Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 

สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ชมวิวบนเขื่อน ชมผีเสื้อ ณ แค้มป์บ้านกร่าง ... แก่งกระจาน




สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ
--- > ชมวิวบนเขื่อนแก่งกระจาน --- > ชมผีเสื้อ ณ แค้มป์บ้านกร่าง


การเดินทางครั้งนี้จุดมุ่งหมายเราจะไปดูผีเสื้อที่แค้มป์บ้านกร่างกัน แต่ก่อนที่จะไปดูผีเสื้อผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง เห็นป้ายตั้งแต่ทางหลัก "เจ้าแม่กวนอิมใหญ่ที่สุดในโลก" อะไรที่ใหญ่ในโลกกลายเป็นที่สนใจ  เราผ่านมาทางเขื่อนเพชร พอเห็นป้ายก็เลี้ยวไปตามทาง ไม่รู้ว่าระยะทางเท่าไหร่แต่ดูเหมือนไกลพอสมควร เป็นเส้นทางที่ไม่เคยมา สำหรับแก่งกระจานครั้งนี้เป็นครั้งที่สองสำหรับการมาเยือน นานมาแล้วจำได้ว่าเคยมานั่งชมวิวที่สันเขื่อนซักพักแล้วก็กลับไม่ได้เที่ยวที่ไหนต่อ

ทางผ่านของเราเมื่อเข้าเขตอำเภอแก่งกระจานจะเห็นดอกไม้สีส้ม ๆ แดง ๆ สวยงาม บานสะพรั่งกันเต็มต้น เป็นระยะ ๆ คงเป็นช่วงฤดูดอกหางนกยูงกำลังบานนั่นเอง





บรรยากาศสองข้างทาง และชีวิตของผู้คนบนถนนสายนี้





มาถึงเอาช่วงบ่าย  "อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม"  ตั้งอยู่ที่  ต.พุสวรรค์  อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นสถานที่่ท่องเที่ยวทางธรรมที่ร่มเย็น เงียบสงบ ผ่านประตูเข้าไปด้านหน้ามีจัดบริการรถพ่วงสำหรับเข้าไปเยี่ยมชมด้านใน คนละ 10 บาท เท่านั้น เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. - 18.00 น. พื้นที่กว้างขวางมากมาย โชเฟอร์เราพูดคุยเป็นกันเอง แนะนำสถานที่เป็นอย่างดี

รถพ่วงจะมาจอดรับส่งบริเวณนี้ เราขึ้นไปนมัสการไหว้พระและทำบุญกันก่อน





ชมบริเวณรอบ ๆ แม้แดดจะร้อน แต่ก็มีต้นไม้รายล้อมประกอบกับสถานที่เงียบสงบมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่ ทำให้รู้สึกเย็นกายเย็นใจขึ้น ใกล้กันเป็นโรงเจซึ่งวันนั้นมิได้เปิดทำการ ไปถึงยังไม่มีผู้คน เผลอแป๊บเดียว ได้ยินเสียงผู้คนทยอยเดินทางเข้ามาชมกันเรื่อย ๆ  ด้านในมีร้านค้าบริการน้ำดื่ม อาหาร มีน้ำ้ตาลสดเย็น ๆ ได้ดื่มดับกระหายได้ดีทีเดียว ส่วนห้องน้ำก็สะอาดพร้อมใช้เลย





ไม่คิดว่าพื้นที่จะกว้างขวางขนาดนี้สร้างอยู่บนพื้นที่ถึง 180 ไร่ เดินไปเรื่อย ๆ ผ่านแดนพุทธเกษตร แดนสิบสองนักษัตร ท่องแดนสุขาวดี แดนมหายาน - เต๋า แดนพราหมณ์ฮินดู  ฯลฯ

เดินผ่านประตูทางเข้าแปดเหลี่ยม มีเครื่องหมายหยินหยางอยู่ด้านบน ข้ามสะพานไปอีกฝั่ง ผ่านประตูนี้เข้าไปเราคงจะโชคดี





ที่น่าสนใจและแปลกดี ภายในอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม มีสถานที่พักใหม่ย้อนยุคธรรมชาติด้วย ชื่อ "ก๊อด เฮ้า รีสอร์ท" เห็นแต่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปดูว่าเป็นอย่างไร เดาเอาว่าไว้สำหรับผู้ที่ต้องการมาหาความสงบจากธรรมชาติและหาความร่มเย็นทางใจ





ข้อความบนป้ายแดงอักษรสีขาวก่อนจะเข้าสู่ประตูแดนสุขาวดี สิ่งไม่ดีจะถูกพัดหายไป ความโชคดีจะบังเกิดขึ้น ^^





แหงนหน้าขึ้นมองด้านบนขณะเดินผ่านประตูแดนสุขาวดี ยิ่งใหญ่สวยงาม ภาพวาดที่ปรากฎ โคมไฟห้อยระย้า





"อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม" เป็นสถานที่เป็นมงคล ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร อากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติสวยงาม กล่าวกันว่า "ชีวิตจะสดใสครอบครัวมีความสุข สบายใจไปตลอดชาติ ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข อย่าลืมไปเที่ยวชมอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม แห่งเดียวในโลกเท่านั้น ไม่เชื่อต้องไปชม ไปแล้วจะอิ่มใจ อิ่มบุญ สุขใจ"





ผ่านมาถึงลานบูชาฟ้าดิน ด้านซ้ายเป็นที่ประดิษฐานพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร (พันมือพันตา) มีผู้แนะนำให้เรากราบไหว้ขอพรวนจากซ้ายไปขวาให้ครบสี่ด้าน

องค์พระแม่กวนอิมพันมือแกะสลักด้วยไม้ ด้านในมีตู้รับบริจาคแล้วแต่กำลังศรัทธา





ทางออกไม่ต้องย้อนกลับ เดินวนกลับไปที่จุดเริ่มต้นที่รถพ่วงรอรับกลับ เข้าห้องน้ำ พักร้อนกันอีกนิด เตรียมตัวเดินทางต่อ ออกจากการชมอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมเห็นด้านขวามือใกล้ ๆ กันมีองค์พระสีขาวประดิษฐานอยู่ "องค์พระศรีอริยเมตไตรหินหยกขาว" ซึ่งใกล้จะเสร็จแล้ว เป็นหินหยกที่หายาก คาดเดาว่าจะเสร็จในต้นปีหน้า เราทำบุญสร้างศาลาตามศรัทธาเป็นกระเบื้องมุงหลังคา หลังจากอิ่มบุญแล้ว ได้เวลาเดินทางกันต่อ





ธรรมชาติของแก่งกระจานระหว่างการเดินทางที่สัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ ขุนเขา ต้นไม้ ถนนที่คดเคี้ยวบ้าง ทำให้เพลิดเพลินได้มิใช่น้อย





ไปถึงยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สอบถามเจ้าหน้าที่ถึงเส้นทางไปดูผีเสื้อที่แค้มป์บ้านกร่าง เผอิญมันเริ่มจะเย็น ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปดูวันรุ่งขึ้น  งั้นวันนี้เราหาที่พักกันด้านนอกดีกว่า

ถ่ายป้ายเป็นที่ระลึกกันซักหน่อย





แล้วก็ขึ้นไปชมวิวบนสันเขื่อน ไม่รู้ว่าสามารถขับรถขึ้นไปจอดบนสันเขื่อนได้ เลยจอดไว้ตั้งไกลแล้วเดินมา อยู่บนที่สูงมันวาบหวิวดี แรงลมยิ่งทำให้รู้สึกเสียวขึ้นทั้ง ๆ ที่ความกว้างของถนนบนเขื่อนก็ใช้ได้อยู่





บรรยากาศบนเขื่อนแก่งกระจาน ท้องฟ้า ทิวเขา สายน้ำ





ดอกหญ้าริมถนนบนสันเขื่อน เดินถ่ายรูปพร้อมกับซึมซับบรรยากาศรอบ ๆ





ความหนาแน่นของต้นไม้ ทำให้รู้สึกว่าได้กลับคืนอ้อมกอดของธรรมชาติอีกครั้ง





ทะเลสาป ทิวเขา แรงลม ธรรมชาติที่สัมผัสได้ ... แก่งกระจาน





ต้นไม้เขียว ๆ เห็นแล้วก็สดชื่นดี





เรายืนพักอยู่บริเวณป้ายเขื่อนแก่งกระจาน มีรถไอติมมาจอดขายแถว ๆ นี้ ไม่พลาดกินไอติมกันคนละแท่งดับความร้อนกัน คนขายไอติมเค้าบอกว่าช่วงนี้ตอนเย็นพระอาทิตย์ตกตรงภูเขาพอดี จะมองไม่เห็นพระอาทิตย์ตก เสียดายจัง  สำหรับใครต้องการล่องเรือชมทะเลสาปภายในเขื่อนแก่งกระจานก็มีบริการด้วยเหมือนกัน





ถนนเบื้องล่าง เจอต้นไม้โอบไว้หนาแน่น ถนนเลยดูเล็กไปเลย





ระยะทางดูเหมือนจะไกลลิบ ๆ แต่เดินแป๊บเดียวก็ถึง





หลังจากได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศบริเวณสันเขื่อนเสร็จเรียบร้อยเราเดินทางไปจุดบริการนักท่องเที่ยวสอบถามข้อมูลการไปดูผีเสื้อ ไปเอาตอนนั้นคงไม่ทัน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็น เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า เอาเป็นว่าลงจากเขื่อนไปหาที่พักกันดีกว่า ไม่ได้จองล่วงหน้า ดุ่ม ๆ เข้าไปดู ชักจะเริ่มค่ำมืดแล้ว สุดท้ายไปได้ที่ "บ้านโอบฟ้า" รีสอร์ทเล็ก ๆ อยู่ริมน้ำ ใครที่สนใจจะมาล่องแก่งเค้าก็มีจัดกิจกรรมและอุปกรณ์ไว้ให้ ถ้ามาเป็นหมู่คณะกิจกรรมล่องแก่งก็น่าสนใจดี ค่ำวันนั้นสั่งอาหารจานเดียวที่รีสอร์ทอิ่มไปอีกหนึ่งมื้อ

ยามเช้าเราตื่นกันตั้งแต่เจ็ดโมง ผู้จัดการยังไม่ตื่น เลยฝากค่าเสียหายไว้กับเด็ก ๆ ที่รีสอร์ท เราไปหาโจ๊ก ปาท่องโก๋ และกาแฟริมทาง  พอมาต่างจังหวัดบรรยากาศตอนเช้ากับอาหารประเภทนี้รู้สึกว่าัมันเข้ากันดีแฮะ

เรารู้เส้นทางแล้ว ตรงไปตามทางเรื่อย ๆ ไปทางพะเนินทุ่ง มีป้ายบอกตลอดไม่ต้องกลัวหลง ระหว่างทาง จะเห็นถนนโค้งขึ้น ๆ ลง ๆ แบบนี้สวยดี มีรีสอร์ทด้วยแต่ไม่เยอะเท่าไหร่





ผ่านด่านแค้มป์บ้างกร่างจ่ายค่าธรรมเนียมตามระเบียบ ระหว่างทางเข้าเจอต้นไม้เป็นซุ้มแบบนี้เสมือนเป็นประตูทางเข้าเลย





สิ่งมีชีวิตแรกที่เจอเป็นพวกไก่ป่าซัก 4 - 5 ตัว กำลังออกหากิน และต่อมาก็เจอเจ้าตัวนี้ เรียกตะกวดหรือเปล่าไม่แน่ใจ มีผีเสื้อมาให้เชยชม 1 ตัว กำลังเกาะเจ้าอ้วนตัวนี้อย่างเหนียวแน่น ดูเหมือนจะยิ้มให้ด้วยไม่กล้าเข้าไปใกล้นักกลัวมันตกใจหนีไปซะก่อน





ยังไม่ทันไร ระหว่างทางเจอผีเสื้อกำลังหากินบริเวณแอ่งน้ำที่มีน้ำขัง เอาล่ะเจอแบบนี้ท่าทางเราจะไม่ผิดหวังกับการมาดูผีเสื้อ ตามข้อมูลเค้าว่าผีเสื้อจะเยอะช่วงเมษายนของทุกปี เราไปเอาช่วงกลาง ๆ พฤษภาคม เลยไม่แน่ใจว่าจะมีให้เราเห็นหรือเปล่า นอกจากผีเสื้อตามทางแล้วก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วย แถมเจอขี้ช้างใหม่ ๆ เหมือนมันเพิ่งออกมาเดิน ในใจคิด ถ้าเจ้าช้างออกมาเราจะทำงัยกันดี แต่ก็ไม่เจอ ได้ยินแต่เสียงนก แล้วก็มีตัวอะไรไม่รู้วิ่งผ่านแว๊บ ๆ





เห็นผีเสื้อนิดเดียวก็ทำเป็นตื่นเต้น อิอิ เป็นผีเสื้อพันธุ์อะไรไม่รู้ รู้สึกว่ามันจะมาเป็นฝูงเยอะกว่าเพื่อน





เส้นทางไปบ้านกร่างถนนประมาณนี้ บางช่วงก็เป็นหลุม ลูกรังบ้าง ค่อย ๆ ขับกันไป รถเก๋งเค้ายังขึ้นกันได้เลย เป็นการเดินทางแบบลุย ๆ กันเล็กน้อย แต่ก็ยังโชคดีที่ฝนไม่ตก ไม่งั้นคงจะเละกว่านี้





เจอป้ายแล้ว คงใกล้ถึงจุดมุ่งหมายของเรา "แค้มป์บ้านกร่าง"





ไปถึงที่ทำการบริเวณแค้มป์บ้านกร่าง แล้วเราก็ขับรถกันไปต่อ ไปถึงประมาณแปดโมงเช้า แสงแดดรำไร เจ้าหน้าที่เค้าบอกต้องสายกว่านี้พอแสงแดดมีมากขึ้น ซักช่วงประมาณ 10 - 11 โมงเช้า ผีเสื้อจะออกมาหากินกันมากกว่านี้

เห็นผีเสื้อตัวหนึ่ง สีน้ำเงินสลับขาว มีขายื่นออกมาด้วย แปลกตาไ่ม่ค่อยเหมือนตัวอื่น กำลังเกาะใบไม้ เลยเอามาเป็นนางแบบซักหน่อย





บริเวณที่เค้าดูผีเสื้อกันจะมีอยู่ 3 ลำธาร เราก็แวะตั้งแต่ลำธารแรกจนลำธารสุดท้าย ผีเสื้อยังไม่เยอะเท่าไหร่ ได้ยินเสียงนกร้องกันเจื้อยแจ้ว แต่มองหาตัวไม่เจอ นักส่องนกก็ตามกันมาเรื่อย ๆ กิจกรรมการดูนกสำหรับผู้มีใจรักดูน่าสนุกดี





ขณะรอเวลาได้ยินเสียงนกร้องใกล้ ๆ เงยหน้าขึ้นไปเจอนกอยู่ตัวหนึ่ง ยังไม่ได้ตั้งท่าจะึถ่ายเท่าไหร่มันก็บินจากไปแล้ว





เส้นทางชมผีเสื้อและเส้นทางไปพะเนินทุ่งเป็นเส้นทางเดียวกัน ผู้คนที่มากับรถโดยสารลงจากพะเนินทุ่งก็มาแวะชมผีเสื้อระหว่างกลับเหมือนกัน รอเวลาผีเสื้อโบกโบยบินมาหาอาหารริมลำธาร ประมาณสิบโมงเช้าตามที่เค้าว่าไว้ว่าสาย ๆ หน่อยผีเสื้อจะออกมาเยอะ เป็นไปตามนั้น โดยเฉพาะลำธารที่สอง





ได้ยินมาว่าผีเสื้อชอบความเค็ม ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ไม่ว่าจะเป็นกะปิ น้ำปลา มีแต่สปอนเซอร์ ลองเอามาทาตามแขน ผลปรากฎว่ามันก็ไม่สนใจ

ซักพักมองผู้รู้เค้าทำกัน ค่อย ๆ วางมือบริเวณที่มวลหมู่ผีเสื้อกำลังจอดกินอาหารกันอยู่ พอมีตัวหนึ่งมาเกาะแล้ว จะค่อย ๆ มีตัวอื่นตามมาเป็นทิวแถว แม้แต่วางกล้องลงกับพื้นมันก็พากันมาดอมดมสงสัยคงจะรสชาดดี ^^





ส่วนใหญ่ที่มาเกาะจะเป็นพันธุ์สีส้ม ๆ ลายจุดดำ แถมตามเข้ามาอยู่ในกระเป๋ากล้องตอนกลับอีก คงอยากกลับไปเที่ยวเมืองกรุงด้วยกระมัง

เราอยู่กันเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยเจอผีเสื้อรุมเต็มหน้าเต็มตา





สำหรับการดูผีเสื้อครั้งนี้ เพียงแค่นี้ก็รู้สึกสมใจ สุขใจ แม้จะมีไม่มากแต่ก็ไม่เคยเห็นผีเสื้อเยอะขนาดนี้มาก่อน





พันธุ์อื่น ๆ ก็มี ... เจ้าตัวนี้หลงฝูงกำลังหากินอยู่ตัวเดียว





หลากหลายสายพันธุ์ ต่างก็มาชุมนุมกันโดยนัดหมายหรือไม่นัดหมายก็ไม่รู้ได้





แสงแดดส่องที่เจ้าผีเสื้อตัวนี้ทำให้มองทะลุปีกใส ๆ เห็นลวดลายชัดเจน ... สีสันของผีเสื้ออยู่ตรงปีกที่กางออกมา จะเห็นลวดลาย แต่ละพันธุ์ก็มีความงามอยู่ในตัว





หลังสุขสมอารมณ์หมาย หลายชั่วโมงที่อยู่ที่แค้มป์บ้านกร่าง เพียงพอกับเวลาที่ได้ชื่นชมเหล่าผีเสื้อ ได้เวลากลับกันแล้ว เรากลับไปยังเขื่อนแก่งกระจานอีกครั้ง ไปเดินถ่ายรูปกับสะพานแขวนที่กำลังซ่อมแซม เดินไปเพียงครึ่งทางก็กลับ ชมวิว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

และก็ภาพสุดท้ายเป็นวิวบริเวณร้านอาหาร "แ่ก่งเพชร" ได้มุมนั่งที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรบดบัง เราสั่งอาหารมาทานกัน มองลงไปเบื้องล่างเป็นที่จอดเรือสำหรับรับส่งนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือไปชมรอบ ๆ เขื่อน





Smiley ใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มีความหมาย  ให้รางวัลกับตัวเอง กับการเดินทางครั้งนี้ ธรรมชาติช่วยจรรโลงจิตใจได้มากมาย ... เดินทางกลับกันทางหนองหญ้าปล้อง ผ่านวิวสวย ๆ ดงตาล ทิวเขา ช่วงแสงเช้ากับเย็นถ่ายรูปน่าจะสวย  และก็มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากตาล เช่น น้ำตาลสด ขนมตาล ลูกตาล  ซึ่งมีขายเป็นทิวแถว  เราได้น้ำตาลสดขวดนึงและก็ขนมตาลติดไม้ติดมือกลับบ้านกันนิดหน่อย เป็นอันจบทริปนี้ด้วยความสุขอีกครั้ง ^^




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2556
0 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2556 20:16:37 น.
Counter : 17943 Pageviews.


Sun Tzu
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




" แสงอุ่นอุ่นอ่อนละมุนยามชิดใกล้
ฟ้าใสใสหลังฝนซาสุริยาส่อง
ค่อยค่อยผ่านปุยเมฆตามครรลอง
ที่หมายมองมองหมาย ณ ปลายทาง "
Friends' blogs
[Add Sun Tzu's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.