|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
มาฟังเพลง Gothic กันไหมคะ?
พอดีนึกขึ้นมาได้ว่าไม่นานมานี้ได้แนะนำวิธีฟังเพลงโกธิคให้เพื่อนคนหนึ่ง ก็คิดว่าลองมาเขียนคำแนะนำที่พูดคุยกันตอนนั้นลงบล็อกดีกว่า เผื่อผู้มาเยี่ยมเยือนจขบ.จะสนใจเพลงกอธิคหรือไม่ก็อาจจะเป็นคนที่ชอบฟังเพลงหลากแนวหลากสไตล์ไปเรื่อยๆอย่างจขบ. แล้วอยากลองดู(ฮา)
Gothic ในที่นี้จะหมายถึงพวก Gothic Rock กับ Gothic Metal เท่านั้นค่ะ ซึ่งสองอย่างแตกต่างกันอย่างไรนั้น อันนี้ต้องรบกวนถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องดนตรีร็อกแล้วล่ะค่ะ เพราะจขบ.ไม่มีความรู้เรื่องนี้ในเชิงลึกเลย เคยฟังผู้เชี่ยวชาญด้านหนึ่งกล่าวถึงทฤษฎีการกำเนิดของดนตรี Gothic Metal ว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับดนตรีสายแม่อย่าง Doom Doom Heavy Metal แต่พัฒนามาอย่างพิเศษมากจนได้อัตลักษณ์เฉพาะตัวและแตกต่างกับดนตรีสายแม่ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด แล้วก็..บลา บลา บลา..
อ่า..ขอบคุณท่านผู้รู้มากนะคะ แต่จขบ.สมองรวนจนสลบเหมือดเลยค่ะหลังจากนั้น - -
เอาง่ายๆตามความรู้สึกของคนฟังเพลงมือสมัครเล่นอย่างจขบ.นะคะ ระหว่าง Gothic Rock กับ Gothic Metal อย่างแรกฟังง่ายกว่าอย่างหลังค่ะ (สำหรับคนทั่วไปที่โสตประสาทชินกับดนตรีร็อกกระแสหลัก) อีกทั้งเนื้อหาเองก็สามารถเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป แต่อารมณ์เข้มข้นขึ้นเป็นธรรมดาของงานศิลปะน่ะค่ะ เป็นเนื้อหาเข้าใจง่ายๆอย่างความเหงา ความเดียวดายที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียความรัก อาการอกหัก อะไรแบบนี้ล่ะค่ะ
อ้อ..มาฟังเพลง Gothic นี่อย่าหวังจะได้ยินอะไรสดใสซาบซ่านวาบหวานเป็นสีส้มสีชมพูเชียวนะคะ เพราะศิลปะแนวโกธิคจะเป็นอะไรที่มืดทะมึนทึม เพราะจริงๆแล้วคำว่า Gothic มันมาจากคำว่า Goth + ic แปลว่าความเป็นโกธ และโกธคือเผ่าพันธุ์เผ่าหนึ่งที่ตอนนี้เชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวยุโรปหลายเชื้อชาติ เริ่มมาปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์ช่วงตอนปลายประวัติศาสตร์ยุคต้น(ยุคโบราณ) และตอนต้นของประวัติศาสตร์ยุคกลาง
ใช่ค่ะ..ยุคสมัยที่เราเรียกว่ายุคมืดนั่นแหละค่ะ
ยุคมืดคือยุคแห่งอนารยชน หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน(โดยพวกโกธที่เผากรุงโรมเสียเรียบ) ซึ่งทำให้อำนาจใหญ่ที่เคยกดเผ่าพันธุ์ต่างๆไว้ถูกบั่นทอนลง โลกจึงเหมือนเข้าสู่ยุคก่อนเกิดอาณาจักรอียิปต์โบราณซะงั้น - - นั่นคือเกิดการรบพุ่งกัน เกิดเหตุเลวทรามสารพัดบัดซบมากมาย เกิดสงคราม เกิดการปล้นสะดม เกิดความตายระเนระนาดเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า
อาณาประชาราษฎร์ขวัญเสียกระเจิดกระเจิง ก็ในเมื่อไม่สามารถคิดถึงสวัสดิภาพของชีวิตและทรัพย์สินเพราะมันไม่มีให้คิด ส่วนใหญ่ต่างมุ่งหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หลั่งไหลเข้าหาศาสนา ศาสนาคริสต์เลยค่อนข้างครอบงำคนได้สุดฤทธิ์สุดเดชในยามนั้น
พวกโกธเองก็อยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ถึงขีดสุดตอนนั้นเช่นกัน ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่พวกเขาถูกเหยียบย่ำกดขี่จากจักรวรรดิโรมัน (จนท้ายสุดเป็นเหตุให้บันดาลโทสะเผากรุงโรมแม่งมันเลย>>>>ดูหนังมาค่ะ อารมณ์นี้จริงๆนะเนี่ย ฮ่าๆ)
ความทุกข์ทรมาน ความไม่แน่นอนของชีวิตและความตายที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทำให้พวกเขา ตกผลึก ในเรื่องเกี่ยวกับความจริงและความโหดร้ายของชีวิต ก่อเกิดเป็นแนวความคิดหรือเรียกให้เท่ คือ ปรัชญาชีวิตของพวกเขาขึ้นมา
และปรัชญา ก็เป็นรากฐานของศิลปะและวิถีชีวิตของพวกเขา
ชาวโกธปรากฏอยู่บนหน้าประวัติศาสตร์ไม่นานค่ะ ราวกับว่าเมื่อยุคมืดจากไป ประวัติศาสตร์สว่างไสว เข้าสู่ยุคกลาง พวกเขาก็จากไปพร้อมกับ ความมืด ที่ให้กำเนิดพวกเขามา
ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หายไปจนสิ้นเชิง พวกเขาทิ้ง อะไรๆ ไว้ให้คนรุ่นหลัง นำไปใช้ ที่โดดเด่นมาก็เห็นจะเป็นศิลปกรรมสไตล์โกธิคที่เกลื่อนอยู่ทั่วยุโรป และอาจมีที่นำไปใช้โดยปรับเปลี่ยนอย่างเช่น นิทานของพวกเขา
นิทานที่เรารู้จักกัน อย่างราพันเซล เจ้าหญิงนิทรา บิวตี้แอนเดอะบีช ฯลฯ พวกนี้จริงๆเป็นนิทานของพวกโกธค่ะ แต่ได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาจน สดใสสว่างไสว ถูกใจคนทั่วไปในยุคสมัยหลังๆ
จขบ.เคยเล่าบิวตี้แอนเดอะบีชเวอร์ชั่นโกธิคให้คนคนหนึ่งฟัง เขาบอกว่ากลับไป..ฝันร้ายเลย - -
แนวคิด ปรัชญาชีวิตของพวกเขาก็ยังอยู่ค่ะ และต่อมามันมาปรากฏในเนื้อหาของเพลง Gothic Metal ซึ่งนี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เพลง Gothic Metal ฟังยากกว่า Gothic Rock เพราะเนื้อหามันค่อนข้างเข้าใจยากสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักปรัชญาโกธิค หรือไม่เคยครุ่นคิดถึงความตายและการมีชีวิตเลย
เคยแปลเพลง Sensorium ให้เพื่อนฟัง แปลจากภาษาอังกฤษเป็นไทย แล้วต้องอธิบายภาษาไทยอีกนาน เพราะ..เป็นปกติค่ะที่ไม่คุ้นกับโกธิคจะไม่เข้าใจว่าเพลงมันพูดถึงอะไร(วะ)
จขบ.ว่าถ้าแค่สนใจอยากจะฟังเพลงเศร้าๆ Gothic Rock น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ แต่ถ้าอยากสนใจฟัง Gothic Metal แบบอยากเข้าใจจริงๆนะคะ จขบ.ว่าควรจะอ่านปรัชญาอัตถิภาวะนิยม (Existencelism) โดยเฉพาะแนวคิดของฌอง ปอล ซาตรต์ ตบท้ายด้วยปรัชญาอินเดียคร่าวๆ ด้วยก็น่าจะเข้าใจแล้วค่ะ โดยความรู้สึก แนวคิดในเพลงโกธิคเมทัลจะคล้ายๆปรัชญาแถวๆนั้นล่ะ
อีกปัจจัยหนึ่งที่ Gothic Metal ฟังยากกว่า Gothic Rock คือดนตรีค่ะ
Gothic Rock มีกลิ่นอายของความเป็นโกธิค อย่างระดับเสียงร้องระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายจะต่างกันสุดขั้ว อย่างผู้หญิงจะเป็นเสียงเทนเนอร์ (เสียงสูงมากๆ) ผู้ชายจะเป็นเสียงเบส(เสียงต่ำมากๆ) มีการร้องประสานเสียง และมีการใช้ดนตรีเครื่องสายในวงออเครสตราเล่นกับดนตรีร็อก แต่ Gothic Rock จะมีความเป็น ป็อป มากกว่า Gothic Metal ( ป็อป ในที่นี้คือ Popular นะคะ กล่าวคือส่วนที่เป็นร็อกนั้น เป็นดนตรีร็อกที่เราคุ้นหูกันเหมือนดนตรีร็อกทั่วๆไป เพียงเหยาะ..โกธิค..เป็นน้ำจิ้มลงไปเท่านั้นเอง)
ตัวอย่างวง Gothic Rock คือ Evanescence และ HIM ค่ะ
ส่วนดนตรี Gothic Metal ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่มีคอมเมนต์พูดถึงดนตรีของมันว่า ดาร์กกว่า Gothic Rock แรงกว่า Gothic Rock และชวนปวดประสาทกว่า Gothic Rock (ฮา)
แหมๆ ดนตรี Gothic ก็เหมือนกับดนตรี Classic น่ะค่ะ ถ้ารักอยากจะฟังก็ต้องไปตามลำดับขั้น เช่นเดียวกับเพลงคลาสสิกที่แนะนำให้ฟังบีโธเฟน บาร์คเป็นชั้นประถมก่อน อย่าเพิ่งกระโดดไปฟังพวกสายรัสเซียน
สำหรับการเริ่มต้นฟังดนตรี Gothic จขบ.แนะนำให้เริ่มจาก Gothic Rock อย่าง Evanescence ก่อนค่ะ ถือว่าเป็นการ ชิมลาง ว่าจะไปกับดนตรีแนวนี้ได้หรือไม่ แนะนำให้ฟังหลายๆเพลงค่ะ เพราะจะเป็นปรับหูให้คุ้นกับความพิลึกกึกกือที่อาจจะกำลังรอคอยอยู่ข้างหน้า
(ใครจะเริ่มจาก HIM ก็ได้นะคะ แต่โดยรสนิยมจขบ.ไม่ชอบวงนี้นัก - -)
ถ้ารักกับ Evanescence แล้วอยากจะไปต่อ ก็เริ่มเปิดประตูแง้มสู่ Gothic Metal ด้วย Within Temptation ค่ะ ดนตรีของวิทอินฯ ใครชอบฟังเพลงคลาสสิกอาจจะเข้าทาง เพราะจะได้ยินเสียงเครื่องสายออเครสตราให้ฟังเพลินๆค่ะ สำหรับวงนี้ ถึงแม้จะเป็น Gothic Metal (?) แต่ก็ฟังไม่ยากเลยค่ะ (จขบ.ว่านะ) พอๆกับอีวาฯ
ต่อจากนั้น ถ้ายังรักกันอยู่ให้ต่อด้วย Nightwish ค่ะ
ตอนนี้ถ้าอ่านไอ้ปรัชญาที่ว่าๆไว้ข้างบนแล้วจะดีมาก (ฮา)
หลังจาก Nightwish ก็ต่อด้วย Epica ถึงตอนนี้ ถ้าดนตรีโกธิคยังเป็นที่รักของคุณอยู่ ก็เท่ากับว่าเราเกิดมาเพื่อกันและกันแล้ว (^///^)>
จากนี้ก็ลุยโลดเลยค่ะ!
ข้างล่างเป็นรายชื่อวง Gothic Metal ที่จขบ.เคยฟัง เป็นของกำนัลมอบให้แด่ผู้ที่สนใจ (ถ้าใครหาเจอได้มากกว่านี้อย่าลืมมากำนัลจขบ.กลับด้วยนะคะ ไม่งั้น..โป้ง! - -)
Nightwish Elis After Forever Autumn Ent wine Krypteria Atargatis Charon Detain Flowing Tears Penumbra The 69 Eyes Theater des Vampire The sin of thy beloved Poisonblack Lacrimosa Octavia Sperait For my pain Tristania Sirenia Xandria Within Temptation Edenbridge Vergin black Type O Negative Mortal Love Lacuna Coil Macbeth Angtoria Trail of Tears Leaves Eyes Lunatica Vision of Atlantis Tacere Epica
คราวหน้า...ลองมาฟังเพลงคลาสสิกแบบมือสมัครเล่นกันค่ะ แต่ขอให้จขบ.ปิดครีษมายัน อมันตราก่อนนะคะ เพราะอู้นิยายมาเขียนบล็อกนานแล้ว
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการฟังเพลงค่ะ ^ ^
Create Date : 22 เมษายน 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 22 เมษายน 2553 10:10:27 น. |
Counter : 1931 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เอ้ IP: 119.46.88.10 22 เมษายน 2553 10:38:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: Scorchio 22 เมษายน 2553 13:12:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: Chezter IP: 125.26.141.58 22 เมษายน 2553 15:18:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวก Gothic Rock IP: 125.24.185.37 16 พฤษภาคม 2553 19:58:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: eakkururu IP: 118.174.47.165 28 พฤษภาคม 2553 2:59:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: โหลยาดอง 9 มิถุนายน 2553 18:13:17 น. |
|
|
|
|
|
|
หนังสือคือชีวิต การเขียนคือการเติบโต เสียงเพลงคือจิตวิญญาณ การเรียนรู้คือความหมายของการมีชีวิตอยู่ เวลาคือความตาย ปรัชญาศาสนาคือลมหายใจ ประวัติศาสตร์คือครู พระเจ้าคือคู่รัก ชะตากรรมคือเพื่อน ความสันโดษคือเสื้อผ้า ความกล้าหาญคือรองเท้า ความเชื่อมั่นคือยารักษาโรค ความหวาดกลัวคืออาวุธ และจุดสิ้นสุดคือการเริ่มต้น |
|
|
|
|
|
|
|
ป.ล. รออ่านนิยายของสร้อยดอกหมากมานาน..น..มาก เพิ่งรู้ว่าเป็นนักเขียนที่เราอ่านด้วยน่ะค่ะ ดีใจจัง