พาไปเที่ยวชมและเจาะลึกทุกสัดส่วนของโรงหนังเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์กันครับ Esplanade Cineplex ตามมาดูกัน
เกริ่นนำกันหน่อย
โรงหนังเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ (Esplanade Cineplex) เริ่มเปิดครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2549 มีโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 12 โรง รวมทั้งคาราโอเกะ โบวล์ลิ่ง ไอซสเก็ต และร้านค้าร้านอาหารอีกมากมาย (แต่ไม่มีฟาสฟู้ดส์นะครับ) ส่วนราคาตั๋วหนังจะอยู่ที่ 140 บาทสำหรับที่นั่งธรรมดา และ 160 บาทสำหรับที่นั่ง Honey Moon Seat ในวันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ สำหรับวันธรรมดา (จันทร์ อังคาร พุธ) ราคาจะอยู่ที่ 120 บาทและ 140 บาทตามลำดับ
งั้นเรามาดูภาพประกอบกันเลยดีกว่า ผมได้ถ่ายตั้งแต่วันแรกๆที่โรงหนังเปิด...ตอนไปดู Lucky Number Slevin (แต่พอดี มีปัญหานิดหน่อยเกี่ยวกับกล้อง เลยเพิ่งนำมาให้ชมกันวันนี้) งานนี้...ผมเจาะลึกแบบที่ว่า "คุณไปครั้งแรกเมื่อไหร่ ไม่มีทางหลงในโรงภาพยนตร์แน่นอน" ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้ว...ลุยเลย
หน้าโรงภาพยนตร์ Esplanade Cineplex ครับ
จากภาพเมื้อกี้ เราลองเขยิบเข้าไปใกล้ๆทางเข้ากันอีกนิดดีมั๊ย
พอเข้ามาด้านในจากประตูทางเข้าแล้ว ก็จะได้ภาพอย่างที่เห็น (ผู้คนอาจไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเพิ่งเปิดเป็นวันแรกๆ)
ที่ชั้นหนึ่ง...จะมีมุมร้านอาหารอยู่สี่ห้าร้านด้วย แต่ท่าทางจะแพงอยู่เหมือนกัน (อ้อ ลืมบอกไป ชั้นใต้ดินก็มีร้านอาหารอีกเช่นกัน) ไหนๆมาแล้ว...ก็ลองเข้าไปกินหน่อย ตามผมมาเลย (จากในภาพด้านล่างนี้ ผมถ่ายภาพร้านอาหารชั้นหนึ่งที่เรียงเป็นทางยาว...หลังจากกินเสร็จแล้วนะครับ ตอนนี้เป็นภาพที่พนักงานเริ่มทะยอยเก็บร้านเพราะค่อนข้างดึกเหมือนกัน)
บรรยากาศของร้านอาหารที่ผมสุ่มเลือกขึ้นมา...ก็โอเคดีครับ แต่ละร้านจะมีพนักงานยืนอยู่หน้าร้าน...คอยแนะนำเมนูอาหารให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปมา อ้อ แต่ผมไม่ขอบอกชื่อร้านที่ผมเข้าไปนั่งกินนะครับ เพราะพยายามขอค่าสปอนเซอร์กินฟรีจากเจ้าของร้านแล้ว แต่เขายืนยันไม่ให้...ก็เลยไม่บอกชื่อดีกว่า (เอ้ย...ตื่น เจ้าของบล๊อคท่าทางเริ่มเพี้ยน...ใครจะบ้าไปกล้าขอ)
เหล่มองเมนูหลายอย่างที่ทางร้านแนะนำ...ก็น่ากินดี (โดยส่วนตัวเจ้าของบล๊อค แพงไม่ว่า...เพราะเข้ามาแล้ว 555 แต่ถ้าไม่อร่อย...จะช้ำใจหนักยิ่งกว่า กินใบบัวบกหมดถัง...ก็ไม่หาย) แต่แล้วอยู่ดีๆ...เกิดอยากกินผัดไทยกุ้งสดขึ้นมาซะงั้น เพราะพนักงานบอก เป็นเมนูแนะนำกันทีเดียว เอาก็เอาว่ะ แล้วหน้าตาที่เสริฟมา...ก็เป็นด้วยประการนี้
อ้อ กินมื้อนี้เสร็จ...หมดไปร้อยกว่า (รวมน้ำแข็งเปล่า 1 แก้ว และน้ำเปล่าอีกหนึ่งขวด) อย่าลืมเตรียมไว้สองร้อยกันเหนียว...ก่อนเข้าร้านอาหารด้วยนะครับ เพราะยังมีเซอร์วิชชาร์ตอีก (ไม่งั้น...มีสิทธิ์ล้างจานใช้หนี้ในชุดทำงานแน่นอน)
หลังจากกินอิ่มแล้ว...เตรียมตะลุยดูหนังกันดีกว่า จากปากทางเข้าโรงภาพยนตร์เมื่อกี้ เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้นสอง แล้วเลื่อนต่ออีกครั้งสู่ชั้นสามเพื่อไปซื้อตั๋วหนังกัน
พอเห็นพื้นชั้นสามจากบันไดเลื่อนที่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นมา นั่นหมายถึง คุณจะเห็นกับบ๊อซออฟฟิต (จุดขายตั๋ว) มาแต่ไกลทันที ดังภาพ
เราเดินเข้าไปใกล้ๆกันหน่อย อยากดูหนังแล้วครับ แล้วสาวสวยผู้โชคดีที่จะให้หนุ่มๆชาวพันทิปและเพื่อนๆบล๊อคแก๊งค์ได้ยลโฉมหน้ากัน ก็คือ...
ว้า แย่จัง ภาพไม่ค่อยชัด เห็นหน้าไม่ถนัด (จริงๆ ไม่กล้าไปถ่ายใกล้ๆน่ะ เดี๋ยวน้องนาง...เค้าอายซะก่อน)
พอถึงคิวซื้อตั๋วหนังของผม ระหว่างเลือกที่นั่งอยู่หน้าจอ น้องนางคนขายตั๋ว...ก็แนะนำผมให้ซื้อมูวี่เว้าช์เชอร์ Movie Voucher 10 ที่ 1200 บาท (เหลือที่นั่งละ 120 บาท สามารถดูได้ทั้งที่นั่งธรรมดา 140 บาทและที่นั่ง Honey Moon Seat 160 บาท) คิดไปคิดมา...คุ้มดีเหมือนกัน อีกอย่าง ทนลูกอ้อนของสาวๆไม่เคยได้สักครั้ง...ก็เลยซื้อไว้ 2 ชุดครับ รูปร่างหน้าตาของ Movie Voucher เป็นเหมือนสมุดฉีกออกมาเป็นใบๆ อยากดูกี่ที่...ก็ฉีกออกมาให้พนักงานตามจำนวนที่นั่ง (จากรูปถ่ายข้างล่าง ด้านบนสุดเป็นรูปเล่ม Movie Voucher ครับ ส่วนสองใบด้านล่าง...ผมฉีกออกจากด้านในสมุดมาให้ดูกัน)
ซื้อตั๋วหนังเสร็จปุ๊บ คราวนี้ก็ขึ้นมาชั้นบนเดินเล่นฆ่าเวลาหน่อย ระหว่างทางจะเห็นได้ว่า หลายร้านยังสร้างกันไม่เสร็จ (คือ ผมกะเวลาค่อนข้างเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ เลยมีเวลาเก็บภาพมาฝากกัน)
หลังจากเดินมาได้สักพัก ขึ้นไปชั้นโรงหนังกันเลยดีกว่า มุมนี้ คือจุดฉีกตั๋วหนัง (ผมถ่ายจากมุมไกล เลยอาจเห็นไม่ค่อยถนัด) พอฉีกตั๋วเสร็จ...เตรียมก้าวเท้าขึ้นลิฟต์อันยาวเหยียดสู่ตัวโรงภาพยนตร์กันเลย ตื่นเต้ลลลลลล
พอขึ้นบันไดเลื่อนอันยาวเหยียดมาชั้นโรงภาพยนตร์ (วันหลัง ผมจะถ่ายภาพบันไดเลื่อนอันยาวเหยียดมาให้ชม และเพิ่มเข้าไปในนี้อีกที) ผ่านพ้นบันได...คุณก็จะพบกับบรรยากาศที่รอคอยเสียที ว้าวววว...
ตรงนี้คือ มุมขายขนมขบเคี้ยว สแน๊คบาร์ (Snack Bar) ของทางโรงหนัง (รู้ๆกันนะว่า แพง ขนาดมีตังส์...ยังไม่คิดจะซื้อเลยจริงๆ) แต่แสงสีเสียงที่ตกกระทบกันไปมาจนเกิดเงาวั๊บๆแวมๆขึ้นตรง Snack Bar ก็ให้ภาพที่สวยงามเลอเลิศได้เหมือนกัน
ด้านล่างนี้ คืออีกมุมที่ผู้ชมจะได้เห็น Snack Bar ครับ
และก็เดินมาถึงมุมนั่งพักผ่อนหย่อนใจ...ก่อนเข้าดูหนังกัน
จับภาพอีกด้านครับ...กับตำแหน่งคนถ่ายภาพที่เดินออกมาจากห้องน้ำ...ซึ่งอยู่ด้านข้างสแน๊คบาร์ (อ้อ ห้องน้ำมุมแรกจะอยู่ข้างโรง 3 นะครับ ส่วนอีกมุมจะอยู่ด้านในติดกับโรงหนังโซน 11-12-13 สรุปคือ มีห้องน้ำมุมด้านนอกที่ติดกับโรงหนังเลขตัวเดียว และห้องน้ำมุมด้านในที่ติดกับโรงหนังเลข 2 ตัว สะดวกตรงไหน ก็เชิญกันได้เลย)
คราวนี้ เดินตรงจากมุมภาพเมื่อกี้ ก็ตรงไปสู่โรงหนังกันเลยครับ (หนังใกล้ฉายแล้ว)
ทางเดินเข้าสู่โรงภาพยนตร์ จะมีโรงฉายอยู่ทั้งสองฟากฝั่งยาวไปตลอดทาง
และแล้ว ผมก็พาท่านผู้ชมทุกท่านเข้าสู่จนโรงภาพยนตร์จนได้ (ถึงที่หมาย...สบายผิดกัน)
ลืมไป ทิ้งท้ายกันอีกนิดนึงครับ ล่าสุด เพิ่งมีใบสะสมคะแนนมาด้วย เมื่อดูหนังหนึ่งเรื่อง...จะได้สติ๊กเกอร์ 1 ดวง สะสมครบ 5 ดวง รับไปเลย...ป๊อปคอร์น (30 บาท) สะสมครบ 10 ดวง รับไปเลย บัตรลดดูหนัง 20 บาท จำนวน 10 ที่นั่ง 1 ใบ (ใช้ได้กับที่นั่งธรรมดาและที่นั่ง Honey Moon Seat เท่านั้นในวันไหนๆก็ได้) เรามาดูบัตรสะสมคะแนนกันก่อนนะครับ
ส่วนนี่ เป็นบัตรลด 20 บาท จำนวน 10 ที่นั่ง (ผมดูจนครบ 10 ที่นั่ง...เลยแลกมา) บัตรหน้าตาแบบนี้ครับ
ตี๋หล่อออนทัวร์เปิดโลกท่องยุติภูมิอาณาจักรแถวรัชดาครั้งนี้...เป็นยังไงบ้างครับ หวังว่า คงถูกใจท่านผู้ชม...ไม่มากก็น้อย (ถ้าดึกกว่านี้ อยากไปเที่ยวต่อที่ไหนในละแวกนั้น...ก็แล้วแต่คุณล่ะครับ ถ้ากระผมเล่าต่อ...เกรงจะไม่ดีกับเยาวชน)
ครั้งหน้าจะพบกับเรื่องอะไรหรือโรงหนังใหม่ๆที่ไหน คอยติดตามตอนต่อไป "ไม่ว่า ของสิ่งนั้นจะเป็นของใคร ถ้าหากเรารู้ เราจะตามไปดู"
Create Date : 22 มกราคม 2550 |
|
12 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2551 14:27:22 น. |
Counter : 6471 Pageviews. |
|
|
|
ถ้าเทียบกับ SFW แล้ว SFW คงต้องนั่งจรวดไปเลยล่ะมั้ง ไม่งั้นไม่ทันแน่ๆๆ
อ้ออีกนิด ที่นี่มีโรงพิเศษอีก 2 โรง คือโรง 1 และ 2 ราคาจะแพงเวอร์มาก ใครงบน้อยอย่าหลงไปเลือกรอบที่โรงนี้ล่ะ