สิงหาคม 2552

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
แปล T-Shirt : Shontelle เมื่อสาววัตถุนิยมอกหัก
หมู่นี้ไม่รู้เป็นไร เริ่มรู้สึกว่าตัวเองฟังเพลงหน่อมแน้มขึ้นทุกวัน สงสัยพอมีแฟนแล้ววิญญาณผีสาวเข้าสิงหรือไง ไม่ทราบ จากแต่ก่อนแมนมาก ฟังเพลงไรที ก้อต้องแนวโย่วๆ เด๋วนี้เริ่มหาแนวอ่อนโยน น่ารัก คิกขุ ให้เข้ากับใบหน้า (กิ๊งง.. แอบเอามือมาเขกหัวตัวเอง พร้อมเอียงคอเล็กน้อยย.. กระแดะเจงๆ..อิอิ) (หรือว่าจริงๆแล้วเพราะมันแก่ขึ้นฟระ...ม่ายยยยยยย.....)

แต่ว่าแล้วเพลงบางเพลง ฟังแล้วถึงจะเสียงหวาน เนื้อหาอกหักพร่ำเพ้อยังไง ฟังไปฟังมา ก้อต้องพ่ายแพ้ต่อเสียงหวานๆ นุ่มๆ ดนตรี เนื้อร้องที่กลมกลืนได้จังหวะลงตัว ฟังแล้วรื่นหู อย่างชอนเทลเพลงนี้ น้องหนูร้องได้เพราะดีจริงๆเลย ถึงจะฟังๆ แล้วหมั่นไส้เล็กน้อย ว่ามาอารายยะ Jimmy Choo อะไรกัน หนอยๆ ทำเป็นไฮโซ ติดหรู รองเท้าก้อต้อง Jimmy Choo ด้วย (แล้วมันเกี่ยวอะไรแกด้วยล่ะ เหออออออ...ทำเป็นหมั่นไส้เค้า) ว่าแล้วตอนแปลนี่อยากจะเปลี่ยนยี่ห้อให้เป็นบาจา หรือ เทวินทร์ ซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ด้วยสำนึกที่ดี (ที่ยังมีอยู่เป็นบางที) อ่ะน่า เพื่อผู้อ่าน เราจะแปลให้ใกล้เคียงที่สุดนะคะ

ว่าแต่ว่า อ่านแล้ว ก้ออย่าติดแบรนด์เนมกันเลยนะจ๊ะ ยึดถือหลักเศรษฐกิจพอเพียงกันดีกว่า ทำอะไรก้อตามกำลังทรัพย์ของเรา อย่าให้มันเกินตัวดีกว่า ถ้าเงินเหลือ อยากจะซื้อแบรนด์อะไรก้อเอาเถอะ ขอให้มีสติก่อนซื้อกันนะจ๊ะ (ทำเป็นมีสาระ เหอะๆ..)

T-Shirt - Shontelle

Hey, trying to decide, trying to decide if I,
really wanna go out tonight.
I never use to go out without you,
I´m not sure I remember how to.
gonna be late gonna be late but,
all my girls gon have to wait cause,
I don´t know if I like my outfit.
I tried everything in my closet.

พยายามตัดสินใจ คิดแล้วคิดอีก
ว่าชั้นอยากจะออกไปเที่ยวคืนนี้ จริงๆเหรอ
ไม่เคยชินเลยที่จะไปไหนโดยไม่มีเธอ
แล้วก้อจำไม่ได้แล้วว่าไปไหนคนเดียวมันเป็นยังไง
คงจะสายแน่เลย แต่
เพื่อนสาวๆชั้นก้อคงต้องรอชั้นหน่อยล่ะ
เพราะชั้นไม่รู้ว่า ชั้นชอบชุดที่ชั้นใส่รึเปล่า
ทั้งๆที่ลองจนหมดตู้แล้ว


Nothing feels right when I´m not with you,
sick of this dress and these Jimmy Choos.
Taking them off cause I feel a fool,
trying to dress up when I´m missing you.
I´m a step out of this lingerie,
curl up in a ball with something Hanes.
In bed I lay, with nothing but your t-shirt on.
Oh, with nothing but your t-shirt on.

อะไรๆก้อดูขัดหูขัดตาไปหมด เมื่อไม่มีเธอ
เบื่อทั้งชุดนี้ ทั้งรองเท้าจิมมี่ ชู
ถอดมันออก เพราะชั้นรู้สึกปัญญาอ่อน
ว่าจะแต่งตัวสวยไปทำไม ทั้งๆที่คิดถึงเธอ
เปลื้องชุดชั้นในออกไปหมด
ม้วนผมด้วยบอลยี่ห้อเฮนอะไรซักอย่าง
ทิ้งตัวลงบนเตียง ไม่ใส่อะไรนอกจากเสื้อยืดตัวเก่าของเธอ
ใส่แต่เสื้อยืดตัวเก่าของเธอ

Hey, gotta be strong gotta be strong but I´m,
really hurting now that you´re gone.
I thought maybe I´d do some shopping,
but I didn´t get past the door and, now I don´t know, now
I don´t know if I´m, ever really gonna let you go and I,
couldn´t even leave my apartment.
I´m stripped down torn up about it.

ต้องเข้มแข็งไว้ ต้องเข้มแข็ง
แต่ชั้นเจ็บปวดเหลือเกิน เมื่อเธอจากไปแล้ว
ได้แต่คิดว่าบางทีชั้นน่าจะออกไปช็อปปิ้ง
แต่ไม่อาจเดินพ้นประตูออกไปได้เลย ตอนนี้ชั้นไม่รู้เลย
ไม่รู้ว่า ชั้นปล่อยเธอจากไปจริงๆเหรอ
แค่ออกไปข้างนอกบ้าน ยังทำไม่ได้
ได้แต่ถอดชุดเดิมออก แล้วปวดร้าวอยู่อย่างนั้น


Nothing feels right when I´m not with you,
sick of this dress and these Jimmy Choos.
Taking them off cause I feel a fool,
trying to dress up when I´m missing you.
I´m a step out of this lingerie,
curl up in a ball with something Hanes.
In that I lay (lay), with nothing but your t-shirt on.
(all by myself) with nothing but your t-shirt on.
I´m all by myself with nothing but your t shirt on,

อะไรๆก้อดูขัดหูขัดตาไปหมด เมื่อไม่มีเธอ
เบื่อทั้งชุดนี้ ทั้งรองเท้าจิมมี่ ชู
ถอดมันออก เพราะชั้นรู้สึกปัญญาอ่อน
ว่าจะแต่งตัวสวยไปทำไม ทั้งๆที่คิดถึงเธอ
เปลื้องชุดชั้นในออกไปหมด
ม้วนผมด้วยบอลยี่ห้อเฮนอะไรซักอย่าง
ทิ้งตัวลงบนเตียง ไม่ใส่อะไรนอกจากเสื้อยืดตัวเก่าของเธอ
(อยู่ตัวคนเดียว)
ใส่แต่เสื้อยืดตัวเก่าของเธอ
ชั้นจมปลักอยู่คนเดียว ไม่เหลืออะไร นอกจากเสื้อยืดของเธอ



Create Date : 08 สิงหาคม 2552
Last Update : 8 สิงหาคม 2552 16:52:09 น.
Counter : 3611 Pageviews.

1 comments
  
เพลงนี้เพราะมากๆคะ
ความหมายก็ดี :D
โดย: เกส IP: 10.0.1.75, 180.183.144.106 วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:14:41:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

COS Stylist
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



การไตร่ตรองและคิด วิเคราะห์ เป็นหนทางสู่การพัฒนาสมอง การพัฒนาตนเอง และพัฒนาสังคม

คนเรามักสนใจแต่การปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอก บุคคลิกภาพ พื้นฐานทางสังคม และความสุขส่วนตัว หากมีซักกี่คนที่มุ่งเน้นการพัฒนา "ใจ"

บล็อคนี้ เขียนจากคนธรรมดา ที่ไม่มีอะไรโดดเด่น หากแต่ชอบคิด ชอบเขียน และ อยากพัฒนา"ใจ"ของตนเอง ให้พบกับความสุขที่ยั่งยืน ที่ไม่มีวัตถุเป็นตัวกำหนด พร้อมทั้งยังอยากให้เพื่อนๆร่วมโลกได้ประโยชน์จากประสพการณ์และเรื่องเล่าต่างๆ ให้เป็นสาระแก่การดำเนินชีวิต และได้ข้อคิดแล้วต่อจะไปปรับใช้ในชีวิตของแต่ละคน

ทั้งนี้ ผู้เขียนขอไม่ประสงค์ออกนามของทั้งตนเอง และผู้ใดก้อตามที่ได้กล่าวอ้างถึง ไม่ให้พาดพิงต่อสิทธิส่วนบุคคลของทั้งตนเองและผู้อื่น

ทั้งนี้ข้อคิด และ เรื่องราวต่างๆนานาๆ ผู้เขียนไม่อาจรับรองได้ว่าเป็นวิธีคิด การกระทำ หรือทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งที่นำเสนอ เพียงแต่เป็นมุมมองของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่านเป็นหลัก

ทั้งนี้ อยากให้เพื่อนๆเพียงแค่ได้นำสิ่งที่เขียนไปคิดพิเคราะห์ คนเขียนก็ปลื้มใจมากมายแล้ว

ทั้งนี้ในฐานะชาวพุทธ ขอยกคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้ปราดเปรื่องให้ข้อเตือนใจก่อนจะรับฟังเรื่องใดๆดังนี้

กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล (เรียกว่า เกสปุตสูตร ก็มี[1]) กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการคือ

อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล
ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
ปัจจุบันแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ 2500 ปีก่อนได้รับการบรรจุเป็นวิชาบังคับว่าด้วยการสร้างทักษะการคิดหรือที่เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking) ไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยของประเทศพัฒนาแล้ว

ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3

New Comments
MY VIP Friend