U2: Rattle and Hum (1988):Directed by Phil Joanou. Peace : สันติสุข "shalom." ภาษาฮิบรู My Peace I Give to You บทเพลงสดุดี Pslam 40 Actsกิจการ 15:1-2,22-29;วิวรณ์ Revelations 21:10-14, 22-23; ยอร์น John 14:23-29 สันติสุข "shalom."..........ที่ผู้ชายทั้งสี่คนต้องการสื่อออกมา ที่เรียกร้องให้ผู้คนรับรู้กับบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเค้า กับสภาวะทางการเมืองที่มันได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นดนตรีร๊อคกับพวกเค้าทั้ง 4 คน แต่ก่อนกับอิทธิพลของดนตรีเมกา และในตอนนี้ กับวัฒนธรรมดนตรีของ U2 ที่มันได้เข้ามาอย่างรุ่งโรจน์ ซึ่งมันมีการเดินทาง โดยไม่จำกัดของธาตุแท้ในตัวตนของพวกเค้าที่เป็นบทเพลงและท่วงทำนองดนตรี และ Film ผสมผสานทั้งภาพสีและขาวดำ Film สารคดี ในปี 1987 ของการออนทัวส์ ที่เมกาเหนือ อัลบัมThe Joshua Tree ที่พวกเค้าประสบความสำเร็จ ใน Film เพลงนี้ ให้พี่น้องในโบส์ถมาร่วมร้องแจมด้วย และในตอนนี้เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่มีชื่อเสียงในโบส์ถของพี่น้องคริสตชนเช่นกัน U2 - I Still Haven't Found What I'm Looking (Rattle and Hum) "I Still Haven't Found What I'm Looking For" เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจากพระวารสาร ที่เค้าตีความกัน เปโตร Peter 2 ในเรื่องของ สมณภาพใหม่, หน้าที่ของคริสตชนต่อผู้ไม่มีความเชื่อ,หน้าที่ของคริสตชนต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง,หน้าที่ของคริสตชนของผู้เป็นนาย และในตอนท้ายของเพลง (Exodusเราเลือกตีความว่า คือการจากไป) การจากไปของผู้คนจำนวนมาก การเคลื่อนไหวของผู้คนที่ถูกปกครอง มันคือคำปลอบใจว่าทุกทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ทว่า มันได้ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แทบทุกครั้ง ในคอนเสริท กับบทเพลงนี้ โบโนจะให้ความสำคัญเค้าจะพูดถึงปัญหาความยุ่งยากในประเทศบ้านเกิดของเค้า ร้องนำโดยBono's เพลงติดชาร์ตBillboard Hot 100 และมันขึ้นสูงสุดอยู่ที่อันดับที่ 6 ใน UK ติดชาร์ต อันดับที่ 93 ของนิตยาสาร Rolling Ston และเพลงนี้อยู่ใน list "The 500 Greatest Songs of All Time". U2 I Still Haven't Found What Im Looking For Live From Milan Rattle And Hum. โบโน ยืนกรานว่า เค้าไม่เชื่อว่า ในยุค 60'sมันคือยุคทองของดนตรีป๊อบ Rattle and Hum มันคือบทเพลงแห่งชัยชนะของวัฒนธรรมดนตรี ในยุค 60 และมันได้รับการยกย่อง Blues Legend B.B.King มาร่วมแจมกีตาร์ในเพลง U2 - When Love Comes To Town (Rattle and Hum) และ Angel Of Harlem U2 - Angel Of Harlem (Rattle and Hum) "God Part II" เพลงนี้สิ่งที่ต้องการสื่อ มันคือ ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง โบโนกับพระเป็นเจ้า และ Woodstock introduces U2's searing live take on "Bullet the Blue Sky." U2 มันคือความเถื่อนที่เป็น rock & roll muscle on the Bo Diddley-inspired single "Desire," ในความป่าเถื่อนของเพลง "Hawkmoon 269" และในความหมายนั้นคือ มันอาจปะทุได้อีก ของนโยบายการแบ่งแยกสีผิวและ คนที่ต่อต้าน U2 - Hawkmoon 269 [Rattle & Hum] "Silver and Gold," ออกตัวครั้งแรก ใน a studio version on the Sun City protest album organized by Little Steven Van Zandt. U2 - Freedom For My People/Silver And Gold (Rattle and Hum) การแสดงสดบนเวที "Pride (In the Name of Love)," U2's สดุดี ท่าน Martin Luther King Jr.,กับการที่ท่านถูกจับกุมบนเวทีไฮปาร์ด และนั้นคือแรงบันดาลใจของเพลง U2 - Pride (In The Name Of Love) (Rattle and Hum) The Edge ร้องนำกับกีตาร์ไฟฟ้า และคีย์บอร์ด ในเพลง "Van Diemen's Land," มันคือบทกวีพื้นบ้านของชาวไอริส ที่ถูกเนรเทศไปอยู่ถึงออสเตรเลีย U2 - Van Diemen's Land (Rattle and Hum) "Heartland," Brian Eno เล่น keyboards, U2 - Heartland (Rattle and Hum) "All I Want Is You," มันคือการปลุกเร้าของความปรารถนาไม่พอใจของสาธารณะชน โดยวาทะศิลป์ของ by Van Dyke Parks. U2 - All I Want Is You (Rattle and Hum) Rattle and Hum ในมิติของมัน คือพลังและ ความคิดสร้างสรรในอนาคต ที่มันค่อนข้างจะดีกว่า ที่อยู่ในแบบแผนการปกครองที่เคร่งครัด ที่มันสื่อออกมาเป็นบทเพลง และทัศนวิสัย ในการ มองเห็นของพวกเค้า ที่มันค่อยๆๆเป็นไป ที่มันเริ่มจากความพิศวงในวัยเยาว์ของพวกเค้า ที่ก้าวผ่านเวทย์มนต์ ของเดือนตุลาคม ความคับแค้น ปวดร้าว สะเทือนอารมณ์ ในยามสงคราม ที่ไม่อาจลืมได้ และมันได้อธิบายไว้ในอัลบัม The Joshua Tree. ผู้ชายทั้งสี่คนที่เรา พบอะไรจากพวกเค้า สิ่งที่พวกเค้าทั้งสี่มี นั้นคือ ความเชื่อมั่นในอนคตที่กำลังจะเข้ามา u2-With or Without you(rattle and hum) Source ://movies.nytimes.com/movie/review?res=940DE3DC1639F937A35752C1A96E948260 //www.rollingstone.com/artists/u2/albums/album/234580/review/5940780/rattle_and_hum Bono ผู้เป็น Rock Star ที่ไม่ธรรมดา ขอเอาบทความของคุณ โดย วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มาปะค่ะ เค้าเขียนได้ดีค่ะ การได้เป็นบุคคลแห่งปีของนิตยสาร Time นั้น คนในโลกตะวันตกถือกันว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในปีนี้ได้เลือก Bill และ Melinda Gates เจ้าของ Microsoft และมูลนิธิที่มีเงินทุนใหญ่ที่สุดในโลก และ Bono ดารา Rock Star แห่งวง U2 สำหรับ 2 คนแรกนั้นไม่น่าแปลกใจ แต่เหตุใด Bono จึงได้รับเลือก คำตอบของคำถามนี้มีอะไรให้คิดอยู่หลายประการ Bono เป็นนักร้องชาวไอริช อายุ 45 ปี ตัวแทนวง U2 ที่มีชื่อเสียงดังก้องโลกมาเป็นเวลากว่า 20 ปี คอนเสิร์ตของเขามีบุคคลสำคัญของโลกเข้าชมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจัดที่ไหนก็จะมีคนเข้าชมแน่นขนัด U2 ได้รับเลือกเข้า Rock and Roll Hall of Fame ในเดือนมีนาคม 2005 และเป็นวงที่ทำรายได้สูงสุดในการเล่นคอนเสิร์ตทั่วโลกในปี 2005 ด้วย Bono (อ่านว่า Bah-noh) มีชื่อจริงว่า Paul Hewson เป็นสมาชิกของวง U2 ที่มีอยู่ด้วยกัน 4 คน ตัวเขาเองเป็นคนแต่งเพลงและเป็นนักร้อง ในขณะที่อีก 3 คนมีทักษะเป็นเยี่ยมในด้านดนตรี วงของเขาก็ออกนอกกรอบแบบวงดนตรี rock สมัยนี้ทั้งหลาย นอกจากความเก่งกาจด้านดนตรีแล้ว วงเขา มีทีมจัดการที่เข้มแข็งอยู่เบื้องหลัง Bono เกิดในเมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์ เป็นไอริชขนานแท้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรงมุ่งมั่น จุดเด่นของวง U2 ก็คือการพาแฟนล่องลอยไปตามเสียงเพลงที่ปลุกเร้าความคิดในเรื่องจิตวิญญาณและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง Bono ปัจจุบันถูกขนานนามว่าเป็น rock star-stateman ถ้าท่านผู้อ่านเคยเห็นนักร้องหน้าตาไม่โกนหนวดโกนเครา ผิวขาว ใส่หมวกปีกบาน ชอบใส่แว่นตากันแดดเฉี่ยวๆ ใส่ตุ้มหู หวีผมเสยไปข้างหลัง หน้าตาท่าทางเอาเรื่องใส่เสื้อยีนส์บ้าง เสื้อหนังบ้าง สูง 170 เซนติเมตร แต่ใส่รองเท้าส้นหนา และได้ยินคำพูดคมๆ จากเขา นั่นแหละครับ Bono Bono มีความสามารถเป็นเยี่ยมในการพูดจาโน้มน้าวใจคนและสะกดคนดู มีอารมณ์ขัน มีคำคม กล่าวกันว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ตรงที่เป็นคนมีความจริงใจ จริงจัง เอื้ออารี และมีอารมณ์อ่อนโยนของนักแต่งเพลง เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในศาสนาอย่างเงียบๆ (พ่อเป็นคาทอลิก แม่เป็นโปรเตสแตนต์) บุคคลสองคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขาคือ Pope John Paul II และ Billy Graham เขาบอกว่าไม่ชอบพูดถึงคำสอนในศาสนาแต่ขอปฏิบัติแทนเพราะเขาบอกว่า "มี secondhand-car salemen for God อยู่เพียงพอแล้ว" Bono มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการช่วยเหลือคนยากจนสุดสุดในประเทศด้อยพัฒนา ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกาที่ในทุกนาทีเด็กสองคนตายด้วยมาลาเรีย ในทุกนาทีผู้หญิงหนึ่งคนในประเทศยากจนตายด้วยปัญหาที่เกี่ยวพันกับการตั้ง ครรภ์ และในทุกนาที 9 คนติดเชื้อ HIV 3 คนตายด้วยวัณโรค ฯลฯ เมื่อยี่สิบปีก่อนวง U2 เล่นดนตรีเพื่อ Live AID สำหรับหาเงินช่วยเหลือผ่อนเบาการอดอยากในแอฟริกา หลังงานนี้เขากับภรรยาคือ Ali Hewson ใช้เวลา 6 อาทิตย์ทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเอธิโอเปีย ประสบการณ์จากการเห็นความยากจน คอร์รัปชั่น สงคราม เปลี่ยนแปลงเขาอย่างลึกซึ้ง เขาเกิดความคิดที่จะใช้ความดังของเขาจากการเป็น rock star ทำประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติ Bono เริ่มค้นคว้าหาข้อเท็จจริงและความรู้ในเรื่องการแก้ไขความยากจนในประเทศด้อย พัฒนาจากผู้รู้ (ใช้ความรู้เป็นฐานก่อนตัดสินใจเหมือนที่คุณหมอประเวศ วะสี สอน) ไม่ว่าจากนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังในเรื่องความยากจน เช่น Jeffrey Sachs จากคนทำงานธนาคารโลก จาก NGO"s จาก Bobby Shriver หลานตระกูลเคนเนดี้ที่เป็นเพื่อนเขา ฯลฯ ขั้นต่อไปก็คือการพบปะนักการเมืองอเมริกัน (เขาและภรรยาพร้อมลูก 4 คน เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซีเป็นประจำ ทั้งๆ ที่ต้องวุ่นกับคอนเสิร์ต) พบผู้นำทางความคิดในองค์กรต่างๆ พบประธานาธิบดีคลินตันและบุช ตลอดจนพบผู้นำยุโรปเป็นระยะๆ ด้วยการใช้ตั๋วของการเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงอยู่บนฐานของความเชื่อมั่นใน การสร้างความดีความงามให้แก่โลก Bono เล่นเกมพวกนี้ได้เก่งมาก เพราะทุกคนก็ปรารถนาที่จะมีความเกี่ยวพันกับสิ่งที่เป็นบวก ตอนแรกผู้คนก็คลางแคลงใจว่าจะเป็นการตลาดส่วนตัวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของเขา หรือไม่ แต่เมื่อได้พบปะพูดจากับเขาแล้วทุกคนก็เชื่อว่าเขาเป็น "ของจริง" และให้การสนับสนุน งานชิ้นสำคัญที่ตัวเขา องค์การของเขา ที่ตั้งขึ้นเพื่อพันธกิจนี้ (DATA ซึ่งย่อมาจาก Debt AIDS-Trade-Africa) กับ Bill และ Melinda Gates ทำสำเร็จก็คือผลักดันให้ที่ประชุม G-8 (ที่ประชุมของประเทศร่ำรวยสุดในโลก 8 ประเทศ) ในการประชุมเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ยกหนี้ทั้งหมดมูลค่า 40,000 ล้านเหรียญที่ประเทศยากจนสุดเป็นหนี้ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเหล่านี้รวม 50,000 ล้านเหรียญ (25,000 ล้านเหรียญ เป็นของแอฟริกา) และยืนยันที่จะจัดหายาสำหรับผู้ที่มีเชื้อ HIV เกือบ 10 ล้านคนในประเทศยากจนสุดให้ G-8 ประชุมกันที่เมือง Gleneagles ในสกอตแลนด์ ในงานนี้ Bono ได้พบ 5 ใน 8 ผู้นำของ G-8 พร้อมกับจัดคอนเสิร์ตในเมือง Edinburgh ในเวลาใกล้เคียงกันเพื่อสร้างแรงกดดันสนับสนุนอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นก่อนการประชุม G-8 ไม่นาน เขาจัดคอนเสิร์ตให้คนเข้าฟังฟรีในทุกประเทศที่เป็นสมาชิกของ G-8 เพื่อสนับสนุนไอเดียของการยกหนี้ ผลก็คือมีคนเข้าฟังแน่นขนัดพร้อมกับสนับสนุนไอเดียของเขาซึ่งเป็นแรงไปกดดัน ผู้นำอีกต่อหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา ตัวเลขการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศยากจนเพิ่มขึ้นสูงอย่างน่าสังเกต จนไม่รู้ว่าเป็น Bono Effects หรือไม่ กล่าวคือตั้งแต่ปี 2001 เพิ่มจาก 67,000 ล้านเหรียญ เป็น 80,000 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะสูงขึ้นอีกร้อยละ 60 ก่อนถึงปี 2010 ทั้งนี้ เนื่องจากหลายประเทศในยุโรปได้ยืนยันว่าจะบริจาคเงินร้อยละ 0.7 ของ GDP (สหรัฐอเมริกาปัจจุบันบริจาคร้อยละ 0.1) ซึ่งการยืนยันเหล่านี้เขามีส่วนร่วมในการผลักดัน สิ่งที่ Bono มีไม่ใช่ความสงสารซึ่งทำให้เกิดความต้องการช่วยลดความเจ็บปวด หากเป็นความเร่าร้อนแห่งอารมณ์เมื่อเห็นความอยุติธรรมและต้องการแก้ไข ซึ่งจะช่วยยั่วยุ กระตุ้น ชักจูง โน้มน้าวให้คนในระดับมหาเศรษฐีและคนชั้นกลางโดดเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข ความอยุติธรรมที่เพื่อนร่วมโลกจำนวนหนึ่งเผชิญอยู่ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจวง U2 ของ Bono ลองฟังเพลง One (เพื่อทำให้ poverty เป็น history) เพลง Walk On (ได้แรงกระตุ้นจากการต่อสู้ของ Aung San Suu Kyi) และเพลง Where the Streets Have a Name ดูซิครับ U2 - One: (เพื่อทำให้ poverty เป็น history) เพลง Walk On (ได้แรงกระตุ้นจากการต่อสู้ของ Aung San Suu Kyi องซานซูจี ) และเพลง Where the Streets Have a Name เพลง Walk On U2 - Where The Street Have No Name (Rattle and Hum) ความสุขมิได้เกิดจากแค่มีรถราคาแพงคันใหม่ เครื่องบินส่วนตัว อำนาจการเมือง และความมั่งคั่งเท่านั้น ยังมีสิ่งงดงามที่ควรปฏิบัติและมีคนยั่วยุให้เราทำตามอีกมากมายนักครับ (ข้อมูลหลักจาก Time, January 2, 2001) Attachments: Sunday Bloody Sunday(Rattle and Hum) U2 - Bloody Sunday ผู้แต่ง - เรียบเรียงโดย จิตติ พัวสุทธิ BARCODE - DY_10896 สำนักพิมพ์ - คอหนังคอเพลง รายละเอียด - “หรือ ว่าความสำเร็จคือยาเสพติดของคุณ? หรือว่าคุณกำลังถูกฉุดดึงด้วยความสงสัยต่างๆ นานา? มันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของตัวคุณเอง วิจารณญาณที่จะสรรค์สร้างโอกาส หากว่าพลาดชัวขณะนี้ไป คุณจะรับมันได้ไหม? การสูญเสียแรงบันดาลใจ ไปเป็นอาชญากรรมหรือไร? เป็นแน่สำหรับนักดนตรี”บาโน่: สุนทรพจน์วันรับปริญญาที่ฮาร์วาร์ดจากวงพั๊งก์ ต๊อกต๋อยในกรุงดับลิน ไอร์แลนด์ ก้าวขึ้นสู่ซุปเปอร์สตาร์ร็อกระดับโลก การเดินทางอันยาวไกลเปลี่ยนผ่านจากทศวรรษหนึ่งไปหาอีกทศวรรษหนึ่ง แน่นอนว่าเบื้องหลังเสียงปรบมือกึกก้องย่อมมีหยดเลือด หยาดเหงื่อ และคราบน้ำตานี่คือวิถีขบถ นี่คือไฟฝันของคนหนุ่ม นี่คือจิตวิญญาณคริสเตียน และนี่คือเรื่องราวของยูทู วงร็อกที่ก้าวออกจากสมรภูมิดนตรีอย่างสง่าผ่าเผย ในขณะที่วงดนตรีในรุ่นราวคราวเดียวกันหลายต่อหลายวงล้มคว่ำล้มหงายไปไม่ถึงดวงดาวดวงดาวแวววาว ดวงดาวพราวแสง... เอื้อมคว้ามันได้ แล้วไงกัน? วงดนตรีร็อกจะเป็นอันใดได้นอกจากวงดนตรี ร็อก? ทัศนคติมุมมอง และเอาตัวเข้าแลกเพื่อยืนหยัดในอุดมคติความเชื่อบางอย่างนั่นเองที่ทำให้ บาโน่ ลารี่ เคลย์ตัน ดิ เอดจ์ พ้องเพื่อนชาวยูทูล่วงพ้นไปจากศิลปินยอดนิยมที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปทั้งนี้ ทั้งนั้นก็เพียงเพื่อนิยามที่ว่า ครั้งหนึ่งเป็นแค่วงร็อก ต่อไปจะเป็นตำนาน ... ยูทูจากคำนำ โดย จิตติ พัวสุทธิ   Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552 19 comments Last Update : 9 พฤศจิกายน 2552 13:26:45 น. Counter : 2007 Pageviews. Share Tweet

ผมก็ชอบ U2 ครับ แต่มาเริ่มทำความรู้จักกับพวกสมัยชุด Achtung Baby แล้วก็ตามฟังมาเรื่อย ชอบเพลงช้าๆ ของพวกเขาอย่าง With or Without You กับเพลง Stay (Far away, So Close) แหม่ เห็นว่าชอบดูแต่หนังเก่าๆ ไม่ยักรู้ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลง U2 ด้วยนะเนี่ย อิอิ   โดย: Nanatakara 9 พฤศจิกายน 2552 8:22:49 น.

แวะมาทักทายค่ะ..หนูแบร์สบายดีเปล่า เพลงเพราะดีจ้า พี่ยังงานเยอะอยู่เลย ต้องเข้าออฟฟิตทุกวัน ไม่ได้มาทักทายทุกวันนะ u2 เหรอวันนี้... More Graphics Comment click here.   โดย: ตัวp_box 9 พฤศจิกายน 2552 11:44:03 น.

ผมก็ชอบ U2 ครับ แต่มาเริ่มทำความรู้จักกับพวกสมัยชุด Achtung Baby แล้วก็ตามฟังมาเรื่อย ชอบเพลงช้าๆ ของพวกเขาอย่าง With or Without You กับเพลง Stay (Far away, So Close) แหม่ เห็นว่าชอบดูแต่หนังเก่าๆ ไม่ยักรู้ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลง U2 ด้วยนะเนี่ย อิอิ โดย: Nanatakara วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:22:49 น. ตอบ เปล่า ชั้นโดนกรอกหู น้าน้าอาอาชั้นชอบเพลงพวกนี้ มันเลยซึมซับ มรดกตกทอดดดด พวกนี้มันเกเรจริงๆๆชอบเอาคนแก่มาล้อเล่น เดี๊ยว hell กินกะบาลลพวกนี้นิ๊ U2 - Stay (Faraway, So Close!): Video แฮะแฮะ ตอนเรียนเพลงนี้ฮิตติดชาร์ตรุ่นเรางะ แฮะแฮะ เพลงนี้มาแห่มาฟังกันทั้งบ้านเล๊ยยย ตล๊กดี U2 - Staring at the Sun (acoustic) - Live Popmart Santiago แถม U2 and Green Day "The Saints Are Coming" video สิ่งที่เราสงสัยเหมือนกัน U2 ในแผ่นเพลงจะออกหนักๆๆ เวลาเค้าเอามา ออก lives ชอบเป็นออร์คู๊ตสติ๊กกก ได้ฟิวส์ไปอีกแบบบ   โดย: Bernadette 9 พฤศจิกายน 2552 11:52:09 น.

แวะมาทักทายค่ะ..หนูแบร์สบายดีเปล่า เพลงเพราะดีจ้า พี่ยังงานเยอะอยู่เลย ต้องเข้าออฟฟิตทุกวัน ไม่ได้มาทักทายทุกวันนะ u2 เหรอวันนี้... โดย: ตัวp_box วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:44:03 น. ตอบ เรื่อยๆๆค่ะพี่แพ็ท ขอบพระคุณค่ะ เพลงจริงๆๆของ u2 ออกหนักหนัก หนูเอาที่เป็น lives มาฟัง ฟังแล้วมันซอฟขึ้นค่ะพี่แพ็ท ง่าเหมือนกันง่า ไถนาทุกวันงั๊บบไม่เป็นเวลา แง๊บบ เดี๊ยวหาประวัติเค้ามาลงต่อ แง๊ววว น๊อตหลุด เอาเพลงมาฝากพี่แพทค่ะ ขอให้มีความสุขกับการทำงานค่ะพี่ Live 8 - Beautiful Day   โดย: Bernadette 9 พฤศจิกายน 2552 11:59:55 น.

พี่ไม่ชอบหนังอีโรติกจ้าๆ เรื่อง color of the night ก้ไม่ได้ดูด้วย อิอิ แต่ชอบเพลงมันอ่ะ..จริงๆชอบหนังเกือบทุกแนวยกเว้นสยองขวัญ สั่นสะเทือนโรคจิตอะไรแบบนั้น..ดูแล้วเครียดอ่ะ..ไม่หวาย... ขอบใจจ่ะที่เอาเพลงมาฝาก..   โดย: ตัวp_box 9 พฤศจิกายน 2552 13:35:14 น.

พี่ไม่ชอบหนังอีโรติกจ้าๆ เรื่อง color of the night ก้ไม่ได้ดูด้วย อิอิ แต่ชอบเพลงมันอ่ะ..จริงๆชอบหนังเกือบทุกแนวยกเว้นสยองขวัญ สั่นสะเทือนโรคจิตอะไรแบบนั้น..ดูแล้วเครียดอ่ะ..ไม่หวาย... ขอบใจจ่ะที่เอาเพลงมาฝาก.. โดย: ตัวp_box วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:35:14 น ตอบ อ่าเห็นเปิดหน้ามาเป็ฯหนังอีโรติ๊กก นึกว่าชอบ หนังสยองขวัญ โรคจิต เอาไว้ข่มขู่ แบร์ว่าตล๊กดีค่ะ แบร์ชอบดูหนังซ่อนเงื่อน หักเหลี่ยม ม๊ากกว่า ผู้คนเขียนบท กะผู้กำกับสื่องั๊บบ ดูแล้วมีกิ๋นขึ้นมาหน่อย ยิ่งโง่โง่เอ๋อเอ๋ออยู่ ปัตตะนา งั๊บ เอามาฝากอีก เพลงแรงขึ้นมาอีกนิด กัวพี่แพทช๊อค U2 - Magnificent Live in London [HD - High Quality] BBC Rooftop ขอพื้นที่นี้เป็นของ U2 ร๊อคเทพเทพ แฮะแฮะ   โดย: Bernadette 9 พฤศจิกายน 2552 13:59:35 น.

สวัสดีครับนู๋แบร์ rattle and hum นี้ถ้าพี่ดีเจฯ จำไม่ผิด ได้ฉายในบ้านเราด้วยครับ พูดถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ ที่ โบโน หรือ U2 มักจะนำมาเขียนเป็นบทเพลง ก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจ แต่มีช่วงนึง ที่ทางวงแสดงคอนเสิร์ทแต่ละที ใช้เทคโนโลยี เยอะๆ น่าจะหลังชุด Zooropa ที่มีเพลง stay far away so close นี่แหละ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเวอร์มาก เช่น ระหว่างคอนเสิร์ท มีการตัดไปที่ประเทศแถบแอฟริกา อะไรแบบนั้น ช่วงหลังทางวงกลับสู่เบสิค กลายเป็นวงร๊อค 4 ชิ้น ธรรมดา ยังไง u2 ก็เป็นวงที่พี่ดีเจฯ ชอบมากวงนึง และอยากดูคอนเสิร์ทพวกเขาในประเทศไทยสักครั้ง   โดย: dj booboo 9 พฤศจิกายน 2552 16:03:19 น.

สวัสดีครับนู๋แบร์ rattle and hum นี้ถ้าพี่ดีเจฯ จำไม่ผิด ได้ฉายในบ้านเราด้วยครับ พูด ถึงเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองระหว่างประเทศ ที่ โบโน หรือ U2 มักจะนำมาเขียนเป็นบทเพลง ก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจ แต่มีช่วงนึง ที่ทางวงแสดงคอนเสิร์ทแต่ละที ใช้เทคโนโลยี เยอะๆ น่าจะหลังชุด Zooropa ที่มีเพลง stay far away so close นี่แหละ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเวอร์มาก เช่น ระหว่างคอนเสิร์ท มีการตัดไปที่ประเทศแถบแอฟริกา อะไรแบบนั้น ช่วงหลังทางวงกลับสู่เบสิค กลายเป็นวงร๊อค 4 ชิ้น ธรรมดา ยังไง u2 ก็เป็นวงที่พี่ดีเจฯ ชอบมากวงนึง และอยากดูคอนเสิร์ทพวกเขาในประเทศไทยสักครั้ง โดย: dj booboo วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:03:19 น. ตอบ ขอบพระคุณที่เสริมให้งั๊บพี่ดีเจ งั๊บมีอยู่ช่วงตามกระแส สุดท้ายคืนสู่สามัญ ถ้าเมืองไทย โห ใครกล้าจัด ใจถึงม๊ากกก ระดับโลกเลยงะ มากะดี จะได้เสพดนตรีขั้นเทพ   โดย: Bernadette 9 พฤศจิกายน 2552 16:29:42 น.

ขอนำบทความของ จานโค Mr.Cozy มาะปะค่ะ In The Name Of The Father (1993) TRAILER //www.oknation.net/blog/kakalot/2007/06/19/entry-1 นอังคาร ที่ 19 มิถุนายน 2550 in the name of the father - เมื่อตำรวจได้ครองประเทศ Posted by cozy , ผู้อ่าน : 282 , 10:10:48 น. หมวด : ภาพยนตร์/ละคร พิมพ์หน้านี้ จานโค บอกว่า U2 เป็น Soundtrack Film เรื่องนี้ด้วยค่ะ U2 bono & Gavin Friday - In the name of the father เชื่อกันว่าสมัยที่เราได้นายกฯเป็นอดีตตำรวจ มีผู้ถูกอุ้ม-ฆ่าในกรณีต่างๆโดยบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมถึงประมาณ 3000 พันคน หนังได้เข้าชิงออสก้าร์ 7 รางวัลรวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม - นำชาย - นำหญิง - บท - ผู้กำกับ in the name of the father เป็นภาพยนตร์ที่อ้างอิงมาจากเหตุการณ์จริง นำมาจากหนังสือเรื่องหนึ่งซึ่งพูดถึงกรณีจับแพะที่สะเทือนระบบยุติธรรมของ ประเทศอังกฤษอย่างมากที่สุดหนังสือเขียนโดย เจอร์รี่ คอนลอน - Gerry Conlon ชื่อ Proved Innocent อังกฤษ ยุค 70 เป็นยุคที่อ่อนไหวมากในเรื่องก่อการร้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขบวนการแบ่งแยกดินแดนไอริชที่รู้จักดีในชื่อ ไออาร์เอ ที่เคลื่อนไหวโดยมีจุดประสงค์เรื่องความเป็นอิสระจากอังกฤษของประเทศ ไอร์แลนน์เหนือ วิธีการที่ใช้คือเล่นใต้ดิน จับตัวข้าราชการ หรือ วางระเบิด - คดีที่ร้ายแรงที่สุดคือการวางระเบิดที่ผับกลินฟอร์ต เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1973 มีผู้เสียชีวิต 5 คนและบาดเจ็บถึง 64 คน - จะ ด้วยความกลัวก็ดี หรือความต้องการจัดการกับปัญหานี้อย่างเด็ดขาดก็ดี รัฐบาลอังกฤษได้ออกกฎหมายที่ชื่อ กฎหมายการป้องกันการกระทำอันอาจจะเป็นการก่อการร้าย - The Prevention of Terrorism Act กฎหมาย นี้ระบุให้อำนาจตำรวจชนิดล้นฟ้าล้นแผ่นดิน พวกเขาสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยโดยไม่ต้องตั้งข้อหานานถึง 7 วัน ไม่ต้องให้พบทนาย - ที่เขียนเอาไว้ก็เรื่องหนึ่ง แต่ที่รับรู้กันโดยไม่ต้องเขียนคือตำรวจสามารถใช้การข่มขู่ทรมานทุกรูปแบบ เพื่อให้ผู้ต้องสงสัยสารภาพมาซะ เดเนียล เด ลีวิส เล่นเรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ฟังดูก็คุ้นๆแต่เรื่องนี้ของอังกฤษเขามีเมื่อ 30 ปีมาแล้ว ของไทยเราน่ะเพิ่งมีคนล้าหลังเอามาใช้ราว 5 ปีก่อนเท่านั้น In the Name of the Father - Final Scene Good speed จอร์ รี่ คอนลอน เป็นเด็กหนุ่มไอริชที่ดูจะเอาดีอะไรไม่ได้ เขาไม่ถูกกับพ่อ จูเซปเป้ คอนลอน ที่เป็นแค่บุ๊ดเกอร์นัก วันๆก็แค่ลักเล็กขโมยน้อยไปตามเรื่อง จนวันหนึ่งไปทำเรื่องให้พวกไอร์อาร์เอเดือดร้อน จึงถุกส่งตัวมาอยู่ลอนดอน เขามากับเพื่อนชื่อ พอล ฮิวว์ มาอาศัยอยู่กับเพื่อนคือ แพตทริก อาร์มสตรอง และเพื่อนสาว คาร์โลน ริชาร์ดสัน บางคราวก็ไปอาศัยน้า แอนนี่ บ้าง คดี Guildford Four ก็ เริ่มจากนี้ ในคืนเกิดเหตุระเบิดผับกลิลฟอร์ต มีคนแจ้งว่ามีคนเห็น เจอร์รี่ กับพอล ไปอยู่บริเวณใกล้ๆที่เกิดเหตุ ผลก็คือถูกกับกราวรูด นอกจากเขาทั้ง 4 ตำรวจยังจับ พ่อ น้า และญาติๆเขาอีกหลายคนทั้งหมดถูกแยกขัง ทรมานด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้รับสารภาพ แม้กระทั้งขู่จะยิงพ่อของเจอร์รี่ทิ้งซะ!!! - แม้จะดูไม่เคารพพ่อเท่าไร แต่พอได้ยินแค่นั้น เจอร์รี่ก็รีบลนลานเซ็นคำสารภาพทันที ที่ หนักกว่านั้นคือ เอกสารยืนยันพยานและสถานที่ว่าเขาทั้ง 2 บริสุทธิ์ตำรวจเก็บเอาไว้อย่างดี แถมยังปิดหน้าซองว่า "ห้ามไม่ให้ทนายจำเลยรู้เห็น" !!!! - ผลเป็นไงคงเดาไม่ยาก ศาลก็ตัดสินตามข้อมูลที่ตำรวจชงมาอย่างหนัก กลิลฟอร์ตทั้ง 4 ถูกจำคุกตลอดชีวิต พ่อของเจอร์รี่โดน 15 ปี ญาติๆทั้งหลายอย่างน้าแอนน์โดน 7 ปีบ้าง 5 ปีบ้างตามลำดับ ว่า แล้วก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า บรรดา 3พันกว่าศพที่อ้างกันว่าเป็นผลงานของนายกฯทักษิณน่ะ มีผลออกมาละยังว่าเป็นผู้ค้ายาจริงๆกี่ราย ชาวบ้านที่ซวยไปอย่าง เจอร์รี่ย์ ลอนลอนกับพวกกี่ราย ? หนัง เปิดตัวโดยการเข้ามดูคดีนี้ของทนายสาว แกเรท เพียซ์ Gareth Pierce ก่อนจะย้อนกลับไปว่าถึงเรื่องราวแต่ต้น หนังเดินเรื่องดีมาก ชัดเจน ความสำพันธ์ของพ่อกับลุกที่เพิ่งมาเข้าใจกันในคุก เขามองพ่อว่าขี้ขลาดไม่กล้าสู้คน แต่พอพบกับความรุนแรงอย่างหนักของทั้งฝ่ายตำรวจและไอร์อาร์เอ หลังจากเจอร์รี่เริ่มรู้ว่าการรับมือกับความอยุติธรรมไม่ควรใช้ความรุนแรง แต่ต้องใช้สติและเรียกร้องอย่างสงบเท่านั้น เดเนียล เด ลีวิส - Daniel Day Lewis เล่นได้ดีมาก แสดงให้เห็นความเติบโตของ เจอร์รี่ อย่างชัดเจนจากเด็กหนุ่มไม่รู้ความสู่ผู้ใหญ่ที่ใจมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่จะ สู้กับอำนาจรัฐเถื่อนๆ การเรียกร้องความยุติธรรมให้กลุ่ม มีทั้งในคุกและนอกคุก เกเรท ได้จัดตั้งการรณรงค์ให้รื้อฟื้นคดีเพราะมีช่องโหว่มากมาย และสุดท้าย ศาลจึงสั่งยกฟ้องในปี 1989 รวมแล้วพวกเขาติดคุกฟรีๆ คนละ 15 ปี ไม่นับว่าคนอื่นๆที่ติดแล้วออกมาก่อน รวมทั้งพ่อของ เจอร์รี่ ที่ตายไปในคุก - ซึ่งก็คือที่มาของชื่อหนังเพราะเจอร์รี่ พยายามเรียกร้องทุกอย่างให้รัฐประกาศว่าพ่อเขาบริสุทธิ์ - in the name of the Father The Guildford Four เจอร์รี่ย์ ลอนลอน (ซ้ายบน) กับพวก การ เปิดเผยที่สะเทือนใจที่สุดคือ หลังจากศาลตัดสินว่าเขาเจอร์รี่ ผิดแค่ไม่กี่เดือน ตำรวจได้จับนาย แบรดแดน ดาว์ล และ โจ โอ คอลแนล ทั้งสองเป็นสมาชิกไอร์ อาร์ เอ และได้สารภาพว่าเขาเป็นผู้วางระเบิดผับกลิลฟอร์ตด้วยตนเอง แต่กรมตำรวจก็ละเลยเสียเพราะไม่อยากขายหน้าว่าไปจับแพะมาเข้าคุก!!!! - ที่เฮงซวยกว่านั้นคือในกรณีนี้มีนักสืบ 3 คนเท่านั้นถูกให้ออก แต่ระดับใหญ่ๆรอดตัวไปทุกคน ว่าแล้วเราก็มารอดูคดีทนายสมชาย นีลไพจิตร ดูสิว่าจะสาวไปถึงระดับไหน หรือได้แค่ปลาซิวปลาสร้อยตามระเบียบ ภาพยนตร์ กำกับโดย จิม เชอร์ริงแดน - Jim Sheridan ทีมนักแสดงนอกจาก เด ลีวิส แล้วยังมี เอมม่า ธอมป์สัน รับบทเป็นทนาย แกเรท และ พีท ซิลเวอร์เซส รับบทเป็น จูปเซปเป้ คอนลอน ซึ่งก็เล่นได้ดีทั้งหมด หนังเดินเรื่องได้กระชับ ทรงพลัง ดนตรีประกอบที่ได้ โบโน แห่ง ยูทู มาทำให้ก็ยอดเยี่ยมมากๆ การ สร้างความหวาดระแวงภัยให้กับประชาชนโดยรัฐ เพียงเพื่อจะใช้อำนาจได้เต็มไม้เต็มมือ อาจจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ กระทั้งได้คะแนนเสียงจากพวกใจร้อน ไม่สนใจชีวิตและสังคมอื่นนอกจากตัวเอง แต่สำหรับผมแล้ว การที่เราไปอนุญาติให้รัฐบาลไปสร้างกระแสความกลัวให้ประชาชนจนยอมให้ใช้ อำนาจแบบไม่มีขีดจำกัดน่ะ มันอันตรายยิ่งกว่าโจรจริงๆซะอีก   โดย: Bernadette 9 พฤศจิกายน 2552 17:06:13 น.

สวัสดียามเย็น ยังไม่ได้ถามเลยว่า ลอยกระทงปีนี้เอาหัวใจตัเองบอยไปตามน้ำแล้วหรือยัง......   โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 9 พฤศจิกายน 2552 19:12:56 น.

สวัสดียามเย็น ยังไม่ได้ถามเลยว่า ลอยกระทงปีนี้เอาหัวใจตัเองบอยไปตามน้ำแล้วหรือยัง...... โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:12:56 น. ตอบ งะไม่ได้ลอยพี่เจ้าหยิง เค้าไปสวดกันงะ รถติดหนึบเล๊ยย   โดย: Bernadette 9 พฤศจิกายน 2552 21:50:46 น.

คุณรู้สึกแบบเดียวกับฉันมั้ย หรือฉันแค่ฝันไป หรือนี่เป็นไฟรักที่จะลุกโชนชั่วนิรันด์.. เอา Eternal Flame ไปแปะให้พี่ฟัง หมดวัยไฟรักลุกโชนแล้วอ่ะน้องแบร์ อิอิ..แอปเด็กไหวมั้ยเนี๋ย.. ปล.พี่แพทยังงานยุ่งอยู่ไม่งั้นจะมารื้อหนังที่บ้านน้องแบร์เป็นข้อมูลนะ Hello Comments Hi5   โดย: ตัวp_box 10 พฤศจิกายน 2552 10:24:44 น.

คุณรู้สึกแบบเดียวกับฉันมั้ย หรือฉันแค่ฝันไป หรือนี่เป็นไฟรักที่จะลุกโชนชั่วนิรันด์.. เอา Eternal Flame ไปแปะให้พี่ฟัง หมดวัยไฟรักลุกโชนแล้วอ่ะน้องแบร์ อิอิ..แอปเด็กไหวมั้ยเนี๋ย.. ปล.พี่แพทยังงานยุ่งอยู่ไม่งั้นจะมารื้อหนังที่บ้านน้องแบร์เป็นข้อมูลนะ โดย: ตัวp_box วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:24:44 น. ตอบ แบร์เขียนแต่หนังอะไรก็ไม่รู้อะพี่แพท history chanel เพลงไฟสุมทรวง เค้าเอามาล้อกันเล่นค่ะ ง่าเอาเพลงมาฝากพี่แพทค่ะพื้นที่นี้ ขอเป็นของ U2 เป็น soundtrack ค่ะ From Gans of New York Soundtrack U2 - The hands that built America Adam Clayton & Larry Mullen Jr สองคนนี้มาทำงะ - Mission Impossible ชอบม๊ากกตากล้อง ไบรอัน เดอร์พามา The Ground Beneath Her Feet 2000 by U2 - OST.Million Dollar Hotel GoldenEye - Bono & The Edge จากเรื่อง เจมส์บอน1995 Bono เขียนเพลงนี้งะ Bono - Hallelujah Tower of Song :A Tribute to Leonard Cohen gospel song called "Lean on Me", an interpretation of the Bill Withers song. ง่าว่างค่อยมาตีความ   โดย: Bernadette 10 พฤศจิกายน 2552 13:15:34 น.

พรุ่งนี้ไม่ได้เข้ามานะน้องแบร์..อ้อ เมื่อกี้พี่แพทแวะไปอ่านบล็อกหนูแบร์มา สุดยอดเลยอ่ะ..ท่าทางชอบประวัติศาสตร์จริงๆนะเนี๋ย รู้เยอะจริงๆ..แวบไปดูงาน art มาด้วย   โดย: ตัวp_box 10 พฤศจิกายน 2552 17:13:07 น.

พรุ่งนี้ไม่ได้เข้ามานะน้องแบร์..อ้อ เมื่อกี้พี่แพทแวะไปอ่านบล็อกหนูแบร์มา สุดยอดเลยอ่ะ..ท่าทางชอบประวัติศาสตร์จริงๆนะเนี๋ย รู้เยอะจริงๆ..แวบไปดูงาน art มาด้วย โดย: ตัวp_box วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:13:07 น. ตอบ ลอกเค้ามา ตัดแปะทั้งนั้นเลยค่ะพี่แพท เพราะตัวเองไม่รู้ก็เลยอยากรู้อะค่ะ เวลาอ่านหนังสือ หรืออะไรนึกได้ขึ้นมาก็มาค้นหาง่ายๆๆค่ะ งาน art กะก๊อบเค้ามตัดแปะค่ะ เวลานึกภาพ เอ ศิลปินนี้ของใคร ก็เลยจำง่ายค่ะ กะเอาไว้เป็นแรงบันดาลใจค่ะ พี่แพท ชอบเขียนเล็กๆๆน้อย คนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องงะ แฮะแฮะ กะตอนเด็กๆการบ้าน คุณครูจะซีร๊อก ภาพอะไรกะได้ให้จินตนาการ และกะเขียนแสดงออกมา กะเล่นการบ้านแบบนี้ตั้งหลายปี คุณครูกะเขียนคอมเม็นต์เทเตอร์ให้ ไม่ซึมกะไม่รู้จาว่าไงแหล่ว งั๊บ คะแนน แบร์กะจะรอ สองคำ อิอิจากคุณครูExcellent , Well done คำว่า Good นี้แบร์ฮึดสู้ต่อเลยงั๊บ แบร์ว่าตึความจากเพลงยากกว่าอีกอ่า โต๊ตๆๆ สาธยายแรงบันดาลจายยย สรุป ลอกเค้ามา ก๊อปปี้ ตัดแปะ งั๊บบ คงต้องใช้เวลาอีกนานเงิ๊บบ ที่มีรูปแบบเป็นตัวของตัวเอง แง๊ววว เอาเพลงมาฝากงั๊บบ U2 Knocking on Heaven´s Door live from Miami 2001   โดย: Bernadette 10 พฤศจิกายน 2552 18:05:15 น.

โกแกง “พระเยซูเหลือง” (Le Christ jaune) ที่เขียนในปี ค.ศ. 1889 ถือกันว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของงานเขียนแบบคลัวซอนนิสม์ พอล โกแกงลดบริเวณต่างในภาพลงมาเหลือเพียงสีเหลืองโดยแยกพระเยซูออกมาด้วยขอบสีดำหนัก งานลักษณะนี้เกือบจะไม่ให้ความสนใจในทฤษฎีการเขียนภาพแบบทัศนียภาพที่เคยทำกันมาและลบการลดหลั่นของสีต่างๆ ในภาพจนแบนราบ —ซึ่งเป็นสองลักษณะที่เด่นของการเขียนภาพแบบเรอเนซองส์สมัยหลัง   โดย: Bernadette 10 พฤศจิกายน 2552 18:21:50 น.

หวัดดีตอนสายจ้าน้องแบร์ สบายดีมั้ย ทานข้าวกลางวันกับอะไร เผื่อพี่บ้าล่ะ อิอิ.. More Graphics Comment click here.   โดย: ตัวp_box 12 พฤศจิกายน 2552 12:38:16 น.

หวัดดีตอนสายจ้าน้องแบร์ สบายดีมั้ย ทานข้าวกลางวันกับอะไร เผื่อพี่บ้าล่ะ อิอิ.. โดย: ตัวp_box วันที่: 12 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:38:16 น. ตอบ แง๊วว ยังมะได้ทานเล๊ยย รองานแง๊กกก แง๊วว หิวหิว นั่งขีดเขียนรอไปโลดดดด เอาเพลงมาฝากค่ะ กะลุงบรู๊กสปริงทีน ลุงบรูซแกเป็นคาทอลิกด้วยยค่ะ U2 & Bruce Springsteen - I still haven't found what I'm look   โดย: Bernadette 12 พฤศจิกายน 2552 15:00:21 น.

ชอบ U2 มากมายครับ   โดย: คนขับช้า 27 พฤศจิกายน 2552 18:29:55 น.