แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
11 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

Nostalghia (1983) :Andrei Tarkovsky 's film

nostalgia [N] ความอาลัยอาวรณ์, See also: ความรู้สึกโหยหา, ความคิดถึง, Syn. longing

nostalgia [N] โรคคิดถึงบ้าน, Syn. homesickness, loneliness

nostalgia (นอสแทล'เจีย) n. การครุ่นคิดอยากให้กลับมาซึ่งประสบการณ์,สิ่งของหรือความคุ้นเคยในอดีต, S. . nostalgic adj.

เราไม่เคยดู Film ของ อังเดรย์ ธาคอฟสกี้ เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลกที่รักหนังอะ กะได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆตรึม เรามองว่า หนังของเค้าออก Cult แนวแนว ดูยากสำหรับเรา ดูเรื่องนี้ กุมขมับดูเลยอะ หนังรัสเซีย ส่วนม๊ากกออกกลิ่นอายทึมทึมยังไงกะไม่รู้ แต่ก็พยายามที่จะหัดดูงะ

ถ้าเพื่อนๆคนใหนรู้จักอังเดรย์รบกวนเสริมให้ด้วยค่ะ

Nostalghia (English subtitles). Part 1/12.




Film ของ Tarkovsky มันเป็ฯภาพยนต์กวีกับใช้ระบบสัญลักษณ์
แม้ว่า ภาพลักษณ์ของ Film มันน่าเบื่อที่ย้อนกลับไปกลับมา พื้นที่ของ Film ที่สื่อมันเต็มไปด้วยที่ลุ่มที่มีน้ำขัง เนินเขาในหมอก และสิ่งก่อสร้างที่ได้ถูกละทิ้ง กับความหมายของน้ำไหลใน Film และนักแสดงที่กำลังสื่อและให้เหตุผลกับมัน

ใน Film สื่อเกี่ยวกับค้นหาตัวเองของแต่ละคนที่ประเทศอิตาลี ซึ่งเห็นบ่อยๆในรูปแบบของความรักที่สื่อในการเล่าเรื่องย้อนอดีต และ จินตนาการส่วนมากของFilm สื่อเป็นภาพขาวดำ มันเป็ฯภาพที่มีหมอก มืดมน โบส์ถสมัยโบราณ เขตเมืองที่เก่าแก่ และกะเกษตรกรบางครั้งคราว



Tarkovsky กะสื่อให้เห็ฯสิ่งแปลกๆๆใหม่ๆๆที่พบได้ ในFilm นั้นคือในภาพลักษณ์ของความืดครึ๊ม อึมทึม ของฉาก ที่นักแสดง เดินผ่านไปในหลายๆๆที่ ที่เห็ฯอยู่ใน Film มันเหมือนกับว่า
พวกเค้าทั้งหมดนั้น กำลังรอคอย........ความหวัง...ทั้งที่มันยังไม่ได้ปรากฎ


ภาพยนต์เรื่องนี้มันคือตัวแทนของประสพการณ์ส่วนตัวกับโรคของความคิดถึงบ้าน(nostalghia)ของเค้าในช่วงระหว่างการเนรเทศ

ในความเป็ฯจริง ธาคอฟสกี้ เรียกตัวเอกของเรื่องว่า อังเดร กอร์ชาคอฟ Andrei Gorchakov มันคือ...."mirror ที่สะท้อน" ...ตัวของเธอร์คอฟกี้เอง

การเนรเทศของ เกอร์ชาคอฟ ก็เหมือนกับชีวิตของธาคอฟสกี้ คือ Film ที่ปรากฎออกมา

Nostalghia อังเดรร่ายกวี ท่ามกลางน้ำไหล


ใน Film
กับความตั้งใจของเค้าที่เดินทางไปอิตาลีเพื่อค้นหาวิจัยรูปแบบในการดำเนินชีวิตของ Pavel Sosnovsky เค้ามาเรียนที่นี้ใน Bologna นักประพันธ์ดนตรีในศตวรรษที่ 18 ผู้ซึ่งเป็นโรคคิดถึงบ้านเช่นกัน และอะไรผลักดันให้เค้าฆ่าตัวตาย

ในตัวจริงของ Sosnovsky คือ Maximillian Beryozovsky,ในศตวรรษที่ 18 เค้าเป็นนักประพันธ์ดนตรีชาวยูเครน

เธอร์คอฟกี้ สื่อ เรื่องราวของ โซสน๊อฟสกี้Sosnovsky บนแผ่นฟิล์ม คือ กระจกที่สะท้อนอยู่ในตัวของ กอร์ชาคอฟ Gorchakov ที่รับรู้เรื่องราวโรคคิดถึงบ้านได้ดีกว่า

อังเดรมีผู้ช่วยซึ่งเป็นล่ามให้เธอชื่อ ยูจีน่า ซึ่งเป็นชาวอิตาลี กับความสำพันธ์ระหว่างเค้ากับเธอ

มันกลับกลายเป็นว่า กับเจตนานี้ มันคือ......ความเข้าใจ.....ที่ขาดความเห็ฯใจของอังเดร




กับสหายของอังเดรที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ โดมินิโก เค้ามีอาการป่วยทางจิต และสูญเสียสิทธิพลเมืองบางอย่างของชุมชน กับสถานการณ์ที่ยุ่งยากที่เกิดจากตัวเค้าเอง และกับครอบครัวของเค้า มันค่อยๆสะสมและค่อยๆๆกลายเป็นความรู้สึกที่กลัววันสิ้นโลก

ไฮปาร์คของโดมินิโก้
#1 NOSTALGHIA - The Greatest Films-a list by Carlos de Mello


Tarkovskij's testament




ยูจีน่าได้ออกจากโรมโดยไปกับผู้ชายอีกคน โดมินิโกกะไปโรมเช่นกัน โดมินิโกไปไฮปาร์คเพื่อการประท้วง และเค้าจุดไฟเผาตัวเอง จนถึงแก่ความตายต่อหน้าฝูงชนกลางจตุรัส

และตอนจบ ที่กล่าวถึงอังเดร as water is life. The man with the candle


และมันคือตอบจบที่แปลกๆๆดี
Tarkovsky, Nostalghia (1983)


กับการตีความหมายของ The Madonna of Childbirth! ที่ Tarkovsky ต้องการสื่อ

Nostalghia (English subtitles). Part 2/12.


กับซีนแรกเปิดฉากมา ยูจิน่า และโกชาคอฟกี้ ได้ไปเยี่ยมชมthe Madonna del Parto คือการตีความหมายได้หลายอย่างของในFilm จากที่เห็ฯพวกผู้หญิงกำลังสวดขอลูกจากพระแม่มารีย์ และยูจิน่าไม่ได้ขอพร และตัวของ โกชาคอฟที่เค้าคิดGorchakovนั้นคือเค้าคิดถึงภารยาของเค้า

ยูจิน่าเจอบาทหลวงคุณพ่อ ...บาทหลวงคุณพ่อให้เธอขอพร ....ยูจีน่าบอกว่า อธิฐานและจะช่วยอะไรได้ ...บาทหลวงคุณพ่อบอกว่า ..อธิฐานขอพร แล้วคุณจะสมหวัง



ยูจิน่าไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ...ยูจิน่าเห็ฯพวกผู้หญิงกำลังแห่พระแม่และเทียน และสวดกัน ทำไมพวกเธอถึงทำกัน ...เห็นมานักต่อนักแล้ว ...บางครั้งคุณพ่อก็นึกสงสัยบ้าง...ถูกมั๊ยละ

บาทหลวงคุณพ่อบอกว่า ..ยูจิน่า น่าจะเข้าใจดี เธอตอบกลับไปว่า.... เพราะฉันเป็ฯผู้หญิงเหรอ

บาทหลวงคุณพ่อ:ความเห็ฯพ่อในฐานะมนุษย์ทั่วๆไป ก็เพราะเป็ฯหน้าที่ของสตรี..สตรีต้องคลอดบุตรไม่ใช่เหรอ ...ต่อจากนั้นก็ต้องเลี้ยงดู...อดทน...และเสียสละ ...มันจำเป็ฯมาก



เหล่าผู้หญิงที่มาสวดขอบุตรจากพระแม่มารีย์



Pitiful Mother, merciful Mother
พระแม่ผู้น่าสงสาร ,พระแม่ผู้กรุณาปรานี
Painful Mother, tormented Mother
พระแม่ผู้เจ็บปวด,พระแม่ผู้ระทมทุกข์
Merciful Mother,compassionate Mother
พระแม่ผู้ปรานี,พระแม่ผู้ ที่รู้สึกเศร้าใจไปกับความทุกข์ของผู้อื่น
Anxious Mother, blessed Mother
พระแม่ผู้ห่วงใย,พระแม่ผู้ประทานพร
Loving Mother, bright Mother
พระแม่ผู้เป็ฯที่รัก,พระแม่ผู้สว่างไสว
Mortified Mother, holy Mother
พระแม่แห่งผู้ถูกดูถูกเหยียดหยาม, พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์
Painful Mother, proud Mother
พระแม่ผู้เจ็บปวด,พระแม่ผู้ภาคภูมิใจ
Inspired Mother, bright Mother
พระแม่ผู้เป็นแรงบันดาลใจ,พระแม่ผู้สว่างไสว

Mother of all mothers, who knows
the pain of being a mother
พระแม่แห่งมารดาทั้งหมดผู้ซึ่งรู้ซึ๊งถึง ความเจ็บปวดของความเป็นแม่

Mother of all mothers, who knows
Mother of all children, who
knows the joy of having a child
พระแม่แห่งมารดาทั้งหมดผู้ซึ่งรู้ซึ๊งถึงความดีใจของการมีบุตร

Mother of all children, who knows
the pain of not having a child
พระแม่ผู้รู้ซึ๊งถึงความทุกข์ใจของการไม่มีบุตร

Mother who understands all, help
your daughter to become a mother
พระแม่ผู้เข้าใจทุกอย่าง ช่วยให้คนอย่างลูกได้กลายเป็นมารดาคน

Tarkovskyธาร์คอฟกี้ เลือกรูปภาพนี้ เพราะว่า เค้ายังคงคิดถึงภารยาของเค้า และภาพนี้ไม่ได้เป็ฯภาพที่รู้จักกันมากนัก อย่างไรกะตาม มีใบอนุญาติจากกรมศิลปะของอิตาลีให้ใช้ถ่ายทำและเอ่ยชื่อได้


และกับคำถามในหัวใจสำคัญของซีน ทำไมหลังจากการเดินทางเป็นร้อยๆไมล์ที่ยูจีน่าต้องการเห็ฯพระแม่มารีย์ (the Madonna) และ โกชาคอฟไม่ต้องการเข้าไปในโบส์ถ?

นั้นคือ แม่พระ the Madonna del Parto คือการหักเหของแสงสว่าง และ และส่องกลับมาสะท้อนให้เห็ฯใน Film กับพื้นฐานแตกต่างกันนั้นของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อารมณ์ /วัฒนธรรม และ ความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง และในภายหลังทั้งคู่ได้มาทำงานร่วมกัน นั้นคือควาคิดของของ Tarkovskyธาร์คอฟกี้ ที่สื่อนำศิลปะเข้าไปในบนแผ่นฟิลม์

และจริงๆแล้ว Tarkovsky ให้ตัวละคร โกชาคอฟGorchakov ไม่สมควรเข้าไปในโบส์ถ มันกะเหมือนกับตัวของ Tarkovskyเอง

(ประมาณว่า Tarkovskyธาร์คอฟกี้แกถ่อมตนอะ เหมือนกับว่า... เค้าดีไม่พอที่เจ้าเข้าโบสถ์อะ คนโบราณเค้าบอกกันว่า สมัยก่อน... ถ้าดี ไม่พอ... กะไม่กล้าเข้าโบส์ถ... ทำนองนี้งะ)




Artist Piero della Francesca
Year after 1457
Type detached fresco
Location Museo della Madonna del Parto, Monterchi

Madonna del Parto e piano strutturale

พระแม่มารีแห่งพาร์โต (ภาษาอิตาลี: Madonna del Parto) เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยเปียโร เดลลา ฟรานเชสกา จิตรกรสมัยสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลี ที่ปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์มาดอนนาเดลพาร์โตที่มอนเตร์ชิในประเทศอิตาลี

“พระแม่มารีแห่งพาร์โต” เป็นงานที่เขียนหลังปี ค.ศ. 1457 เปียโรใช้เวลาเขียนเพียงเจ็ดวัน ใช้สีที่มีคุณภาพดีและส่วนใหญ่เป็นสี “blu oltremare” ซึ่งทำจากหินลาพิส ลาซูริ (lapis lazuli) ซึ่งเป็นหินสีน้ำเงินที่มีค่าที่ใช้กันในยุคกลางที่มาจาก ประเทศอัฟกานิสถานผ่านทางสาธารณรัฐเวนิส

จิตรกรรมเดิมอยู่บนผนังของวัดซานตามาเรีย ดิ โมเมนตานาซึ่งเป็นวัดเล็กๆ ที่เมืองมอนเตร์ชิบนเขา แต่วัดมาถูกทำลายเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1785 ซึ่งทำให้ต้องเลาะงานเขียนออกจากผนังและนำไปตั้งเหนือแท่นบูชาเอกภายในชาเปลใหม่ในสุสาน ในปี ค.ศ. 1992 ภาพเขียนก็ถูกย้ายไปตั้งที่พิพิธภัณฑ์มาดอนนาเดลพาร์โตที่มอนเตร์ชิ งานนี้เพิ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นงานของเปียโร เดลลา ฟรานเชสกาในปี ค.ศ. 1889 แต่เวลาที่เขียนยังไม่เป็นที่ตกลงกันได้ซึ่งประมาณว่าอาจจะระหว่างปี ค.ศ. 1450 ถึงปี ค.ศ. 1475 จอร์โจ วาซารีจิตรกรและนักประพันธ์จากคริสต์ศตวรรษที่ 16 บ่งว่าเขียนเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1459 เมื่อเปียโตรกลับไปซานเซพอลโครในโอกาสที่แม่เสียชีวิต

ภาพเขียนนี้มีบทบาทสำคัญในนวนิยายของริชาร์ด เฮเยอร์ “Visus”, ในภาพยนตร์โดยอันเดร ทาร์คอฟสกี “Nostalghia” และโคลง “ซานเซพอลโคร” โดย โจรี แกรม


ความหมาย
ภาพพระแม่มารีทรงครรภ์เป็นหัวเรื่องหนึ่งในชีวิตของพระแม่มารีที่นิยมเขียนกันในตอนต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในทัสเคนี เช่นงานเขียนของแทดดิโอ แกดดี (Taddeo Gaddi), เบอร์นาร์โด แดดดี (Bernardo Daddi) และ นาร์โด ดิ ชิโอเน (Nardo di Cione) ที่จะเป็นพระแม่มารีในรูปที่ทรงยืนอยู่คนเดียวโดยมีหนังสืออยู่เหนือพระครรภ์ซึ่งเปรียบเหมือนโลก

แต่พระแม่มารีของเปียโรไม่มีทั้งหนังสือและสิ่งใดที่เป็นสัญลักษณ์เช่นภาพเขียนในหัวเรื่องเดียวกันที่เขียนกันก่อนหน้านั้นในยุคกลาง ในภาพของเปียโรพระแม่มารีทรงยืนมีพระหัตถ์ซ้ายเท้าสะเอวพระหัตถ์ขวาอยู่บนพระครรภ์เป็นทำนองพยุง สองข้างกระหนาบด้วยเทวดาที่เบิกม่านของศาลาที่ภายในตกแต่งด้วยผลทับทิมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทุกขกิริยาของพระเยซูที่จะมาถึง เทวดาสององค์สองข้างเหมือนกันเพียงแต่กลับข้างกัน เพราะจิตรกรใช้ร่างเดียวกันปรุผนังก่อนวาด ส่วนบนของภาพสูญหายไป

สัญลักษณ์ทางคริสต์ศาสนวิทยาค่อนข้างจะซับซ้อน มอริซิโอ คาลเวซิ[1]เสนอว่าอาจเป็นสัญลักษณะของ “หีบพันธสัญญา” (Ark of the Covenant) โดยมีพระแม่มารีเป็นผู้ประสานเพราะทรงเป็นพระมารดาของพระเยซู ส่วนนักวิชาการผู้อื่นสันนิษฐานว่าศาลาเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์ศาสนจักรและพระแม่มารีคือสัญลักษณ์ของ “แท่นบูชา” (Tabernacle) เพราะทรงเป็นผู้แบกร่างของพระเยซูก็เป็นได้
Source: wiki-Madonna del Parto





Interior of the church of Saint Peter.
แต่สถานที่ถ่ายทำจริงๆๆ ผู้กำกับ Tarkovsky เลือกที่ the crypt of a Romanesque church in Tuscania called San Pietro,
ห่างไปประมาณ 120 กม.




Andrei Tarkovsky Talks about his favorite Directors




อังเดรย์ ทาร์คอฟสกี้ (Andrei Arsenyevich Tarkovsky) เกิดในวันที่ 4 เมษายน 1932 ที่หมู่บ้านเล็กๆในเมือง Zavrzhe (Savrashye) ริมฝั่งแม่น้ำโวลก้า เขาเป็นบุตรชายของกวีคนสำคัญของรัสเซีย อาร์เซนี ทาร์คอฟสกี้ (Arseni Tarkovsky, 1907-1989) ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นนักแปลยังไม่มีผลงานกวีตีพิมพ์ และ มาเรีย อีวานอฟนา (Maria หรือ Maya Ivanovna Vishnyakova) ทั้งสองคนกำลังศึกษาอยู่ที่ Bryusov Institute (สถาบันทางวรรณกรรมของมอสโคว์) เมื่อตอนที่มาเรียท้อง ทำให้เธอต้องทิ้งการเรียนไป และไม่เคยได้ประกาศนียบัตรใดๆ แต่เธอก็ยังสนใจวรรณกรรมอยู่ตลอดมา และถ่ายทอดมันสู่อังเดรย์ด้วย

เดือนมิถุุุนายนปีเดียวกัน อาร์เซนีเดินทางกลับไปทำงานในมอสโคว์ และไม่เคยกลับมาอีกเลย ทั้งสองหย่าขาดจากกันเมื่ออังเดรย์อายุได้ 3 ขวบ และน้องสาวมารีนา (Marina) อายุได้ขวบครึ่ง พ่อเขาแต่งงานใหม่ ส่วนอังเดรย์อาศัยอยู่กับแม่โดยย้ายบ้านไปมอสโคว์ในปี 1935 มาเรียหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการทำงานเป็นคนพิสูจน์อักษรของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ขณะที่หมู่บ้านเกิดของอังเดรย์นั้น ต่อมาต้องจมอยู่ใต้น้ำภายหลังการสร้างเขื่อน

ในช่วงสงครามโลกที่ 2 ครอบครัวทาร์คอฟสกี้ย้ายไปอยู่ทางชนบทของเมือง Yuryevets กับตายาย ในบ้านไม้เก่าในชนบทแบบรัสเซีย หรือ dacha (ซึ่งอังเดรย์หลงใหล และต่อมาปรากฏอยู่ในหนังยุคหลังของเขาแทบทุกเรื่อง) ขณะที่อาร์เซนีกำลังไปรบอยู่แนวหน้า อังเดรย์เล่าว่าในช่วงสงครามนั้น เป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอยของเขา คือรอให้สงครามเลิกและรอให้พ่อกลับมา ครอบครัวทาร์คอฟสกี้ย้ายกลับไปมอสโคว์อีกครั้งในปี 1943 แน่นอนในที่สุดสงครามก็ยุติ ขณะอาร์เซนีกลับมาจากสงครามในสภาพที่เสียขาไปข้างหนึ่ง และไม่เคยกลับมาหาครอบครัวอีกเลย แต่ก็ยังส่งเงินมาให้อยู่ตลอด นั่นทำให้เขาทั้งเทิดทูนและเกลียดพ่อในเวลาเดียวกัน

Andrey, what is art?


แต่พ่อยังมีอิทธิพลอย่างมากในการทำงานศิลปะของเขา อังเดรย์นำบทกวีของพ่อหลายชิ้นมาใส่ไว้ในหนังอย่าง The Mirror (1975), Stalker (1979) และ Nostalgia (1983) ขณะที่แม่ของเขาปรากฏตัวใน The Mirror ทาร์คอฟสกี้กล่าวว่าเขาโตขึ้นมาในครอบครัวที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ ทั้งคุณยาย แม่ และน้องสาว กระนั้นเขาก็ยังมีโอกาสได้เจอพ่ออยู่บ้างหลังการหย่าร้างในมอสโคว์

เพื่อนของครอบครัวทาร์คอฟสกี้บรรยายลักษณะของเด็กชายอังเดรย์ว่า เป็นเด็กเรียบร้อยสงบเสงี่ยม ดูเหงาๆ แต่บางครั้งก็ขี้งอนและดื้อ และมักทำให้แม่เสียใจ เขาโตขึ้นมาเป็นเด็กกระตือรือร้น และต่อต้านความพยายามของแม่ที่จะส่งเสริมเขาในเรื่องศิลปะ เขาเรียนดนตรีและวาดรูป แต่ต่อมาก็เลิกไป เอาแต่เล่นฟุตบอลและทะเลาะวิวาท กระนั้นมาเรีย อีวานอฟนา ก็ยังส่งเสริมให้เขาร่ำเรียนทางศิลปะอย่างเต็มกำลัง
ช่วงวัยรุ่นเขากลายเป็นหนุ่มสำอาง ชอบแต่งตัว และมักคุยเรื่องศิลปะกับพ่อยามได้พบกัน เขาอ่านหนังสือของพ่อ ฟังเพลงที่พ่อฟัง (โดยเฉพาะ Bach) น้องสาวของเขาเล่าว่าอังเดรย์พยายามแม้จะเลียนแบบลายมือของอาร์เซนี เพื่อนมัธยมปลายของเขาก็เล่าว่ามักเห็นอังเดรย์หนีบงานเขียนของพ่อไปทุกหนแห่ง

“มันเป็นเรื่องยากที่จะระบุอย่างแน่ชัดถึงอิทธิพลของพ่อที่มีต่อผมในฐานะกวี เขามีอิทธิพลต่อผมในทางชีววิทยา ในระดับจิตใต้สำนึกมากกว่า... แต่ผมคิดว่าพ่อไม่มีอิทธิพลกับผม (หมายถึง) อิทธิพลภายใน ทุกสิ่งที่เป็นตัวผมนั้นล้วนมาจากแม่ แม่เป็นคนช่วยให้ผมพบตัวเอง และแม้แต่ในหนัง (The Mirror) คุณก็จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เรามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากเพียงใด มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย แล้วอยู่ๆแม่ก็ถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง... แม่ไม่เคยแต่งงานอีกเป็นครั้งที่สอง เธอรักสามีของเธอ พ่อของผม ตลอดชีวิต แม่เป็นผู้หญิงที่วิเศษมาก เป็นเหมือนนักบุญ”
Z Andriejem Tarkowskim rozmawiaj?; Jerzy Illg, Leonard Neuger, Res Publica (1), Warsaw 1987.

อังเดรย์เรียนสาขาภาษาอารบิคในสถาบันภาษาตะวันออกมอสโคว์ (Moscow Institute of Oriental Languages) ในปี 1951 ไม่ใช่เพราะว่าเขาสนใจ แต่เป็นเพราะเขาเห็นว่าเป็นสถาบันชั้นสูงที่มีเกียรติ แต่เมื่อพบว่ามันยากและไม่เหมาะกับเขา อังเดรย์ก็ลาออกในปีที่ 2 แม่เขาจึงตัดสินใจ ‘เนรเทศ’ เขาไปทำงานสำรวจทางธรณีวิทยาในไซบีเรีย ที่นั่นอังเดรย์ได้ตัดสินใจว่าเขาจะเรียนภาพยนตร์
อังเดรย์เข้าศึกษาในโรงเรียนภาพยนตร์มอสโคว์อันโด่งดัง (VGIK - Moscow film school) ในปี 1954-1960 ที่นั่นเขาได้พบกับอาจารย์ที่ส่งอิทธิพลต่อเขาอย่างสูง Mikhail Romm (Nine Days In OneYear (1961), Ordinary Fascism (1964)) ผู้ซึ่งได้สอนบทเรียนสำคัญแก่เขาว่า ไม่มีใครสามารถสอนให้คนอื่นกลายเป็นผู้กำกับได้หรอก งานหลักของเขาคือการช่วยให้พวกเขาได้คิด (ถึงศิลปะ) หรือไม่เช่นนั้นก็หลีกหนีไปให้ไกล ทาร์คอฟสกี้ระบุในภายหลังว่า ‘เขาสอนผมให้เป็นตัวผมเอง’

Romm ไม่เหมือนอาจารย์คนอื่นใน VGIK เขาสอนให้นักเรียนของเขาคิดอย่างอิสระ และบางครั้งก็ให้นักเรียนวิจารณ์หนังที่เขาทำด้วย เพื่อนของอังเดรย์, Alexander Gordon (ที่ต่อมากลายเป็นน้องเขยของอังเดรย์) เล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่นักเรียนในห้องสับหนังของ Romm เรื่อง Murder on Dante Street (1956) ซะไม่มีชิ้นดี และในห้องเรียนนี้เองที่อังเดรย์ได้พบกับ Irma Rausch ภรรยาคนแรกของเขา

ระหว่างนั้นเขาทำหนังสั้นหลายเรื่อง เช่น The Killers (1958) และ There Will Be No Leave Today (1959) ที่ได้ฉายทางโทรทัศน์ รวมถึงหนังวิทยานิพนธ์ The Steamroller and the Violin (1960) ซึ่งเขาเขียนบทร่วมกับ Andrei Konchalovsky ผู้ซึ่งต่อมาก็เป็นหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์คนสำคัญของรัสเซีย

Source:www.liveindy.com/inspired/tarkovsky01.htm

Epitaffi in forma d'uomo: Andrej Tarkovskij





ใบปิดหนัง ที่ฉายในประเทศต่างๆๆไม่เหมือนกันเลยอะ
//www.acs.ucalgary.ca/~tstronds/
nostalghia.com/ThePosters/nostalghia/Nostalghia.html


Source://www.acs.ucalgary.ca/
~tstronds/nostalghia.com/
TheTopics/Piero.html

//www.epinions.com/
review/mvie_mu-1076174/
content_158529654404

//en.wikipedia.org/wiki/Nostalghia



more film ของ Andrei Tarkovsky







Source://www.answers.com/topic/andrei-tarkovsky-1




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2552
13 comments
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 8:34:34 น.
Counter : 2972 Pageviews.

 

ดื๊บ มาเจิมก่อนนอน กิ้ว ๆ

อยากไปอิตาลี แบร์เขียนเก่งจังเลยเนอะ

 

โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) 12 มิถุนายน 2552 1:08:25 น.  

 

ดื๊บ มาเจิมก่อนนอน กิ้ว ๆ

อยากไปอิตาลี แบร์เขียนเก่งจังเลยเนอะ



โดย: เจ้าหญิงที่เจ้าชายตายจาก (timeofmylove ) วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:1:08:25 น.

ตอบ ท๊อปฟอร์ม แบร์ ก๊อปปี้ ตัดแปะ Reference ตริมงะ


เอาเพลงมาฝากเจ้าหญิงคนดี
ไม่รักแต่คิดถึง , เฉลียง


ไม่รักแต่คิดถึง
เฉลียง
ชีวิตบางช่วงที่เกี่ยวกัน เราได้แลกเปลี่ยนซึ่งความฝัน
หลายครั้งหลายหน...หัวใจไม่ตรงกัน แต่รู้กันต่างคนมีน้ำใจ
เธอไม่ต้องนวลอย่างดวงจันทร์
และฉันไม่ใช่ดวงตะวันฉาย
เราเพียงเป็นคน คบกันตามสบาย
เมื่อร้างไกลห่วงใยก็แล้วกัน

* ไม่สำคัญ...ว่าเธอมีใคร ไม่ใช่กงการอะไรของฉัน
ไม่สนใจเมื่อเธอสุขสันต์ ขอรู้เพียงวันที่เธอไม่มีใคร
ยังไม่ประคองถ้าเธอล้ม ถ้าเธอลุกขึ้นยืนได้เองไหว
ขอรู้....ขอเห็นว่าเธอเดินเองได้
จะขอมองดูไกลๆ อย่างชื่นชม


(ซ้ำ *)
ไม่สำคัญ....ว่าเธอมีใคร ไม่ใช่กงการอะไรของฉัน
ต่างหนทางของต่างเรานั้น
ถึงแม้ว่าเราจะไกลซักเพียงไหน
ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง
ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง
ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง
ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง...


มะชอบแบบนี้บ้างเหรอเจ้าหญิง

mv เพลง ง่ายง่าย (เฉลียง)

 

โดย: Bernadette 12 มิถุนายน 2552 8:24:39 น.  

 

hello มาทักทายยามเช้าก่อน เดี๋ยวรัชชี่จะไปเล่นโยคะ

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 14 มิถุนายน 2552 8:13:38 น.  

 


แวะมาดูหนังค่ะ
เอาข้าวโพดPOP มาทานเองด้วย+ฝากเจ้าของบ้าน

 

โดย: เริงฤดีนะ 14 มิถุนายน 2552 15:39:47 น.  

 

hello มาทักทายยามเช้าก่อน เดี๋ยวรัชชี่จะไปเล่นโยคะ



โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:8:13:38 น.

ตอบ เย๊ๆๆๆ มาแล้วเหรอ หายเจ็บตายังจ๊ะคนจ๋วยย

แง๊ววว อิจฉาคนไปออกกำลังกายจัง

เอารูปมาฝากจ้า

รุ้งกินน้ำ หน้ากินหน้ากิน เป็นสายไหมเจ็ดสี


แบร์มองเป็นcross อ่า มองอีกที เป็นสัญญาลักษณื
be righteous


ใครมองว่าแบร์ถ่ายรูปเสีย แบร์มองว่าแบร์ถ่ายรูปสวย แม่พระสว่างสไว มะสนงะ สดใส สดใส


เอาเพลงมาฝากจ้า
รักฉันเรียกว่าเธอ(My Love is U)


 

โดย: Bernadette 14 มิถุนายน 2552 19:35:35 น.  

 

แวะมาดูหนังค่ะ
เอาข้าวโพดPOP มาทานเองด้วย+ฝากเจ้าของบ้าน





โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:15:39:47 น.


ตอบ แง๊ววว แบร์เผลอหยิบมาดูได้ไง แง๊ๆๆๆ กุมขมับดู หน้าแบร์เต็มไปด้วย??????????????????????

ว่าจาไม่เขียนแหล่ว ดูย๊ากมั๊กมั๊ก

กะลองดู เป็นการท้าทายตัวเองง่ะ

มีอีกเยอะให้ตีฟาม ไม่เอาแล้วว หาหนังหนุกหนุกดูดีก่า

 

โดย: Bernadette 14 มิถุนายน 2552 19:41:49 น.  

 

สวัสดีจ๊ะนู๋แบร์ฯ
มาหัดดูหนัง อังเดรย์ ธราคอฟสกี้ ไปกะนู๋แบร์ด้วย
หนังทึมๆ ดูแล้วกุมขมับอย่างที่ว่า

เพลงเฉลียง นี่รู้จักครับ อันที่สองเนี่ย

 

โดย: dj booboo 16 มิถุนายน 2552 1:06:33 น.  

 

แวะมาบอกว่ารูปที่แปะที่บล็อกรัชชี่ล่าสุด ป๊าต-ตะ-นา นะ

รูปรุ้งกินน้ำ กะรูปในโบส์น่ะ

ส่วนรูปกลาง สงสัยแบร์ต้องถ่ายให้เหมือนมองเห็นมุมสูงแล้วให้มีพื้นที่ของความยาวเสาอีกหน่อย

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 16 มิถุนายน 2552 10:16:27 น.  

 

สวัสดีจ๊ะนู๋แบร์ฯ
มาหัดดูหนัง อังเดรย์ ธราคอฟสกี้ ไปกะนู๋แบร์ด้วย
หนังทึมๆ ดูแล้วกุมขมับอย่างที่ว่า

เพลงเฉลียง นี่รู้จักครับ อันที่สองเนี่ย



โดย: dj booboo วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:1:06:33 น.


ตอบ หาเพลงปลอบใจคนพี่ดีเจ
หายหัวไปใหนแหละยัยเจ้าหญิง

รัสเซีย ชอบทำหนังทึมๆๆเน๊อะ ดูหลายๆๆเรื่องกะทึมตล๊อดเลยงะ

เจอแบบลุงอังเดรเข้าไป แบร์มึนติ๊บ หัวมะถึงงั๊บ

 

โดย: Bernadette 16 มิถุนายน 2552 12:06:24 น.  

 

แวะมาบอกว่ารูปที่แปะที่บล็อกรัชชี่ล่าสุด ป๊าต-ตะ-นา นะ

รูปรุ้งกินน้ำ กะรูปในโบส์น่ะ

ส่วนรูปกลาง สงสัยแบร์ต้องถ่ายให้เหมือนมองเห็นมุมสูงแล้วให้มีพื้นที่ของความยาวเสาอีกหน่อย





โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 16 มิถุนายน 2552 เวลา:10:16:27 น.


ตอบ ขอบพระคุณงั๊บ ที่ให้กำลังจายย ปัตตานาแหล้นน


จุ๊จุ๊ อย่าเอ็ดปายยย รูป ที่ถ่ายมุมสูง แง๊ๆๆๆ แบร์แอบปีนเก้าอี้ไปถ่ายแล้นน แบร์ละโคตรกัวเลยอะ

กัวพ่อเจ้าวัด

ท่านเหมือนนินจาเลยงะ จู่ๆๆโผล่มาตอนหนายมะรู้ ผลุบโผล่ ยังกะนินจาเลยงะ

เกิดเห็นขึ้นมา โดนตบกะบาลแน่ตู
ถ่ายสูงก่านี้มีหวัง นี่นี่ มาปินอะไรเล่า ไม่สำรวมเล๊ยยย

 

โดย: Bernadette 16 มิถุนายน 2552 12:09:29 น.  

 

เก็บไว้ก่องกันลืม
When You Love Someone

 

โดย: Bernadette 16 มิถุนายน 2552 12:16:40 น.  

 

ผมมีเรื่องนี้เก็บไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดูเรย

 

โดย: mr.cozy 18 มิถุนายน 2552 8:00:05 น.  

 

ผมมีเรื่องนี้เก็บไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดูเรย



โดย: mr.cozy วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:8:00:05 น.

ตอบ ดูแล้วมาช่วยตีความให้ด้วยค่ะ

มีทั้งการเมือง เพราะว่า เธอร์คอฟกี้ พูดไงดีหว่า เค้าโดนเนรเทศไปอยู่อิตาลีด้วยอ่า และเค้าอยากกลับบ้านงะ

นักข่าวสัมภาษณ์เค้าเหมือนกับว่า เค้าเป็นนักโทษทางการเมืองเลยงะ ช่วงนั้นรัสเซียกะยุ่งยาก

และใน Film ตอนจบเค้ากะได้กลับไปรัสเซียอ่า

 

โดย: Bernadette 18 มิถุนายน 2552 9:52:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.