หลังจากที่เรามาเป็นออแพร์ที่อเมริกาประมาณ 6 เดือน เราจะได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากเอเจนซี่สำนักงานใหญ่ถามมาว่าเราต้องการจะต่อโครงการออแพร์หรือไม่ หากต่อ จะต่อกี่เดือน มีให้เลือก 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี และเรายังสมารถเลือกได้อีกว่าจะต่อโครงการกับครอบครัวเดิม หรือครอบครัวใหม่ เราอาจจะยังไม่ตอบกลับทันทีก้อได้ค่ะ เพราะยังไงประมาณเดือนที่ 9 เอเจนซี่จะทวงถามมาอีกรอบ

ออแพร์ทุกคนจะต้องส่งหลักฐานการเรียนที่อเมริกาให้เอเจนซี่ภายในเดือนที่ 11 ค่ะ หลักฐานการเรียนที่ว่าก้อคือหนังสือรับรองหรือใบประกาศจากวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่เราไปเรียน หนังสือดังกล่าวต้องมีตราของสถาบัน ชื่อวิชาที่เรียน เวลาที่เรียน และจำนวนหน่วยกิตที่เราได้รับ (ออแพร์ต้องเรียนให้ได้มากกว่า 6หน่วยกิต หรือ 72 ชั่วโมง)

สำหรับคนที่ไม่ต้องการต่อโครงการ หรืออยากกลับไทย เอเจนซี่จะให้เราจองตั๋วเครื่องบินขากลับเองค่ะ โดยเราสามารถเลือกสนามบินและวันที่เดินกลับทางได้ 3วัน ตามแต่เราสะดวกค่ะ (สะดวกเงินในกระเป๋าด้วย เพราะถ้าออแพร์ต้องการขึ้นเครื่องที่สนามบินรัฐอื่นที่ไม่ใช่รัฐของตัวเอง รึเลือกวันเดินทางเป็นวันหยุด ก้อจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ ซึ่งส่วนที่เกินมานี้ออแพร์จ่ายเองค่ะ)

สำหรับคนที่ต้องการต่อโครงการ โดยเฉพาะคนที่ต้องการเปลี่ยนครอบครัวใหม่ ต้องรีบแจ้งให้เอเจนซี่ให้ทราบแต่เนิ่นๆ เพราะต้องเผื่อเวลาหาโฮสครอบครัวใหม่ให้ออแพร์ด้วย ส่วนออแพร์ที่อยู่กับครอบครัวเดิมไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ต่อโครงการกับบ้านเดิมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แค่แจ้งเรื่องไปให้ State Department ทราบเท่านั้น ที่ต้องแจ้งให้ State Department ทราบนั้นก้อเพราะว่า หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่ออกใบ DS2019ใบใหม่ให้ออแพร์ค่ะ ออแพร์ที่ต่อโครงการปีสองไม่จำเป็นต้องต่อวีซ่าJ-1 แต่จะได้ DS2019 ใบใหม่มาแทน ซึ่งใบดีเอสนี่ละค่ะเป็นหลักฐานที่แสดงว่าเราสามารถอยู่ในอเมริกาได้อย่างถูกกฎหมายถึงแม้ว่าวีซ่าJ-1จะหมดอายุไปแล้วก้อตาม

ตามกฎหมายแล้ว ออแพร์ที่ต่อโครงการ (Extension Au Pair) สามารถเดินทางท่องเที่ยวในแคนาดา เม็กซิโก และประเทศในกลุ่มทะเลแคริบเบียนได้ ถึงแม้ว่าวีซ่าJ-1จะหมดอายุ แต่อย่าลืมส่งใบ DS2019 ใบใหม่ไปที่เอเจนซี่สำนักงานใหญ่เพื่อขออนุญาตออกนอกประเทศ และอย่าลืมขอวีซ่าเข้าประเทศนั้นๆด้วยนะคะ ส่วนออแพร์คนไหนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศนอกเหนือจากนี้ หรือเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่ไทย จำเป็นต้องต่ออายุวีซ่าJ-1ค่ะ การต่อวีซ่าJ-1 นั้นต้องกลับมาต่อที่ประเทศไทยเท่านั้นค่ะ ย้ำ ! ประเทศไทยเท่านั้นค่ะ ตอนแรกบีบีกะว่าจะไปต่อวีซ่าJ-1ที่แคนาดา ขับรถจากซีแอทเทิลไปสถานฑูตอเมริกาที่เมืองแวนคูเวอร์ในแคนาดาแค่ 3 ชั่วโมงเองค่ะ แต่เช็คไปเช็คมา เอเจนซี่บอกว่าต้องกลับไปต่อที่ไทยเท่านั้น เซ็งเลยค่ะ

เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองต้องการต่อวีซ่าเจวัน บีบีก้อรีบเตรียมเอกสารเลยค่ะ เพราะว่าต้องเดินทางไปต่อวีซ่าก่อนที่วีซ่าเดิมจะหมดอายุ ไหนจะต้องจองตั๋วเครื่องบินกลับบ้านอีก ส่วนหลักฐานที่ใช้ในการต่อวีซ่าเจวันมีดังนี้ค่ะ

1.DS2019 ใบใหม่ การจะได้ใบใหม่มานั้น เราต้องทำเรื่องจบโครงการปีแรกก่อนค่ะ คือต้องส่งหลักฐานทางการเรียนให้เอเจนซี่ แล้วเอเจนซี่จะส่งเรื่องไปที่ State Department, State Department ใช้เวลาทำเรื่องประมาณ 2-3อาทิตย์ แล้วส่งใบดีเอสใบใหม่ไปที่เอเจนซี่สำนักงานใหญ่ แล้วเอเจนซี่จึงจะส่งมาให้เราที่บ้าน รวมๆแล้วใช้เวลาเกือบ 4อาทิตย์เลยค่ะ

2. DS160 ใบคำร้องขอวีซ่าแบบใหม่ค่ะ (เมื่อก่อนเราใช้ DS156, DS157, DS158 กัน แต่ตอนนี้ใช้แค่ DS160 ใบเดียวค่ะ) เราต้องกรอกแบบฟอร์ม DS160 ออนไลน์ค่ะ กรอกแล้วก้อปรินท์ออกมา เพราะเราต้องใช้เลขที่ใบ DS160 ของเราในการจองคิววันสัมภาษณ์วีซ่าค่ะ

3.จองคิวสัมภาษณ์วีซ่า เราสามารถจองคิวได้เองที่ https://thailand.us-visaservices.com/forms/default.aspx ค่าจองคิว 12เหรียญ สามารถใช้บัตรเดบิตของอเมริกาจ่ายได้ค่ะ

4. จดหมายรับรองจากเอเจนซี่ว่าเราเป็น Extension Au Pair จากเอเจนซี่อะไร อยู่กับครอบครัวไหน ทำไมถึงต้องการต่อวีซ่า รวมไปถึงประวัติ Savis fee (ออแพร์ที่ต่อโครงการไม่จำเป็นต้องจ่ายค่า Savis fee อีกรอบค่ะ เพราะเราจ่ายครั้งเดียวตอนเข้าโครงการแล้วใช้ได้ตลอดโครงการ2 ปีค่ะ)

5. หนังสือรับรองจากโฮส

6.พาสปอร์ต

7. ใบเสร็จค่าธรรมเนียม 140 เหรียญ (ให้คนรู้จักที่ไทยไปจ่ายให้ที่ไปรษณีย์ได้ค่ะ)

8. รูปถ่ายขนาด 5x5 เซ็นติเมตร ฉากหลังสีขาว ต้องเห็นใบหูสองข้างชัดเจน จำนวน 1 รูป

ขั้นตอนการสัมภาษณ์เหมือนครั้งแรกที่เราขอค่ะ ไม่ต้องตื่นเต้น เพราะ Extension Au Pair ต่อวีซ่าแล้วได้กันทุกคน กรณีของบีบี กงศุลพอรู้ว่าเป็น Extension Au Pair เค้าก้อแค่ให้บีบีเล่าเรื่องโฮสกับเด็กให้ฟัง บีบีก้อฝอยไปเรื่อยๆ เค้าก้อบอกว่าเดี๋ยวเค้าส่งพาสปอร์ตกับวีซ่าไปให้ภายในสามวันค่ะ

ย้ำอีกครั้ง Extension Au Pair ที่ต้องการไปเที่ยวที่แคนาดา เม็กซิโก และกลุ่มประเทศในแคริบเบียน(บาฮามาส, โดมินิกัน, จาไมก้า, เปอโตริโก้ เป็นต้น) ไม่จำเป็นต้องต่อวีซ่าJ-1ก้อได้ค่ะ วุ่นวายและสิ้นเปลืองเปล่าๆ

โชคดีทุกคนค่ะ