|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
Cosmic Experience on Girl with the pearl earring
หากถามว่าใครเคยดูหนังแล้วร้องไห้บ้าง คงมีคนยกมือสลอน แต่ถ้าเปลี่ยนคำถาม ถามใหม่ว่าใครเคยดูงานศิลปะแล้วร้องไห้บ้าง จะเหลือคนยกมือกี่คน ฉันอยากรู้
ในชีวิตนักเรียนศิลปะที่ใช้เวลากว่าค่อนนอกห้องเรียนในพิพิธภัณฑ์ต่างๆมาอย่างโชกโชน มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่ฉันเกิดโชคดีได้สัมผัสงานศิลปะถึงขั้นเข้าฌาน นักเรียนศิลปะบางคนเรียกประสบการณ์อย่างนี้ว่า Cosmic Experience
ครั้งแรกที่ยังติดตราตึงใจจนมาถึงทุกวันนี้คือ การได้สัมผัสภาพวาด หญิงสาวกับต่างหูมุก (Girl with the pearl earring) ของโจฮาห์น เวอร์เมียร์ (Johannes Vermeer, ค.ศ.1632- 1675) ศิลปินชาวดัตช์ในยุคศตวรรษที่ 17 ที่จัดแสดงอยู่ใน Mauritshuis ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
ภาพเขียนชิ้นนี้มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่เมืองเดลฟ์( Delft ) ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของเวอร์เมียร์ที่อยู่ห่างจากเมืองอัมสเตอรดัมไปทางใต้ประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยรถไฟ แม้ว่าในนิยายที่ชื่อเดียวกับภาพของ Tracy Chevalier จะบอกว่าผู้หญิงในภาพเป็นหญิงรับใช้ที่ครอบครัวจ้างมาเป็นพี่เลี้ยงให้เด็กๆ แต่จากการศึกษาโดยละเอียดโดยกลุ่มนักประวัติศาสตร์ศิลปะกลับไม่พบหลักฐานใดๆยืนยันแน่ชัดว่าเธอเป็นใครกันแน่ ระหว่าง Maria Vermeer ลูกสาวคนโตของเวเมียร์หรือ Magdelena van Ruijven ลูกสาวคนเดียวของ Pieter Van Ruijven ผู้อุปถัมภ์คนสำคัญ หรือแม้กระทั่งอาจเป็นพี่เลี้ยงที่ชื่อว่า Griet ที่ไม่เคยปรากฏหลักฐานใดๆยืนยันการมีตัวตนของหญิงพี่เลี้ยงคนนี้เลยนอกจากในนวนิยาย
ฉันรู้จักภาพชิ้นนี้ครั้งแรกตอนที่เรียนอยู่ศิลปากร จำได้ขึ้นใจเพราะ หนึ่งอาจารย์ออกสอบทุกปี และสองเพราะเพื่อนสนิทในกลุ่มที่ชื่อไอซ์ ชื่นชอบเวอร์เมียร์มาก ทุกครั้งที่พวกเราจับกลุ่มติว เธอจะบรรยายภาพนี้ได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของศิลปิน การใช้สี แสงเงา และความงามอมตะของสาวน้อยที่เปรียบได้ดั่งโมนาลิซาแห่งเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่ฉันจะมาเรียนต่อที่อัมสเตอร์ดัม ไอซ์กำชับแน่นหนักให้ฉันไปดูรูปของจริงชิ้นนี้ของเวอร์เมียร์ให้ได้
แต่จนแล้วจนรอดฉันก็ไม่ได้มีโอกาสได้ไปสักที เพราะคนที่สัญญาว่าจะไปด้วยกันมีเหตุให้พลัดพลาดกันเสียก่อน จนเมื่อเราสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง เราจึงไม่รอช้าที่จะจูงมือกันไปดูสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ที่มีเสียงร่ำลือหนาหูว่าดวงตาของเธอมีเวทมนต์
วันนั้นเป็นวันฟ้าครึ้ม เราจับรถไฟจากอัมสเตอร์ดัมไปกรุงเฮกในตอนสาย ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเดินต่อไปอีกไม่ไกลที่ Mauritshuis ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวมภาพเขียนระดับมาสเตอร์พีซชิ้นเอกตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมาไว้มากมาย
พอมาถึงที่ Mauritshuis ฉันกับเพื่อนก็เดินชมที่นิทรรศการชั้นล่างไปเรื่อยๆ การจัดแสดงที่นี่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ไล่เรียงลำดับตามปี (Chronology) พอเดินหมดชั้นล่างเราก็พากันขึ้นไปชั้นบนซึ่งมีภาพเขียนต่างๆเรียงกันตามผนังห้องเต็มพืดไปหมด เดินไปเรื่อยๆสายตาฉันก็มาหยุดอยู่ที่รูปเขียนที่ตามหา
ทันทีที่สายตาของฉันกับสาวน้อยในภาพสบกัน ฉันก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน ดวงตาของเธอเป็นเหมือนหน้าต่างที่นำให้ฉันดำดิ่งไปสู่อีกโลกหนึ่ง ความรู้สึกของฉันลอยๆเหมือนอยู่ในความฝัน โลกแห่งความฝันที่จิตวิญญาณของเราทั้งสองได้ไต่ถามเรื่องราวของกันและกัน มันเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนสุดบรรยาย ทั้งดื่มด่ำ ล่องลอย ระคนปลื้มปิติและหวั่นไหวในคราเดียวกัน เมื่อความรู้สึกต่างๆถึงขีดสุด น้ำตาของฉันก็ไหลมาไม่ขาดสาย เหมือนน้ำตาแห่งชัยชนะของนักวิ่งหมื่นไมล์ เป็นความสุขที่มิหาที่ใดเปรียบ ชื่นใจยิ่งกว่าถูกลอตตารีและอิ่มเอมยิ่งกว่าการมีเซกส์!
ฉันไม่รู้ว่าฉันยืนอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่ เวลามันช่างผ่านไปราวชั่วกัปชั่วกัลป์ ฉันค่อยๆตื่นจากภวังค์ด้วยสัมผัสจากมืออุ่นๆที่เพื่อนของฉันโน้มตัวลงมาโอบกอดจากทางด้านหลัง เราสองคนนิ่งเงียบ และในที่สุดก็เดินออกมาจากตรงนั้นลงบันไดไปชั้นล่างโดยผ่านเลยรูปภาพที่เหลืออื่นๆทั้งหมดอย่างไม่แยแส ใช่ว่าเหตุผลที่ฉันไม่ใยดีกับภาพที่เหลือเพราะฉันไม่สนใจ แต่หากเป็นเพราะฉันบรรลุจุดสุดยอดทางสายตาไปแล้ว!
มีคนเคยอธิบาย Cosmic experience ว่าเหมือนการเข้าฌานในการนั่งสมาธิซึ่งคล้ายๆ Cosmic Consciousness ที่จุดๆหนึ่งจิตของเราจะเข้าไปสู่สมาธิชั้นสูง ดินแดนที่สงบนิ่ง กาย ใจและวิญญาณของเรารวมกันเป็นหนึ่งเดียว พลังงานที่ได้จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสดชื่น รื่นรมย์ ได้เห็นและรู้สึกในภาวะเหนือจริง
มันเป็นประสบการณ์ที่ยากลืมเลือนเลยจริงๆ
เพื่อนฉันเคยเล่าให้ฟังว่า เธอคนเจอกับประสบการณ์แบบเดียวกันนี้ในพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ ที่ปารีสกับรูปของซานโดรบอตติเชลลี (Sandro Botticelli,ค.ศ.1445-1510 )ศิลปินอิตาเลี่ยนยุคเรเนซองค์ ภาพนั้นของบอตติเชลลีสะกดใจเธอ รู้ตัวอีกทีก็น้ำตาไหลอาบแก้มพรากๆ
ฉันโชคดีมากที่ได้สัมผัสประสบการณ์แปลกๆแบบนี้กับคนที่เข้าใจและผ่านอะไรมามาก หากแต่เพียงในช่วงวินาทีที่ฉันกำลังเข้าไปอีกโลกหนึ่งถูกสะกิดรบกวนจากสิ่งรอบข้าง ฉันอาจจะไม่ได้คุยกับหญิงสาวในรูปเลยก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่ใครจะไปดูงานศิลปะ เห็นคนที่ยืนอยู่ก่อนหน้าแสดงอาการดื่มด่ำสุดฤทธ์ น้ำตาไหลเป็นสาย หรือยิ้มหวานกับรูปตรงหน้าก็อย่าเพิ่งไปทึกทักว่าเขาบ้าหรือเพี้ยน เขาอาจจะกำลังเจอกับภาพเนื้อคู่ที่พาหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งก็เป็นได้
แต่ถ้าถึงขั้นน้ำลายไหลยืดเป็นทางล่ะก็ ตัวใครตัวมันแล้วกันนะ
Create Date : 13 เมษายน 2548 |
|
20 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2548 17:28:54 น. |
Counter : 1603 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: x.y.u. IP: 202.183.233.13 13 เมษายน 2548 13:46:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: it ซียู 13 เมษายน 2548 18:16:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: atihasita IP: 158.108.211.63 13 เมษายน 2548 19:49:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: RFID IP: 203.118.105.237 14 เมษายน 2548 0:10:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: estrella 14 เมษายน 2548 16:52:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: RUBIS IP: 61.91.208.79 15 เมษายน 2548 0:11:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: โยโกะ IP: 202.176.129.59 20 เมษายน 2548 1:47:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: +KikKle+ 25 เมษายน 2548 18:01:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: เถื่อนดิบจ้ะ IP: 61.121.116.237 31 ตุลาคม 2548 17:05:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: POP_ART IP: 58.136.225.24 10 กุมภาพันธ์ 2550 12:23:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: nazze IP: 58.8.59.40 19 สิงหาคม 2550 3:29:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แวะมาทักทายค่ะ