ในสมัยก่อนจะนำปลากัดใส่ขวดเปรียบเทียบด้วยตาเปล่า แต่ภายหลังเกิดปัญหาการเอาเปรียบ เช่น ใช้ขวดเจียรให้ปลาดูเล็กลง หรือใช้คำพูดกล่อม คนรู้ไม่เท่าทันคิดว่าปลาตัวเท่ากัน พอเทลงไปกัด ปรากฏว่าตัวต่างกันเยอะเลย ปลากัดตัวโตกว่าจะได้เปรียบและมีสิทธิชนะมากกว่า ในทุกวันนี้จึงมีระบบ ชั่งน้ำหนักเกิดขึ้น

กติกาในสนามกัดปลาภาคกลางแบบคร่าวๆ บางพื้นที่อาจมีมากกว่านี้ ส่วนโหลกัดก็แล้วแต่พื้นที่ จัดหาเช่นกัน การจะกัดที่ไหนควรศึกษาว่าเขาใช้โหลอะไรกัดปลา จะได้นำโหลแบบนั้นมาเลี้ยงปลา ให้ปลาชินโหลสไลต์นั้นๆ ก็จะเป็นการดี (ประมาณว่าซ้อมว่ายให้ชินสนาม)

1. เมื่อได้คู่น้ำหนักเท่ากันหรือพอกัน เจ้าของตกลงปลงใจกัด ตกลงเดิมพันเรียบร้อย จะนำปลาลงกัดในโหลกัดปลาที่สนามเตรียมไว้

2. สามารถเรียกเปลี่ยนโหลได้ 2 ครั้ง หากรู้สึกว่าปลาอาจจะโดนยาหรือปลามีอาการแปลกๆ

3. ราคาต่อลองนอกเดิมพัน อันนี้มือใหม่ไม่ควรเล่นวงนอกนะ เพราะเรายังดูแผลปลาไม่ขาด อาจเจอหลอกเสียตังค์ได้

4. หากปลากัดเสมอ คือ หยุดทำกัน จะมีปลากรรมการ เรียกว่า ปลากลาง กรรมการจะตักปลากลางใส่โหลพร้อมกับตักปลาที่ลงแข่งใส่โหลใหม่ แยกเดี่ยวๆ ตัวไหนแถกเหงือกใส่ปลากลาง ตัวนั้นถือว่าชนะ ถ้าแถกทั้งคู่ ให้ลงกัดกันใหม่ในน้ำใหม่ ทำแบบนี้ 2 ครั้ง ถ้าทำทั้ง 2 ครั้งแล้วยังเสมอ สนามปิด ถือว่าเสมอ โดยปกติถ้ามีการเปลี่ยนน้ำใหม่ ปลาจะเจ็บแผลมาก แสบ ไม่มีเสมอแน่นอน ถ้าไม่ว่ายหนีก็ต้องว่ายใส่คู่ต่อสู้ กติกาข้อนี้วัดสกุลปลาว่าใจถึงรึป่าว อึดมั้ย ส่วนมากครอกไหนชนะตีปลากลาง ตัวเมียเอามาเพาะดี ใจมันได้ ยิ่งเป็นรอง แต่ดันมาชนะตีปลากลางยิ่งดี แต่ถ้าปลากลางกัด 5 ทียังไม่แถกเหงือกเจอจับแพ้ ปล. ปลากลางมันดุมากๆๆๆๆ เลยนะ

5. ผลแพ้ชนะ คือ ปลาวิ่งหนีจนสุดตัว โดนจับแพ้ อาการหนีจนสุดตัว คือ หนีโดยไม่หันมาสู้อีก

6. ปลาตายคาโหลกัด อันนี้ระวัง บางที่เจอปรับดังค์แพงมาก ข้อหาแช่ปลา ถ้าเห็นว่าปลาสู้ไม่ได้ ให้ขอยอมแพ้ ขอลดเดิมพันสัก 10% ก็ได้นะ แล้วแต่ตกลง กติกาข้อนี้บางสนามมีไว้ดัดหลังพวกขี้เหนียว ทรมานปลา