Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
ตู้เสื้อผ้า- Collection Management – การเริ่มต้นใหม่

ชีวิตเราเริ่มต้นใหม่ที่ตู้เสื้อผ้า

“ช่วงนี้ทำอะไรบ้างจ๊ะ ” มดถามเราในระหว่างที่นั่งจิบกาแฟด้วยกันตอนเช้าวันเสาร์ เพราะว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเราไม่ต้องไปออฟฟิค
เพราะพี่ๆเขาไปดูงานต่างจังหวัดกันหมด
เราเลยว่างมากเป็นพิเศษจากปกติที่ว่างมากอยู่แล้ว
“ ไม่ได้ทำไรมากอ่ะ อ่านหนังสือนิดๆหน่อยๆแล้วก็จัดตู้เสื้อผ้า”
“ จัดตู้เสื้อผ้าอีกแระ ชีวิตเธอนี่เริ่มต้นที่ตู้เสื้อผ้าจริงๆเลย”


เออเนอะ เพิ่งสังเกตตัวเองเหมือนกันว่า เวลาเราจะเริ่มอะไรใหม่ๆในชีวิตนี่เรามักมาเริ่มที่ตู้เสื้อผ้าก่อน แล้ววิธีจัดตู้เสื้อผ้าของเราก็จะหมุน เปลี่ยนเวียนไปตามชีวิตหรือแนวคิด( approach) ในช่วงเวลานั้นๆ อย่างเช่นมีอยู่ช่วงนึงจัดเสื้อผ้าตามสี โดยไม่ต้องคำนึงว่ามันจะเป็นเสื้อหรือกางเกง กระโปรง ไล่สีไว้ก่อน ซึ่งข้อดีมันก็อยู่ตรงที่เวลาจะใช้ ก็หยิบมาใช้ได้ตามอารมณ์ เช่น วันนี้อารมณ์อยากใส่สีชมพูแปร๊ดๆก็ลงมือค้นไปตรงกองชมพู แล้วก็จะใส่คู่กะสีดำก็ค้นไปตรงกองสีดำ มันก็ดูเป็นวิธีที่เข้าท่าดีเหมือนกัน แต่ข้อเสียก็คือ บางวันมันไม่มีอารมณ์น่ะซิ ใช่ว่าทุกวันคนเราจะมีอารมณ์อยากใส่สีนั้นสีนี้ใช่ไหม บางทีมันก็อยากสบายๆๆใส่อะไรก็ได้ เสื้อยึดๆ กางเกงขาสั้น คราวนี้ก็ต้องมารื้อๆๆ ว่าเรามีเสื้อยึดอันไหนบ้าง รื้อไปทีละกองๆ มันก็เริ่มเละ สรุปเราก็บอกลาการจัดเสื้อผ้าตามสีไป

แนวคิดต่อมาเป็นแนวคิดแบบแฟรงค์ ลอยด์ ไรท์ สถาปนิกชื่อดัง กับแนวคิด form follows function ซึ่งก็คือการจัดเสื้อผ้าตามวัตถุประสงค์การใช้สอย กางเกงก็อยู่ส่วนกางเกง เสื้อยึดอยู่ส่วนเสื้อยึด กระโปรงก็อีกแถบนึง เดรสก็อีกตู้นึง มันก็ใช้ได้เลยนะ ง่ายต่อการหยิบใช้สอย สะดวกประหยัดเวลารู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน แต่ข้อเสียคือ มันน่าเบื่อมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จัดตู้เสื้อผ้าอย่างงี้ตั้งแต่เด็ก โอ้ พระเจ้า ไม่เบื่อกันบ้างหรือไง(ฟะ)

เคยเห็นไฮโซบางคนจัดตู้เสื้อผ้า เอาทั้งสองอย่างมาผสมกันคือ จัดตามวัตถุประสงค์การใช้สอยแล้วก็ไล่เฉดสี เนี๊ยบมาก เรายังไม่เคยลองวิธีนี้หรอก แต่คิดว่ามันคงไม่เข้ากับบุคลิกอย่างเราแน่นอน เพราะมันดูมีระเบียบ สุขุม ลุ่มลึกเกินไป ขอผ่านไปก่อนแล้วกัน ไว้สักอายุ 40 ค่อยจัดแบบนี้
ประมาณว่าชีวิตตกผลึกแล้วก่อนอะไรอย่างงั้น

มาดูกันซิว่าวันนี้เราจัดตู้เสื้อผ้าแบบไหน

ปัญหาของเราตอนนี้คือ เรามีเสื้อผ้าสามตู้ แต่ใส่ประจำ มีไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือก็จะเป็นพวกใส่เล่นชั่วครั้งชั่วคราว เห็นสวยดีตามท้องถนนแล้วก็ซื้อมา ตอนที่ซื้อก็ไม่ได้คิดอะไร ตัวละถูกๆสองสามร้อย เอาน่า ใส่เล่นๆๆ แต่พอจัดตู้ทีไรต้องกัดฟัน กรอดๆโมโหตัวเอง ทำไมเสื้อผ้าใส่เล่นมันเยอะนัก(วะ) ไอ้ตัวไม่กี่ร้อยนี่ พอรวมกันแล้วเป็นหมื่นเหมือนกัน โอ้จะบ้าตาย เวลาจัดตู้ใหม่ทุกครั้งเราก็สาบาน(ในใจ)ว่าจะไม่ซื้อแล้ว พวกยิบย่อย ใส่ทีสองทีเปื่อย สีซีด รวมตังซื้อยี้ห้อดีๆไปเลยดีกว่า แต่พอเห็นข้างถนนทีไรก็อดใจไม่ได้ วิ่งเข้าไปหาอยู่ร่ำไป เฮ้อ เซ็งตัวเอง

ไหนๆเราก็เรียนพิพิธภัณฑ์มา เราเลยเอาวิชา Collection Management เข้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

คุณๆรู้ไหมคะว่า เวลาที่ไรไปพิพิธภัณฑ์เนี่ย ของที่เราเห็นที่โชว์อยู่นี่เป็นเพียงแค่ 3- 5 % ของจำนวนของที่พิพิธภัณฑ์มีอยู่ทั้งหมด แล้วของที่เหลือไปอยู่ที่ไหนเหรอคะ ก็เก็บไว้ในโกดังที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาที่เป็นความลับ ( ไม่งั้นก็ถูกเจ้าพวกขโมยสอยไปหมดน่ะซิ) อย่างพิพิธภัณฑ์ Naturalist ที่ Leiden ในประเทศเนเธอร์แลนด์นี่ จำนวนวัตถุทั้งหมดที่จัดแสดงมีประมาณ แสนชิ้น จากวัตถุทั้งหมดสิบล้านชิ้น!!!!!!!!

ดีนะที่พิพิธภัณฑ์นี้เค้าคิดเรื่องปัญหา Storage นี้มาก่อนการออกแบบสร้างอาคารอันใหม่ เขาเลยจัดให้สามชั้นแรกเป็นที่จัดแสดง ส่วนชั้นที่เหลือถึงชั้นสิบก็เป็นส่วนของงานวิจัยและเก็บของ

พิพิธภัณฑ์อื่นๆที่ประสบปัญหาเดียวกัน ก็เลยต้องทำการแก้ปัญหาไป เช่นแก้โดยจำกัดการรับของเข้าพิพิธภัณฑ์ให้เข้มงวดมากขึ้น มี Collection Policy ที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าใครเอาอะไรมาให้ก็รับหมด หรือไม่ก็ต้องทำลายทิ้งเสียบ้างเพื่อประหยัดเงินในการเช่าโกดังหรือลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา

การทำลายของทิ้งนี้เราเรียกว่า Deaccession ค่ะ ซึ่งประเด็นที่ว่าของของพิพิธภัณฑ์นั้นควรทำลายหรือไม่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ บ้างก็ว่าไม่ควรทำลายเพราะว่าถือเป็นสมบัติสาธารณะ บ้างก็ว่าไอ้ที่ใช้การไม่ได้แล้วหรือไม่ได้ใช้ก็ควรโละๆไปได้จะได้ประหยัด่าใช่จ่ายส่วนนี้ลงไปบ้าง ต้องขยายพื้นที่เก็บของทุกปีๆ ค่าเช่าแพงขึ้นเรื่อยๆงี้ก็ไม่ไหว อันนี้เราเก็บไว้เป็นประเด็นเถียงกันตอนต่อๆไปนะ วันนี้เอาเรื่องตู้เสื้อผ้าให้จบก่อน

วิธีที่ถูกนำมาใช้ในการคัดสรรว่าอันไหนจะอยู่ อันไหนจะไปก็คือ วิธีการจัดลำดับ (Grading) ซึ่งภัณฑารักษ์หรือ Curator นี่ก็จะแบ่งวัตถุไว้เป็นกลุ่มๆ เช่น List A คือ กลุ่มที่เป็นกลุ่มวัตถุที่สำคัญซึ่งจัดแสดงในส่วน Permanent Exhibitionซึ่งนอกจากจะสำคัญในด้าน Context แล้วยังต้องอยู่ในสภาพ ( Condition )ที่สมบูรณ์ด้วย ต่อมาก็คือ List B ซึ่งความสำคัญน้อยลงมานิดนึง แล้วก็ไล่เรื่อยๆไปถึง List สุดท้ายที่แบบสภาพใกล้ๆเป็นซากแล้ว ซึ่งวิธีจัดการกับแต่ละลิสก็แตกต่างกันไปเช่น จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนชั่วคราว , ใช้ใน education program ต่างๆที่จัดขึ้น ให้ผู้เรียนได้สัมผัส เรียนจากของจริง หรือไม่ก็จัดเรื่องราวใหม่ เอาวัตถุในลิสมาปั้นๆเป็นเรื่องราวใหม่ทำเป็น traveling exhibition ไปโชว์ที่ต่างๆทั่วโลก หารายได้พิเศษไปในตัว หรือไม่งั้นก็บริจาคให้พิพิธภัณฑ์ในประเทศอื่นๆที่จัดแสดงในเรื่องเดียวกัน ไม่ก็ให้ขอยืมในรยะเวลา3 ปีหรือ5 ปีว่ากันไป

แล้วมันเกี่ยวกับการจัดตู้เสื้อผ้าของเรายังไงน่ะเหรอ

คืองี้ วันนี้เราจัดเสื้อผ้าเป็นกลุ่มๆ List A ก็จะเป็นพวกสวยเลิศ ใส่บ่อย ชอบมากๆ เห็นแล้วไม่ต้องมองซ้ำสอง หยิบใส่ได้เลย อยู่ในสภาพดีเลิศ อย่างตัวไหนใส่บ่อยๆ ชอบมากๆ แต่สีซีด อันนี้ก็จะถูกคัดออกไป ไม่ติดลิสเอนะจ๊ะ ไปอยู่ลิสบีแทน ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเสื้อผ้าใส่อยู่บ้าน ใส่เดินเล่นแถวนี้ ไปตลาด ตัวเคยสวยๆ เคยชอบก็จะมาอยู่ตรงนี้หมด ลิสซีก็จะเป็นพวกเสื้อผ้าที่นานๆใส่ที พวกชุดออกงานราตรี เสื้อโค้ทกันหนาว ชุดครุย อันนี้ก็จะอยู่อีกตู้นึง ลิสต่อมาก็เป็นพวกซากๆ ไม่ใช่มันพังนะ แต่ประมาณว่าใส่ไม่ได้แล้ว มันเล็กไป หลวมไป เชยไป อันนี้ก็จะเก็บไว้ต่างหากเพื่อเอาไปบริจาคต่อไป แต่อันสุดท้ายนี่ขอเรียกว่าลิสตัดใจไม่ลง กล่าวคือ บางตัวนี่โคตรเน่า ซีดแล้วซีดอีก ขาด คับแต่ตัดใจทิ้งไม่ลง เพราะเหตุผลบ้าบอต่างๆนานา เช่น แฟนเก่าซื้อให้ ทิ้งไม่ลง ทั้งๆที่ทิ้งเจ้าของมันไปนานแล้ว แต่ยังเก็บเสื้อเขาไว้อีก ประมาณว่า บางทีที่ฉันทิ้งเธอไป ไม่ได้หมายความว่าไม่รักเธอนะ อ่า เขียนไปเขียนมาเริ่มน้ำเน่าอีกแล้ว ตัดใจไม่ลงอีกประเภทนึงคือ เสื้อผ้าที่ใส่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันมากมาย เมื่อก่อนตอนเด็กๆมีเสื้อกันหนาวพัพเพ็ตสีน้ำเงินอยู่ตัวนึง ใส่ไปค่าย แล้วทีนี้ฝนตก เต๊นส์ล่ม ทุกคนวิ่งขึ้นตึก เปียกมะรอกมะแรก แต่เสื้อตัวนี้เป็นผ้าใยสังเคราะห์ คายน้ำเร็วมาก บิดน้ำออกสองทีแห้ง ทำให้เราไม่เป็นหวัด ในตอนที่ทุกคนไอกันถ้วนหน้า ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วทุกวันนี้เสื้อตัวนั้นยังอยู่เลย(ที่ไหนซักแห่งนึงนั่นแหละในบ้าน ) ก็มันประทับใจนี่ มันทำให้เรานึกถึงความสุขในช่วงระยะเวลานึง ก็เลยเก็บไว้ พักหลังลิสนี้ชักมีเยอะเลยใช้วิธีให้เพื่อนสนิท ประมาณว่าชั้นใส่ไม่ได้แล้ว ได้เห็น(เวลาที่แกใส่บ้าง)ก็ยังดี บางตัวตัดใจไม่ได้จริงๆก็ประมาณว่า ชั้นให้แกยืม(ระยะยาว )ละกันนะ ไว้ชั้นผอมเมื่อไหร่จะเอาคืน (จะมีวันนั้นไหมเนี่ย )

เขียนมาถึงตรงไปแล้วชักเหนื่อย เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก ทำไมต้องมีเสื้อผ้าตั้งสามตู้ด้วย นึกๆแล้วอยากเป็นเหมือนไอสไตน์มีเสื้อผ้าเหมือนกันทั้งหมดตู้ เวลาที่แกเปิดตู้จะใส่เสื้อผ้าก็หยิบๆๆมาได้เลยเพราะเหมือนกันหมด แกบอกว่าเอาเวลาที่เลือกเสื้อผ้านี่ไปทำงานดีกว่า นี่แหละ Minimalist ตัวจริง

สุดท้ายเรารู้แล้วว่าทำไมเราต้องเริ่มต้นที่ตู้เสื้อผ้า
เพราะว่าเวลาเราจัดตู้เสื้อผ้าเสร็จ เราจะรู้สึกสบายใจ
รู้สึกว่าชีวิตอยู่ในทิศทางที่ควบคุมได้
ตอนตู้เสื้อผ้าเละๆเมื่อไหร่ เราจะนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นมาหงุดหงิด หาเสื้อผ้าใส่ไม่ได้
เสื้อผ้ายับๆสุมๆๆไว้ ตัวนั้นก็ไม่ดี ตัวนี้ก็ไม่สวย เสียสุขภาพจิตมาก

ตอนนี้เอลิสต์ของเรามีนิดเดียว ลิสบีมีมากกว่าห้าเท่า ซึ่งแสดงว่าประสิทฺธิภาพในการซื้อเสื้อผ้าของเราต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน

ไว้วันหลังเอลิสต์เต็มตู้แล้วจะมาโชว์ใหม่นะคะ




Create Date : 18 ธันวาคม 2549
Last Update : 18 ธันวาคม 2549 23:02:11 น. 9 comments
Counter : 1131 Pageviews.

 
อืมๆ น่าคิดๆ

เราจัดตู้เสื้อผ้าไม่บ่อยนะ เพราะเวลาพับผ้าหลังจากซักทีไร จะเก็บเรียบร้อย ก็เลยไม่ค่อยจัดอ่ะ เพราะมันก็เรียบร้อยอยู่แล้ว
ไม่เคยทิ้งเสื้อผ้าด้วย แม้จะมีเยอะมากที่ใส่ไม่ได้แล้ว ก็ตัดใจให้คนอื่นไม่ลง

เราจัดแบบตามการใช้งาน กับตามฤดูกาล จัดตามสีนี่เคยลอง โอย ไม่ไหว มันไม่เวิร์คสำหรับเรา

กำลังคิดอยู่ว่าเราจะจัดบ้านมั้ง ถ้าอยากทำอะไรใหม่ๆ เริ่มต้นใหม่ๆ จะจัดบ้าน ทำความสะอาดครั้งใหญ่ รื้อผ้ามงผ้าม่านออกมาซัก ขัดหน้าต่าง บ้านสะอาดๆหอมๆ อยู่แล้วมีความสุข




โดย: อาย IP: 85.230.110.235 วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:23:26:16 น.  

 
ดาวจ๋า

มีการ์ดมาฝาก

nycard6


โดย: อาย IP: 217.210.80.112 วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:12:20:06 น.  

 
ดาวจ๋า

มีการ์ดมาฝาก

nycard4


โดย: อาย IP: 217.210.80.112 วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:12:20:17 น.  

 
อายอ่ะ การ์ดขึ้นสองอันเฉย กรี้ด ทำไมวันนี้ทำอะไรผิดพลาดไปหมด


โดย: อาย IP: 217.210.80.112 วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:12:23:14 น.  

 
สวัสดีค่ะตามพี่อายมา

แบ่งเสื้อผ้าเป็น 3 ส่วนค่ะ ในตะกร้า ตู้เสื้อผ้า และพาดไว้บนราวตากผ้าเช็ดตัว ในตะกร้าคือเสื้อผ้าใส่อยู่บ้าน กางเกงบ้านพาดไว้บนราว ส่วนในตู้เป็นชุดพบปะชาวโลก

ในตู้ชุดที่ไม่ค่อยได้ใส่พับเก็บไว้ในลิ้นชัก ส่วนที่ใส่ประจำแขวนเรียงไว้เป็นตับๆเลยค่ะ ไม่ได้แยกตามประเภทหรือสี เคยคิดว่าจัดแบบนี้จะกระจายโอกาสในการสวมใส่ แต่ความจริงก็หยิบเอาแต่หย่อมเดิมๆนั่นแหละค่ะ

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตเข้มแข็งค่ะ


โดย: Thebrightestsunisthepurestgun วันที่: 27 ธันวาคม 2549 เวลา:22:59:19 น.  

 
อายจ๋า ดาวไม่ลบการ์ดนะ เพราะอยากได้สองอันเลย จะได้มีฟามสุกแบบคูณสองไงอิอิ

ปีใหม่นี่ก็ว่าจะเก็บบ้าน ทำบ้านหอมๆๆเหมือนกันจ๊ะ มาเป็นลูกมือหน่อยได้ไหมอ่ะ ว่ามะว่าอะไรมันสะอาด เป็นระเบียบนี่ ทำให้จิตใจดีขึ้นเยอะเลย ว่าแล้วต้องเก็บเสื้อผ้าไปบริจาคซักร้อยตัวปีใหม่นี้

น้องThebrightestsun ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ ขอให้มีความสุขปีใหม่เช่นกัน วันหลังลองจัดเป็นสีดูบ้างเล่นๆไหมคะ แก้เบื่อ (แต่หาของยากชะมัดเลยเนอะ) ใส่สีเรียงกัน เปิดตู้ออกมาแล้วสวยดีจังเลย พี่ชอบ (แต่ไม่ค่อยเวริค์)


โดย: estrella วันที่: 29 ธันวาคม 2549 เวลา:22:31:32 น.  

 
พูดถึงเรื่องตู้เสื้อผ้าแล้วฮา คือ ตู้ของเราเนี่ยจะมีเสื้อของแม่มาใส่ด้ว เพราะเสื้อของเราเองน่ะน้อยมาก แต่เสื้อของคุณสุนันท์ (แม่ดิชั้น) เยอะมาก

แล้ววันนึง เพื่อนมาเที่ยวบ้าน ด้วยความเสือกของมัน มันก็เปิดตู้เสื้อผ้าเล่น พอเห็นเสื้อผู้หญิงมันก็ต๊กกะใจ แล้วก็ไปปล่อยข่าวว่าเราน่ะแอบจิต เป็นพวกชอบแต่งหญิง..ซะงั้น


ปล. เมื่อคืนพฤหัสไปดู MYLO มานะ เนี่ยยังไม่หายปวดคอเลย แล้วจะไปปาร์ตี้ดู๊ดไหวมั้ยวะเนี่ย -__-''


โดย: merveillesxx วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:18:46:02 น.  

 
คุณ เอสเตลล่า ถูกเรา tag แล้วนะ

ถ้างงว่ามันคืออะไรก็ไปอ่านบล็อกเค้าเน้อ...


โดย: merveillesxx วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:2:47:52 น.  

 
อ้าว ดาววว อัพสิจ้ะ อัพ ไหนบอกให้ตามมาอ่าน tag แล้วไม่เห็นเขียนเลย


โดย: อาย IP: 85.230.111.6 วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:19:38:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

estrella
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add estrella's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.