ไปนอนที่เขาใหญ่

"ตกลงไปเขาใหญ่แล้วกัน!!!" หลักจากที่ผมและเพื่อนกำลังหาที่เที่ยวในสัปดาห์หน้า ระหว่างเขาใหญ่กับหัวหิน เสียงส่วนใหญ่ไปเขาใหญ่เพราะอยากไปกันหลายครั้งแล้ว หลังจากสรุปที่เที่ยวได้แล้วผมและเพื่อนก็โทรหาสมาชิกคนอื่นๆ ว่าใครไปได้ไม่ได้ สรุปรวมได้เพื่อน 6 คน รถ 2 คัน สบายเลยรอบนี้ หลังจากนั้นก็จองที่พักพวกสาวๆของแบบสบายๆ ผมก็จัดให้ตามคำเรียกร้อง คือจองเต็นท์ขนาด 8 คนของทางอุทยาน (สบายจริงๆนะ ไม่ต้องเอาเต็นท์ เอาที่นอน เอาเตา เอาถ่านไป) อีกทั้งไม่เสียค่ารถ ด้วย 555

วันที่ 13 พ.ย. 53
เวลา 8.30
ผมไปรอสองสาวอยู่หน้า ม.เกษตร อีกซักพัก สองสาวก็มารับ (ที่ต้องมารอเพราะว่าต้องไปขึ้นรถที่บ้านเพื่อน) ตอนขึ้นรถรู้สึกว่ากระเป๋าเบาๆ นึกขึ้นได้ ตูลืมเสื้อกันหนาว กรรมแล้ว มันจะหนาวมั้ยเนี่ย ใจนึกก็กลัว ใจนึงก็คิดว่าไม่หนาวมาเป็นอาทิตย์แล้ว มันจะมาหนาววันนี้เลยเหรอ
เวลา 9.00
ถึงแล้ว!!! แต่เป็นบ้านเพื่อนนะ ลงรถรอเพื่อนอีกสองคน อีกคนมาขึ้นรถที่นี้อีกคนให้ขับไปรอที่ปั้มน้ำมัน เมื่อเพื่อนครบก็ออกเดินทาง ปล.ผมไปนั่งอีกคัน เป็น คันแรก สี่คน คันที่สอง สองคน ทำไมพวก....ไม่มานั่งกับตูอีกคนว่ะ
จากที่บอกเราอยากไปเที่ยวแบบสบายๆ ก็เลยไม่มีใครเอาอะไรไปเลยนอกจากของใช่ส่วนตัว เลยต้องแวะซื้อที่ C ครับ หาซื้อของกินตอนเย็น เราเน้นไปที่ของปิ้งย่างเป็นหลักเพราะทำง่ายที่สุด แต่ว่ากว่าจะได้ของครบก็ใช้เวลาไปชั่วโมงสองชั่วโมงเลย

หลังจากซื้อของเสร็จก็ออกเดินทางตรงไปเขาใหญ่พวกเราใช้ทางขึ้นทางปราจีนบุรีเพราะคิดว่าใกล้ที่สุด แต่ก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน อย่างที่บอกผมกับเพื่อนพึ่งขับรถขึ้นเขใหญ่เป็นครั้งแรก แล้วก็ไม่ได้เตรียมตัวเรื่องเส้นทางไว้เลย ก็อ่านตามป้ายไปเรื่อยๆ จากองครักษ์-นครนายก-วงเวียนนเรศวร-เขาใหญ่ มันก็ต้องมีงงกันบ้างแหละ แต่ก็ถึงด่านเขาใหญ่กันจนได้ เราตกลงกันไว้ว่าจะไปเที่ยวน้ำตกเหวนรกกัน เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ก็ยังสมบูรณ์อยู่เยอะระหว่างทางมี ครอบครัวลิงมานั่งตากแตกกันหรือไม่ก็รอคนโง่มาแวะให้อาหารมัน ลิงมันก็ไม่กลัวรถบ้างเลยเล่นนั่งกันเต็มถนนเลยอ่ะ

ขับซักพักก็ถึงน้ำตกเหวนรก ต้องเดินเข้าไปด้านในแต่ยังดีที่ทางเป็นคอนกรีต เดินสบายหน่อย แต่ก็เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน แต่มันก็ยังน้อยกว่าทางลงไปน้ำตก เพราะมันชันมาก ถึงแม้จะมีบันไดก็ตาม ตอนลงอย่างเสียวพอเจอน้ำตกก็สดชื่นหน่อย แต่ช่วงนี้น้ำน้อยแล้วบรรยากาศก็แห้งๆ ไม่ร่มรื่นมากนัก ถ่ายรูปพอเป็นพิธีเสร็จก็ เดินกลับ ตอนขึ้นอย่างเหนื่อย เข่าสั่นไปหมดบ่นกันทุกคน โดนด่าว่าเข่าเสื่อมบ้างล่ะ แก่บ้างล่ะ ไม่ออกกำลังกายบ้างล่ะ (คิดในใจมรึงก็เหนื่อยเหมือนตู) จบจากการเดินกลับก็ขับรถต่อไป ที่เขาใหญ่ ระหว่างทางผ่านทั้งป่าดิบ ทุ่งหญ้า ดินโปร่ง แล้วก็ได้เห็นฝูงช้างกำลังกินดินอยู่ ตอนแรกนึกว่าหินเพราะเห็นแต่หลังมันแต่ขับรถไปใกล้ก็รู้ว่าเป็นช้าง



พอขับรถถึงที่ทำการอุทยานกินข้าวเที่ยงตอนบ่ายสามโมง จากนั้นก็จองรถส่องสัตว์ ตอนกลางคืนจองไว้ตอนทุ่มนึง ส่วนเวลาที่เหลือก็ไปที่พักที่ผากล้วยไม้ เพราะเราจองเต็นท์ไว้ที่นี่ เอาของลง เช็คอิน เช่าหมอน ผ้าห่ม เตา เข้าเต็นท์ เต็นท์ก็ชั่งสะอาด ไม่รู้ว่าทางอุทยานเคยทำความสะอาดรึเปล่า ไม่รู้จักดูแลเลยจริงๆ เข้าเต็นท์เสร็จ ก็เริ่มประกอบพีธีปิ้งย่างกัน มีเตามีถ่ายมีไฟ แต่จุดไฟไม่ได้ พี่ที่อยู่เต็นท์ข้างๆเห็นเลยเอาถ่านที่ติดไฟแล้วมาให้ ก็ไม่รู้ว่าเค้าสงสาร สมเพช หรือ เหมนควันที่ผมกำลังจุดไฟ แถมยังเอาพัดลมตัวเล็กมาให้เป่าไฟ ด้วยใจดีจริง (เค้าคงเหม็นควันแหละเพราะเห็นมีเด็กมากับเค้าด้วย) จากนั้นลงมือปิ้งย่างกัน ส่วนเพื่อนที่เหลือก็อาบน้ำ ไอ้ปิ้งนี่มันก็ง่าย แต่ปิ้งยังไงให้มันสุกแล้วไม่ไหม้คือปัญหา แต่พอดีเพื่อนผมเค้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเนื่องจากที่บ้านเคยขายอาหาร ก็เลยได้กินแบบสุกๆ ก็ปิ้งกันไปเรื่อยๆจนถึงหนึ่งทุ่ม ตอนขึ้นมาใหม่ๆก็ยังไม่หนาว แต่เค่อยๆค่ำอากาศก็เริ่มเย็น แต่ดีนะที่รถเพื่อนผมมีเสื้อกันหนาวเตรียมไว้ ไม่รู้ว่าเตรียมไว้ทำไมเหมือนกัน





การส่องสัตว์นี่ก็ไม่มีอะไรมาก รถกระบะ มีไฟส่อง เป็นของชาวบ้านที่อุทยานให้ทำมาหากิน ส่องไปเรื่อยๆตามป่าบริเวณถนนที่ขับผ่านสัตว์ส่วนใหญ่ไม่สิ ทั้งหมดต่างหากคือกวาง กวาง กวาง เท่านั้น อันนี้ผมว่าทางอุทยานน่าจะทำหุ่นจำลองของเสือ กระทิง แรด ไว้ในป่าด้วย อย่างน้อยจะได้ตื่นเต้น เห็นแต่กวางอย่างเดียว ไม่รู้ว่าเป็นกวางเลี้ยงหรือกวางป่าจริงๆ มีเรื่องตลกของเพื่อน ตอนส่องสัตว์ คืออย่างที่บอกรถที่นั่งเป็นกระบะ ตำแหน่งของผมก็ด้านในสุดฝั่งติดคนขับ เรื่องมันมีอยู่ว่า เพื่อนผมเค้าได้ยินเสียงหัวเราะดังมาก พวกเค้าก็เลยกลัว พัดถามผมว่าได้ยินเสียงไรมั้ย ผมตอบว่าเปล่า แล้วก็มีเสียงบอกว่าอย่าทัก ปรากฏว่ามีคนได้ยินเสียงนี้ สี่ห้าคน แต่ผมไม่ได้ยิน พวกเพื่อนผมก็คิดว่าโดนแล้ว แต่ตอนที่ผมถามบนรถไม่มีใครตอบ เพราะกลัว แต่เมื่อมาถึงที่เต็นท์ก็เล่าให้ผมฟัง ได้ข้อมูลอีกว่าได้ยินตอน ออกรถประมาณ สี่ ห้านาที ผมก็เลยบอกว่า คงไม่ใช่ผีแล้วล่ะ เพราะตอนนั้นคนขับรถเค้าคุยโทรศัพท์แล้วคงขำอะไรเลยหัวเราะดังมากอีกอย่างเค้าก็เอากระจกลงด้วยผมเลยได้ยินเสียงพูดกับหัวเราะ ตอนนั้นยังคิดเลยหัวเราะอะไรนักหนา แต่เพื่อนผมคิดว่าเป็นผี!!!! 5555 พอกลับจากนั่งรถส่องกวาง ประมาณ สองทุ่มกว่า ก็กลับมาปิ้งย่าง กินเบียร์กันต่อ กินไปได้ซักพักเพื่อนผมกลุ่มหนึ่งได้มาสมทบ คุยกันจนดึกก็แยกย้ายไปนอน แต่กว่าแยกกัน เจ้าหน้าที่ต้องเดินมาเตือน เต็นท์ข้างๆเริ่มบ่น ที่เราเสียงดัง

14 พ.ย 53


พึบๆ!!!พึบๆ!!!พึบๆ!!! เสียงอะไร ได้ยินคนเอะอะบนหัว สว่างก็สว่าง บางคนถ่ายรูป บางคนยืนดู ปรากฏว่าเค้ามายืนดูนกที่กำลังสลัดน้ำค้างออกจากปีก ที่ต้นไม้ ใกล้เต็นท์พวกผม นอนก็ดึก มีคนมาปลุกให้ตื่นอีกเซ็ง!!!!! เลยตัดสินใจตื่นออกมาเดินเลยเพื่อนผมส่วนใหญ่ก็ตื่นกันแล้ว ตอนเช้าอากาศ เย็นดี สบายๆ มีลิง ออกมาเดินเล่นเยอะแยะ เห็นลานกางเต็นท์เต็มไปด้วยเต็นท์ คนเยอะมาก ลงจากเขาใหญ่ประมาณ เก้าโมงเช้า ลงถ่ายรูปที่จุดชมวิวสองสาว ทราย แอม ถ่ายรูปกันใหญ่ แถมยัวสอน แต็ก โพสต์ท่ากันซะสนุก จากนั้นที่ด่านปากช่อง จากนั้นไปถ่ายรูปที่ พีลีโอ แต่ที่นี่คนเยอะมาก ส่วนเพื่อนผมก็ถ่ายรูปกันสนุกไปเลน ไฮโซกันทั้งคู่ แต่นักท่องเที่ยวคนอื่นไม่รู้มาถ่ายรูปอย่างเดียวแล้วกลับหรือซื้อบ้างรึเปล่า ส่วนตัวผมไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบสถานที่คนสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบต่างประเทศ ไม่รู้ว่าทำไมไม่โชว์ของไทยๆ บ้าง หรือเป็นเพราะคนท่องเที่ยวเห่อของนอกกันหมด ต่อจากนั้นแวะกินข้าวข้างทาง แวะฟาร์มโชคชัย แค่ข้างหน้า แล้วตรงกับกรุงเทพ เข้าบ้านจร้า

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2553 Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 10:27:37 น. Counter : 1022 Pageviews.		7 comments
Share Tweet