ตัวอย่าง
มีนาคม 2559
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1 มีนาคม 2559
เลือดเปื้อนปานามา (ตอนที่ 1)
ฉันได้กลิ่นคอมมิวนิสต์ ลอยลมมาแต่ไกล...
สุรินทร์ 2518
เลือดเปื้อนปานามา (ตอนที่ 1)
ฉันได้กลิ่นคอมมิวนิสต์ ลอยลมมาแต่ไกล...
สุรินทร์ 2518
สุรินทร์ 2518
........วันเวลาผ่านไปเมื่อ
ไรฉันจำไม่ได้ แต่ฉันกลับจำสายตาคู่นั้นได
้อยู่เสมอ ระลึกขึ้นมาคราใดก็ทำเอาใจห
ายทุกที........
........เช้าวันหนึ่งในปีพุ
ทธศักราช 2518 เมื่อสายลมบางๆยังคงลอยเรี่
ยที่ผิวน้ำ มองเห็นได้เพียงแต่ไอหมอกขา
วโพลนลอยปกคลุมดั่งฉากกั้น เงาของร่มไม้ที่แผ่ปกคลุมท้
องน้ำดูเข้มชัดขึ้น เมื่อดวงตะวันกลมแดงเริ่มแผ
่รัศมีแรงจ้าบนท้องฟ้านั่น แต่ลมหนาวที่อำเภอสังขะยังค
งพัดหวีดหว
ิววังเวงจิต มันคงจะหอบเอาละอองน้ำเข้าป
กคลุมเทือกเขาพนมดงรักด้วยก
็ไม่ปาน ต้นไม้ดงดิบชื้นในป่าใหญ่ที
่เคยขึ้นเขียวขจี บัดนี้ ปลายยอดกลับแตกละเอียดเพราะ
แรงกระชากจากกระสุนสงคราม พื้นดินที่เคยอุดมด้วยสิงห์
สาราสัตว์ กลับสมบูรณ์ไปด้วยทุ่นระเบิ
ดสังหารนานาชนิด แนวลวดหนามเย็นเฉียบยังคงห้
อยระโยงระยางกั้นกลางระหว่า
งชาวไทยกับเขมรผู้หนีตายเรื
อนแสน แม้ช่วงฤดูกาลผันแปรเข้าหน้
าหนาวแล้ว แต่ไฟสงครามยังคงโหมระอุลาม
เลียมาที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
อยู่ทุกคืนวัน.....
หลังจากจบภารกิจสงครามแย่งช
ิงอาหารกัน ระหว่างฉันและเพื่อนเด็กวัด
คนอื่นๆ ฉันก็มักจะออกมาพายเรือเล่น
ที่ริมคลองแห่งนี้ประจำ พายเรือไปด้วยอ่านหนังสือเร
ียนไปด้วย เพราะอีกไม่นานก็ใกล้วันสอบ
ปลายภาคที่วิทยาลัยแล้ว แต่เช้าวันนั้นมันรู้สึกแปล
กใจพิกล เหมือนมีใครกำลังจ้องมองมาท
ี่ฉันอยู่ เลยละสายตาจากหนังสือเงยหน้
าขึ้นดู ก็เห็นแม่ชีน้อยนางหนึ่ง กำลังกอดเสาศาลาท่าน้ำ สายตาคู่นั้นจ้องมาที่ฉัน แม่ชีน้อยคนนั้นเมื่อรู้ตัว
ว่าฉันมองเห็นเธอเข้าแล้ว ก็มีอาการสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปที่หลัง
วัด แม่ชีน้อยคนนั้นเป็นใคร? ทำไมรูปร่างหน้าตาผิวพรรณจึ
งได้แตกต่างจากเด็กสาวชาวบ้
านธรรมดา หน้าตาคมคาย ผิวพรรณสะอาดสะอ้าง แลดูเป็นลูกสาวผู้ดีมีฐานะ ทำไมจึงละทางโลกออกบวชชีด้ว
ย? เพียงครุ่นคิดได้ไม่นาน ก็ตั้งใจอ่านตำราต่อ พอถึงเวลาพระท่านฉันเพล เป็นธรรมดาที่เด็กวัดอย่างพ
วกฉันต้องรีบกุลีกุจอไปรอพร
ะท่านที่ศาลา
ระหว่างนั้น ที่ฉันกำลังเช็ดทำความสะอาด
บาตรบริขารอยู่
.....ไอ้ย้อย เอ็งอยากแต่งงานมั้ย ? หลวงพ่อท่านถามทำเอาฉันนั่ง
เอียงคอไปเลย
.....ทำไมครับหลวงพ่อ ?
.....ถ้าเอ็งแต่ง ก็ถือเสียว่าแต่งเอาบุญไปแล
้วกัน ช่วยเด็กมันหน่อยเถอะ มันหนีมาจากฝั่งเขมรนู้นแหน
ะ เอ็งจำได้มั้ย เมื่อสองสามวันก่อน มีพระ แม่ชีและลูกชี มาจำพรรษาอยู่ที่วัดเรา
อ่า...ครับ
.....นั่นแหละ เขาเป็นนายพลเขมร หนีกันมาทั้งครอบครัว เขาอยู่ที่เขมรไม่ได้ดอก ถ้าอยู่ก็โดนเขมรแดงมันฆ่าท
ิ้งทั้งครอบครัวแน่ๆ แม่ชีกับพระนายพลเขมรคนนั้น
มาคุยกับหลวงพ่อแล้ว ว่าอยากให้คนบ้านเรามาขอลูก
สาวเขาแต่ง เขาสองคนตายได้แต่ไม่อยากให
้ลูกสาวต้องตายไปด้วย ตอนนี้หมู่บ้านเรามันมีคอมม
ิวนิสต์เข้ามาหลายคน คอมมิวนิสต์พวกนั้นมันไม่ชอ
บคนเขมรของรัฐบาลเก่า พวกสายสืบของตำรวจ และ ตชด.เองก็ตามล่าพวกคอมมิวนิ
สต์กับคนเขมรที่หนีเข้ามาใน
บ้านเราอยู่นะ....
ฉันเพียงแต่ยิ้ม และไม่ได้พูดอะไรตอบ สายตาคู่นั้นลอยออกมาจากควา
มทรงจำทันที .....เธอเป็นลูกสาวนายพลคนน
ั้นนี่เอง.....
เพียงเวลาไม่ถึงอาทิตย์ บรรดาหนุ่มๆผ้าขาวม้าพันคอเ
ซราะกราวทั้งหลาย ก็มาออกันเต็มวัด ด้วยข่าวคราวว่ามีแม่ชีน้อย
โฉมงามมาอาศัยอยู่ ฉันได้แต่ยืนมองดูอยู่ไกลๆ แต่เพื่อนๆหลายคน ก็เข้ามาดึงฉัน ให้พาไปดูหน้าแม่ชีคนนั้นใก
ล้ๆ เพื่อนหลายคนแซวกันให้รีบไป
ขอแต่งเลย เป็นที่สนุกสนานกันใหญ่ เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายเข้ามา
ดูหลายคนเข้า แม่ชีซึ่งเป็นแม่ของชีน้อยก
็รีบดึงแขนเธอเข้าไปอยู่ในก
ุฏิ แต่สายตาสาวเจ้ายังคงลักลอบ
แอบดูพวกเราผ่านระแนงฝาไม้แ
ตกอยู่เนืองๆ ไม่ใช่ว่าจะใช้จริตมารยาหญิ
งดอก แต่เพราะความไม่เดียงสาต่าง
หาก.....
ผ่านไปหลายวัน ครอบครัวพระนายพลเขมรก็ออกจ
ากวัดไป เพราะท่านอยู่ไม่ได้ หาใช่ว่ารำคาญ แต่ภัยต่างหากที่จะมาถึงตัว
ด้วยเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไ
ปไกล ฉันจำได้ครั้งสุดท้าย เขาพากันหนีไปจำพรรษาที่วัด
ป่าสังฆพงษ์พิทักษ์ธรรมาราม
หลังจากนั้น ก็หายไปอีก โดยไม่ทราบว่าหนีกันไปอยู่ไ
หนต่อ.....
ผ่านไปหลายเดือน ฉันไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ที
่กระท่อมปลายนาของใครก็ไม่ร
ู้ แต่มันเงียบและสงบดี ราวสายๆของวันนั้น มีกลุ่มชายฉกรรจ์สะพายเป้หล
ายสิบคนเดินแบกปืนมาเป็นกอง
คาราวานเลย คนพวกนั้นไม่ใช่ทหารไม่ใช่ต
ำรวจ เมื่อเราต่างมองสบตากัน พวกเขาเหล่านั้นก็พยักหน้าท
ักทายฉันโดยไม่พูดอะไร และเป็นอย่างนี้ไปร่วมเดือน
ที่ฉันไปนั่งที่กระท่อมแห่ง
นั้น เช้าวันหนึ่งฉันเห็นสบงพระป
ลิวลมมาแต่ไกล หลวงพ่อท่านเดินทางมาหาฉันท
ี่กระท่อม ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
.....ไอ้ย้อย ! เอ็งรีบหนีไปเลย เร็วเข้า ! พวกตำรวจจะมายิงเอ็ง เอ็งไปเป็นจราชนใต้ดินตั้งแ
ต่เมื่อไหร่กันฮื้อ ?
คำพูดนั้นทำเอาฉันนั่งเอียง
คอไปเลย ฉันนั่งมองหลวงพ่อด้วยอาการ
งุนงงสักพัก
....ผมเป็นนักศึกษา ไม่ใช่จราชน ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ ถ้าพวกมันจะยิง ก็มายิงเลย ผมไม่กลัว !
หลวงพ่อท่านอ้อนวอนฉันอยู่น
าน จะพาฉันไปหานายอำเภอ ขอให้นายอำเภอช่วย แต่ฉันปฏิเสธ และจะนั่งรอตำรวจในกระท่อมน
ี้ไม่ไปไหน จนหลวงพ่อท่านต้องไปหานายอำ
เภอด้วยตัวเอง ไม่นานหลวงพ่อก็มาหาฉันอีกค
รั้ง และบอกว่า
.....หลวงพ่อมาหาเอ็ง ก็พึ่งเดินสวนกับตำรวจพวกนั
้นมา มันพากันกลับกรมกองไปแล้ว บุญของเอ็งนะไอ้ย้อย....
หลวงพ่อพูดพลางปาดเหงื่อไปพ
ลาง ฉันบอกกับหลวงพ่อก่อนที่จะเ
ดินไปส่งท่านขึ้นรถสองแถว
.....ผมไม่ได้เป็นคอมมิวนิส
ต์
วันเวลาผ่านไปในหลายฤดูกาล ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นนักศึกษ
าแล้ว เขาเรียกฉันว่าครูย้อย ในขณะที่เพื่อนๆและรุ่นน้อง
หลายคนยังคงเรียกฉันอย่างติ
ดปากว่า"เสือย้อย" ก็ตามแต่เขาจะเรียกแล้วกัน ฉันไม่ขัดดอก เพราะเขาเรียกฉันว่าเสือมาน
านแล้ว ไม่รู้ว่าเขาเรียกฉันว่าเสื
อตั้งแต่ตอนไหน ก็วันเวลามันผ่านไปนานเมื่อ
ไรฉันจำไม่ได้ แต่ฉันกลับจำสายตาคู่นั้นได
้อยู่เสมอ ระลึกขึ้นมาคราใดก็ทำเอาใจห
ายทุกที........
ย้อนเวลากลับไป เมื่อคราวสงครามกลางเมืองกั
มพูชากำลังระอุอย่างหนัก ประชาชนชาวเขมรผู้ยากไร้ ต่างหอบลูกจูงหลานหนีตายเข้
ามาพักพิงอาศัยยังเขตแดนไทย
เป็นดั่งร่มโพธิ์ป้องภัยสงค
รามให้แก่พวกเขา แต่ถึงกระนั้น กองกำลังทหารเวียดนามและทหา
รฝ่ายเขมรเฮง สัมริน ก็ยังคงส่งกำลังเข้าตีค่ายผ
ู้ลี้ภัยต่างๆ ตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชา ทำให้ชาวเขมรแตกทะลักเข้าสู
่ชายแดนไทยจำนวนเพิ่มมากขึ้
นทุกวัน กระท่อมมุงแฝกสังกะสีบางๆใน
ค่ายผู้ลี้ภัยขององค์กรสหปร
ะชาชาติ(UNHCR - UNBRO Camps) มันไม่สามารถบังกระสุนปืนให
ญ่ให้พวกเขาได้เลยแม้สักนัด
เดียว ทางรอดสุดท้ายของชาวเขมรเหล
่านั้นคือ ต้องหนีเข้าไปในฝั่งประเทศไ
ทยให้ได้ ถึงแม้ทางกองทัพไทยจะใช้ลวด
หนามกั้นระหว่างค่ายลี้ภัยก
ับหมู่บ้านชายแดนให้ออกห่าง
กันก็ตาม แต่ก็ยังมีชาวเขมรหลายคนที่
สามารถหลบหนีเข้ามาได้
พวกเขาหลบหนีการตรวจพบจากฝ่
ายไทยได้อย่างไร ?
หลายท่านที่อาศัยอยู่ใกล้ชา
ยแดนไทย - กัมพูชาคงทราบวิธีการหลบหนี
ของชาวเขมรพวกนั้นดี แต่หลายท่าน ก็อาจคงไม่ทราบ และอาจไม่เคยได้ยินเรื่องรา
วเหล่านี้เลย
พวกเขมรที่เดินทางลักลอบหนี
เข้ามาในไทยได้แล้วนั้น พวกเขาจะทำการโกนหัวปลอมตัว
เป็นพระสงฆ์ ถ้าเป็นหญิงก็จะโกนหัวปลอมเ
ป็นชี ในส่วนเรื่องจีวรผ้าคลุมกาย
นั้น ก็อาศัยขโมยเอาจากวัดต่างๆใ
นแถบชายแดน หรือไม่ก็ไปขอบวชกับสำนักสง
ฆ์ในป่า ซึ่งวิธีการปลอมตัวแบบนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นพวกทหารจากร
ัฐบาลเก่า ซึ่งมีไหวพริบพอจะหาหนทางรอ
ดออกมาจากกัมพูชา และหนีเข้ามาอาศัยดำรงชีพใน
ฝั่งไทยได้ ซึ่งต่างจากชาวบ้านธรรมดา ที่มักจะพากันเดินทะเล่อทะล
่าเข้ามาให้ ตชด.ไทย กระทุ้งด้วยพานท้ายปืน ผมเคยฟังความจาก ตชด. เก่าท่านหนึ่งบอกว่า ...พวกนั้นมันกลัวตายด้วยน้
ำมือเขมรด้วยกันมากกว่า ขนาดฝ่ายเรากระโดดถีบเข้าหน
้าอก มันก็ไม่กลัวเรา ตกดึกก็พากันแอบหนีเข้ามาอี
ก ต้องยิงปืนขู่อยู่เรื่อยๆ คุณธรรมเรามีให้ แต่การปกป้องชาตินั้นสำคัญเ
หนือสิ่งอื่นใด....
เรื่องราวในช่วงต้น เป็นเรื่องจริง ผมเคยฟังเรื่องพระเขมรเหล่า
นี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อผมมักจะเล่าให้ฟังก
่อนนอนทุกคืน
Create Date : 01 มีนาคม 2559
Last Update : 1 มีนาคม 2559 18:30:38 น.
0 comments
Counter : 827 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
พระอังคารทรงกระบือ
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add พระอังคารทรงกระบือ's blog to your web]
Bloggang.com