แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

The Rape of Europa (2006): Imgine the World Without Our Masterpieces.


“The Rape of Europa,” สารคดีเกี่ยวกับ การปล้นสะดมห์ช่วงชิงทรัพย์สินจำพวกศิลปะ ที่มีราคาหาค่ามิได้ ของ พวกนาซี และความพยายามหลังสงครามที่ต้องการเรียกร้องกลับคืน ในอดีตที่ผ่านมาการส่งมอบคืนมันไม่ได้สะดวกและงานศิลปะเกิดมีความชำรุด เสียหายอย่างมาก กลายเป็นขยะสิ่งที่ไร้ค่าไปเลยก็มี ในเนื้อหาของสารคดีสื่อถึงอารมณ์ งานศิลปะที่มาฟื้นฟูซ่อมแซมใหม่ และการฟ้องร้องเรียกกลับคืนของทายาท กรณีภาพเหมือนของ Klimt’s ที่วาดภาพ Adele Bloch-Bauer

The Rape of Europa




“The Rape of Europa”ครอบคลุมวัตถุทางศิลปะได้อย่างน่าสนใจโดย ไม่มีขอบเขต บทบาทของงานศิลปะที่เป็น ของเล่นของพวกนาซี ผู้ที่ร่ำรวยเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ผู้เชี่ยวชาญศิลปของ ฮิตเล่อร์ การรักษางานศิลปะที่แตกต่างของเยอรมัน กับความรู้สึกของ วอร์ซอร์ เกือบทั้งหมดถูกทำลายจนสิ้นซากของศิลปะSlavic ที่มันมีคำถามเกิดขึ้นได้อย่างน่าสนใจ เหล่ากองทัพทหาร กับความเป็นอยู่ที่มีความเสี่ยงในการรักษาพื้นที่ของบริเวณประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่แสดงออกมาทางศิลปะว่าจะอยู่รอดออกมาได้หรือไม่ ถ้างานศิลปะนั้นนั้นได้ถูกทำลายไป


Source ://graphics8.nytimes.com/images/2007/
09/13/arts/14europa-600.jpg

Film สร้างจากหนังสือ โดยผู้แต่งคือLynn H. Nicholas


ในภาวะที่แออัดอย่างมากกับการเร่งรีบและส่วนหนึ่งของการรักษา ในภาระกิจ การส่งคืนงานศิลปะ และรักษางานศิลปะไว้ให้คงสภาพเดิม กับพวกเค้าที่เป็นฮีโร่ และ งานเหล่านั้นมีความสำคัญอย่างมาก มีอยู่คำหนึ่งของหญิงชาวฝรั่งเศสกล่าววว่า ตรงนี้เครดิต คุณElbereth แปลให้ค่ะ The victory of beauty over horror. ความงามชนะความน่ากลัว”




Source ://cache.thephoenix.com/secure/
uploadedImages/The_Phoenix/Movies/
Reviews/inside_the_rape_of_europa.jpg

การฟ้องร้องเรียกกลับคืนของทายาท กรณีภาพเหมือนของ Adele Bloch-BauerวาดโดยKlimt’s ที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้



Source ://imagecache2.allposters.com/images
/pic/EUR/1700-9947~Portrait-of-Adele-
Bloch-Bauer-I-c-1907-Posters.jpg

Maria Altmann หลานของ Adele Bloch-Bauer กะฟ้องร้องเรียกคืนอยู่อะ

ภาพเหมือนของ Adele Bloch-Bauer I วาดโดย Gustav Klimt วาดเสร็จสมบรูณ์ในปี 1907. ในเดือน มิถุนายน ปี 2006 ที่นิวยอร์ก Neue Galerie รายงานว่า Adele Bloch-Bauer I ได้ซื้อภาพนี้มาราคา $135m และภาพ Adele Bloch-Bauer II ขายไปเกือบ $88m ในเดือน November 2006 ที่ Christie's


Klimt วาดภาพนี้ใช้เวลา 3 ปี เป็นภาพวาดสีน้ำมันและทองที่ใช้บนผืนผ้าใบ กับความซับซ้อนของภาพ ในสไตล์ the Jugendstil, Klimt ถอนตัวออกจากกลุ่มสมาชิกทางศิลปะเวียนนา เค้ายุติทางเดินแนวศิลปะเก่าๆ รูปนี้วาดที่เวียนนา และได้รับการสนับสนุนโดย Ferdinand Bloch-Bauer คหบดีผู้มั่งคั่งในอุตสาหกรรมน้ำตาล เค้าสนับสนุนงานศิลปะของ Gustav Klimt และ ภารยา Adele Bloch-Bauer เธอเป็นแบบให้กับ Klimt ถึงสองครั้ง เมื่อ Klimt วาดรูปครั้งที่สองของเธอ Adele Bloch-Bauer II เสร็จสิ้นในปี 1912 ราคาของมันมีค่าแพงที่สุดตั้งแต่มีการซื้อขายงานศิลปะที่เคยขายกันมาอะ

Nazi Germany loot


กับความเป็นเจ้าของ

Adele Bloch - Bauer เขียนเป็นลายมือ ได้บ่งบอกว่า เธอปรารถนาบริจาคให้กับ Austrian State Gallery เธอสิ้นใจในปี 1925 จากโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เมื่อนาซียึดครองออสเตรีย สามีของเธออพยพไปอยู่ที่ สวิซเซอร์แลนด์ เค้ามีที่ดินอยู่ที่นั้น ภาพวาดของ Klimt ได้ถูกนาซียึดไปในปี 1945 ที่ออสเตรีย พินัยกรรมได้บันทึกการยกมรดกให้ หลานของ Bloch-Bauerรวมทั้ง Maria Altmann หลานสาวเป็นผู้รับมรดก ในหลักทรัพย์และที่ดินของเค้า


รูปภาพของ Bloch-Bauer's ยังคงอยู่ที่ ออสเตรีย รัฐบาลได้หยิบยกเรื่องพินัยกรรม Adele Bloch-Bauer มาค้นหาความจริง รูปภาพเหล่านั้นยังคงอยู่ หลังจาก สมรภูมิรบสงครามระหว่าง เมกา(ฝ่ายสัมพันธมิตร) กับ ออสเตรีย (ฝ่ายอักษะ) และการตัดสินของศาลในออสเตรีย ในปี 2006 Maria Altmann หลานของ Bloch-Bauer's ได้รับสิทธิโดยชอบธรรม ในการเป็นเจ้าของ ภาพนี้ และภาพอื่นๆๆของKlimt หลังจากภาพเป็นปัญหา ได้ถูกส่งไปที่อเมริกาก่อนปี 2006 และภาพ Adele Bloch-Bauer I ถูกขายให้กับLauder

ภาพเหล่านี้อยู่ในคอลเลจชั่นของ Ronald Lauder’s ในแกลลอรี่ Neue Galerie ที่นิวยอร์ก Lauderกับความประสบความสำเร็จนี้ ตอนเค้าไปเป็นเอกอัครราชทูตของอเมริกาใน ออสเตรีย ให้ความคิดเห็นว่า การได้ถือสิทธิ์มา ไว้ที่ แกลอรี่ Neue Gallerie มันคือ “This is our Mona Lisa”



Source ://www.greatesttheft.com/
rsrc/lessonplans/id2/hero.jpg
Adolf Hitler's 1928 painting of the Vienna State Opera House

มาดูงานศิลปะของฮิตเลอร์Hitler, Art, Race, and Society
โดยนักประวัติศาสตร์ Jonathan ให้ความเห็นว่า

เขาคือนักศิลปะนั้นมันไม่ใช่ปัญหา แต่อย่างชัดเจนฮิตเลอร์ไม่มีพรสวรรค์แต่ฮิตเลอร์คิดว่าเค้ามี พรสวรรค์ ฮิตเลอร์เข้าไปเรียนศิลปะที่เวียนนา ที่มีชาวยิวไปเรียนที่นั่นเยอะ และผมคิดว่า เชื้อเพลิงนี้ ที่ชาวยิวจุดประกายต่อต้านฮิตเลอร์

และ นักประวัติศาสตร์ทางศิลปะ Kenneth Lindsay
ฮิตเลอร์เกลียดงานศิลปะสมัยใหม่ ฮิตเลอร์อยากจะเป็นศิลปิน แต่ที่นั้นมีแต่ชาวยิวที่เรียนอยู่ ซึ่งมองฮิตเลอร์อย่างแตกต่าง



source ://www.everydaykrakow.com/var/
ek/storage/images/media/images/descriptive-photos/
krakow-for-2-days/altarpiece-of-veit-stoss/9087-1-eng
-GB/Altarpiece-of-Veit-Stoss_zoom.jpg

Altar of Veit Stoss

St. Mary's Church, Krak?w, Poland.

altarpiece [N] ฉากหลังแท่นบูชาในโบสถ์ชาวคริสต์

veit stoss altar


altarpiece of Veit Stoss (ภาษาโปแลนด์ : O?tarz Wita Stwosza,ภาษาเยอรมัน : Krakauer Hochaltar),หรือ St. Mary's altar (O?tarz Mariacki),คือฉากหลังแท่นบูชาในโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของยุค โกธิค Gothic ตั้งอยู่หลังพระแท่นบูชาของโบส์ถ St. Mary's Church, Krak?w, Poland.

ได้ถูกแกะสลักโดย Veit Stoss,ระหว่างปี 1477 ถึงปี 148ต9 มูลค่ามกกว่า 2 พัน gulden ด้วยเงินทุนของพลเมืองใน Krak?w.


ระหว่างสงครามโลกที่สองและเยอรมันบุกโปแลนด์ Altar of Veit Stoss ถูกส่งไปเยอรมัน และรอดมาจากสงครามได้ ถูกคืนไปแลนด์ ในปี 1946 ถึงโบส์ถSt. Mary's Church ในปี 1957

ชาว Krak?w บอกว่า พวกเค้าทำอะไรไม่ได้ ได้แต่สวดอย่างเดียว ให้Altar of Veit Stoss กลับมา


altarpiece of Veit Stoss ได้ถูกบรูณะหลายๆๆครั้งในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ก่อนปี 1600, ในปี 1866-1870, ในปี 1932-1933,ในปี 1946-1949 และในปี 1999.

อาสนวิหาร เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ของชาวโปแลนด์ the 'Polish Cathedral' ได้ถูกก๊อปปี้รายละเอียดย่อส่วน 1ใน 3 มาไว้ที่ที่โบส์ถ St. John Cantius ในชิคาโก ในปี 2003


Source ://www.wdtprs.com/images/
08_12_21_SJC_DVD07.jpg
ก๊อปปี้มา 1 ใน 3


Source ://www.ship-of-fools.com/mystery/
2006/pics/chicago_st_john_cantius_1.jpg
โบส์ถ Saint John Cantius in Chicago

ในโปแลนด์ museum ใน Cracow เจ้าของ ที่เป็ฯราชสกุล Nobel the Czartoryski ของโปแลนด์ งานศิลปะวัตถุโบราณ 59,000 ชิ้น ได้ถูกขโมยไป ในช่วงสงคราม ได้กลับมาคืนบางส่วนอะ อยู่ที่ CZARTORYSKICH MUSEUM เช่น

Leonado Davinchi lady with and Ermine.

Source ://imagecache5.art.com/p/LRG/12
/1253/Q88T000Z/leonardo-da-vinci-lady-with-an-ermine.jpg

Leonardo da Vinci, 1489, Czartoryski Museum, Krakow, Poland

Rembrand's Landscape with a good samaritan.


Source : //www.journeywithjesus.net/Essays/
Rembrandt_The_Good_Samaritan_sm.jpg


and portrait of a yang man by Raphael.

Souce://jama.ama-assn.org/content/
vol292/issue21/images/medium/jcs1201f1.jpg


CZARTORYSKICH MUSEUM



(actually its exhibits were put together by The Czartoryskis family and later given to the nation).
Source ://www.dmcpoland.com/content/
images/216365339d538470acd2dc7a3e92976c.jpg

the Louver Museum ของฝรั่งเศส นักประวัติศาสตร์บอกว่าโชคดีที่รูปโมนลิซ่าไม่เป็นอะไร
Mona Lisa at the Louvre Museum



Monte Cassino Aobbey


Source ://www.egypttoursonline.com/
monte-cassino-postcard-paradox.jpg



Source ://blog.oregonlive.com/oregonatwar/
2008/11/ruinsmontecassino.jpg

สมรูภูมิรบ The Battle of Monte Cassino

MONTE CASSINO BATTLE WW2


เริ่มต้น 1944 ซึ่งตามหลัก อาราม หรือโบส์ถ ศิลปะที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ในการทำสงคราม ห้ามไปแตะต้อง ที่นี้คือ อารามในประวัติศาสตร์ ในปี 524 โดยSt Benedict ส่วนมาก อารามนี้ในประวัติศาสตร์ ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ฝ่ายพันธมิตรเข้าใจว่า ฝ่ายทหารเยอรมันอักษะ ได้มาหลบที่นี้ ทหารอเมริกัน ได้ทิ้งระเบิด B-17, B-25, และB- 26 อารามได้รับความเสียหายเมื่อทหารอเมริกันบุกยึดพื้นที่ได้ ไม่มี ทหารเยอรมันอยู่เลย

ผลของสงครามสมรภูมิรบบริเวณนี้The Battle of Monte Cassino ฝ่ายอักษะ ตายมากกว่า 54,000 คน ฝ่ายพันธมิตร ตาย 20,000 คน

The Castle of Neuschwanstein

Neuschwanstein - Germania - Baviera - Castello

ทหารนาซี เอาสมบัติที่ปล้นสะดมห์มา ไปซ่อนไว้ที่นี้ ด้วยอะ
ของพี่น้องชาวยิว พระคัมภีรโตราห์ สภาพ พังกะมี หรือเชิงเทียนแห่งชัยชนะของพี่น้องชาวยิวอะ


Source ://blogs.kpbs.org/images/uploads/chaplain.jpg



Source ://www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id5/
hero.jpg
The post-war work of cataloguing and returning the stolen art

การตรวจดูวัตถุและอนุสาวรีย์ที่ชำรุดระหว่างสงครามโลกครั้งที่ II และพิจารณากระบวนการและทางด้านจริยศาสตร์ ของการสงวนคุณค่าทางศิลปะและการซ่อมแซม

Is Art Worth A Life?


//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id7
.jpg
GI guards works of art stolen by the Nazis

สิ่งนี้คือคำถามอย่างตายตัวการสร้างการโต้วาทีที่เข้มข้น ของนักเรียนที่ทดสอบแนวความคิดของการผ่านกิจกรรมทางห้องเรียนและการอภิปราย

What is the Value of Art?

Source://www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/
id9/hero.jpg
Kids drawing in front of painting at the Hermitage

การพิจารณาความสำคัญของงานศิลปะโดยการศึกษาความแตกต่างในสิ่งที่เราค้นหามันมีความหมายและมีคุณค่าในวัฒนธรรมของเรา

What is Provenance?


Source ://www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/
id11/hero.jpg
Picasso’s Buste de Femme á la Chemise, L&M Arts New York

บทเรียนในอดีตที่ผ่านมาของความเป็นเจ้าของของวัตถุหรืองานศิลปะและความลำบากของการพิสูจน์ในสงครามโลกII

Art, Propaganda and Protest



Source://www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/
id13/hero.jpg

Nazi propaganda poster

ความหมายของการสั่งสอนแนวคิด Nazism, ระยะและขอบเขตของการโฆษณาชวนเชื่อของนาซีได้ถูกสำรวจ บทเรียนนี้ยังค้นพบ ศิลปะที่เป็นรูปแบบหนึ่งของรูปแบบของการต่อต้าน


Learning From the Past, Protecting the Future



//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id14/
hero.jpg
Warsaw Church depicted in painting, and in ruins after World War II destruction
สิ่งที่เป็นแนวทางสามารถแสดงและอนาคตได้อย่างไร? ความล้มเหลวทางศีลธรรมและชัยชนะของสงครามชี้ไปยังความรับผิดชอบ กับการทำให้แน่ใจว่าการป้องกันของความสำเร็จเกี่ยวกับวัฒนธรรม

“Degenerate” Art


//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id1/hero.jpg
Hitler and Goebbels visiting a “degenerate” art exhibition in Munich

บทเรียนของการสำรวจศิลปะ “degenerate ”( entartete kunst ),ที่นาซีใช้โดย บรรยายศิลปะสมัยใหม่ทั้งหมดในรูปของการมองเห็น นักเรียนเรียนรู้เกียวกับศิลปะ, ผู้ซึ่งสร้างงานศิลปินเหล่านี้ และการตอบสนองของนาซีในด้านศิลปะซึ่งไม่เหมาะสมที่เชื่อว่า ทำไมเหตุผลศิลปะสมัยใหม่และบุคคลที่ร่วมสมัย ยังไม่เข้าใจ ด้วยตัวของพวกเค้าเองอยู่บ่อยๆๆ

Heroes and Villains of the Greatest Theft in History

//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id4/hero.jpg

Heinrich Himmler, head of the Gestapo, presenting a painting to the Fuehrer as a birthday gift on his 50th birthday

Going Once, Going Twice…and Perhaps Gone Forever

//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id8/hero.jpg

Works of art from German museums, including this self-portrait by Van Gogh, being sold at auction by order of the Nazis

เรียนรู้เกียวกับ ในปี 1939 Fischer Galerie งานศิลปะชิ้นสำคัญสมัยใหม่ และการถกเถียงการตัดสินใจที่กำลังประกอบเนื้อหาเกี่ยวกับหลักจริยธรรมที่จะซื้อ, หรือไม่ซื้อ ในพิพิธภัณฑ์ ของเยอรมันสิ่ งที่ถูกขายบนคำสั่งจากฮิตเล่อร์และนาซี งานศิลปะ


Reparations as Resolution

//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id10/hero.jpg
Edgar Degas’ painting for the Place de la Concorde, State Hermitage Museum

บทเรียนนี้แสดงด้านทั้งสองในการถกเถียง การยอมรับคุณสมบัติเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ใช้จากเยอรมันโดยกองทัพประเทศโซเวียตจากการสิ้นสุด ของสงครามโลกII


Casualties of War


//www.greatesttheft.com/rsrc/lessonplans/id12/hero.jpg
London in ruins after bombings

สงครามบนความอัดแน่นของครอบครัว, ชุมชน ,บ้าน เมือง, และประเทศถูกแสดงให้เห็น บทเรียนต่อมา การขยายเพื่อรวมถึงเป้าหมายอื่นๆของสงครามวัฒนธรรม ความแตกต่าง ในเชิงประดิษฐ์ที่จะทดสอบเต็มไปด้วยของการขโมยใหญ่ที่สุดในอดีตที่ผ่านมา

Robert Edsel, co-producer of THE RAPE OF EUROPA documentary


Source ://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Monte_Cassino
//en.wikipedia.org/wiki/Altar_of_Veit_Stoss
//www.greatesttheft.com/home.php
//en.wikipedia.org/wiki/The_Rape_of_Europa





 

Create Date : 17 มีนาคม 2552
9 comments
Last Update : 18 มีนาคม 2552 10:45:13 น.
Counter : 2718 Pageviews.

 

น่าสนใจ อ่านจนตาลายเลยค่ะ

ย่อหน้าที่ 3 “the victory of beauty over horror. ชัยชนะของความสวยงามที่อยู่บนความน่ากลัว”

แปลตามตัวอักษรจนฟ้งไม่รู้เรื่อง

“ชัยชนะของความสวยงามที่มีต่อความน่ากลัว”
แปลเป็นไทยอีกทีง่ายๆ ว่า
“ความงามชนะความน่ากลัว”

 

โดย: Elbereth 17 มีนาคม 2552 18:24:34 น.  

 

น่าสนใจ อ่านจนตาลายเลยค่ะ

ย่อหน้าที่ 3 “the victory of beauty over horror. ชัยชนะของความสวยงามที่อยู่บนความน่ากลัว”

แปลตามตัวอักษรจนฟ้งไม่รู้เรื่อง

“ชัยชนะของความสวยงามที่มีต่อความน่ากลัว”
แปลเป็นไทยอีกทีง่ายๆ ว่า
“ความงามชนะความน่ากลัว”




โดย: Elbereth 17 มีนาคม 2552 18:24:34 น.

ตอบ ขอบพระคุณที่แนะนำค่ะ

ตาลายจิ๊ ปล เอิ๊กกก นี้ ยังไม่ถึงครึ่งของสารคดีเล๊ยยย

ของรูฟที่ฝรั่งเศส ยังม่ายได้เขียนเลยอะ
หรือสมบัติของพี่น้องชาวยิว


เป็นสารคดีที่ค่อนข้างยาววววววววววววเฟื๊อยยเลยค่ะ

 

โดย: Bernadette 17 มีนาคม 2552 18:36:15 น.  

 


ย่อหน้าที่ 3 “the victory of beauty over horror. ชัยชนะของความสวยงามที่อยู่บนความน่ากลัว”

“ชัยชนะของความสวยงามที่มีต่อความน่ากลัว”
แปลเป็นไทยอีกทีง่ายๆ ว่า
“ความงามชนะความน่ากลัว”

ตอบ รบกวนช่วย แก้ไขให้อีกทีงะค่ะ

แปละไทยเป็นไทย ที่ต้องการสื่อตรงๆๆก็คือ สงครามที่ได้รับชัยชนะอย่างงดงามแต่ มันแฝงไปด้วยความน่ากลัว ทำนองนี้งะ ช่วยแปลให้หน่อย เดี๊ยวใส่เครดิตให้จ้า

 

โดย: Bernadette 17 มีนาคม 2552 18:41:29 น.  

 

“ The victory of beauty over horror. ความงามชนะความน่ากลัว”

ประโยคมันแปลได้เท่านี้นะคะ

ข้อความอย่างที่น้อง Bernadette ขยายความอาจอยู่ในประโยคอื่นที่น้อง Bernadette ไม่ได้ quote มา


ขอบคุณที่ไปเยี่ยมค่ะ

น้อง Bernadette ชอบบีโธเฟน ขอเชิญไปฟัง Fur Elise ที่ blog "รักข้ามมิติ" นะคะ

บีโธเฟน ระห่ำหรือคะ พี่ไม่รู้หรอก Fur Elise ออกหวานฉ่ำเชื่อม

 

โดย: Elbereth 17 มีนาคม 2552 19:06:47 น.  

 

แล้วสารคดีพวกนี้หาแผ่นได้ที่ไหนน่ะ มีมั้ย

ช่วงนี้มัวแต่ติดหนังนี่เอง

ถ้าเขียนเรียบร้อย พรุ่งนี้ค่ำ ๆ น่าจะได้ลง "ภูฎาน" ตอน 4 ครับผม

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 17 มีนาคม 2552 19:32:17 น.  

 

แล้วสารคดีพวกนี้หาแผ่นได้ที่ไหนน่ะ มีมั้ย

ช่วงนี้มัวแต่ติดหนังนี่เอง

ถ้าเขียนเรียบร้อย พรุ่งนี้ค่ำ ๆ น่าจะได้ลง "ภูฎาน" ตอน 4 ครับผม



โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:19:32:17 น.

ตอบ มึนติ๊บเลยงะ เรื่องมันมีหลายๆๆเรื่องรวมกันเลยอะ

รัชชี่เขียนได้ดีแน่ๆๆ เลยงะ

เอาเพลงมาฝากจ๊ะ
Paradox - Love

 

โดย: Bernadette 17 มีนาคม 2552 20:40:57 น.  

 

The victory of beauty over horror. ความงามชนะความน่ากลัว”

ประโยคมันแปลได้เท่านี้นะคะ

ข้อความอย่างที่น้อง Bernadette ขยายความอาจอยู่ในประโยคอื่นที่น้อง Bernadette ไม่ได้ quote มา


ขอบคุณที่ไปเยี่ยมค่ะ

น้อง Bernadette ชอบบีโธเฟน ขอเชิญไปฟัง Fur Elise ที่ blog "รักข้ามมิติ" นะคะ

บีโธเฟน ระห่ำหรือคะ พี่ไม่รู้หรอก Fur Elise ออกหวานฉ่ำเชื่อม



โดย: Elbereth วันที่: 17 มีนาคม 2552 เวลา:19:06:47


ขอบพระคุณงั๊บ เดี๊ยวเข้าไปแก้ก่อง

แฮ่ะๆ แบร์ชอบบีโธเฟน เพราะ ดนตรีระห่ำดีงั๊บ


การซึมซับ จริงๆๆแล้วเพลงคลาสิค เราซึมซับมานานแล้นน

เดินห้าง ที่ห้างเปิดเพลงคลาสิค กะฟังโดยไม่รู้ตัว หรือ โรงหนังสมัยก่อง เปิดเพลงจีน ไทย ฝรั่ง คลาสิค

อ่า ยิ่งเพลงประกอบหนัง แต่ละเรื่อง อลังการด้วยเพลงคลาสิค แฮะแฮะ

 

โดย: Bernadette 17 มีนาคม 2552 20:47:00 น.  

 

สงกะสัยช่วงนี้เพลิดเพลินดูหนังกะสารคดี

หายหน้าหายตา

แวะมาบอกว่า "ภูฎาน" ตอน 4 มาแล้วครับผม

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 19 มีนาคม 2552 18:50:15 น.  

 


สงกะสัยช่วงนี้เพลิดเพลินดูหนังกะสารคดี

หายหน้าหายตา

แวะมาบอกว่า "ภูฎาน" ตอน 4 มาแล้วครับผม



โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:18:50:15 น.


ตอบ ไปดูไปดูจ้า เอาเพลงมาฝาก คุณนายรัชชี่จ้า
เข้ากะรัชชี่เล๊ยยย

เจ้าหญิงในนิยาย



แบร์ไปถ่ายรูปมาให้รัชชี่ด้วยย หัดถ่ายรูปงะ












 

โดย: Bernadette 19 มีนาคม 2552 23:26:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.