|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
๐ ที่มาของฎีแก...๐
ฎีแก......
เป็นคำที่ชาวบ้านพูดล้อเกี่ยวกับฎีกาซ้อนฎีกาที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่๕ ก่อนที่จะมีศาลฎีกาป็นศาลสูงสุดของเมืองไทย
คือแต่เดิมนั้นผู้ใด(โจทก์-จำเลย) จะทูลเกล้าถวายฎีกาก็ทำได้ในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นใดก็ได้
ครั้นต่อมา ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๕-๒๔๔๓ ได้มีการเปลี่ยนแบบแผนการฎีกาใหม่ ผู้ใดจะฎีกาได้ก็ต่อเมื่อได้มีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์แล้ว
โดยต้องฎีกาต่อกรรมการองคมนตรี ซึ่งโปรดเกล้าฯ ขึ้นมาทำการต่างพระเนตรพระกรรณ แต่ไม่ถือว่าเป็นศาลเพราะไม่ได้นั่งบัลลังก์พิจารณา หากแต่ใช้อำนาจของพระเจ้าแผ่นดินบังคับตามพระบรมเดชานุภาพ
ฎีกาเหล่านี้มีมากมายนัก เหลือกำลังของกรรมการองคมนตรี จึงได้มีการรวมเป็นศาลขึ้นมา มีกรรมการฏีกาโดยเฉพาะ
แม้กระนั้น การฎีกาก็ยังคงเป็นตามแบบแผนเดิม คือมีการฎีกาต่อกรรมการองคมนตรีชุดเดิมนั้นอีก
ราษฎร ชาวบ้าน และนักกฏหมาย จึงต่างพากันเรียกการยื่นฎีกาต่อกรรมการฎีกา อีกชั้นหนึ่งว่า " ฎีแก "
........เต้าหู้หิมะ
Create Date : 26 สิงหาคม 2548 |
|
8 comments |
Last Update : 11 กันยายน 2548 21:43:39 น. |
Counter : 668 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Georinn 26 สิงหาคม 2548 23:02:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: viennese 26 สิงหาคม 2548 23:08:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: nods 26 สิงหาคม 2548 23:11:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: viennese 26 สิงหาคม 2548 23:15:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: viennese 26 สิงหาคม 2548 23:17:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธิดาดอง 27 สิงหาคม 2548 12:19:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: viennese 27 สิงหาคม 2548 18:16:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฎีแก สมัยนี้ยังมีป่าวอ่ะค่ะ