ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
The Best of 2016 : ต้อนรับปีใหม่รวมรีวิว Item เด็ดๆของปีที่ผ่านมา








 เป็นธรรมเนียมไปซะแล้วที่เมื่อจบปีก็ต้องมีการรวบรวมทุกสิ่นที่คิดว่าเป็นที่สุดของปีที่ผ่านมา

ปีนี้ก็เช่นกัน ตอนแรกก็ว่าจะเบี้ยว แต่มิตรรักแฟนขับทวงมาแบบรัวๆ

ก็กลัวว่าถ้าไม่ทำจะเสียเรตติ้งแน่นอน.....ก็หูตาเหลือกรีบทำรีบปั่นกันสุดขีด


ปีที่แล้วมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตคือเปลี่ยนงาน ก้าวกระโดดออกมาจาก Comfort Zone

ปีนี้ก็ยังคงทำงานที่เดิมค่ะ.....ยังคงหัวปั่นเหมือนเดิม บางครั้งก็อาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

แต่ก็ยังโอเคค่ะ เริ่มชินแล้วและก็ทำงานได้สบายขึ้น แต่เวลาทำรีวิวก็น้อยลงไปด้วย

อันนี้ขอให้ทุกคนเข้าใจนะคะ 555++

กราบขอบคุณแบรนด์หลายๆแบรนด์ที่ยังคงรักน้ำตาล ยังส่งของหรือเชิญไปงาน

ทั้งๆที่น้ำตาลอาจจะไม่มีเวลาไปงานให้เลย ต้องกราบขออภัยด้วยค่ะ



และปี 2016 ที่ผ่านมานี้คนไทยทุกคนก็ต้องผ่านความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต

เชื่อว่าทุกวันนี้บางครั้งที่เราเห็นภาพพระองค์ท่าน หรือ อ่านเรื่องราวดีๆ ก็ยังมีน้ำตาซึมกัน

และตัวน้ำตาลเองก็ผ่านความสูญเสียที่ใหญ่สุด 

คุณตาน้ำตาลป่วยมานานหลายปีแล้วค่ะตั้งแต่ปี 54 ที่เริ่มนอนติดเตียง

ครอบครัวก็พยายามประคับประคองกันมาตลอด จนร่างกายคุณตาก็ไม่ไหวและจากไปอย่างสงบค่ะ

ตอนนี้ที่เราพยายามทำก็คือประคบประหงมคุณยายให้ดีที่สุดค่ะ






เอาล่ะค่ะ....เรามาดูไอเท็มที่น้ำตาลเลือกมาเป็นที่สุดของปีกันดีกว่าค่ะ

ที่เลือกมาเน้นที่ชอบ ใช้บ่อย และ ซื้อซ้ำ รวมถึงการซื้อสต็อกด้วย

บางอย่างก็เริ่มต้นที่แบรนด์ให้มาลอง และติดใจตามไปซื้อต่อ

บางอย่างก็ซื้อเอง จ่ายเอง ชอบเอง ฟินเองและอยากบอกต่อ.....เข้าใจตรงกันนะ



เริ่มที่ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า

1.  1028 pH7.5 eye & lip make up cleanser




น้ำยาทำความสะอาดเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาและริมฝีปาก

ด้วยที่ pH ของเจ้าตัวนี้มีค่าเท่ากับ pH ของน้ำตา เลยทำให้ใช้ได้โดยไม่แสบตาหรือระคายเคืองใดๆ

ตัวผลิตภัณฑ์แยกตัวเป็น 2 ชั้นน้ำกับน้ำมันอย่างชัดเจน เวลาใช้ก็ต้องเขย่าให้มันกลายเป็นอิมัลชั่น

เวลาเช็ดเครื่องสำอางออกก็แค่แปะเอาไว้สักแป๊บนับ 1-20 แล้วลูบออกเบาๆ

ทั้งอายชาโดว์ อายไลน์เนอร์ มาสคาร่า ทั้งหลายทั้งที่เป็นแบบกันน้ำ ติดแน่นทนนาน

ก็หลุดออกหมดค่ะ โดยไม่ต้องเช็ดถูแรง ไม่ระคายเคืองด้วยค่ะ

ราคาก็ไม่แรงเลย ขนาด 75 ml. ราคา 270 บาท

ใช้ได้นานประมาณ 2-3 เดือนเลยทีเดียว.....แถมรอจังหวะดีๆ มีโปรโมชั่นลดราคาอีก

มีขายทั่วไปตามร้านวัตสันหาซื้อง่ายค่ะ ขวดที่เห็นนี้เป็นขวดที่ 2 ที่ใช่ค่ะ






2.  MizuMi :: Smooth Cleansing Water




แบรนด์นี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องของกันแดดค่ะ ว่าอ่อนโยนต่อผิวที่แพ้ง่าย

ปีนี้เค้าก็ออกคลีนซิ่งวอเตอร์มาให้ใช้กันด้วยค่ะ ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ให้อ่อนโยน

นุ่มนวล และ เหมาะกับผิวที่ระคายเคืองง่าย

เนื้อผลิตภัณฑ์ก็เป็นน้ำใสๆเทใส่สำลีเช็ดหน้าเหมือนยี่ห้ออื่นๆทั่วไป

แต่ที่ไม่เหมือนจะดีกว่าก็คือ มันลื่นปรื๊ดค่ะ ลื่นมากซะจนไม่รู้สึกเวลาที่สำลีสัมผัสหน้าเรา

ลดแรงเสียดทานบนผิว เพื่อลดอัตราการเกิดการระคายเคือง

ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดี ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่ระคายเคือง

แถมราคาก็น่ารักมาก ช่วงที่บางร้านจัดโปรโมชั่นเหลือราคา 250 บาท/ 500 ml.

ถือว่าสุดคุ้มค่ะ






3. Shu Uemura :: Anti/Oxi+ pollutant & dullness clarifying cleansing oil




น้ำมันล้างหน้าเป็นไอเท็มที่น้ำตาลขาดไม่ได้ค่ะ แต่งหน้าเป็นประจำก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด

และ Cleansing Oil ก็เป็นตัวช่วยที่ทำให้ล้างหน้าได้สะอาดหมดจดจริงๆ

ปีนี้ shu uemura เค้าออกน้ำมันสูตรใหม่ขวดสีเขียว เป็นสูตรแอนตี้อ๊อกซิแดนซ์

ทำความสะอาดสิ่งสกปรกจากมลภาวะ มีกลิ่นหอมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย

ตอนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางแบรนด์เค้าก็เชิญไปลองค่ะ แต่อย่างที่บอกน้ำตาลทำงานประจำ

ซึ่งไม่สามารถไปร่วมงานได้ แต่มันก็อยากลองง่ะ เลยเดินไปซื้อเลย 5555++

พอเอามาลองใช้ฟีลลิ่งแรกคือมันหอมและผ่อนคลายมากตอนใช้

ที่ตามมาคือน้ำมันล้างออกง่ายมาก จริงๆแค่ล้างน้ำก็หลุดออกหมดแล้วไม่จำเป็นต้องล้างสบู่ซ้ำ

และน้ำมันก็ทิ้งความชุ่มชื่นไว้พอประมาณไม่ทำให้ผิวแห้งเลย

ราคาต่อขวดอาจจะสูงไปสักนิดแต่เทียบกับความพอใจแล้วมันโอเคเลย

ขวดที่สอยมาลองใช้ 150 ml. 1,550 บาท

หมดแล้วจะไปสอยขวด 450 ml. 3,500 บาทคุ้มกว่าเห็นๆ






4. Vichy :: DERCOS NEOGENIC Redensifying Shampoo




เป็นแชมพูสำหรับหนังศีรษะที่มีปัญหาเส้นผมหลุดร่วงง่าย

เดิมทีก็ใช้แชมพูของมาเชรีที่เคยเป็นที่สุดของปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เค้าเลิกนำเข้ามาขายแล้ว

พอหมดก็เลยไม่รู้จะใช้อะไรต่อดี หันซ้ายหันขวาก็เลยไปหยิบของแม่มาใช้ 5555++

พอลองใช้ดูก็แบบ เห้ยยยย ดีอ่ะ หนังศีรษะสะอาด ผมร่วงน้อยลง

แถมสระได้ทุกวันกลิ่นอ่อนๆสะอาดและหนังศีรษะไม่คันเลย ผมก็ไม่แห้งมากด้วย

ขโมยแม่ใช้อยู่อาทิตย์นึง ก็เลยบอกแม่ว่าจะไปซื้อมาใช้แล้วมันดีอ่ะ

แม่เลยบอกว่าจะไปซื้อทำไม....นี่เค้าสั่งมาสต๊อกไว้แล้วโหลนึง 12 ขวด

ห๊ะ.....แม่จะซื้อแชมพูอะไรทีละ 12 ขวด o_O"

รู้ยังว่าน้ำตาลเหมือนใคร 55555++

ขวดนึง 200 ml. ราคา 550 บาท ถ้าสั่งทีละโหลจะถูกลงอีกคุณนายเลยสั่งมาซะเลย





5. Mark and Spencer Floral Collection : Magnolia Foaming Bath Essence




ก็ยังคงเป็นกลิ่นเดิมแต่เปลี่ยนสูตร เพราะสูตรเดิม Creamy Bath เค้าไม่เอามาขายแล้ว

เสียใจมากกกกกก แต่ก็หยิบอีกสูตรมาลองใช้ ก็โอเคนะเหมือนกัน

กลิ่นหอมเหมือนเดิม ไม่ทำให้ตัวแห้งเหมือนเดิม จริงๆเอาไว้เทใส่อ่างอาบน้ำนะฟองฟูมาก

แต่...น้ำตาลก็เอามาใช้ Shower นี่แหละไม่เสียเวลาดีไม่เปลืองน้ำด้วย

ล่าสุดจะไปสอยมาสต็อกไว้อีก เค้าเปลี่ยนแพ็ตเกจอ่ะ ดูงอกง่อยลงมาก

ไม่สวยหรูดูไฮเหมือนเดิม เสียใจอีกแระ แต่ช่างมันเดี่ยวซื้อมาเทใส่ขวดเดิมก็ได้

ที่ชอบมากจนไม่ยอมเปลี่ยนใจเพราะกลิ่นที่หอมมากและไม่ทำให้ผิวแห้งจนคันค่ะ

ขวดนึงครี่งลิตรราคา 300 บาท ใช้ได้ครึ่งปีค่ะ





6. fresh :: SUGAR FACE POLISH




มาส์กขัดหน้าน้ำตาลเป็นไอเท็มที่น้ำตาลชอบมากค่ะ

ชอบเพราะมันเป็นน้ำตาลละเอียดหอมๆกับเม็ดสตรอเบอรี่พอขัดวนบนหน้าก็ไม่เจ็บ

และมันจะค่อยๆละลายเป็นครีมมี่หนืดๆบนหน้าทิ้งไว้สัก 3 นาทีแล้วล้างออก

หน้าจะสะอาดและนุ่มมาก การขัดผิวเป็นเรื่องจำเป็นพอควร เพราะบางครั้งผิวเราก็

ไม่สามารถหลุดลอกเองได้ก็ต้องช่วยเค้านิดนึง

และมันละลายตัวเองได้เลยไม่ใช่ polish แบบที่เป็นเม็ดพลาสติก Micro Beads 

ให้เป็นภาระสิ่งแวดล้อม ใช้แล้วสบายใจกว่ามาก

กระปุกนึง 100 ml. ราคา 2,600 บาท แต่ใช้ได้นานมาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องทำบ่อย

อาทิตย์ละครั้งก็เกินพอแล้วค่ะ 2 อาทิตย์ครั้งก็ยังไหว หมดแล้วก็ต้องซื้อต่อแน่นอน




7. Slinky Touch Hair Remover



ครีมกำจัดขนค่ะ.....คุณฟ้าจิลมิกาส่งมาให้ลองใช้ ให้มาลองก็ลองค่ะ

ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะปกติขนหน้าแข้งน้ำตาลก็มีไม่มากและเป็นเส้นขนบางๆเท่านั้น

ก็เลยลองปาดๆลงไป ทาลงไปไม่ต้องหนามาก ก่อนทาน้ำตาลล้างผิวก่อนนะคะ

ให้ผิวชื้นๆหน่อยจะทำให้ทาครีมลงไปได้ง่ายทาแล้วก็เอา wrap พลาสติกมาพันไว้

ไม่ให้ครีมที่ทาลงไปแห้งง่าย เพราะถ้ามันแห้งเหนียวติดขาจะเช็ดออกยากอ่ะค่ะ

พอครบ 5-10 นาทีก็ใช้ Baby Wipe เช็ดออก.....เห้ยยยย ขนละลายติดออกมาหมดเลย

ขาเนียนมากแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน ผิวก็ขาวขึ้นด้วยค่ะ

ครีมมีกลิ่นฉุนนิดๆ ไม่มากจนแสบจมูก และไม่แสบผิวค่ะ เพียงแต่จะรู้สึกชาๆนิดหน่อย

และที่ชอบคือขนที่ขึ้นใหม่ก็ไม่เป็นตอแข็ง ไม่มีขนคุด และขนก็ขึ้นน้อยลงด้วยค่ะ

น้ำตาลทำแค่เดือนละครั้งก็พอแล้วค่ะ หลอดนึง 110 g. ราคาแรงไปนิด 650 บาท

นี่ทำมา 3 รอบแล้วก็ยังเหลือเกินครึ่งหลอด มันดีกว่าที่คิดไว้มากเลยค่ะ






8. Jergens Ultra Healing




โลชั่นทาผิวเจอร์เก้นส์เป็นแบรนด์โปรดที่ใช้มานาน จนตอนนี้เค้าเปลี่ยนแพ็คเกจไปแล้ว

สูตรที่น้ำตาลชอบใช้มากๆก็สูตรนี้ล่ะค่ะ Ultra Healing เพราะเป็นคนที่ผิวตัวแห้งมาก

ชอบที่เนื้อครีมเข้มข้นมาก ปกติเวลาที่ใช้คือทาหลังอาบน้ำทันทีค่ะ

เช็ดตัวพอหมาดแล้วลงโลชั่นเลย ทำให้โลชั่นซึมง่ายทาก็ง่าย ไม่ต้องใช้โลชั่นมากก็ทาทั่วตัว

แถมไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิวให้รำคาญด้วย และสูตรนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆไม่บาดจมูก

เราจะใส่น้ำหอมกลิ่นต่างๆก็ไม่รบกวนกลิ่นที่เราใช้ น้ำตาลเลือกใช้ขวดปั๊มขนาดใหญ่สุด

วางไว้ในห้องน้ำเลย ขวด 650 ml. บิ๊กเบ้ง และมีแบบหลอดเอาไว้พกพาไปต่างจังหวัด

แบบหลอดแพ็คเกจล่าสุดนี่ชอบมาก เพราะพอหมุนฝาออกปากหลอดจะกว้างมาก

กว้างจนเราสามารถกดจากขวดปั๊มเติมลงไปในหลอดได้อย่างสบายๆ แบ่งไปใช้ได้เรื่อยๆ

นี่เป็นโลชั่นยี่ห้อและสูตรที่ใช้ซ้ำมากที่สุดจริงๆค่ะ







9. ORIGINS : Mega Mushroom Treatment Lotion




อันนี้แบรนด์ให้มาค่ะ ก็เลยลองใช้ไปงั้นๆ แล้วก็เช่นเดิมคือมันดีมว๊ากกกกกกก

คือ Mega Mushroom เป็นสูตรเห็ดที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายเคือง

และเพิ่มความชุ่มชื่น ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ตอนแรกใช้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ใช้ไปงั้นๆ 

จนวันนึงช่วงที่อากาศเปลี่ยนไปมา ฝนตก ชื้น อากาศมัวๆ ซึ่งง่ายต่อการที่ภูมิแพ้เราจะขึ้น

และมันก็ขึ้นจริง.....อันดับแรกเลยคือคอและหน้าอกจะเป็นปื้นแดง คันใต้ผิว

และเกาไม่ได้ ยิ่งเกายิ่งลาม และไม่หายคันมันจะแสบไปเลย ต้องกินยาเท่านั้น

กินยาจนเบื่อ กินจนไม่อยากจะกินและพอทีเถอะ กูหมดปัญญา

พออาบน้ำเสร็จก็ยังคันอยู่ ไม่รู้จะทำไง หยิบขวดนี้มาทาหน้าแล้วเทมาเยอะเกิน

เลยทาลามไปที่ตรงที่คัน ทาคอ หน้าอก แขน ลูบไปทั่วๆ

เห้ยยยยยย.......ที่แดงอยู่คันอยู่ หายว่ะ ไม่คันและไม่แดงไม่แสบผิวด้วย

กรีดร้องงงงงง.....มันดีย์ มันดีย์ มันดีย์ ชั้นจะ swear by ชาบู Mega Mushroom ขวดนี้

ถ้ามันหมดชั้นจะซื้อต่อ ไม่ทาหน้าก็จะทาตัวนี่แหละ ภูมิแพ้ชั้นจะไม่แสบไม่คันอีกต่อไป

ขวด 200 ml. 1,800 บาท......ใช้ไปสามเดือนครึ่งขวด หกเดือนขวดนึง คุ้มค่ะ!!!



10. fracora : LIFTest Proteoglycan




fracora เซรั่มรกหมูที่โด่งดัง เคยปลาบปลื้มไปแล้ว ตอนนี้ด้วยอายุที่มากขึ้น

อิชั้นก็ต้องต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ยกมันขึ้นไปค่ะคุณ อย่าให้มันย้อยลงมาได้

ก็เลยหยิบเซรั่มกระดูกจมูกปลาแซลมอนมาลองใช้ค่ะ

หยิบเอาขวดแรกที่เค้าให้มาใช้ไปจนหมด แล้วก็เดินไปซื้อขวดที่สองต่อ

แล้วสต๊อกขวดที่สามและสี่ไว้ แปลว่าอะไรวะ 55555++ 

แปลว่ามันดีจนติดไปแล้วไงเว้ยยยย.....มันเป็นน้ำใสๆแต่พอลูบแล้วจะมันนิดๆ

มันช่วยให้ความชุ่มชื่นได้บ้าง แต่ผิวแน่นจริงกระชับจริง ชอบมันตรงนี้แหละ

แถมถ้าเล็งช่วงจังหวะดีๆ มันจะมีเซลล์ค่าาา ซื้อ 1 แถม 1 ไรเง้

ก็สอยมันช่วงนั้นแหละค่ะ อิอิอิ เซรั่มยกกระชับในราคาพันต้นๆมันโอเคเหอะ





11. ORIGINS : Original Skin Renewal Serum with Willowherb




อันนี้เป็นเซรั่มที่น้ำตาลใช้ในตอนเช้าค่ะ เพราะมันช่วยลดความมันบนใบหน้า

ช่วยกระชับรูขุมขน แต่ยังให้ความชุ่มชื้นได้ดี มันเป็นเซรั่มที่ช่วยให้ผิวสวยเหมือนที่เคยเป็น

พูดง่ายๆคือผิวตั้งต้นเราเคยดียังไง เวลาผ่านไปมันทรุดโทรมลงด้วยมลภาวะและวัย

เซรั่มนี้ช่วยให้ผิวเรากลับสู่สภาพเดิม ซึ่งมันรู้สึกดีมาก แต่งหน้าแล้วสวยยาวนานหน้าไม่มันเลย

ชอบจนต้องไปสอยมาสต๊อกไว้อีกนั่นแหละ 5555++

นิสัยชอบสต๊อกของนี่แก้ไม่หายจริงๆ เหมือนกันทั้งบ้านเลย

แถมราคาก็ไม่แรงด้วย 30 ml. พันกว่าบาทใช้ได้ 3 เดือน




12. CLARINS  Double Serum




มันคือที่สุดแห่งความดีงาม คุณแม่ Swear by ไปกับ CLARINS เมื่อนานมาแล้ว

และได้ชักชวนน้องสาวลูกสาวให้เป็นสาวกตามมาด้วย น้ำตาลเองก็ไม่รอดค่ะ

จากที่แบรนด์ให้ Double Serum มาใช้ขวดแรกเมื่อนานมาแล้ว ตอนที่มันออกมาใหม่ๆ

ขวดที่ 2 3 4 5 ก็ตามมาติดๆ ตามมาเรื่อยๆ หมดแล้วเปิดใหม่ต่อเนื่องมาตลอด

ตอนนี้มีสต๊อกในตู้อีก 3 ขวด ขวด 30 ml. 2 ขวด และขวด 50 ml. อีก 1 ขวด 

เซรั่มตัวนี้เป็นน้ำกึ่งเจลกับน้ำมัน เวลาปั๊มออกมาจะออกมาพร้อมกันอย่างละเท่าๆกัน

ปั๊มใส่อุ้งมือแล้วถูในมือก่อนค่อยลูบลงไปบนใบหน้าและลำคอ พร้อมกับสูดดมกลิ่นไปด้วย

Aroma ที่อยู่ในเซรั่มจะช่วยผ่อนคลายและทำให้รู้สึกดีมากๆ

น้ำมัน + เจล พอรวมกันแล้วทำให้ลักษณะของเซรั่มจะเหมือนกับน้ำมันที่เคลือบบนผิวมนุษย์

ทำให้ผิวชุ่มชื่นและดูดซึมได้ดี

น้ำตาลใช้ติดต่อกันต่อเนื่องมานานที่รู้สึกชัดคือผิวแข็งแรงชุ่มชื่นและกระชับดี

เนื่องจากเซรั่มมันเป็นน้ำมันก็จะค่อนข้างมันเลยใช้เฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น

ขวด 30 ml. ใช้ได้เกือบ 4 เดือน ยิ่งสอยตอนลดราคาหรือจาก duty free ก็จะยิ่งถูกลงค่ะ





13. KANEBO fresh day cream SPF15




สกินแคร์แบรนด์ใหม่ล่าสุดจาก KANEBO ทางแบรนด์ส่งมาให้ลองใช้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน

น้ำตาลก็แกะใช้เลย ด้วยความเห่อเพราะมันดูน่าใช้มากๆ

ความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือไม่ชอบเลย เดย์ครีมอะไรทำไมถึงมันขนาดนี้

แต่ก็ลองใช้ไปเรื่อยๆ 2 อาทิตย์ก็แล้ว 3 อาทิตย์ก็แล้ว เออ....เริ่มชินแฮะ

ที่รู้สึกมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะแป๊บนึงก็ไม่รู้สึกมันแล้ว และที่รู้สึกได้ชัดคือผิวจะฉ่ำๆ

แต่ไม่ค่อยมันย่องแบบมีความมันส่วนเกินระหว่างวันเท่าไหร่

และที่กลับใจมาชอบมากเพราะมันง่ายดีค่ะ วันที่รีบตื่นสายคือลงตัวเดียวแล้วออกจากบ้านเลย

มันมี SPF15 ที่เพียงพอต่อความต้องการของน้ำตาลแล้ว ไม่อุดตัน ไม่แพ้

ผิวก็นุ่มชุ่มชื้นแข็งแรงไม่มันและไม่ระคายเคืองง่าย กลิ่นของครีมเหมือนกลิ่นฝรั่งหอมๆ

เป็นกลิ่นเขียวๆสดชื่นช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวในยามเช้าได้ดี มันเป็นกลิ่นแบบ Botanical Garden ค่ะ

ชอบที่ผิวจะดูอิ่มฉ่ำแต่ไม่มันย่อง แต่งหน้าตามก็ติดสวยทนนานค่ะ

ขนาด 40 ml. น้ำตาลใช้เฉพาะตอนเช้าใช้มาสามเดือนกว่าแล้วยังไปไม่ถึงไหนเลย

คาดว่ากระปุกนึงน่าจะใช้ได้เกิน 6 เดือนค่ะ ราคา 2,500 บาท ถือว่าคุ้มค่ะ




14. ORIGINS : High-Potency Night-A-Mins
Mineral-enriched Renewal Cream



เป็น Night Cream ที่ใช้เป็นประจำค่ะ Night-A-Mins มี 2 สูตรนะคะ มีแบบที่เป็น Oil Free ด้วย

แต่ที่น้ำตาลใช้เป็นประจำเป็นสูตรครีมเข้มข้นสำหรับผิวแห้งค่ะ

เป็นครีมวิตามินซี อี และแร่ธาตุที่บำรุงผิวเติมเต็มให้ผิวอิ่มฟูในตอนกลางคืน

และมันมีกลิ่น Aroma ที่ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบายค่ะ

เนื้อครีมอาจจะหนักไปสักหน่อยแต่เวลาใช้ต้องเอามาวอร์มในมือก่อนค่ะ แล้วค่อยกดลงบนผิว

พร้อมกับสูดกลิ่นช่วยให้ผ่อนคลายไปด้วย น้ำตาลจะลงเป็นอย่างหลังสุดแล้วนอนค่ะ

ตื่นมาผิวจะอิ่มฟูเหมือนได้นอนเต็มอิ่มทั้งๆที่ก่อนหน้านี้โทรมเต็มที

เหมือนตัวช่วย Shortcut เวลาที่เราทำงานหนักพักผ่อนไม่พอ

ขนาด 50 ml. ราคา 1,600 บาท.....กระปุกนึงใช้ได้นานมากๆเพราะเนื้อมันข้นมากจริงๆ





15. fresh :: Black Tea Firming Overnight Mask




ถ้าจะพูดถึง Overnight Mask ที่โปรดปรานที่สุด ก็เป็นตัวนี้ล่ะค่ะ

ยี่ห้ออื่นที่เค้าฮิตๆกันก็เคยลองใช้ค่ะ มันก็ดีเรื่องช่วยความชุ่มชื่นได้ดีมาก แต่ก็ได้แค่นั้น

ตอนนี้ปีนี้น้ำตาลเองก็ใกล้เลขสี่เข้าไปทุกทีแล้ว แค่ความชุ่มชื่นก็เริ่มจะไม่เพียงพอค่ะ

Black Tea ของ fresh เป็นชาดำหมักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสสระ ช่วยให้ผิวกระชับ

และยังมีส่วนผสมของน้ำมันดอกไม้เบลเดอนุย และเปปไทด์ ที่ช่วยกระชับผิว

ที่จำเป็นต้องทาในตอนกลางคืนเพราะมันจะค่อยๆปล่อยให้สารบำรุงออกมาตลอด 7-8 ชั่วโมง

ขณะนอนหลับ......พอตื่นมาตอนเช้าผิวก็จะนุ่มชุ่มชื่นอิ่มฟู ชอบสุดๆค่ะ

มันไม่ได้ให้แค่ความชุ่มชื้นแต่ให้อะไรที่มากกว่านั้นในเรื่องของความแน่นและกระชับของผิว

กระปุกใหญ่เบ้ง 100 ml. 3,600 บาท ราคาแรงไปหน่อยแต่ยอมค่ะ 5555++





16. fresh : Lip Serum Advance Therapy




เหตุมันเกิดจากตอนที่ sephora ลดราคา 20% ค่ะ

น้ำตาลก็เลยไปเดินลองเครื่องสำอางสารพัดโดยเฉพาะลิปสติก หลายยี่ห้อ หลายแบรนด์

และที่ลองก็เป็นพวก Lip Stain , Lip matte ที่ติดทนนานและล้างออกยากทั้งนั้น

ลองไปเป็นสิบสี เช็ดออกลองใหม่ จนเริ่มรู้สึกแสบปาก ปากชาและบวมอย่างเห็นได้ชัด

เดินไปเดินมาเลยเดินไปหยิบเจ้าขวดนี้มาปาดๆป้ายๆเผื่อจะหาย

ปาดไปสักพักเห้ยหายแสบหายบวมและไม่เยินด้วย......เฮ้ยยย เริ่ดว่ะ

เดินไปหยิบใส่ตะกร้าแบบไม่คิดเลย ตอนนี้ก็เลยใช้เป็นประจำค่ะ 

ทาก่อนเพื่อนและตบทับด้วยลิปบาล์มอีกรอบ ปากนุ่มไม่มีแห้งแตกอีกเลย

ขวดจิ๋วเดียว 10ml. ราคา 1,200 บาท......แรงไปมากแต่คุ้มค่ะ เชื่อเห๊อะ



หมวดของ skincare ก็มีเท่านี้แหละค่ะที่เลือกมาเป็นที่สุดแห่งปี

ส่วนใหญ่ก็มักจะเริ่มต้นจากที่แบรนด์ให้มาลองใช้แล้วก็เลยเถิดไปจนกลายเป็น Fan Club

สอยตาม สอยอย่างอื่น และ สอยมาสต๊อกอีก....นี่ละค่ะ bemynails style

ไปต่อกันที่หมวดของ Make Up กันบ้างค่ะ น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนรอดูกันเยอะ




17. Golden Rose :: Make Up Primer Mattifying & Pore minimizing




เดิมน้ำตาลปลาบปลื้มและใช้เบสของ Hourglass มาจนจะหมดขวดแล้ว 

แต่หลังๆต้องหยุดใช้เพราะรู้สึกเหมือนผิวอุดตันและเป็นเม็ดเล็กๆขึ้นอยู่บ่อยๆ

พอหยุดใช้ก็หายไป พอใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน เอาอีกแล้วเป็นอีก ก็เลยหยุดใช้ไปเลย

ส่วนขวดนี้ทาง Golden Rose เค้าส่งมาให้นานแล้วค่ะ มันก็นอนเค้เก้อยู่ในตะกร้า

แล้วพอดีว่ามีเพื่อนมาขอให้แต่งหน้าให้ น้ำตาลก็เลยลองเอาไปใช้กับหน้านางก่อน

เออ....มันลงง่ายดีนะ ลงแล้วผิวดูดีเชียวเมคอัพก็ติดดีด้วย ผิวก็ดูสวยด้วย

ไหนๆหยิบออกมาเปิดแล้วก็ลองใช้ซะหน่อย......เออแฮะมันลงง่ายดีและลงแล้วผิวก็ดูสวยด้วย

แถมช่วยให้เมคอัพที่ลงตามมาไม่เปลี่ยนแปลง แต่งเสร็จเป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้นจนตกเย็น

และสัมผัสที่รู้สึกถึงซิลิโคนกลบรูขุมขนก็จริง แต่ใช้ติดต่อกันทุกวันก็ยังไม่มีเรื่องผิวอุดตัน

ผิวก็ยังเหมือนเดิม ไม่เป็นสิว ไม่อุดตัน แถมทำให้การแต่งหน้าระหว่างวันดูสวยตลอดวันด้วย

ราคาแค่ 1 ใน 3 ของ Hourglass เองค่ะ.....เลยกลายเป็น The best ของปีนี้ไปอย่างขาดลอย





18. KANEBO full radiance foundation OC-D





นี่เป็นรองพื้นที่ดีที่สุดของปีของน้ำตาลค่ะ KANEBO เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ทำสีรองพื้นออกมาได้สวย

เหลืองเป็นเหลือง ไม่ติดชมพูจนทำให้หน้าดูลอยเทาออกมา และมีสีให้เลือก 5-6 เฉด

น้ำตาลได้ลองตอนเปิดตัวแบรนด์ไป พอปาดและเกลี่ยดูก็ยิ่งรู้สึกอยากลองใช้

พอเค้าวางขายก็รีบแจ้นไปซื้อมาลองใช้ หูยยย ราคาดีอ่ะพันกว่าบาทเอง

พอได้ลองแล้วก็รู้เลยว่านี่แหละรองพื้นที่ตามหามานาน......เฉดสีใช่ เหลืองสวยและเข้มพอดีผิว

ถ้าเฉดสีใช่และถูกต้องแล้วก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

แบรนด์เค้าทำฟองน้ำมาให้ใช้คู่กัน แต่น้ำตาลก็ใช้มือนี่แหละค่ะลงรองพื้น ก็ลงได้ง่ายไม่หนาเกินไป

เนียนบางดูผิวสวยแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ฉ่ำแต่ก็ไม่แมตมากจนเกินไป ผิวดูสวยกำลังดี

ควบคุมความมันได้ดี ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าแห้ง

นี่เลยทำให้รองพื้นอื่นตกกระป๋องไปเลย......5555+++




19. SKINFOOD Peach Sake Silky Finishing Powder




มันเคยเป็นแป้งฝุ่นสุดโปรดเมื่อนานมากแล้ว และก็ใช้มาเรื่อยๆ ทิ้งขว้างมันไปบ้าง

จนมาปีนี้อยู่ดีๆก็ไปขุดมันขึ้นมาใช้อีกรอบ.....มันดีอ่ะ มันใช้ง่ายหอมพีชและควบคุมความมันได้ดี

เวลาใช้ก็ใช้แปรงปัดๆเพื่อเซตรองพื้น ใช้กับรองพื้นอะไรก็ได้ผิวก็ดูสวยทนสวยนาน

วันไหนไม่อยากแต่งหน้าขี้เกียจสุดๆก็แค่ปัดแป้งฝุ่นแล้วออกจากบ้านเลยก็ยังได้

แป้งกระปุกเบ้งราคาที่เกาหลีก็แค่ 400 มาเมืองไทยแพงขึ้นเป็น 800

ก็ใช้วิธีใครไปเที่ยวก็ฝากซื้อหน่อย แป้งปุกเดียวพอไม่ขอเยอะ อิอิอิ

ตอนนี้เลยกลายเป็นแป้งประจำตัวไปแล้ว.....ชอบมากใช้ทุกวันค่ะ





20. The Face Shop : Oil Control Water Cushion SPF 50 PA+++ #205






เป็นคูชชั่นที่ใช้แล้วไม่ห่วงเรื่องหน้าเทา หน้าลอยเลย เบอร์ 205 ของยี่ห้อนี้คือดีงามมาก

ขอความกรุณาอย่าเลิกขายเด็ดขาด มันเป็นสีที่เหมาะกับสาวไทยเป็นอย่างยิ่ง

ตลับหมีพูห์น่ารักนี่เป็นตลับลิมิเตดค่ะ ข้างในเป็นอย่างอื่น แต่น้ำตาลสอยเอาสูตร Oil Control

เบอร์ 205 แบบ Refill มาแกะใส่ลงไปแทน....แบบว่าอยากได้ตลับน่ารัก

แต่ข้างในขอเลือกเอง ตอนนี้เลยมีเบอร์ 203 กองเต็มบ้านทุกสูตรเลย 5555++

ชอบสูตร Oil Control นี่มากเพราะมันฉ่ำนะ ผิวดูสวยฉ่ำแต่ไม่ทำให้มันเพิ่มขึ้น

สีคูชชั่นก็สวย ทำให้ผิวดูสวยทนสวยนาน ใช้จนจะแห้งหมดตลับแล้ว

เป็น BB คูชชั่นที่สีสวยเนื้อดีที่ปลาบปลื้มสุดแล้วค่ะ





21. ETUDE HOUSE : Play 101 Stick #13



มันคือสติ๊กสารพัดประโยชน์ เป็นสีชมพูหวานวิ้งสีทอง เอาไว้ปาดโหนกแก้มเป็นบลัชก็ได้

เอานิ้วถูๆปาดบนเปลือกตาเป็นอายชาโดว์ หรือเป็นอายเบสก่อนลงอายชาโดว์ก็ได้

เอาไล้สันจมูกเป็นไฮไลต์ก็ได้ คือพกแท่งนี้แท่งเดียวไปได้ทั่วไทยค่ะ

วิ้งอาจจะไม่ละเอียดเท่า Orgasm ของ NARS แต่ความสวยไม่ต่างกัน ถ้าชอบวิ้งอันนี้สวยกว่าชัดกว่า

สวยและสารพัดประโยชน์ในราคา 500 บาทไม่เกินนั้น

ทำไมถึงจะไม่สอยไว้ใช้กันล่ะคะ  5555++





22. benefit : Dandelion brightening finishing powder 
& Dandelion dew liquid blush




เป็นบลัชออนดูโอที่ควรใช้คู่กันแล้วน้ำตาลหยิบมาใช้บ่อยสุดในรอบปีนี้

เริ่มจากตัวบลัชที่เป็นแป้ง อันนี้ได้มานานแล้ว แต่ใช้น้อยเพราะมันออกสีน้อยไม่ค่อยเห็น

แต่ตัวที่เป็นครีม Dandelion Dew Liquid Blush เพิ่งออกมาในปีนี้

ด้วยความที่ชอบสีชมพูโทนนี้ของ benefit อยู่แล้ว ก็เลยลองสอยมาใช้ดู

ก็เลยพบว่ามันเป็นบลัชครีมที่บีบออกมาแล้วเกลี่ยง่ายมากๆ สีชมพูหวานใสมากๆ

แล้วปัดทับด้วยแป้งสีชมพู Dandelion Brightening Finishing Powder

จะได้แก้มสีชมพูชัดขึ้นและติดทนนานมากๆ ผิวก็ดูสวยเนียนมากด้วย

เนื่องจากสีมันไม่ได้จัดนัก ดังนั้นไม่ต้องกลัวเป็นตรูดลิง มันไม่แดงแป๊ดชัวร์

ใช้ง่าย ใช้แล้วสวย.....เลยยกให้คู่นี้ค่ะที่ชอบที่สุดในปีนี้

ตอนนี้ตัวตลับแป้งโบ๋เห็นก้นถาดแล้ว.....ดีใจมากๆ 55555++






23. Jill Stuart Eye Lash Curler



แบรนด์เจ้าหญิงสุดมุ้งมิ้งที่เพิ่งมาเปิดตัวในไทยในราคาที่ไม่ต่างจากที่ญี่ปุ่นเท่าไหร่

น้ำตาลก็ไม่พลาดค่ะ ที่จะไปสอยหลายๆอย่าง และนี่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ตั้งใจไปสอย

เพราะที่ดัดขนตา RMK ของน้ำตาลก็อายุมากแล้วเกือบ 10 ปี คิดว่าอยากลองเปลี่ยน

มาลองอันนี้ที่ชอบคือ ความโค้งมันเข้ากับเบ้าตาได้พอดี 

ดัดแล้วขนตาเด้งกำลังสวยและโคนขนตาไม่หัก......ที่น่ารักสุดคือ เม็ดคริสตัลที่ห้อยตุ้งติ้งนี่แหละค่ะ

สวยและดีในราคาหลัดร้อยต้นๆ......คือดีย์อ่ะ






24. Jill Stuart Blooming Blossom Curl Lash Mascara



Mascara อันนี้ได้มาเป็นของแถมค่ะ ยังใช้ไม่หมดสักที จะได้ไปสอยของจริง

ที่ชอบมากเพราะมันไม่หนาหนักขนตา แต่เคลือบขนตาให้งอนไปตามที่เราดัดไว้

ไม่เลอะเทอะ ไม่ร่วงเป็นผง และล้างออกง่าย ไม่ต้องขยี้ให้ตาช้ำ

และที่ชอบเป็นพิเศษคือกลิ่นหอม มันหอมมาก เป็นมาสคาร่าที่หอมและไม่แสบตา

ถามหาว่ามีน้ำหอมกลิ่นนี้ขายไหม.....ไม่มีอ่ะ นี่เป็นกลิ่นในเครื่องสำอางเท่านั้นอดค่ะ





25. RinyaLash



ขนตาปลอมที่ยังรักอยู่ก็เป็นแบรนด์นี้ค่ะ RinyaLash ขนตาปลอมขนมิ้งค์ถักมือ

แกนนิ่มและทนมาก ใช้ซ้ำได้เกิน 20 ครั้ง ติดเมื่อไหร่มีแต่คนทักตลอด

ราคาอาจจะสูง 600 กว่าบาท แต่มันก็คุ้มค่ามากใช้ซ้ำได้เยอะสุดๆ

ที่ชอบคือเบอร์ 03 นี่สั่งมาตุนไว้ 2 คู่ กลัวน้องเค้าเลิกทำ 5555++





26. Bohk Toh High Performance Eyelash Adhesive




กาวติดขนตาแบรนด์ไทยค่ะ ที่ติดได้แน่นทนต่อน้ำตาได้ดี เพราะน้ำตาลชอบน้ำตาไหลบ่อยมาก

กาวติดขนตานี่ต้องพกติดตัวตลอด ไม่งั้นมีเผยอตลอดค่ะ แต่มาลองใช้ของบอกต่อ

เออ....น้ำตาไหลนะ แต่ขนตายังแน่นอยู่ และเวลาดึงออกก็ง่ายค่ะ ไม่ดึงขนตาจริง

และหลุดออกจากแกนขนตาได้ง่าย ไม่ทำให้แกนขนตาพัง นี่คือที่ชอบมาก

ราคาก็ไม่แพงด้วย.....แถมดีมีคุณภาพ ปลอดภัยกับดวงตาค่ะ




27. Coffret D'or : Liquid Eyeliner - Black



ยังคงเป็นอายไลน์เนอร์สุดโปรดตลอดกาล 55555++++

นี่เป็นแท่งที่ 2 ในชีวิตค่ะ แต่เปลี่ยนหลอดหมึกมาแล้วนับ 10 หลอด

ชอบตรงที่สีดำสนิท เขียนง่าย ไม่เลอะเทอะระหว่างวัน

ล้างออกง่ายด้วยไม่ต้องถูมากให้ตาช้ำ

ปลายพู่กันใหญ่แต่เรียวเล็ก เขียนได้ทั้งเส้นใหญ่และเส้นเล็ก

และที่ชอบมากคือมันเติมหมึกได้ หมึกหมดก็ไปซื้อหมึกหลอดมาเติม

ด้ามแรก 850 บาท หมึกเติมหลอดละ 350 บาท

ด้ามที่แล้วทิ้งไปเพราะใช้มาเกิน 3 ปี......ถึงเวลาต้องทิ้งเหอะมันนานเกิน





28. shu uemura Eye Brow Pencil Hard 9 & benefit Gimme Brow #03




งานคิ้วนี้ต้องมาคู่กันค่ะ ที่ปลาบปลื้มก็เป็นดินสอเขียนคิ้วปลายดาบญี่ปุ่นของ shu uemura

เป็นดินสอเขียนคิ้วที่สีสวย เขียนง่าย เขียนแล้วดูเป็นธรรมชาติ ดูพอดีไม่มากไม่น้อยไป

และที่ต้องใช้คู่กันเป็นมาสคาร่าปัดคิ้ว ที่ชอบมากคือ benefit Gimme Brow สีเบอร์ 03 

เป็นสีน้ำตาลกลางๆ ปัดแล้วคิ้วจะดูหนาและอยู่ทรงมากขึ้น

บางวันขี้เกียจเขียนคิ้ว ก็ปัดมาสคาร่าคิ้วแล้วออกจากบ้านได้

แต่ทุกวันถ้าไม่ขี้เกียจก็ต้องใช้คู่กันนะคะ.....^____^





29. Urban Decay : Naked Ultimate Basics




ปีนี้ซื้ออายชาโดว์น้อยมาก และแต่งตาน้อยลงจริงๆ

แต่พาเลตนี้ซื้อมาแบบไม่คาดหวังเท่าไหร่ ทั้งๆที่หยิบและวาง หยิบและวาง หลายรอบมาก

จนคิดว่าซื้อไปเหอะ ไม่งั้นก็จะหยิบวางอยู่นั่นแหละ

พอได้มาก็ลองใช้ดู.....โอ้ยตาย.....มันดีกว่าที่คิดไว้มากค่ะ

คืออายชาโดว์เนื้อแมตเนี่ยมันใช้ยาก มันง่ายที่จะทาแล้วเป็นปื้นๆ เกลี่ยไม่เนียน เบลนด์ไม่ฟุ้ง

แต่อันนี้ไม่ใช่เลย มันเบลนด์ฟุ้งเกลี่ยเนียนด้วย ใช้ง่ายกว่าที่คิดไว้มาก

สีที่เค้าจัดมาให้ก็ใช้ได้ง่าย ใช้ได้บ่อยแต่งได้ทุกวัน แปรงที่มีมาในตลับก็ใช้ได้จริง

และใช้ได้ดีด้วย มันถูกออกแบบมาให้ใช้ด้วยกัน เลยขอยกให้เป็นอายชาโดว์แห่งปีไปเลยค่ะ






30. NudeStix : Intense Matt Lip + Cheek





ลิปสติกสุดโปรดของปีนี้ขอยกให้สิ่งนี้เลยค่ะ NudeStix Intense Matt Lip + Cheek

เป็นลิปสติกเนื้อแมตแท่งอ้วนที่ให้สีสดชัด ลุคแมต แต่เนื้อไม่แห้ง ความติดทนคือดีมาก

ทาตอนเช้าอยู่ยันเย็นโดยไม่ต้องเติมก็ได้ หรือถ้าจะเติมระหว่างวันก็ไม่เป็นคราบ

แพ็ตเกจที่ขายจะมาพร้อมกบเหลาด้วยทุกแท่ง โดยที่ตัวกบเหลาทำหน้าที่เป็นปลอกปิดได้ด้วย

แท่งนึงอาจจะราคาสูง 902 บาท แต่ใช้ได้นาน เหลาแล้วไม่กินเนื้อลิป

แถมมีกล่องเหล็กมาให้เก็บด้วย ชอบที่เป็นแท่งดินสอมันพกง่ายค่ะ





หมดแล้วค่ะที่สุดของไอเท็มของปีนี้ 30 อย่าง.....ก็เยอะนะ 55555++

ปีใหม่นี้ 2017 ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขรายรอบตัว

ใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีปัญญา และตั้งใจทำงาน เพื่อตัวของคุณเอง

สวัสดีปีใหม่ค่าาาาาาาาาาาาา










Create Date : 31 ธันวาคม 2559
Last Update : 3 มกราคม 2560 17:38:32 น.
Counter : 4889 Pageviews.

1 comments
  
อยากสอยตามหลายตัวเลยค่า
โดย: NickyOkawa วันที่: 9 มกราคม 2560 เวลา:17:40:07 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bemynails
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 69 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบช๊อปปิ้ง แต่งหน้า เพื่อความสุขเล็กน้อยๆของตัวเอง ในโลกการทำงานที่ผู้ชายเป็นใหญ่
งานออกแบบเป็นชีวิต....ก็ขอออกแบบชีวิตประจำวันด้วยสีสันบ้าง....

เพราะผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ.... ^_^


ไม่อนุญาตให้ใช้ข้อมูลหรือชื่อ bemynails ในการนำไปอ้างอิงเพื่อขายสินค้าใดๆค่ะ


แอดเป็นเพื่อนกันใน facebook ได้ค่ะ

bemynails