Love is our sweet relationship.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
26 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
สีเทียนอันนี้แหละ......ที่ติดในจมูกพี่นาย เมื่อคืนนี้

เปิ้ลกะพี่ต้น กะลังเดินซื้อนมอยู่ที่เซ็นทรัลค่ะ ระหว่างเดินกลับไปที่รถ
เพื่อกลับบ้าน พี่ต้นได้รับโทรศัพท์จากบ้าน แล้วก้อทำสีหน้าแบบซีเรียส แล้วก้อวิ่งเร็ว ๆ นำหน้า

เปิ้ลถามอารายก้อไม่ฟัง พอปิดโทรศัพท์แล้วก้อบอกว่า คุณยายโทรมาบอกว่า

พี่นายทำสีเทียนเข้าไปยัดติดในจมูกตัวเอง ให้กลับบ้านด่วน!!!!!!





ภาพข้างบนเปิ้ลถ่ายมาเมื่อสักครู่นี้ เมื่อเทียบกะแหวนของพี่ต้น

ขนาดเท่ากับปลายนิ้วก้อยผู้หญิงค่ะ คิดถึงสีเทียนแท่งเล็ก ๆ สำหรับเด็ก ๆ อ่ะค่ะ

นาทีที่วิ่งขึ้นรถทั้งสองคน เปิ้ลโทรกลับไปหาที่บ้าน ถามต่อว่าอะไรเป็นอะไร

เสียงที่บ้านดูวุ่นวายมาก เสียงพี่นายร้องระงม จนได้ฟังเสียงคุณยายก้อยังใจชื่นว่า พี่นายยังปลอดภัย

ปากก้อร้องบอกให้สามี ออกรถซะที ใจก้อร้อนดังไฟ นั่งคิดว่า จะเอาลูกไปโรงพยาบาลที่ไหนดี

ที่คิดได้ในใจตอนนั้นมี 3 รพ. 1. ศิครินทร์ (มองดูรถที่ติดเป็นแพแล้วคิดว่า ไม่ดีกว่า) 2. ไทยนครินทร์ (ตั้งใจจะเลือกรพ. นี้ ) 3 รพ.รัฐ สิรินทร (คิดในใจว่าหมอเวรจะอยู่หรือเปล่า?)

แล้วก้อตัดสินใจได้ว่า ไทยนครินทร์ดีกว่า กดมือถือหาเบอร์ ไม่มี โทรหา มิกิ ทันที สั่งว่าให้โทรหา รพ. ไทยนครินทร์ แจ้งเค้าว่า มีเด็กที่สีเทียนยัดอยู่ในจมูก กะลังจะไป มีหมอเวรที่เป็นหมอเด็ก หรือว่าหมอตา หู คอ จมูกไหม?

หนูมิกิ ก้อดีใจหาย "ได้พี่ รถพี่ทะเบียนอะไร เดี๋ยวหนูจัดการให้ ว่าแต่เอาโรงพยาบาลอื่นเผื่อด้วยไหมพี่ถ้ารถติด" เปิ้ลก้อเลยต้องยืนยันว่า ไทยนคริทร์ น่าจะเป็นทางเลือกที่เร็วที่สุด และพร้อมที่สุดในนาทีนี้

วางสายจากมิกิ มือพนมขึ้นท่วมหัว ท่องนโม 3 จบ (เป็นบทสวดเดียวในชีวิตที่ท่องได้อ่ะ) ได้แต่พวนาว่า ขอบุญกุศลที่ลูกได้ทำมา ขอคุณพระคุ้มครองให้พี่นายปลอดภัยดีด้วยเถอะ

ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้าน เหมือนนาทีชีวิต

พี่ต้นขับรถเร็วแต่ระวังอยู่ในที ....

เปิ้ลสั่งให้พี่ต้น เปิดไฟฉุกเฉิน แล้วบีบแตรไล่รถที่ช้า ๆ ขวางหน้าไป

พี่ต้น (มีสติกว่า) บอกว่าเปิ้ลคนอื่นเค้าไม่รู้หรอกว่าเรากะลังเกิดเรื่องอะไรน่ะ

เค้าคิดได้แต่ว่า เราไม่มีมารยาท และไม่รู้ - เคารพกฏนะ ใจเย็นพี่จะขับให้เร็วที่สุด

ระหว่างที่นั่งไปตลอดทาง ใครขวางหน้า เปิ้ลกระทืบเท้าร้องเร่งทุกคน

โมโหทุกคนว่า เออ ให้มันรีบ ๆ หน่อย พี่บีบแตรไล่เลย เราด่วน (พี่ต้นไม่ทำอะไรเลย แต่ขับรถแบบครองสติตัวเองสุดฤทธิ์)

กะลังจะถึงบ้าน รีบโทรบอกคุณยายว่าเอาพี่นายมารอเลยที่หน้าบ้านจะเทียบรถแล้วให้ขึ้นมาเลย

พอเห็นหน้าที่นาย น้ำตามันจะไหล ทุกอย่างมันจุกอยู่ที่อก แน่นใจ เครียดมาก

พี่นายหน้าซีด เดินหน้าเหวอ หายใจไม่ค่อยออก ยังพอมีรูจมูกข้างซ้ายหายใจอยู่

เมื่อเปิ้ลอุ้มพี่นายมานั่งหน้าด้วยกัน ระหว่างนั้นเปิ้ลกอดพี่นายเอาไว้แนบอก แล้วจับมือทั้งสองข้างเอาไว้ บอกลูกว่า พี่นาย ลองหายใจทางปากอย่างแม่นะ

ค่อย ๆ นะลูก ปากก้อเรียกพี่นายตลอดทาง พี่นายครับ "ครับ คุณแม่"

แล้วพี่นายก้อค่อย ๆ เซื่องซึมลงเหมือนจะหลับ เปิ้ลคอยคุย คอยเรียกให้เค้าตอบเปิ้ล

คอยบอกว่าอย่าพยายามหายใจนะลูก เอาปากหายใจ ส่วนพี่ต้นก้อขับรถเร็วมาก ๆ พอดีว่าถนนโล่งด้วยจึงไปถึงโรงพยาบาลได้เร็ว

ระหว่างที่ยังไม่ถึง รพ. เปิ้ลหนาวหัวใจมาก มือไม้สั่น หัวไม่ฉับไว ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วจะเป็นคนที่มีปฏิกิริยา ตอบสนองต่อปัญหาเฉพาะหน้าได้ว่องไวมาก

แต่วันนี้ไม่เลยคะ หัวใจเริ่มหนาวขึ้นเรื่อย ๆ และพี่นายตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อแตกซึมที่หน้าผากและตัว

ใจก้อนึกถึงแต่คุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า ขอให้คุ้มครองนาย อย่างให้นายเป็นอะไรเลย ตอนนั้นกลัวมากค่ะ

โชคดีว่ามิกิ ช่วยประสานเรื่องไว้แต่แรก เจ้าหน้าที่ รพ.รู้ว่า เด็กมีอาการเป็นไงมา

เค้าเตรียมหมอ เตรียมเครื่องมือมาพร้อม เลยค่ะ

เปิ้ลต้องทั้งปลอบ ทั้งขู่ ทุกอย่างเพื่อให้พี่นายยอมให้หมอดูจมูก

สุดท้ายคุณหมอหนุ่ม ท่านนึงเข้ามาดูอาการ พร้อมเตรียมเครื่องมือเพื่อดึงเอาสีเทียนออกมา

ระหว่างนั้น คุณพยาบาล 3 ท่านช่วยห่อพี่นายด้วยผ้า แล้วช่วยกันจับตัว จับหัว

คุณหมอท่านดูแล้ว ดูอีก บอกว่า สีเทียนนี่อันใหญ่นะ แล้วรูจมูกเด็กเล็กและแคบมาก แถมอยู่ลึกเข้าไปข้างในมาก ดึงยากเหมือนกันนะ

แต่ท่านก้อทำทุกวิถีทาง ระยะเวลา 2-3 นาทีนั้น เปิ้ลหน้าซีดเหมือนกระดาษ ชนิดว่าไม่คิดว่าคนดำ ๆ หน้าจะซีดได้ขนาดนั้น ส่วนสามียังดูว่ามีสติดี

คุณพยาบาลร้องเตือนเปิ้ลให้หาที่นั่งเพราะเห็นท่าว่าเปิ้ลอาจจะไม่ไหว

ยิ่งเห็นคุณหมอหยิบเครื่องมือเครื่องไม้เปิ้ลก้อไปก่อนแล้วค่ะ ไม่ได้กลัวหมอนะคะ หมอหน้าตาหล่อ ดูใจดีมาก ยิ้มแย้มอารมย์ดีตลอดเวลาเลยค่ะ

แต่เปิ้ลกลัวเครื่องมือของหมอ กลัวว่าพี่นายจะดิ้นแล้วเอาสีเทียนออกไม่ได้

กลัวพี่นายจะเจ็บ สุดท้ายที่สุดกลัวว่าพี่นายจะมีอันตราย หรือตายค่ะ

หัวใจมันหนาวแบบไม่เคยรู้สึกอย่างงี้มาก่อนค่ะ หมดแรง ไม่มีหัวจะคิดอะไรเลยค่ะ

แต่ต้องทำเป็นแช่มชื่น มีสติ เพราะกลัวอีกว่า พี่นายจะใจเสีย ตอนที่พี่นายมองหน้าเปิ้ลเค้าน้ำตาคลอ พี่นายกลัวแม่รู้ เปิ้ลก้อได้แต่จับหัวลูกและตัวเค้า บอกว่าแม่อยู่ตรงนี้นะ แม่ไม่ทิ้งพี่นาย

แล้วเมื่อคุณหมอเตรียมตัวจะดึง เปิ้ลก้อมือสั่นใจสั่น ต้องร้องเรียกพี่ต้นให้มานั่งเป็นเพื่อนลูกแทน

ส่วนเปิ้ลไปนั่งจับเท้าพี่นายไว้ ปากก้อบอกว่า แม่อยู่นี่นะลูกไม่ได้ทิ้งไปไหน

สักพักเดียว คุณหมอบอกพี่นายว่า เจ็บหน่อยนะลูก เดี๋ยวก้อออกแล้ว

แล้วคุณหมอก้อดึกเจ้าสีเทียนตัวต้นเหตุออกจากจมูกพี่นาย

เปิ้ลดูสีเทียนที่ติดปลายคีมของหมอออกมาแล้วโมโหตัวเองว่า

นี่ชั้นไม่เอาใจใส่ลูกขนาดให้มีสีเทียนขนาดเท่านี้ให้ลูกเอายัดจมูกตัวเองเล่นเหรอ?

ชั้นสะเพร่าขนาดว่าไม่ได้เก็บเลยเหรอ?

แต่โล่งอกมาก ๆ แกะผ้าที่ห่อตัวลูก แล้วก้อกอดพี่นายชมเค้าว่า ดีมากพี่นายโอเคมากลูก เก่งลูก เจ็บนิดเดียวก้อหายแล้วช่ายป่ะลูก

ไป ๆ พี่นายไปขอบพระคุณ คุณหมอที่ช่วยเอาสีเทียนออกจากจมูกพี่นายนะลูก

นาทีที่พี่นายยกมือพนมไหว้ท่วมหัว หัวอกคนเป็นแม่จะระเบิด
รู้อย่างนึงว่า พี่นายสำนึกในบุญคุณ คุณหมอท่านนั้น ที่ช่วยเอาสีเทียนที่ยัดจมูกออก ทำให้พี่นายหายอึดอัด และหายใจสะดวก

คุณหมอหนุ่มท่านนั้น ก้อมีสีหน้ายิ้ม ๆ ในที ที่เห็นท่าทางของพี่นายค่ะ

โล่งใจ รอดตายแล้วลูกแม่

พอไม่มีอะไรมาอุดจมูก พี่นายก้อวิ่งได้เหมือนเดิม สบายตัวสบายใจ

พ่อแม่และคุณยาย ก้อรอนั่งจ่ายตังค์แบบสบายใจมาก ๆ

เป็นการจ่ายตังค์ที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยค่ะ เงินเพียงเล็กน้อย เทียบไม่ได้กะชีวิตพี่นายเลยจริง ๆ

กราบขอบพระคุณ คุณหมอหนุ่ม และคุณพยาบาล และเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ที่ช่วยเหลือพี่นาย ในคืนนี้นะคะ

และขอบใจ มิกิ แม่กิของพี่นายด้วย เห็นป่ะว่า เมื่อยกให้เป็นลูกตัวแล้วต้องมีส่วนร่วมในการที่จะช่วยให้มีชีวิตรอดด้วยอ่ะ 555 พี่ขอบใจมากนะกิ ขอบใจจริง ๆ

ใครที่มีลูกหลานวัยซน ระวังนะคะ เด็ก ๆ นี่ประมาทไม่ได้เพราะเค้าไม่รู้หรอกค่ะว่าอันไหนอันตรายหรือไม่ เค้ายังไม่เข้าใจ

โชคดีว่า คุณตา คุณยายอยู่ดูแลนายโน๊ต คือไม่ได้มีพี่เลี้ยง คนใช้ หรือเนอร์สเซอรี่

เพราะคุณยายเคยพูดว่า หลานชั้น ชั้นดูเองได้อ่ะ แล้วก้อจริงดังว่า ท่านดูแลอย่างดีที่สุดจริง ๆ

กราบขอบพระคุณ พ่อกะแม่ค่ะ



Create Date : 26 กันยายน 2550
Last Update : 26 กันยายน 2550 21:25:36 น. 7 comments
Counter : 1561 Pageviews.

 
ตื่นเต้นและกลัวไปด้วยเลยค่ะ โชคดีแล้วนะคะ ที่ไม่เป็นไรมาก มีลูกเล็กๆ สองคนค่ะ โชคดีที่เค้าไม่เคยเอาอะไรใส่ปาก หรือใส่จมูก เพราะหมอเมกาที่เราอยู่แย่มากๆ ชักช้าด้วย คงไม่ทันการณ์แน่ๆ ไม่เหมือนหมอเมืองไทยเนอะ


โดย: ฟ้าสวยมาก วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:1:14:40 น.  

 
ใจหายแทนเลยคะ ดีนะว่าน้องไม่เป็นไร อ่านแล้วก็ลุ้นไปด้วย ทั้งๆที่ก็เห็นว่าสีเทียนหลุดออกมาแล้ว แต่ไม่วายอ่านไปลุ้นไปคะ


โดย: Mimi Mice วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:1:19:47 น.  

 
เวงกำ น้องหนู ดีแล้วนะคะ ที่ปลอดภัย ไม่เป็นอะไร - * -


โดย: M...MinT วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:8:51:52 น.  

 
ปลอดภัย ดีใจด้วยคะ


โดย: นิวคะ (-:-น้องนาจา-:- ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:19:44:24 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของทุกท่านนะคะ


โดย: แม่นายโน๊ต วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:23:37:35 น.  

 
อ๊ะจึ๋ยยยยยย เจ๊หลีว่า เป็นเพราะเด็ก เด๋วนี้ ฉลาด เกินกว่า เด็กสมัยก่อน ความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้น ก็เลยเป็นความเหนื่อย ของ พ่อแม่แทนค่ะ

ยินดีด้วยนะคะ ที่ปลอดภัยค่ะ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:6:48:23 น.  

 
ขอบคุณที่ห่วงใยค่ะ เจ๊หลี


โดย: แม่นายโน๊ต วันที่: 27 ตุลาคม 2550 เวลา:0:13:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่นายโน๊ต
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เด็กสาวคนหนึ่ง
วิ่งไล่ตามความฝันตนเองมาแสนนาน
ฝันอยากเป็นโน่น เดี๋ยวอยากเป็นนี่
ข้ามน้ำข้ามทะเล เพื่อค้นหาความสุข
ในที่สุด จึงพบว่า ความสุขที่แท้จริง
คือการที่เรามีใครสักคนที่รักเราอย่างแท้จริง
โดยปราศจากเงื่อนไข

ทุกวันนี้จึงมีความสุขที่ได้ดูแลครอบครัว
และเฝ้ามองลูก ๆ ของเราเติบโต
Friends' blogs
[Add แม่นายโน๊ต's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.