ตุลาคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เพลงที่เหมาะสำหรับการตื่นมาฟัง Living in the Moment
เพลงนี้มาจากอัลบั้มชุดก่อน ของพี่เจสัน ที่วันนี้บังเอิญเปิด ตอนเพิ่งตื่นนอน ที่ฟังแล้ว ทำให้คิดอะไรได้เยอะแยะ 

เพลงให้กำลังใจ และความหมายดีเหลือเกิน เพลงฟังสบายๆ ที่ฟังง่าย และ Album : Love ที่ blogger ปลื้มมากกว่าชุดปัจจุบันเสียอีก ( Album : Yes) ที่ออกจะหวานเกินตัวตนของ Blogger อกหักหมาดๆ คนนี้

ไม่เป็นไร เริ่มใหม่นะ



Living in the Moment - Jason Mraz


If this life is one act
Why do we lay all these traps
We put them right in our path
When we just wanna be free

หากชีวิตนี้ คือ การแสดงครั้งหนึ่ง
เหตุใด เราต้องวางกับดัก
ไว้ขวางหน้าเส้นทางของเรา
เมื่อสิ่งที่เราต้องการก็แค่อยากจะเป็นอิสระ

I will not waste my days
Making up all kinds of ways
To worry about all the things
That will not happen to me

ชั้นคงไม่เสียเวลา
เพื่อหาสารพัดหนทาง
ที่จะมากังวลเรื่องต่างๆ
ที่มันจะไม่เกิดขึ้นกับชั้น

So I just let go of what I know I don't know
And I know I only do this by

ดั้งนั้นชั้นจึงปล่อยวางสิ่งที่ชั้นตระหนักว่าชั้นไม่รู้
และชั้นรู้ว่าชั้นแค่ทำมันได้ด้วยการ... 

Living in the moment
Living my life
Easy and breezy
With peace in my mind
I got peace in my heart
Got peace in my soul
Wherever I'm going, I'm already home
I'm living in the moment

อยู่กับปัจจุบัน
ใช้ชีวิตของชั้นไป
ง่ายๆ และ ปลอดโปร่ง
กับความสงบในความคิด
มีความสงบในใจ
มีความสงบในจิตวิญญาณ
ไม่ว่าจะไปที่ไหน ชั้นก็เหมือนอยู่ในที่ของชั้นแล้ว
อยู่กับปัจจุบัน

I'm letting myself off the hook for things I've done
I let my past go past
And now I'm having more fun
I'm letting go of the thoughts
That do not make me strong
And I believe this way can be the same for everyone
And if I fall asleep
I know you'll be the one who'll always remind me

ชั้นปลดปล่อยตนเอง จากห่วงในสิ่งที่ชั้นได้ทำ
ชั่นปล่อยอดีต ให้เป็นอดีต
และตอนนี้ชั้นก็รู้สึกเพลิดเพลินกว่าเดิม
ชั้นปล่อยวางความคิดทั้งหลาย
ที่ไม่ทำให้ชั้นเข้มแข็งขึ้น
และชั้นเชื่อว่าวิธีนี้ ใครๆก็ใช้ได้เหมือนกัน
และหากชั้นนอนหลับไป
ชั้นรู้ว่าเธอจะเป็นที่คอยย้ำเตือนชั้นว่า ....

To live in the moment
To keep living my life
Easy and breezy
With peace in my mind
I got peace in my heart
Got peace in my soul
Wherever I'm going, I'm already home

อยู่กับปัจจุบัน
ใช้ชีวิตของชั้นต่อไป
ง่ายๆ และ ปลอดโปร่ง
กับความสงบในความคิด
มีความสงบในใจ
มีความสงบในจิตวิญญาณ
ไม่ว่าจะไปที่ไหน ชั้นก็เหมือนอยู่ในที่ของชั้นแล้ว

I can't walk through life facing backwards
I have tried
I tried more than once to just make sure
And I was denied the future I'd been searching for
I spun around and hurt no more

ชั้นไม่สามารถก้าวผ่านชีวิตที่มัวแต่มองไปข้างหลัง
ชั้นพยายามแล้ว
ชั้นพยายามมามากกว่าหนึ่งครั้ง เพื่อให้แน่ใจ
และชั้นถูกตัดขาดจากอนาคต ที่ชั้นเสาะแสวงหา
ชั้นจึงหันกลับมา และไม่เจ็บปวดอีกต่อไป

By living in the moment
Living my life
Easy and breezy
With peace in my mind
I got peace in my heart
Got peace in my soul
Wherever I'm going, I'm already home

อยู่กับปัจจุบัน
ใช้ชีวิตของชั้นไป
ง่ายๆ และ ปลอดโปร่ง
กับความสงบในความคิด
มีความสงบในใจ
มีความสงบในจิตวิญญาณ
ไม่ว่าจะไปที่ไหน ชั้นก็เหมือนอยู่ในที่ของชั้นแล้ว
อยู่กับปัจจุบัน

I'm living in the moment
I'm living my life
Just taking it easy
With peace in my mind
I got peace in my heart
I got peace in my soul
Oh, wherever I'm going, I'm already home
I'm living in the moment 




Create Date : 26 ตุลาคม 2557
Last Update : 26 ตุลาคม 2557 2:04:59 น.
Counter : 10390 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

COS Stylist
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



การไตร่ตรองและคิด วิเคราะห์ เป็นหนทางสู่การพัฒนาสมอง การพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคม

คนเรามักสนใจแต่การปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอก บุคคลิกภาพ พื้นฐานทางสังคม และความสุขส่วนตัว หากมีซักกี่คนที่มุ่งเน้นการพัฒนา "ใจ"

บล็อคนี้ เขียนจากคนธรรมดา ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น หากแต่ชอบคิด ชอบเขียน และ อยากพัฒนา"ใจ"ของตนเอง ให้พบกับความสุขที่ยั่งยืน ที่ไม่มีวัตถุเป็นตัวกำหนด พร้อมทั้งยังอยากให้เพื่อนๆร่วมโลกได้ประโยชน์จากประสพการณ์และเรื่องเล่าต่างๆ ให้เป็นสาระแก่การดำเนินชีวิต และได้ข้อคิดแล้วต่อจะไปปรับใช้ในชีวิตของแต่ละคน

ทั้งนี้ ผู้เขียนขอไม่ประสงค์ออกนามของทั้งตนเอง และผู้ใดก้อตามที่ได้กล่าวอ้างถึง ไม่ให้พาดพิงต่อสิทธิส่วนบุคคลของทั้งตนเองและผู้อื่น

ทั้งนี้ข้อคิด และ เรื่องราวต่างๆนานาๆ ผู้เขียนไม่อาจรับรองได้ว่าเป็นวิธีคิด การกระทำ หรือทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งที่นำเสนอ เพียงแต่เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่านเป็นหลัก

ทั้งนี้ อยากให้เพื่อนๆเพียงแค่ได้นำสิ่งที่เขียนไปคิดพิเคราะห์ คนเขียนก็ปลื้มใจมากมายแล้ว

ทั้งนี้ในฐานะชาวพุทธ ขอยกคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้ปราดเปรื่องให้ข้อเตือนใจก่อนจะรับฟังเรื่องใดๆดังนี้

กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ

อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล
ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2500 ปีก่อนได้รับการบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิดหรือที่เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) ไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว

ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3

New Comments
MY VIP Friend