ตะลอนเที่ยวลาสเวกัส ตอนที่ 1
...และแล้วก็ได้เวลาอัพ blog ใหม่เสียทีกับทริปตะลอนลาสเวกัสที่ไปมาตั้งแต่ช่วงปลายกันยายนปีที่แล้ว กับทริปสั้นๆ 5 วัน 4 คืนที่เจิดแจ่มสุดๆ และยังคิดอยากจะไปอีก ถึงจะสุดแสนเหนื่อยและใช้เวลาบินนานก็เถอะ คือบินจากญี่ปุ่น ไป LA. 10 ชม. แล้วก็ต่อเครื่องไปลาสอีก 1 ชม. นี่ถ้าบินจากไทย คงได้เมื่อยตุ้มกว่านี้เป็นแน่แท้
ทริปนี้ฉันแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลย เพราะสามีดำเนินการทุกอย่าง ฉันแค่แพคกระเป๋าตามไปด้วยก็พอแระ อีกอย่างเค้าเคยไปมาแล้ว 2-3 ครั้ง เลยไม่ต้องเตรียมอะไรกันมากเพราะเราเน้นตะลอนเที่ยว(เล่น) เรื่อยๆ กับดูโชว์ซะมากกว่า
เราเลือกบินกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ การบริการก็ประทับใจดี ส่วนเรื่องอาหารก็โอเค แล้วขาไปเนี่ย...ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอึดหรือตื่นเต้นกันแน่ ที่ทำเอานอนไม่หลับขนาดวางยาตัวเองแล้วยังหลับไม่ลง เลยได้ดูหนังฆ่าเวลาไปหลายเรื่อง และพอถึงที่หมายก็ยิ่งกระดี๊กระด๊ากว่าเดิม ขนาดว่าไม่ได้หลับไม่ได้นอน ยังไงก็ขอแอ๊คไว้ก่อนว่ามาถึงแล้ว....ก่อนจะไปรอต่อเครื่องอีก 2 ชม. กับ Southwest ถ้าให้เทียบก็ประมาณ Air Asia บ้านเรา (แต่แอร์ที่นี่หน้าบึ้งชะมัด) จริงๆ ตอนแรกก็จะบินของ UA. เพราะโอเคกว่าแต่ว่าต้องรอเปลี่ยนเครื่องตั้ง 3-4 ชม. นี่สิ...
อาหารมื้อแรกแบบเบาๆ ...ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องไปลาสเวกัส เพราะอาหารหลัก 2 มื้อกับอาหารว่างที่เสริฟ์บนเครื่องเอาคนโรคกระเพาะอย่างฉันไม่อยู่ เลยกะว่าจะกินอะไรที่ low calorie สักหน่อย...เลยชิลด์ๆ กับสลัดผักราคาเกือบ 8 ดอลล่าร์ แต่ไม่ได้เรื่องเลย สีส้มๆ แดงๆ เดาว่าคงเป็นมะเขือเทศอบแห้ง ที่รสชาติทะแม่งๆ แล้วก็เนื้อไก่ที่จืดชืด มื้อนี้เลยได้โลว์สมใจ เพราะกินได้แต่ผัก
^ @^ แอบเก็บ (ภาพ) หนุ่มน้อยลงเฟรมมาได้หนึ่งคน )
ลัลล๊า...ลัลล๊าาาา มองลงเบื้องล่าง ใกล้ถึงที่หมายแล้วววว
พอถึงลาสเวกัสเท่านั้นแหละ....อะไรๆ ก็ดูอลังการสำหรับคนที่เพิ่งเคยไปอย่างฉัน ที่กำลังอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง และที่สำคัญที่นั่นเวลาก็ช้ากว่าญี่ปุ่นตั้ง 10 กว่าชั่วโมง ก็เลยต้องอยู่ในภาวะปรับตัวพอสมควร
แล้วพอออกจากอาคารสนามบิน ก็จะมี Shuttle bus ไว้คอยบริการไปส่งที่ศูนย์ให้เช่ารถซึ่งจะมีหลายบริษัทและอยู่ไม่ไกลจากสนามบินเท่าไหร่ และเราก็คิดกันว่าเช่ารถขับเองไปไหนๆ สะดวกกว่า เพราะที่นี่สามารถใช้ใบขับขี่ของญี่ปุ่นเป็นหลักฐานในการเช่าได้ แต่ถ้าใช้บริการแท็กซี่งบบานปลายแน่นอนเพราะต้องไปหลายที่ ไหนจะต้อง+ทิปอีก เพราะเป็นธรรมเนียมของที่นี่อยู่แล้ว โดยเฉพาะในร้านอาหาร สามีจะคำนวณ+ให้อย่างน้อยประมาณ 15% ของค่าอาหาร ถ้าน้อยกว่านี้กลัวโดนด่า (เอาเข้าไป....)
พอเช่ารถเสร็จก็ขับรถเข้าเมืองเพื่อจะไปโรงแรมที่พักกัน เลยได้เก็บบรรยากาศระหว่างทางไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละช่วงเวลาในลาสเวกัส มันดูแตกต่างแปลกตาดี งานนี้ขอสารภาพตามประสาคนขี้เห่อว่าถึงขนาดถอยกล้อง VDO เครื่องใหม่ เพื่อเก็บทุกบรรยากาศเลยล่ะ ไปๆ มาๆ เลยถ่ายรูปได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นซะงั้น
เราพักโรงแรมนี้กันค่ะ ราคาไม่แพง 4 คืนประมาณ 200 ดอลล่าร์ ถ้าจะพักแพงๆ กันก็เสียดายเงิน เพราะจ่ายไปเยอะกับโชว์ที่จองไว้ 3 ที่ สองคนก็เกือบ 800 ดอลล่าร์ ขนาดว่าจองราคาเกือบถูกที่สุดแล้ว กับที่พักก็เลยอาศัยแค่ว่านอนก็พอ เพราะยังไงก็ออกไปตะลอนๆ ข้างนอกทั้งวัน แต่ถึงเราจะเหนื่อยเมื่อยตุ้มกันแค่ไหน ก็ยังอุตส่าห์พากันไปนั่งล้างบาปแถว Slot กับ roulette กัน 2-3 ชม. ก่อนนอนเสมอ ไหนๆ ก็มาถึงเมืองที่เค้าว่ากันว่า....เป็นเมืองคนบาปกันทั้งทีแล้วนี่นะ หุหุ
Circus Circus Hotel Casino ไม่ไกลจากแถวย่านโรงแรมใหม่ใหญ่ๆ เท่าไร ขับรถไม่นานก็ถึงค่ะ
วิวจากห้องที่พัก....
...และดินเนอร์มื้อแรกที่ร้าน Steak House (จริงๆ จำชื่อร้านไม่ได้แต่ประมาณนี้ล่ะ) และต้องจองโต๊ะไว้ก่อนล่วงหน้าด้วย เพราะถ้า walk in เข้าไป อาจไม่มีที่ว่างหรือต้องรอนานมาก ร้านนี้อยู่ใน Circus ค่ะ
ว่าแล้วก็ฉลองกันหน่อย คัมปายยยยยยยย
..................ไว้ต่อกันบล๊อกหน้านะคะ ราตรีสโมสรค่ะ
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
14 comments |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 11:08:56 น. |
Counter : 4228 Pageviews. |
|
|
|