สืบเนื่องมาจาก ฝนหลงฤดูที่พรูพรั่งหลั่งไหลมาเมื่อเช้าวาน ประหนึ่งสัญญาณแห่งเหตุอาเพศภัย ฉลองชัยนายกหุ่นเชิดคนใหม่ (ของผู้หลีกลี้หนีภัยหมายศาลอาญาเจ้าของทีมฟุตบอลล์ตราเรือใบ) นามว่า ออหมักเมถุน, เซลล์แมนฝันเฟื่อง, ขวาอมตะ, ยอดกุ๊กซี่โครงไก่ต้มฟัก จะเรียกท่านว่าอะไร ก็สุดแล้วแต่ใจก็แล้วกันนะครับ คุณ เขา เรา ท่านทั้งหลายคงจะนั่งนิ่งลอยชาย เฉยเมยเกาะขอบรายรอบล้อม รอดูสถานการณ์ เก็บคอ งอเข่าอยู่ ไม่สู้จะเป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติแต่อย่างใดยิ่งเห็นอาบังจูบปากกะอาแม้วแล้วยิ่งอเน็จอนาถใจ อัพบล็อกดีกว่านิ คริ คริ //ช่วงนี้งดบริโภคชมพู่เป็นการชั่วคราว
คราวนี้ขออัพบล็อกแบบ Medley นะครับพี่น้อง รวบรวมเรื่องราวการเดินทางเรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะแบบ สเตรย์เบิร์ด ๆ ที่เคยหวังไว้ว่าจะเล่าให้ฟังกันแบบยาว ๆ ก็ต้องขอแปรสภาพมาเป็นแบบสั้น ๆ ปนกันไป + สิงหปุระ ที่จริงประเทศนี้ ผมไม่คิดจะเสียสตางค์ไปเลยจริงจริง ทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ คนก็บอกว่ามีอะไรน่าสนใจไม่น้อย ถ้าไม่ได้ IBM ประเทศไทย ส่งไปชุบเลี้ยงที่ Sentosa ซะ 3 คืน ... ไหน ๆ ก็จำเป็นต้องไปอยู่แล้ว ผมเลยขออยู่เที่ยวต่อเองอีก 3 วัน 2 คืน //ไม่ค่อยชื่นมื่นเท่าไรแฮะ อยู่ Sentosa ผมทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ว่า IBM ให้ทำอะไร กินอะไร พาไปเที่ยวไหน ก็ไม่เคยขัด ตามมารยาทแล้ว เราไม่ควรขัดใจคนจ่ายตังค์นิ ใช้ชีวิตหรูหราได้ 3 วัน ผมก็ต้องย้ายนิวาสถานมาอยู่แถวย่าน รังเกย์ ... ไม่ใช่สิ เกลัง ต่างหาก ใครที่เคยไปคงรู้ดีว่า เกลัง เป็นแหล่งโลกีย์ชั้นนำที่เดียวของสิงคโปร์ ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่พักราคาถูกขวัญใจคนยากบ้านไกลมักจะอยู่ที่ย่านนี้ ไม่มีสิทธิ์เลือก เดินกลับโรงแรมแต่ละครั้ง ต้องก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าสบตาใครเลย ฮี่ ๆ เผลอเงยหน่อยเดียว ต้องรีบเอาทิชชู่ยัดรูจมูกแทบไม่ทัน ฮี่ ๆ
โปรแกรมท่องเที่ยวแค่ 2 วันในสิงคโปร์ก็คงหนีไม่พ้น เดินช้อปปิ้งแถว ๆ Orchard, Vivo City, China Town, Little India ตกเย็นมาดู Merlion, Esplanade, Clarke Quay แต่ถ้าอยากเที่ยวชมนกชมไม้ก็ต้องออกนอกเมืองไปเที่ยว Jurong Birdpark หรือ Night Safari แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเอาทิชชู่แปะจมูกเดินโซเซกลับไปนอนพักที่โรงแรม Merlion ใคร ๆ ก็ต้องมาที่นี่ชิมิ อยากมีความรัก อยากฟังธรรม นกสีจี๊ด ๆ เกาะคอนรับแขกที่จูร่ง Lory สีเจ็บ ๆ Lesser Bird of Paradise ก็หาดูได้ที่จูร่ง
ที่สิงค์โปรนี่ผมชื่นชมเรื่องความสะอาด ความสวยงามของบ้านเมืองเค้าจัง เสาตอม่อรถไฟฟ้า สะพานลอย ทาสีปลูกดอกไม้สวยงาม สบายตาดี ก็อย่างที่รู้ว่าเกาะเล็ก ๆ ที่ไร้ทรัพยากรแห่งนี้ ไม่มีจุดขายประเภทแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตระการตาแบบบ้านเรา ก็ต้องหาของแปลก ๆ มาล่อลวงนักท่องเที่ยวแหง ๆ เป็นธรรมดาของประเทศพ่อค้า ปีหน้าจะมีปิดเมืองแข่ง Formular 1 ตอนกลางคืนด้วยนา อีกปีสองปีก็จะมี Universal Studio มาเปิดที่ Sentosa อีก คนไทยคงกระเป๋าฉีก ชัวร์
+ แม่แจ่ม อินทนนท์ อ่างขาง เชียงดาว ทริปนี้ไปตอนต้นเดือนธันวา StrayBird and the Gang ขับรถไปกันเอง ได้ไปร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีที่สวนป่าแม่แจ่ม สูดสัมผัสกลิ่นอายอากาศหนาว ๆ ฉ่ำชื่นชุ่มปอด เพิ่มพลังชีวิต มาแม่แจ่มเป็นครั้งแรก ทั้งที่พักและทิวทัศน์ ถูกตาต้องใจไม่น้อย คงได้มีการรีแมทช์แน่ ๆ ขอแนะนำเลยครับ สำหรับที่พัก สวนป่าแม่แจ่ม ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สวย สงบ เจ้าหน้าที่เอาใจใส่อัธยาศัยงาม ราคาก็น่าคบหา ดอยอินทนนท์ มุมมองระหว่างทางจากแม่แจ่ม พรีเซนเตอร์ที่ บ่อน้ำร้อนเทพนม หุบเวิ้งว้างที่แม่เผอะ วัดพุทธเอิ้น วัดเก่าแก่คู่เมืองที่แม่แจ่ม ดอกป๊อบปี้ โครงการหลวงอ่างขาง พระธาตุลำปางหลวง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
แต่ที่อินทนนท์นี่สิ เห็นสภาพอินทนนท์แล้วเจ็บหัวใจจี๊ด สภาพป่าเหมือนคนไข้ ICU ก็ไม่ปาน แม้แต่ นกกินปลีหางยาวเขียว (Green-tailed Sunbird) ที่เคยเจอะเจอง่าย ๆ ก็กลายเป็นยากไปซะอย่างนั้น เช้าอีกวัน เราย้ายก้นหันหัวขึ้นดอยอ่างขาง ผมไม่เคยมาแบบนักท่องเที่ยวทั่วไปสักที ทุกทีที่มากะสวมหมวกนักดูนกทุกครั้ง ให้ความรู้สึกตะครั่นตะครอเล็กน้อย ขับรถขึ้นหนีแรงโน้มถ่วงขึ้นไปทางบ้านนอแล ติดชายแดนพม่า แล้ววกกลับมาแวะชมพืชพันธุ์ในโครงการหลวง แต่ที่ประหลาดใจมากก็รีสอร์ทที่เราแวะพักที่เชียงดาว ชื่อ Chiangdoa Nest 2 นี่แหล่ะ อาหารอร่อย ห้องพักสะอาดไม่คาดคิดเลย ให้ตายเหอะ ตอนเช้าเราออกมาลิ้มรสขาหมูสูตรยูนนาน + โจ๊กที่ตลาดเชียงดาว ไปเที่ยว วัดถ้ำผาปล่องมุดเข้าถ้ำเชียงดาว เป็นอันเสร็จกิจ คืนสุดท้ายกลับมานอนในเมืองเชียงใหม่ ตาม the Gang ไปเดินดูบรรยากาศ ถนนคนเดิน มีข้าวของให้เลือกซื้อมากมาย นักศึกษามายืนหารายได้ไปออกค่ายตลอดเส้นทาง ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ประทับใจอะไร ไม่ได้กระจายรายได้สักบาท เช้าสุดท้ายแวะซื้อไส้อั่ว, แคบหมู, น้ำพริกหนุ่มที่ตลาดต้นพะยอม //ยังติดใจไส้อั่วอยู่เลย ขับรถมาทางลำปาง เวลาเราเหลือ ๆ ก็เลยชะแว้บไปไหว้ พระธาตุลำปางหลวง ปิดทริปก่อนกลับกรุง
+ ดอยลาง กลับจากขับรถเล่นไป-กลับ กรุงเทพ เชียงใหม่ได้ 2 อาทิตย์ ผมก็กลับมาใช้ชีวิตเป็นนักดูนกอีกครั้ง เกาะพวกพี่สาวแม่ เว็บ go4get.com ไปดูนกที่ดอยลางกัน ป่านางพญาเสือโคร่ง ระหว่างถ่ายทำสังเวยเลือดให้คุ่น ไปหลายดอก Sunset ... @Doi Lang เราไปดูนกกันนะ รูปนี้เป็นหลักฐาน StrayBird ตกอยู่ในอ้อมกอด นางพญา ... แสงเศร้า ๆ เคล้าคลอกอหญ้า
นักท่องเที่ยวประเภทสามัญจำกัดมือคงไม่รู้จักดอยลาง แต่ถ้าเป็นนักดูนก สาบานว่าต้องรู้จัก(เกือบ)ทุกคนแน่ ๆ เพราะว่าที่ดอยลางเราไม่ต้องทรมานสังขารบำเพ็ญทุกขกริยาปีนยอดผ้าห่มปกหรือดอยหลวงเชียงดาว ก็หาดูนกหายากแบบที่ 2 ดอยนั้นมีได้ไม่ยากที่นี่ ช่วงเวลาจังหวะที่เราไปก็พอเหมาะพอเจาะ ดอกนางพญาเสือโคร่งพร้อมใจผลิดอกสีชมพูโดดเด่นเต็มดอย เข้ากันเข้ากันกับท้องฟ้ายอดดอยสวยใส
อาศัยกางเต็นท์นอนข้างถนนที่ค่าย ตชด.ฐานผ้าห่มปก โต้ลมโคตรหนาว 2 คืน ได้รื่นรมย์สมหวังกับนกที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นกางปีกร่อนบินเหนือถิ่นน่านฟ้าประเทศไทย เพียงแค่ไม่กี่นาที่ที่เห็น แร้งสีน้ำตาลพันธุ์หิมาลัย (Himalayan Griffon) มี นกกินปลีแดงหัวไพลิน (Fire-tailed Sunbird) หายากมากกกกก ให้ดูเป็นของแถม + ไหว้พระ 9 วัด พี่น้องครับ บรรทัดข้างบนที่ท่านเพิ่งอ่าน ผมพิมพ์ไม่ผิดนะครับ ผมไปไหว้พระจริง ๆ แต่วาระซ่อนเร้นคือ ผมอยากไปถ่ายรูปวัดน่ะครับ
เลยอาศัยไหลตามกระแสพุทธศาสนิกชนไปไหว้พระกะเค้าบ้าง แต่เห็นคนก็จนใจครับ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ใคร ๆ ก็อยากไปทำบุญไถ่บาปเพื่อเป็นศิริมงคลในการดำรงชีวิตท่ามกลางสังคมปากว่าตาขยิบ มือถือสากปากถือศีลกันทั้งนั้น อุ้ย ... พระพุทธรูปรอบ ๆ โบสถ์ที่วัดสุทัศน์ขอรับ วัดสุทัศนเทพวราราม มุมลองเลนส์ไวด์ พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศ ... พระศรีศากยมุณี วัดสุทัศน์ //อีกแล้ว
ก็เลยได้แค่ก้มกราบเฉย ๆ ไม่ได้มีธูปเทียน พวงมาลัย ดอกไม้สดแต่อย่างใด หยอดตู้เลยดีกว่า รวดเร็ว ตรงไปตรงมา เริ่มจาก วัดชนะสงคราม นั่งรถเมล์สาย 3 มาลงหน้าวัดเลย รถไม่ติด ลมเย็น ๆ แล้วข้ามถนนไป วัดบวร เดินทะลุแยกคอกวัวไป วัดสุทัศน์, โบสพราหมณ์ ถึงแค่นี้แบตเตอรี่กล้องผมก็หมดพอดี ฮ่วย จะมาถ่ายรูปทั้งทีไม่รู้จักตรวจตราอุปกรณ์ให้เรียบร้อย เซ็งตัวเองเหลือเกิน เดินผ่าน Lullabar ตรงไป ศาลเจ้าพ่อเสือ ข้ามคลองไป ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, วัดพระแก้ว ตลบเข้า วัดโพธิ์, วัดระฆัง วกกลับมา วัดราชนัดดา, วัดสระเกศ ... เกิน 9 วัดแล้วนี่หว่า 555
+ บึงบอระเพ็ด เย็นวันเดียวกับที่ผมไหว้พระ 9 วัด กำลังเดินบริหารสายตาที่ Central ลาดพร้าวอยู่เพลิน ๆ เพลง Voodoo Child ของ Jimi Hendrix ก็ดังมาจากโทรศัพท์มือถือผม น้องอวบ ณ Birds come First นี่เอง โทรมาหว่านล้อมชักชวนหาพวกไปดู นกใหม่ของประเทศไทย เป็ดผีคอดำ (Black-necked Grebe) ที่มีรูปมาลงตามเว็บให้นักสะสมจำนวนนก เย้ย นักดูนก น้ำลายหกอยากไปสำเร็จความสุขทางสายตากัน น้องอวบหว่านล้อมผมไม่นาน ก็อ่อนระทวยเออออตอบตกลงไป 7 โมงเช้า ผมกับน้องเคียวโกะก็มาถึงที่นัดหมาย น้องอวบ เพื่อนอิ๊ก น้าเม็ดดำ น้าชมส. พร้อมครอบครัว ก็ทะยอยกันมาจนครบ 9 ชีวิต คนพร้อม เรือพร้อม นกเป็ดผีก็น่าจะพร้อมแล้ว + เป็ดผีคอดำ (Black-necked Grebe) พลัดหลงมาเมืองไทยเป็นรายงานแรกของประเทศ นั่งเรือแหวกสายน้ำมาได้ไม่นาน น้าคนขับก็ส่งซิก บุ้ยใบ้ให้เราดูนกตัวนึง กำลังเริงร่าดำผุด ดำว่ายหาอาหาร อะไรมันจะง่ายขนาดนี้นะ เซ็งเป็ดหว่ะ รูปทรงองค์เอวไม่ต่างจากเป็ดผีเล็กบ้านเราเท่าไร ตัวออกจะยาวใหญ่กว่าเล็กน้อย ตรงคอมีแถบสีดำตรงตามชื่อเป๊ะ ๆ แต่ที่ดูมีเสน่ห์มากกว่าเป็ดผีเล็กก็ตรงตานี่แหล่ะ สีแดงสวยยังกะทับทิมสยามยามต้องแดดวูบวาบซาบซึ้งใจ แถมยังเชื่องไม่เล่นตัวเหมือนเป็ดผีท้องถิ่นแต่อย่างใด เลนส์สั้น ๆ ราคาถูกที่ผมใช้ยังถ่ายรูปมาได้ง่าย ๆ ใกล้ถึงขนาดที่ว่าเกือบจะเอื้อมเอาเลนส์ตีกะบาลเขกกะโหลกน้องเป็ดผีได้ ประมาณนั้น ดีใจเลนส์บ้าน ๆ ก็ถ่ายนกนางแอ่นบ้าน (Barn Swallow) กลางอากาศได้ด้วย เป็ดผีตัวเดิม //ก็บินมาแค่ตัวเดียวนิ เห็นมะ แหกขี้ตามาแต่เช้า
ถ่ายรูปน้องเป็ดได้สักพัก พวกเราก็เพียงพอถอนสมอ ไม่รบกวนการทำมาหากินของน้องเค้า เปลี่ยนไปดูเป็ดท้องถิ่นพื้นบ้านชนิดอื่นแทน ล่องเรือได้ 3 ชม. เราก็ขึ้นฝั่ง ไม่ได้เสียดายค่าเรือ ชม.ละ 400 บาทนะครับ ทว่า น้าชมส. โดดงานพาญาติผู้ใหญ่มาเที่ยว ต้องกลับไป Stand by ที่ที่ทำการพรรคมัชฌิมา เง้ย โรงปูน TPI ในช่วงบ่ายพวกที่เหลือก็เลยต้องจำใจ นั่งกินอาหารกลางวันประเภทปลากันจนเปรม หาที่ร่ม ๆ นอนกลางวันชาร์ตพลังกันแว้บ ก็กระจัดกระจายบ้านใครบ้านมัน Artist : Stevie Ray Vaughan and Double Trouble Album : The Essential ... Year : 2002 Title : Little Wing