กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
ออแพร์กับการเปลี่ยนวีซ่าเพื่ออยู่ต่อ

บีบีมาแว้วว หลังจากหายหัวไปเกือบสองเดือนเต็มๆ ไม่รู้ว่ามิตรรักแฟนขับ(ขับ-ไล่-ไส-ส่ง) จะคิดถึงบีบีตัวน้อยๆคนนี้กันมั่งรึป่าวน้อ (เงียบกริบ...ใครจะไปคิดถึงแกกันยะ!) ที่หายไปก้อไม่ได้ไปไหนหรอก แต่อากาศช่วงนี้มันหนาว หิมะก้อตกเลยทำให้เขียนบล็อคไม่ได้ (แถได้อีกนะเนี่ยะ) พูดไปแล้วก้ออายตัวเอง ตอนเริ่มเขียนบล็อคใหม่ๆ ขยันมั่กๆ วันหนึ่งอัพสามบล๊อค มาเดี๋ยวนี้ เกือบสองเดือนแล้ว บล็อคเดียวยังอัพไม่ได้เลย


วันนี้จะเขียนเกี่ยวกับเรื่องออแพร์หลังจบโครงการ จบโครงการแล้วทำอะไร จบแล้วไปไหน (“จบแล้วไปไหน” มิใช่ “ตายแล้วไปไหน” นะจ๊ะ) จบโครงการแล้ว ออแพร์ต้องกลับไทยค่ะ กลับไปรายงายตัวกับเอเจนซี่ที่ไทย แล้วเอเจซี่ที่ไทยจะให้ใบประกาศณียบัตรเรามา พร้อมกับคืนเงินค่าประกันโครงการให้เราด้วยค่ะ


บีบีเชื่อว่าปัจจุบัน มีออแพร์ที่ใกล้จบโครงการแล้วไม่อยากกลับไทยมากกว่าร้อยละ70 บางคนก้ออยากทำงานเป็นออแพร์ต่อ บางคนก้ออยากอยู่อเมริกาต่อ หลายหลายเหตุผลกันไป แต่ตามกฎหมายออแพร์ต้องกลับไทยค่ะ อยู่เกินเดือนที่ 13 วีซ่าขาด กลายเป็นคนต่างด้าวทันทีนะ ออแพร์หัวหมอหลายคนเลยทำให้ถูกกฎหมาย โดยการเปลี่ยนสถานะจากนักเรียนแลกเปลี่ยน J-1 ไปเป็นนักเรียนใช้ทุนตัวเองแบบ F-1 เพื่อให้ได้อยู่ต่อ/ทำงานต่อ/เรียนต่อ ก้อว่ากันไป ข้อดีของการเปลี่ยนวีซ่าแบบนี้ คือ ประหยัดเวลาและค่าตั่วเครื่องบิน เราสามารถยื่นเรื่องขณะที่อยู่ในอเมริกาได้ ไม่ต้องเดินทางกลับไทยเพื่อขอวีซ่า F-1 แล้วบินกลับมาอเมริกาใหม่ แต่ข้อเสียมันเยอะกว่าข้อดี บีบีขอแจงเป็นข้อๆให้เห็นชัดๆละกัน


1. เครดิตเราเสีย ถึงกำหนดกลับแล้วไม่ยอมกลับ หากคุณต้องการเดินทางกลับเข้าอเมริกาอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยวีซ่าเรียน หรือวีซ่าท่องเที่ยว การขอวีซ่าครั้งต่อไปในอนาคตจะยากมาก เพราะกงศุลจะไม่เชื่อคุณแล้ว เค้ากลัวคุณไปแล้วไม่ยอมกลับออกมาอีก


2. ไม่สามารถเดินทางออกนอกอเมริกาได้ จริงๆออกได้ แต่เข้าไม่ได้ เพราะว่าวีซ่า J-1 มันขาดตั้งแต่จบโครงการออแพร์แล้ว ถึงเราจะยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะเป็นนักเรียน F-1 ได้สำเร็จ ทางอิมไมเกรชั่นอเมริกาจะให้เอกสารที่เรียกว่า I-20 มาเก็บไว้ เป็นหลักฐานว่าเราสามารถอยู่ในอเมริกาได้อย่างถูกกฎหมาย (ออแพร์จะได้เอกสาร DS2019 จากเอเจนซี่ที่ออแพร์สังกัดอยู่ แต่นักเรียนวีซ่า F-1 จะได้เอกสาร I-20 จากโรงเรียนที่นักเรียนเรียนอยู่, เอกสารทั้งสองอย่างจะมีผลตามกฎหมายก้อต่อเมื่ออิมไมเกรชั่นลงชื่ออนุมัติเท่านั้น) แต่ทางอิมไมเกรชั่นไม่สามารถออกวีซ่า F-1 ให้เราได้ เพราะเขาจะออกวีซ่าเข้าเมือง ให้เฉพาะคนที่อยู่นอกประเทศอเมริกาเท่านั้น ดังนั้นถ้าวันหนึ่งเราเกิดเหตุจำเป็นต้องออกนอกอเมริกา (พ่อตาย แม่ป่วย ขึ้นศาล) แล้วเราต้องการเดินทางกลับอเมริกาอีกครั้ง เราก้อต้องขอวีซ่าใหม่ เพื่อเดินทางเข้ามาในอเมริกา แต่การขอวีซ่าครั้งใหม่นี้ จะหินสุดๆ เพราะเครดิตเราเสียไปแล้ว เสียไปตั้งแต่ตอนที่จบโครงการออแพร์แล้วไม่ยอมกลับนั่นแหล่ะ


3. เมื่อเราเปลี่ยนสถานะจากออแพร์เป็นนักเรียนแล้ว เราก้อต้องทำตามกฎหมายนักเรียนต่างชาติของที่นี่ คือ ต้องลงทะเบียนเรียนไม่ต่ำกว่า 20ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และห้ามทำงาน ถ้าคุณยังทำงานเป็นออแพร์ให้กับโฮสอยู่เหมือนเดิม แล้วทางเอเจนซี่รู้ แล้วเค้าแจ้งเรื่องไปทางอิมไมเกรชั่น คุณจะถูกส่งตัวกลับเมืองไทยทันทีนะจ๊ะ เพราะ เค้าห้ามนักเรียนต่างชาติทำงาน นอกจากงานในบริเวณแคมปัสของโรงเรียน (แต่ส่วนใหญ่มันก้อแอบทำกันเกือบทุกคนแหล่ะ)


4. เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เหนื่อยโคตรๆ เรียนที่นี่อาจจะไม่หนักเท่าเรียนที่ไทย แต่เรื่องการบ้านและการพรีเซนต์งานหน้าห้อง หนักกว่าที่ไทยสัก 10 เท่าได้


บีบีอยากเตือนออแพร์ที่คิดจะเปลี่ยนวีซ่าเป็นนักเรียน เพื่อที่จะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เก็บเงินไปด้วย บีบีคิดว่า มันเป็นเหมือนการซื้อเวลาเท่านั้น และเป็นการซื้อเวลาที่ราคาแพงมากๆด้วย แล้วสุดท้าย คุณจะไม่ได้อะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเงิน


เรื่องเรียน ก้อคือ ออแพร์ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนวีซ่าเพื่อเรียนภาษาแบบ ESL (ESL : English as a second language) หรือบางคนที่กะลงเรียนให้ได้วุฒิระดับ Associate (เทียบได้กับวุฒิ ปวส. บ้านเรา) แต่ถ้าภาษายังไม่ดี ทางโรงเรียนก้อจะให้ไปเรียน ESL ก่อน แล้วหลักสูตร ESLทั้งหลักสูตรใช้เวลาประมาณ 2ปี บวกกับต้องเรียนตัว pre required ของ Associateที่อยากเรียน บวกกับหลักสูตร Associateอีก 2ปี รวมทั้งหมดเกือบ 5ปี เรียนกันจนแก่ไปเลยอ่ะ พอเรียนจบแล้ว ก้อต้องกลับไทยอยู่ดี แล้ววุฒิ Associate ที่ไทยยังไม่ค่อยมีใครยอมรับหรอกนะ

เรื่องงาน ตามกฎหมายที่บอกว่านักเรียนต่างชาติต้องลงเรียนไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อันนี้เป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างมาก คือเราจะต้องแบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำงานไม่ให้ชนกัน ถ้าแยกเวลาได้แล้ว ก้ออย่าลืมเผื่อเวลาทำการบ้านด้วยนะ เรียนที่นี่การบ้านเยอะมาก และมีพรีเซนต์งานกันทุกวัน เพื่อนบีบีอ่ะไปเรียนช่วงเช้าถึงเที่ยง เที่ยงถึงสี่ทุ่มทำงาน สี่ทุ่มถึงตีหนึ่งทำการบ้าน บีบียังงงอยู่เลยว่ามันเอาเวลาพักผ่อน


สำหรับคนที่หวังว่า จะใช้ช่วง OPT หางานหลังเรียนจน (OPT : Optional Practise Traning หลังเรียนจบระดับ Associate ขึ้นไป นักเรียนจะมีสิทธิทำงานหาประสบการณ์อยู่ในอเมริกาได้ไม่เกินหนึ่งปี อย่างถูกกฎหมาย ถึงแม้วีซ่าจะหมดอายุแล้วก้อตาม) แล้วกะจะให้ที่ทำงานสปอนเซอร์ตัวเองขอกรีนการ์ด เผื่อใจไว้หน่อยนะ เพราะกรีนการ์ดผ่านการทำงาน เค้าให้เฉพาะคนที่เชี่ยวชาญจริงๆ หรือสายงานที่ขาดแคลนเท่านั้น


เรื่องเงิน อันนี้สำคัญมาก เป็นหัวใจของคำว่าซื้อเวลาเลยล่ะ เพราะเราต้องจ่ายค่าเรียนขั้นต่ำเทอมละประมาณ 3,000$ (1เทอม = 3 เดือน ค่าเรียนนี้เฉพาะหลักสูตรภาษาแบบ ESL แบบถูกที่สุด) แต่ออแพร์เดือนหนึ่งทำงานได้เงินแค่ 800$ เอง ทำงานสามเดือนยังไม่พอจ่ายค่าเทอมเลยอ่ะ ดังนั้นคุณต้องหางานพิเศษอย่างอื่นเพิ่ม และงานสุดฮิตของนักเรียนนอกก้อคือ “เด็กเสิร์ฟร้านอาหารไทย” (น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า, เด็กไทยได้งานทำแบบผิดกฏหมาย เจ้าของร้านอาหารก้อได้แรงงานไทยราคาถูกไว้ใช้งาน) ทิปดีจริง แต่เฉพาะเสาร์อาทิตย์เท่านั้นนะจ๊ะ ส่วนวันธรรมดา เงียบมากกก ส่วนการทำงานเสิร์ฟนั้นหรือ เพื่อนบีบีที่เคยทำบอกเลยว่าเหนื่อยมากกกก เพราะต้องเดินตลอดเวลา alert ตลอดเวลา เปิดร้านตอนเที่ยง ปิดร้านสามทุ่ม ปิดร้านแล้วต้องเก็บของกับเตรียมของไว้ใช้พรุ่งนี้อีก ได้เลิกงานจริงๆก้อสี่ทุ่ม คิดดูว่าการที่ต้องยืนต้องเดินวันละ 10ชั่วโมงทุกวัน มันเหนื่อยขนาดไหน ตอนทำงาน อาหารเผ็ดไปลูกค้าก้อว่า คิดเงินผิดเจ้านายก้อด่า ทำงานดีเพื่อนร่วมงานนินทา สารพัดปัญหา กว่าจะหาเงินมาได้แต่ละเหรียญ


รู้อย่างนี้แล้วแล้วนึกภาพออกมั้ย ว่าแต่ละเดือนออแพร์ที่เปลี่ยนวีซ่ามาเป็นนักเรียนต้องใช้ชีวิตยังไง เหนื่อยสายตัวแทบขาด ทั้งเรียน ทั้งทำงาน ทั้งการบ้าน ทั้งความรัก แล้วเรื่องเงินอีก หาเงินมาได้เท่าไหร่ ก้อต้องเอาไปโป๊ะค่าเทอมหมด แล้วอย่างนี้จะเอาเงินที่ไหนมาเก็บละจ๊ะ แล้วจะอยู่อย่างลำบากแบบนี้ ไปอีกนานแค่ไหน และที่สำคัญ คือ อยู่เพื่ออะไร ถ้ามันมีอะไรสักอย่างที่สำคัญ ที่คุ้มค่า กับการที่เราต้องทนอยู่อย่างลำบากแบบนี้ ก้อทนไปเถอะ แต่ถ้าไม่มี กลับบ้านเราดีกว่านะ


ถ้าใครอยากเปลี่ยนวีซ่าเพื่อเรียนต่อจริงๆ บีบีก้อสนับสนุนนะ  แต่บีบีแนะนำว่า พอใกล้จบโครงการ ให้ขอ I-20 จากจากโรงเรียน แล้วกลับไทยไปทำเรื่องจบโครงการออแพร์กับเอเจนซี่ที่ไทย  แล้วขอวีซ่ามาใหม่ในฐานะนักเรียน F-1 ไปเลยดีกว่า  บางคนสงสัยว่า ก้อเปลี่ยนที่นี่ซะก้อสิ้นเรื่อง จะแตกต่างกันตรงไหน  บีบีตอบเลยว่า แตกต่างกันตรงเครดิตค่ะ  มาในสถานะไหน กลับไปในสถานะนั้น ประวัติดี น่าเชื่อถือ ส่งผลต่อเครดิตของเราในระยะยาวค่ะ 


การเปลี่ยนวีซ่าบางกรณี บีบีก้อสนับสนุนนะคะ เพื่อนออแพร์บีบีคนหนึ่ง เค้าเปลี่ยนวีซ่าเพื่อเรียนต่อโท ในความคิดของบีบีนะ ชีเป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆ เพราะชีตั้งใจไว้ตั้งแต่มาเป็นออแพร์ใหม่ๆแล้วว่าชีอยากเรียนต่อ ดังนั้นระหว่างช่วงที่ชีเป็นออแพร์ ชีก้อลงเรียนภาษาแบบ intensive แล้วก้อลงเรียนคอร์สเพื่อเตรียมสอบโทเฟล พอใกล้จบโครงการชีก้อสอบโทเฟลผ่านในระดับที่มหาวิทยาลัยต้องการได้ พอจบโครงการปุ๊ป ชีก้อเรียนต่อโทได้เลยทันที ไม่ต้องเสียเวลามาเรียน ESL ก่อน อีกไม่นานชีก้อเรียนจบแล้วล่ะ ชีบอกว่า อย่างน้อยชีจบโทจากอเมริกาแล้ว ชีคงมีโอกาสได้งานดีๆ ทั้งในเมืองไทยหรือต่างประเทศแน่ๆล่ะ อันนี้เจ๋ง น่าสนับสนุนค่ะ เพราะอย่างน้อยที่สุด ชีรู้ว่าชีต้องการอะไร ชีมีจุดมุ่งหมายในชีวิต ชีวางแผน ชีเดินไปตามแผน และนั่นมันทำให้ชีวิตของชีไม่หลงทางค่ะ


บีบีคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนเราคือการรู้ตัวเอง รู้ว่าตัวเองเป็นใคร รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน และรู้ว่าเราต้องการอะไร พอเรารู้แล้ว มันจะมีทางให้เราไปต่อเองโดยอัตโนมัติ บางทีอาจจะมีหลายๆทางมาให้เราเลือก แต่ถ้าเรารู้ตัวเองอย่างข้างต้น มันจะทำให้เราเลือกเดินทางที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเรามากที่สุด


บีบีอยากถามออแพร์ที่ใกล้จบโครงการ และออแพร์ที่กำลังคิดจะเปลี่ยนวีซ่าว่า จำได้มั้ย วันแรกที่เรามาสมัครเข้าร่วมโครงการออแพร์ พี่ๆเอเจนซี่ที่ไทยเค้าสัมภาษณ์เราว่า “ทำไมถึงอยากเป็นออแพร์” และ “จบโครงการแล้วจะทำอะไรต่อ” ตอนนี้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ที่อยากเป็นออแพร์แล้วหรือยัง แล้วคำตอบที่ว่า “จบโครงการแล้วจะทำอะไรต่อ” มันยังเป็นคำตอบเดิมอยู่รึปล่าว  สำหรับบีบี บีบีบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างสวยงามทุกข้อ (ย้อนกลับไปอ่านวัตถุประสงค์ของบีบีได้ที่ บล็อคก่อนจะมาเป็นออแพร์ ) ส่วน “จบโครงการแล้วจะทำอะไรต่อ” บีบีเคยตอบพี่ๆเอเจนซี่ที่ไทยไปว่า “บีบีจะกลับไปทำงานที่บริษัทเดิม” แต่พอใกล้จบโครงการออแพร์ บีบีมีอีกทางเลือกหนึ่งเพิ่มขึ้นมาคือบีบีอยากไปเป็นแคร์กิฟเวอร์ที่แคนาดา (live in caregiver in Canada) จริงๆเคยคิดอยู่ว่าอยากเปลี่ยนวีซ่าเพื่ออยู่ต่อที่อเมริกา เพราะยังอยากทำงานอยู่ ยังไม่อยากจากลูกสาวแฮนนา อยากอยู่เก็บเงินอีก เพราะถ้ากลับไปทำงานที่ไทย เดือนหนึ่งจะไม่มีเงินเหลือพอจ่ายค่ายาให้แม่แน่ๆ แต่เมื่อคิดไตร่ตรองดีแล้ว ไม่เอาดีกว่า ไม่รู้จะทนลำบากไปเพื่ออะไร เลยเปลี่ยนแผนไปเป็นแคร์กิฟเวอร์ที่แคนาดาดีกว่า คุ้มและมีอนาคตกว่ากันเยอะ ถ้าอยากรู้ว่าโครงการแคร์กิฟเวอร์ที่แคนาดา (live- in caregiver in Canada) คืออะไร ทำไมคนที่คิดอะไรมากๆอย่างบีบีถึงอยากไปนัก ติดตามอ่านต่อบล็อคหน้าละกันนะจ๊ะ สำหรับบล็อคนี้ พอแค่นี้ ราตรีสวัสดิ์ ฮิ้ว ฮิ้ว


ป.ล. สุขสันต์วันแห่งความรักทุกๆคน นะคะ จุ๊บ จุ๊บ



Free TextEditor






Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2554 3:18:55 น.
Counter : 19561 Pageviews.

38 comments
  
ขอแจมนิดนึงนะคะ จะบอกว่าถ้าเสียเครดิตน่ะ มันเสียตั้งแต่ทำเรื่องเป็นออร์แพร์ต่อปีสองแล้ว ไม่ต้องรอให้เปลี่ยนเป็นเอฟหนึ่งหรอก เพราะเวลาทูตถามเราก็ตอบว่ามาแค่ปีเดียว แล้ววีซ่าที่ได้ ก็สแตมป์ว่าได้ปีเดียว

ข้อมูลของคุณเป็นประโยชน์มากเลย และมันคือความจริงของคนส่วนใหญ่

เราโชคดีที่โฮสต์เราจ่ายค่าเรียนทุกอย่างให้หมดหลังต่อปีสอง เรียนอะไรก็ได้ แต่เราก็ต้องทำงานพิเศษหารายได้เสริม ชีวิตออร์แพร์มันก็เป็นแบบนี้แหละ

จ่าย out of state tuition แพงมากๆเทอมนึงโฮสต์เราจ่ายประมาณ 4500 ไม่รวมซัมเมอร์

ตอนนี้เราแต่งงานแล้ว ทำเรื่องขอกรีนการ์ดแล้ว หลังจากนี้ก็คงกลับเมืองไทยได้(เศร้านะ เพราะไม่ได้กลับมาหลายปี ออกนอกประเทศไม่ได้)

เพื่อนเราจะเป็นแคร์กีฟเวอร์เหมือนกัน ทำเรื่องตั้งแต่อยูเมกานี่แหละ แต่ตอนนี้คนไปเยอะ แล้วทางแคนาดาก็เริ่มจำกัดจำนวนวีซ่าด้วย แต่เรามีประสบการณ์จากเมกามาแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ยังไงก็ขอให้คุณโชคดีนะ

ขอบคุณที่เอาเรื่องราวมาแชร์กันนะคะ นึกถึงอดีตเลย แหะๆ
โดย: อดีตออร์แพร์แถว วอชิงตัน(ดี.ซี) อิอิ IP: 174.156.43.119 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:32:13 น.
  
ขอบคุณค่ะ คุณอดีตออร์แพร์แถว วอชิงตัน(ดี.ซี)ที่มาแชร์ข้อมูลอีกคนหนึ่ง ค่าเรียนเรทนักเรียนต่างชาติแพงมากกกก โชคดีจังเลยค่ะที่ได้โฮสดีแบบนี้ แล้วก้อดีใจด้วยนะคะที่จะได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่ไทยไวๆนี้ ถ้าวันไหนบีบีไปเที่ยวฝั่งตะวันออก เดี๋ยวจะไปเที่ยวหานะจ๊ะ

แต่บีบียืนยันนิดหนึ่งว่าการต่อออแพร์ปีไม่ทำให้เสียเครดิตนะคะ เพราะโครงการนี้ maximam extend 2 years และข้อมูลเราใน sevis fee มันคลอบคลุม 2 ปีอยู่แล้ว ฉะนั้นจะต่อโครงการในปีที่สอง แค่สามเดือน หกเดือน หรือหนึ่งปี มันไม่เสียเครดิตแน่นอน

ตอนต่อโครงการปีสอง บีบีกลับไป renew J-1 visa ที่ไทย ตอนสัมภาษณ์ที่สถานฑูต พอกงศุลรู้ว่าบีบีเป็น extension au pair กงศุลก้อแค่ให้เล่าเรื่องโอสให้ฟัง แล้วก้อไม่ถามอะไรเลย ใช้เวลาสัมภาษณ์ไม่ถึง 3 นาทีด้วยซ้ำ

หลังจาก renew J-1 visa แล้ว บีบียังขอวีซ่าเดินทางเข้าประเทศต่างๆ ก้อไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ แบบว่าเครดิตหนูดีอ่ะค่ะ หุหุ
โดย: Sugar lip วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:42:23 น.
  
เราว่าเป็นเพราะว่าคุณบีบีไปทำเรื่องที่เมืองไทยด้วยแหละ เพราะส่วนใหญ่คนที่เรารู้จักทำเรื่องที่เมกาทั้งนั้น รวมทั้งเราด้วย

ถ้าเราไม่ได้แต่งงาน เราก็แพลนว่าจะไปทำงานต่อที่แคนาดาแหละ เพราะอยู่ไม่กี่ปีก็ขอ PR ได้แล้ว ส่วนตัวนะ เราว่าคุณภาพชีวิตน่าจะดีกว่าอยู่เมกาอ่ะ ทั้งเรื่องเรียนต่อ เรื่องทำงาน มันไม่ครึ่งๆกลางๆเหมือนออร์แพร์ไง

ยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ ถ้าได้ไปแคนาดาแล้วก็อย่าลืมอัพบล็อกล่ะ จะได้ติดตามข่าวคราว โชคดีค่ะ


โดย: อดีตออร์แพร์จาก วอชิงตัน(ดี.ซี) IP: 173.118.148.135 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:34:48 น.
  
คืออยากถามอ่าคะ ว่าสมัครกะเอเจนซี่ไหนคะ พอดีเราออนไลน์มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2010 ตอนนี้ยังไม่มีโฮตติดต่อมาเลยอ่า เงียบเหงาสุด ๆ ไม่รู้จะได้ไปกะเค้าอะเปล่า ถ้าไง ช่วยแนะนำบ้างได้มั้ยคะ ว่าจะทำไงดีค่ะ พี่เอเจนซี่ก็บอกให้รออย่างเดียว งี้ถ้าไม่มีใครติดต่อนี่ไม่ต้องไปเลยอ่า เศร้าสุด ๆ T_T
โดย: นกแล IP: 223.206.164.242 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:11:50 น.
  
ขอบคุณมากมายสำหรับคำทายทัก
ขอบคุณความรักมิตรภาพที่มอบให้
ขอบคุณเหลือเกินสำหรับความอาทรห่วงใย
ขอบคุณน้ำใจทุกถ้อยคำอวยพร

ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรจึงแต่งกลอนนี้มาขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่แวะมาอวยพรวันเกิดให้เรานะ

ขอให้เพื่อนมีวันดีดี มีจิตใจเข้มแข็งขึ้นทุกวัน พร้อมจะเผชิญทุกปัญหา และผ่านมันไปได้ด้วยดีทุก ๆ วันค่ะ ^_^
โดย: ริเศรษฐ์ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:07:05 น.
  
ขอขอบคุณที่เข้ามา มอบการ์ด สวย ๆ คำอวยพรไพเราะ
สัปดาห์ก่อน วิ่งไปมาเรื่องทำบุญ ด้วย ฯลฯ แล้วก็ไปต่างจังหวัด
มาด้วย กลับมา ยุ่งอีก เพิ่งได้เข้ามาดูบล็อกวันนี้ ค่ะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ
โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:24:34 น.
  
หวัดดีค่ะ คุณ บีบี.. ขอบคุณที่มาอวย พรค่ะ..ถ้าไม่มีวันนี้ อาจไม่รู้จัก กัน .
เข้ามาอ่านเรื่องราว แล้วชื่น ชมค่ะ อยากเป็นแบบนั้นนั้น บ้าง ออร์แพร์ อ่ะค่ะ แต่อายุเกินแล้ว ..อิอิ
.. . ยินดี ที่ได้รู้จัก ค่ะ ขอ แอด.. นะคะ เด๋ว.. มาเยี่ยม ใหม่..
ขอให้มีความสุข กับการทำงาน ค่ะ..
โดย: tifun วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:57:01 น.
  
ขอบคุณมากๆ นะคะที่มาอวยพรให้ค่ะ

โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:25:38 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดมากๆค่า ^___^
โดย: ParkMinJi วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:34:00 น.
  

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดนะคะ

จะรอติดตาม

live- in caregiver in Canada

สนใจค่ะ กำลังหาวิธิฝึกภาษาอังกฤษตัวเองอยู่เลยค่ะ
โดย: แม่มดน้อยบนหุบเขา วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:43:42 น.
  
น้องนกแล

บีบีไปกับคัลเจอรัลแคร์ค่ะ แต่ตอนนี้เค้าไม่รับออแพร์ไทยแล้วอ่ะค่ะ นกแลลองโพสประวัติตัวเองทางเวป greataupair.com ดูนะ เพื่อมีโอสสนใจ จะได้ให้เขาทำเรื่องกับเอเจนซี่ที่นกแลอยู่อ่ะค่ะ

ช่วงพ.ย.ถึงปีใหม่ โฮสคงจะยุ่งๆอ่ะค่ะ เพราะเทศกาลที่นี่เยอะมาก ช่วงนี้ค่อยเพลาๆลงหน่อย เดี๋ยวคงมีโฮสเข้ามาดูเองล่ะ สู้ๆจ้า
โดย: บีบีค่ะ (Sugar lip ) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:09:43 น.
  
ตอนนี้ก็ไปโพสไว้แล้วค่ะ แต่ก็มีโทรมามะวานนี้ สงสัยภาษาเราจะแย่ ไม่ตอบเมลล์เราเลยง่า 555 ก็บวกตื่นเต้นผสมงง ๆ ด้วย เจอสำเนียงอีก ขนาดเค้าพูดช้า ๆ แล้วนะ แถมดูจะใจดีด้วยจากน้ำเสียง เค้าพูดแต่ noproblem 555 ก็นะเค้าถามได้ไม่เยอะ คงคิดว่าดึกแล้ว เรากะลังมึน ๆ อ่า ก็เลยวางไปแล้วบอกคุยทางอีเมลล์นะ555 กำ
โดย: นกแล IP: 223.206.163.202 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:31:51 น.
  
นกแล

มีโอสเข้ามาแล้ว เย้ๆๆ คุยกันครั้งแรกก้อตื่นเต้นอย่างนี้แล่ะ ครั้งหน้าก้อทำให้ดีกว่าเดิมละกัน หัดฟังบทสนทนาภาษาอังกฤษเยอะๆ แล้วก้อลองนึกบทสนทนาดูอ่ะ ว่าถ้าเราเป็นโฮส เราอยากถามอะไรออแพร์ แล้วออแพร์ต้องตอบว่ายังไง ได้แล้วก้อเขียนเป็นสคริปไว้เลย ท่องจำไว้เลย คราวหน้าถ้าโฮสโทรมาอีก เราจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก แล้วก้อสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ค่ะ

พี่บีบีค่ะ
โดย: Sugar lip วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:00:01 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะค่ะ
โดย: kenglady วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:14:35 น.
  
นกแล

ตอนนี้คัลเจอรัลแคร์มาเปิดสาขาเอง(โดยไม่ผ่านเอเจนซี่ของไทย) ทีไทยแล้วนะคะ ลองเข้าไปดูนะคะ //th.culturalcare.com/default.aspx คัลเจอรัลแคร์ไม่มีออแพร์ไทยมาปีเศษๆแล้ว สมัครตอนนี้น่าจะได้โฮสไวขึ้นนะ
โดย: Sugar lip วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:22:24:04 น.
  
ขอบคุณบีบี มากเลยนะ สำหรับคำแนะนำ โหหหห......เรามีกำลังใจขึ้นโขเลย ตอนนี้ก็ฝึกภาษาอยู่ด้วย และจะลองเข้าไปดูคัลเจอรัลแคร์ดู หวังว่าอะไร ๆ ก็คงไปได้ด้วยดีนะ แล้วบีบีเป็นไงบ้างน้า เขียนมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ นะ
โดย: นกแล IP: 223.205.24.21 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:16:12:28 น.
  
สวัสดีค่ะคุณบีบี

เข้ามาทักทายค่ะ พอดีสมัครออแพร์ไว้ ยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมเอกสารแล้วก็ฝึกเลี้ยงเด็กอยู่ค่ะ (ในขณะที่อายุก็ปาไปยี่สิบห้าแล้ว หุๆ)...ชื่นชมคุณบีบีมากค่ะ เรื่องอุดมการณ์การเป็นออแพร์ของคุณบีบี...แล้วก็เห็นพัฒนาการมากเลย ตั้งแต่สาวน้อยที่วิ่งหัวฟูหาเทอมินอล..อิๆ

ชาลีเป็นนักเขียนค่ะ เขียนนิยายมาได้หลายเล่มแล้ว คิดอยากไปอเมริกาเพื่อหาประสบการณ์ชีวิตและประสบการณ์เอาไว้เขียนหนังสือ รวมถึงคิดจะเรียนต่อโท (ที่เมืองไทย...แน่ๆ)...จุดประสงค์ดูเหมือนทำเพื่อตัวเองไปหน่อย แต่มันเป็นความจริงค่ะ และก็เป็นความจริงอีกที่ชาลีรักเด็ก เพราะเคยเป็นผู้ช่วยครูต่างชาติในรร.รัฐมาหนึ่งปี แล้วก็เคยรับสอนพิเศษให้กับเด็กหลายวัย...เข้ามาอ่านบล็อกของคุณบีบีแล้วรู้สึกว่าคุณนี่พอจะเป็นนักเขียนได้เลยนะคะ แถมสาระและอารมณ์ของเรื่องก็ดีมากๆ มีประโยชน์และเพลินมากค่ะ... :)
โดย: ชาลี IP: 58.8.240.126 วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:17:09:24 น.
  
ฮิ้วววว

มีคนชมว่าบล็อคมีประโยชน์ ดีใจจนตัวจะลอยอยู่แล้ว ติดแต่ว่าน้ำหนักที่พุงคอยถ่วงไว้

ขอให้ชาลีได้โฮสไวๆเน้อ มาอยู่ใกล้ๆกันก้อดีนะ จะได้ไปเที่ยวหากันบ่อยๆ
โดย: Sugar lip วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:23:23:52 น.
  
บีบีคะเบญกำลังจะไปเป็นออแพร์ที่ชิคาโก้คะจะอยู่สองปีจะถามว่าถ้าไม่กลับมาต่อวีซ่าปีสองที่ไทย เครดิตจะเสียมัยถ้าจบปีสองแล้วค่อยกลับมาเปลี่ยนเป็นF1ที่ไทยหนะคะ และระหว่างเป็นออแพร์เราต้องลงเรียนภาษาประเภทไหนแบบไหนถึงจบปีสองเเล้วลงเรียนโทได้เลยที่ไม่ต้องเสียเวลาคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ
โดย: เบญ IP: 202.91.18.206 วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:03:23 น.
  
ลืมบอกอิอิ เบญแมชคนแรกของคัลเจอที่มาเปิดใหม่คะ ค่าใช่จ่ายบวกน้อยลงเพราะที่นี้ไม่ใช่เอเจนเจ้าหน้าที่คนไทยของคัลเจอเองเลย แต่เราค่อนข้างทำเองหมดคะเรื่องขอวีซ่าแต่ก็ดีคะทำเองได้อนาคตจะได้รู้แต่พี่เค้าก็แนะนำให้ทุกขั้นตอนคะ
โดย: เบญ IP: 202.91.18.195 วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:12:12 น.
  
เบญ

ไม่ต่อวีซ่าเจวันปีสอง เครดิตไม่เสียค่ะ เพราะโครงการเราอยู่ได้สูงสุด 2 ปีอยู่แล้ว แล้วหลังจบโครงการแล้วบินกลับไทยมาขอวีซ่า F-1 กลับไปเรียนต่อโท ยิ่งของ่ายค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีเงินในสเตทเมนท์สูงหน่อย แล้วมหาลัยที่เราจะเรียนดูน่าเชื่อถือหรือไม่ แล้วอยู่ใกล้กับโฮสเก่ามากแค่ไหน

บีบีแนะนำให้เรียนพวกคอร์สสำหรับเตรียมสอบโทเฟลโดยเฉพาะเลยค่ะ ตามหมาลัยเค้าจะเปิดสอน ให้เข้าไปที่เวปไซต์มหาลัยใกล้บ้าน ดูในส่วนที่เป็น continuting education แล้วดูหมวด language ว่าเค้ามีสอนเดี่ยวกับโทเฟลหรือเปล่า ค่าเรียนอาจจะแพงหน่อย แต่เราสามารถนับเป็นชั้วโมงการเรียนของออแพร์ได้ค่ะ

บีบีแนะนำอีกอย่างว่า ให้สอบโทเฟลก่อนจบโครงการ แล้วนำผลคะแนนที่ได้ ไปขอเอกสาร I-20 ที่มหาลัยที่เบญจะเรียนต่อ พอกลับไทยหลังจบโครงการออแพร์ จะได้ใช้เอกสาร I-20 ไปขอวีซ่า F-1 ได้เลย จะได้ไม่เสียเวลาค่ะ

เอเจนซี่ที่เบญพูดถึงนี่หมายถึงคัลเจอรัลแคร์ที่เปิดใหม่ใช่มั้ยคะ รอแมชนานมั้ย แล้วเบญจะบินเมื่อไหร่คะ
โดย: Sugar lip วันที่: 27 กรกฎาคม 2554 เวลา:0:15:39 น.
  
ใช่จร้าculturalcare ทำเอกสารเสร็จก็ออนเลยภายในหนึ่งวัน และโฮสเบญก็คลอเลย สามวันแมชคะ แต่เค้าจับคู่โปรไฟร์ให้เลยนะทุกคนที่ออนแต่จะคลอมาเร็วแค่ไหนแล้วแต่ละคนคะ เบญบิน 12 กันยาคะst.charles chicago IL,
โดย: เบญ IP: 1.46.176.202 วันที่: 3 สิงหาคม 2554 เวลา:12:10:58 น.
  
สวัสดีค่ะ คือกำลังจะทำเรื่องรีนิววีซ่าของออแพร์ อยากให้คุณบีบี แนะนำหน่อยได้มั้ยค่ะ ว่าต้องใช้เวลาประมาณกี่อาทิตย์ ขั้นตอนการจองวันและเวลาสัมภาษณ์ นานเท่าไหร่ แล้วเอกสารต้องใช้อะไรบ้าง ตอนจะจองสัมภาษณ์ที่สถานฑูตที่ไทยนะค่ะ ต้องแจ้งให้ทราบว่าเราจะต่อวีซ่าแบบไหนค่ะ
โดย: ฝน IP: 66.245.149.144 วันที่: 3 สิงหาคม 2554 เวลา:13:08:57 น.
  
ฝน

ถ้าจะต่อวีซ่าเจวัน ให้เอาใบ DS2019 ของปีที่ 2 ไปใช้เป็นเอกสารประกอบการขอวีซ่าค่ะ นอกนั้น ขั้นตอนการขอวีซ่าก้อเหมือนครั้งแรกที่เราขอค่ะ เข้าไปดูรายละเอียดในบล๊อค "การต่อโครงการออแพร์ปีที่ 2 กับการต่อวีซ่าเจวัน" ได้เลยค่ะ บีบีบอกขั้นตอนกับรายละเอียดไว้แล้ว น่าจะช่วยฝนได้นะคะ
โดย: Sugar lip วันที่: 4 สิงหาคม 2554 เวลา:1:53:25 น.
  
สวัสดีค่ะ บีบี

เรามีข้อสงสัยหนึ่งข้อค่ะ ถ้ากรณีเราจบโครงการครบหนึ่งปีแล้ว และเราอยากเปลี่ยนวีซ่าเป็นท่องเที่ยวค่ะ แต่จะมีเพื่อนที่แต่งงานแล้ว และมีกรีนการด์ เขาและสามีจะช่วยในการซับพอร์ต ที่อยู่ที่พัก

1.สามารถเป็นไปได้หรือไม่ ในการยื่นเรื่องขอเปลี่ยนวีซ่า
2.ถ้าได้ เราสามารถอยู่ได้นานเท่าไร
3.เราสามารถทำงานระหว่างท่องเที่ยวได้ด้วยหรือไม่ (ปล. เนื่องจากชีวิตช่วงเป็นออแพร์ รู้สึกว่าขาดทุนที่ไม่ได้ไปท่องเที่ยวเลย เพราะติดเรื่องตารางงาน แต่อยากอยู่เที่ยว แต่คิดว่าจะไปเที่ยวที่รัฐไหนก็จะหางานทำไปด้วย เผื่อให้มีเงินพอเที่ยวนะค่ะ )

คุณบีบี มีความคิดเห็นว่ายังไงแนะนำด้วยนะค่ะ ตอนนี้มาเป็นออแพร์ได้หกเดือนกำลัหารายละเอียดอยู่ก่อนตัดสินใจค่ะ

ขอบคุณค่ะ
โดย: Tukta IP: 173.61.115.27 วันที่: 27 ตุลาคม 2554 เวลา:9:12:04 น.
  
ตุ๊กตา

สงสัยนิดนึ่งค่ะ คือตุ๊กตาหมายความว่าจบโครงการแล้วกลับไทยไปขอวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อกลับเข้ามาเมกาใหม่อีกครั้ง หรือว่าจะเปลี่ยนวีซ่าจากเจวันไปเป็นท่องเที่ยว ในตอนที่ยังอยู่ในเมกาคะ

ถ้าเป็นอย่างหลัง ตอบเลยค่ะว่าไม่ได้ โดนทั่วไป ถ้าบินเข้าเมกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว คนที่จะมีอำนาจอนุญาตให้เราอยู่ในเมกาได้นานกี่วัน คือ ต.ม.ที่สนามบินค่ะ ถึงเราจะมีซ่าท่องเที่ยวอายุสิบปี แต่ถ้าต.ม.ประทับตราในใบ I-94 แค่สองอาทิตย์ เราก้ออยู่เกินสองอาทิตย์ไม่ได้อ่ะค่ะ ฉะนั้นถ้าจะข้ามขั้นตอนจากออแพร์ไปเป็นนักท่องเที่ยว มันเลยเป็นไปไม่ได้อ่ะค่ะ

ถ้าจะกลับไทย แล้วขอวีซ่าท่องเที่ยวบินเข้ามาใหม่ อาจจะได้แต่ต้องให้เพื่อนเขียนจดหมายรับรองแนบให้เราตอนไปสัมภาษณ์ด้วย จะให้ดีให้เค้าส่งพวกเอกสารหน้าที่การงานเค้ามาด้วยยิ่งดีค่ะ เพราะออแพร์ที่จบโครงการใหม่ๆ แล้วขอวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาเมกาอีกครั้ง มันค่อนข้างยาก เพราะออแพร์เพิ่งกลับไทย งานการประจำก้อยังไม่มี ถือว่าไม่มีความผูกพันธ์ทางไทยเลย เค้ากลัวว่าเรากลับไปเมกาอีกครั้งแล้วจะโดดเป็นโรบินฮู้ดอ่ะค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าเรามีคนรับรองหรือการันตีว่าเราจะกลับไทยแน่ๆ หรือกลับเมื่อไหร่ แบบนี้โอกาศได้วีซ่าจะมีมากกว่า

ตอบคำถาม
2. อยู่ได้นานเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของต.ม.ที่สนามบินค่ะ
3.ทำงานไม่ได้ค่ะ ถือว่าใช้วีซ่าผิดวัถตุประสงค์ คนต่างชาติที่สามารถทำงานในเมกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายคือคนที่มี green card or work permit เท่านั้นค่ะ นักเรียนหรือนักท่องเที่ยว ห้ามค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก้อเห็นแอบทำกันทั้งนั้นล่ะ
โดย: Sugar lip วันที่: 28 ตุลาคม 2554 เวลา:9:49:17 น.
  
สวัสดีค่ะ หนูเคยเข้ามาอ่านบล็อคพี่บีๆตั้งแต่ก่อนจะมาเป็นออแพร์ล่ะ ตอนนี้ต่อปีสองกะโฮสใหม่ค่ะ อยู่ Bellevue ไม่รู้เคยเจอกันหรือเปล่านะคะ แล้วตอนนี้อยากจะเปลี่ยนวีซ่าเป็นนักเรียนค่ะ ตอนนี้เตรียมตัวจะสอบโทเฟิลค่ะ แล้วจะเอาไปขอ I20 แล้วจะบินกลับไทยเลย ไม่กล้าถามที่ปรึกษาว่าเราไม่อยู่จนจบโครงการจะเป็นอะไรหรือเปล่าแบบว่าหนูต่อปีสองมาได้สามเดือนแล้ว ว่าจะอยู่ต่อ ให้เป็นหนึ่งปีกะอีกหกเดือน แล้วจะกลับไทยให้ทันเรียน fall 2012 แต่ถ้าอยู่ครบสองปีมันหมดสัญญาตอนสิงหาคม ก็เรียนfall ไม่ทันแล้วอ่ะ จะถามว่าจะเป็นไรหรือเปล่าคะ แล้วจองคิวสัมภาษณ์วีซ่าตอนเราอยู่ที่นี่ได้มั้ยคะ แบบกลับไปประมาณเมษาแล้วน่าจะกลับมาตอนไหนดีคะ ก่อนเปิดเทอมกี่เดือนคะ ขอบคุณมากนะคะ
โดย: gieyewon วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:10:58 น.
  
ที่ปรึกษาเรา เค้าห้ามเราไม่ได้หรอกว่าจะกลับเดือนไหน แต่ทางที่ดีควรบอกโฮสไว้ก่อนแต่เนิ่นๆเลยอ่ะค่ะ เผื่อโฮสเค้าต้องหาออแพร์คนใหม่มาเลี้ยงลูกเค้าต่อ

จองวันสัมภาษณ์วีซ่า จองไว้ตั้งแต่อยู่เมกาก้อได้ค่ะ

โดย: Sugar lip วันที่: 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:07:30 น.
  
คุณบีบี อยากทราบข้อมูลทั้งหมดขอติดต่อทางเมล์ได้มั้ยค้ะ
พอดีวันเสาร์นี้จะเข้าไปวัดระดับภาษาน่ะค่ะ อายุก็ 26 กว่าๆ แล้วด้วย ภาษาก็ไม่ดี เลยอยากขอคำปรึกษาทางเมลล์
ทิ้งเมลล์ไว้คุณบีบีตอบกลับด้วยน้ะค้ะ (ก่อนวันเสาร์นี้จะยิ่งขอบคุณมากค่ะ)
ิb-berry.com@windowslive.com
โดย: ทราย IP: 115.67.142.52 วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:22:09:46 น.
  
ทราย

วัดระดับภาษาแบบไหนอ่ะคะ toelf, compass, or aupair being แล้วรบกวนทรายเขียนอีเมล์ทรายให้ใหม่ได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ/บีบี
โดย: Sugar lip วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:2:15:47 น.
  
ข้อมูลดีมากๆเลยค่ะ :)

เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปรึกษาทางเลือกอื่นๆหลังจากจบฯโครงการออแพร์กับไทย-เมกันได้นะคะ
www.thaiaupair.com
Facebook: Thaiaupair.bangkok
โดย: Thai&American Cultural Exchang IP: 58.11.115.182 วันที่: 16 มกราคม 2556 เวลา:18:03:37 น.
  
ขอคำปรึกษาคุณบีบีหน่อยค่ะ พอดีกำลังจะจบออแพร์ปีสอง และจะกลับไทยเพื่อไปเปลี่ยนวีซ่าF1 และกลับมาอยู่บ้านกับโฮสต์เดิม เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดค่ะ หรือมีอะไรจะแนะนำบ้าง
ขอบคุณค่ะ
โดย: sweet winter IP: 98.24.215.47 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา:3:54:40 น.
  
Sweet winter
ขอโทษด้วยนะคะที่มาตอบช้ามากๆ ไปเที่ยวเอเชียเพิ่งกลับบ้านค่ะ ถ้าจะเปลี่ยนวีซ่าแล้วกลับมาอยู่บ้านโฮส เป็นไปได้ยามมากค่ะ แค่กลับไปเปลี่ยนวีซ่าเพื่อกลับมาเรียนเมืองเดิม ยังไม่เห็นว่ามีใครเปลี่ยนได้เลยค่ะ ยกเว้นเรียนต่อโทและหลักฐานการเงินและทางบ้านแน่นมากๆ
โดย: Sugar lip วันที่: 24 มกราคม 2557 เวลา:2:15:44 น.
  
จากกระทู้ก่อนหน้าที่บอกว่าจะกลับมาเปลี่ยนวีซ่าหลังจบโครงการและไปอยู่กับโฮสเดิมนั้น ยากอย่างที่คุณบีบีบอกจริง เพราะตัวเองก็คิดและทำแบบที่คุณ sweet winter คิดเลย และการไปขอวีซ่าทั้ง 2 รอบก้อไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ ได้แต่เดินคอตกออกมา ทั้งที่ก้อมี จม รับรองจากโฮสนะคะ

และอยากจะขอความรู้จากคุณบีบีดังนี้ค่ะ
จบโครงการออร์แพรเมกามาก้อเกือบจะครบ 2 ปีในเดือนสิงหาแล้ว ปัจจุบันก้อทำงานอยู่แต่ก้อยังอยากขวนขวายที่จะไปเป็นออแพร์ที่แคนาดานะคะ แต่เอเจนซี่ก้อคิดราคากันซะแบบว่าตั้งตัวได้กันเลย T^T ก้อเลยคิดจะลองหาโฮสเองดู
คุณบีบีมีคำแนะนำให้คนยากคนจนหน่อยได้มั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
โดย: Black eyes IP: 110.169.175.75 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:38:44 น.
  
Black eyes

คนที่เรารู้จักส่วนใหญ่จะไปผ่านเอเจนซี่นะคะ มีแค่คนเดียวที่ทำเรื่องเอง แค่ทำเรื่องเองนะคะ ไม่ได้หาโฮสเอง เพราะโฮสเก่าเค้าที่เมกามีเพื่อนอยู่ที่แคนาดา เค้าเลยแนะนำกันไปค่ะ
โดย: Sugar lip วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:4:14:20 น.
  
สวัสดีคะ คุณบีบี อยากถามว่าที่ต่อโครงการออแพร์ ปีสองทำวีซ่าที่เมกาหรือต้องกลับไปต่อที่ไทยคะ ถ้าไปที่ไทยต้องออกค่าตั๋วไปกลับเองใช่ไหมคะ?
โดย: orangies IP: 192.99.14.36 วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:4:55:00 น.
  
Orangies
ต่อโครงการออแพร์ปีสอง ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าอเมริกาใหม่นะคะ พอเราตกลงกับโฮสว่าจะต่อโครงการ เราจะได้ใบ DS 2019 ใบใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารยืนยันว่าเราสามารถอยู่อเมริกาต่อได้อีกหนึ่งปี แต่ถ้าน้องต้องการขอวีซ่าอเมริกาใหม่ ต้องบินกลับมาขอที่ไทยค่ะ ค่าใช้จ่ายเราออกเอง พี่แนะนำว่า ถ้าน้องไม่มีแพลนจะออกนอกอเมริกาในปีที่สองที่เป็นออแพร์ ก้ไมมีความจำเป็นต้องขอวีซ่าใหม่นะคะ
โดย: Sugar lip วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:21:38 น.
  
สวัสดีค่ะพี่บีๆ ตอนนี้กำลังจะจบโครงการออแพร์ปีแรก ในอีก4เดือนค่ะ มีครูที่รู้จักเขาแต่งงานกับคนเมกา สามีเขาจะเป็นสปอนเซอร์ให้ในการขอวีซ่าโดยเขาจะให้ที่พักอยู่ที่บ้านเขาด้วยค่ะ อยากกลับไปเปลี่ยนวีซ่าที่ไทยมีความเป็นไปได้ที่จะผ่านมั้ยคะ กลัวถูกปฏิเสทค่ะ (วีซ่าF1) อยากจะขอคำแนะนำว่าต้องทำยังไงให้น่าเชื่อถือที่สุดคะ? ทั้งตัวสปอนเซอร์และตัวหนูเอง ขอบคุณมากค่ะ
โดย: เลย์ IP: 188.165.201.164 วันที่: 11 กรกฎาคม 2560 เวลา:2:49:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Sugar lip
Location :
Seattle  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]



วันหนึ่ง เราจะต้องทำบล็อคหน้าตาสวยๆออกมาให้ได้ คอยดูสิ หึ

บีบีได้มาใช้ชีวิตอยุ่ที่อเมริกาถึงวันนี้ก้อเกือบ 3 ปีล่ะค่ะ การได้มาใช้ชีวิตต่างแดนตัวคนเดียว เวลามีปัญหาหรือข้อสงสัยขึ้นมา มันก้อไม่รุ้จะไปถามใคร ภาษาเราก้อไม่ดี บีบีก้อจะหาข้อมูลในเวป google แล้วบีบีก้อจะได้คำตอบออกมาในรูปแบบของ bloggang บีบีเลยรู้สึกถึงความสำคัญของบล็อค รู้สึกขอบคุณคนเขียนบล็อคทุกๆคน ที่เสียสละเวลามาเล่าประสบการณ์ต่างๆที่เป็นประโยชน์อย่างมากมายกับคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างบีบี ดังนั้นบีบีก้อเลยตั้งใจไว้ว่าจะทำบล็อคเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ และ how to ต่างๆ ของบีบี เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆมั่งค่ะ
New Comments