื่ม
แก้วนี้เป็นโทคิยะ ซันไรส์ค่ะ
จากการไปแย่งชาวบ้านดูดมา รสชาติออกเปรี้ยวๆ ค่ะ
ทานอะไรมาเยอะๆ ตบท้ายด้วยอันนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ
ส่วนที่ตาลสั่ง เป็น Matcha Milk Tea ค่ะ
มันคือนมชาเขียวแบบบ้านๆ ธรรมดาๆ เลย
แต่อร่อยมากนะคะ เป็น Recommend เลยล่ะค่ะ
..ให้สองรูปเลยค่ะ..
กระดาษรองเปียกๆ ไปบ้างนะคะ
ฝ่าสมรภูมิกันมาเยอะ
หมดแล้วค่ะ .. กลับมานั่งอัพบล๊อค ดูรูปแล้วยังอยากกลับไปทานค่ะ
สำหรับคนที่ยังไม่เคยไป แล้วไม่รู้จะเลือกอะไรนะคะ
เมนูที่นี่จะบอกว่าเมนูไหนเป็น Chef Recommend ค่ะ
ไม่รู้จะเลือกอะไร สั่งไปตามนี้ก็ได้นะคะ
หรือไม่ก็ลองถามพนักงานดูก็ได้ว่าเมนูนี้เป็นยังไง
กว่าตาลจะเลือกที ก็ถามกันนานสักพักเลยค่ะ
อันนี้อร่อยมั๊ย จะเลี่ยนรึเปล่า ส่วนใหญ่คนสั่งอะไร
แต่จากที่ไปแต่ละที ก็ลองเลือกเมนูที่ไม่เคยทานมาก่อน เวียนๆ กันไป
พบว่า อร่อยทุกเมนูค่ะ
มีก็แค่ เมนูนี้ถูกปากมากกว่าอีกเมนู
แต่โดยรวมแล้ว อร่อยผ่านหมดค่ะ
บล็อคนี้เท่านี้นะคะ
ยาวสักหน่อย อย่าเพิ่งตาลายกันน๊าา
มีความสุขกันทุกคนนะคะ