Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
my ... trip
my ... garden
my ... gallery
<<
มิถุนายน 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
10 มิถุนายน 2556
สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ชมวิวบนเขื่อน ชมผีเสื้อ ณ แค้มป์บ้านกร่าง ... แก่งกระจาน
All Blogs
อีกครั้ง เยือนถิ่นพญาเสือโคร่ง ... อ่างขาง
ไปหนาวกันต่อ ... อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน : ฝากใจไว้ ... ที่ปางอุ๋ง
เดินเล่นเลียบชายหาด ชมวิวทิวทัศน์ ... บ้านกรูด
รับลมแลทะเล ... จากเพชรบุรีถึงปราณบุรี
สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ชมวิวบนเขื่อน ชมผีเสื้อ ณ แค้มป์บ้านกร่าง ... แก่งกระจาน
เดินเล่นทะเลสาปซิลเวอร์เลค เรื่อยเปื่อยถึงมิโมซ่า
พอเพลิน อิ่มเพลิน เล่นกับแกะเพลินเพลิน ... สวนผึ้ง
เส้นทางสายหนึ่ง ... สู่จันทบุรี
เส้นทางสายหนึ่ง ... สู่ร้อยเอ็ด
เที่ยวท่อง นอนแพ ไทรโยคใหญ่ ... เมืองกาญจน์
ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ... วัดพระเชตุพน
อนึ่งคิดถึงพอสังเขป ... ภูกระดึง
เดินเล่น ชิล ชิล ... สวนสัตว์ป่าเขาเขียว
เพลินตาเพลินใจชมทุ่งทานตะวัน - นมัสการรอยพระพุทธบาท
ยามเย็นเราพากันเดินเล่น ... ถนนราชดำเนิน
ทางผ่าน ... วัดญาณ ฯ - วิหารเซียน - ซิลเวอร์เลค
ตะลอนเที่ยวเขาค้อ เมืองในหมอก ... เพชรบูรณ์
หนาวนี้ที่ทับเบิก สัมผัสไอหมอก ไร่กะหล่ำ ... เพชรบูรณ์
กินปลาเผา ไหว้พระพิฆเนศ เที่ยวน้ำตก แวะเขื่อน ... นครนายก
กาลครั้งหนึ่ง ... เกาะยาวน้อย
พักกาย ผ่อนใจ ไปชะอำ
รักษ์ทะเล ชมเต่า ปลูกปะการัง ... สัตหีบ
ป่าเล็กในเมืองใหญ่ .... สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สู่เมืองระนอง ... ปลายทางเกาะพยาม
ย้อนวันวาน ... เขาใหญ่ วังน้ำเขียว
สัมผัสไอหมอก ชมทุ่งบัวสวรรค์ ณ ชัยภูมิ
สวัสดี ณ สีชัง
สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ชมวิวบนเขื่อน ชมผีเสื้อ ณ แค้มป์บ้านกร่าง ... แก่งกระจาน
สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ
--- >
ชมวิวบนเขื่อนแก่งกระจาน
--- >
ชมผีเสื้อ ณ แค้มป์บ้านกร่าง
การเดินทางครั้งนี้จุดมุ่งหมายเราจะไปดูผีเสื้อที่แค้มป์บ้านกร่างกัน แต่ก่อนที่จะไปดูผีเสื้อผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง เห็นป้ายตั้งแต่ทางหลัก "เจ้าแม่กวนอิมใหญ่ที่สุดในโลก" อะไรที่ใหญ่ในโลกกลายเป็นที่สนใจ เราผ่านมาทางเขื่อนเพชร พอเห็นป้ายก็เลี้ยวไปตามทาง ไม่รู้ว่าระยะทางเท่าไหร่แต่ดูเหมือนไกลพอสมควร เป็นเส้นทางที่ไม่เคยมา สำหรับแก่งกระจานครั้งนี้เป็นครั้งที่สองสำหรับการมาเยือน นานมาแล้วจำได้ว่าเคยมานั่งชมวิวที่สันเขื่อนซักพักแล้วก็กลับไม่ได้เที่ยวที่ไหนต่อ
ทางผ่านของเราเมื่อเข้าเขตอำเภอแก่งกระจานจะเห็นดอกไม้สีส้ม ๆ แดง ๆ สวยงาม บานสะพรั่งกันเต็มต้น เป็นระยะ ๆ คงเป็นช่วงฤดูดอกหางนกยูงกำลังบานนั่นเอง
บรรยากาศสองข้างทาง และชีวิตของผู้คนบนถนนสายนี้
มาถึงเอาช่วงบ่าย
"อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม"
ตั้งอยู่ที่ ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นสถานที่่ท่องเที่ยวทางธรรมที่ร่มเย็น เงียบสงบ ผ่านประตูเข้าไปด้านหน้ามีจัดบริการรถพ่วงสำหรับเข้าไปเยี่ยมชมด้านใน คนละ 10 บาท เท่านั้น เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8.00 น. - 18.00 น. พื้นที่กว้างขวางมากมาย โชเฟอร์เราพูดคุยเป็นกันเอง แนะนำสถานที่เป็นอย่างดี
รถพ่วงจะมาจอดรับส่งบริเวณนี้ เราขึ้นไปนมัสการไหว้พระและทำบุญกันก่อน
ชมบริเวณรอบ ๆ แม้แดดจะร้อน แต่ก็มีต้นไม้รายล้อมประกอบกับสถานที่เงียบสงบมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่ ทำให้รู้สึกเย็นกายเย็นใจขึ้น ใกล้กันเป็นโรงเจซึ่งวันนั้นมิได้เปิดทำการ ไปถึงยังไม่มีผู้คน เผลอแป๊บเดียว ได้ยินเสียงผู้คนทยอยเดินทางเข้ามาชมกันเรื่อย ๆ ด้านในมีร้านค้าบริการน้ำดื่ม อาหาร มีน้ำ้ตาลสดเย็น ๆ ได้ดื่มดับกระหายได้ดีทีเดียว ส่วนห้องน้ำก็สะอาดพร้อมใช้เลย
ไม่คิดว่าพื้นที่จะกว้างขวางขนาดนี้สร้างอยู่บนพื้นที่ถึง 180 ไร่ เดินไปเรื่อย ๆ ผ่านแดนพุทธเกษตร แดนสิบสองนักษัตร ท่องแดนสุขาวดี แดนมหายาน - เต๋า แดนพราหมณ์ฮินดู ฯลฯ
เดินผ่านประตูทางเข้าแปดเหลี่ยม มีเครื่องหมายหยินหยางอยู่ด้านบน ข้ามสะพานไปอีกฝั่ง ผ่านประตูนี้เข้าไปเราคงจะโชคดี
ที่น่าสนใจและแปลกดี ภายในอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม มีสถานที่พักใหม่ย้อนยุคธรรมชาติด้วย ชื่อ "ก๊อด เฮ้า รีสอร์ท" เห็นแต่ด้านนอกไม่ได้เข้าไปดูว่าเป็นอย่างไร เดาเอาว่าไว้สำหรับผู้ที่ต้องการมาหาความสงบจากธรรมชาติและหาความร่มเย็นทางใจ
ข้อความบนป้ายแดงอักษรสีขาวก่อนจะเข้าสู่ประตูแดนสุขาวดี สิ่งไม่ดีจะถูกพัดหายไป ความโชคดีจะบังเกิดขึ้น ^^
แหงนหน้าขึ้นมองด้านบนขณะเดินผ่านประตูแดนสุขาวดี ยิ่งใหญ่สวยงาม ภาพวาดที่ปรากฎ โคมไฟห้อยระย้า
"อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม"
เป็นสถานที่เป็นมงคล ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร อากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติสวยงาม กล่าวกันว่า "ชีวิตจะสดใสครอบครัวมีความสุข สบายใจไปตลอดชาติ ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข อย่าลืมไปเที่ยวชมอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม แห่งเดียวในโลกเท่านั้น ไม่เชื่อต้องไปชม ไปแล้วจะอิ่มใจ อิ่มบุญ สุขใจ"
ผ่านมาถึงลานบูชาฟ้าดิน ด้านซ้ายเป็นที่ประดิษฐานพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร (พันมือพันตา) มีผู้แนะนำให้เรากราบไหว้ขอพรวนจากซ้ายไปขวาให้ครบสี่ด้าน
องค์พระแม่กวนอิมพันมือแกะสลักด้วยไม้ ด้านในมีตู้รับบริจาคแล้วแต่กำลังศรัทธา
ทางออกไม่ต้องย้อนกลับ เดินวนกลับไปที่จุดเริ่มต้นที่รถพ่วงรอรับกลับ เข้าห้องน้ำ พักร้อนกันอีกนิด เตรียมตัวเดินทางต่อ ออกจากการชมอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมเห็นด้านขวามือใกล้ ๆ กันมีองค์พระสีขาวประดิษฐานอยู่
"องค์พระศรีอริยเมตไตรหินหยกขาว"
ซึ่งใกล้จะเสร็จแล้ว เป็นหินหยกที่หายาก คาดเดาว่าจะเสร็จในต้นปีหน้า เราทำบุญสร้างศาลาตามศรัทธาเป็นกระเบื้องมุงหลังคา หลังจากอิ่มบุญแล้ว ได้เวลาเดินทางกันต่อ
ธรรมชาติของแก่งกระจานระหว่างการเดินทางที่สัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ ขุนเขา ต้นไม้ ถนนที่คดเคี้ยวบ้าง ทำให้เพลิดเพลินได้มิใช่น้อย
ไปถึงยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สอบถามเจ้าหน้าที่ถึงเส้นทางไปดูผีเสื้อที่แค้มป์บ้านกร่าง เผอิญมันเริ่มจะเย็น ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปดูวันรุ่งขึ้น งั้นวันนี้เราหาที่พักกันด้านนอกดีกว่า
ถ่ายป้ายเป็นที่ระลึกกันซักหน่อย
แล้วก็ขึ้นไปชมวิวบนสันเขื่อน ไม่รู้ว่าสามารถขับรถขึ้นไปจอดบนสันเขื่อนได้ เลยจอดไว้ตั้งไกลแล้วเดินมา อยู่บนที่สูงมันวาบหวิวดี แรงลมยิ่งทำให้รู้สึกเสียวขึ้นทั้ง ๆ ที่ความกว้างของถนนบนเขื่อนก็ใช้ได้อยู่
บรรยากาศบนเขื่อนแก่งกระจาน ท้องฟ้า ทิวเขา สายน้ำ
ดอกหญ้าริมถนนบนสันเขื่อน เดินถ่ายรูปพร้อมกับซึมซับบรรยากาศรอบ ๆ
ความหนาแน่นของต้นไม้ ทำให้รู้สึกว่าได้กลับคืนอ้อมกอดของธรรมชาติอีกครั้ง
ทะเลสาป ทิวเขา แรงลม ธรรมชาติที่สัมผัสได้ ... แก่งกระจาน
ต้นไม้เขียว ๆ เห็นแล้วก็สดชื่นดี
เรายืนพักอยู่บริเวณป้ายเขื่อนแก่งกระจาน มีรถไอติมมาจอดขายแถว ๆ นี้ ไม่พลาดกินไอติมกันคนละแท่งดับความร้อนกัน คนขายไอติมเค้าบอกว่าช่วงนี้ตอนเย็นพระอาทิตย์ตกตรงภูเขาพอดี จะมองไม่เห็นพระอาทิตย์ตก เสียดายจัง สำหรับใครต้องการล่องเรือชมทะเลสาปภายในเขื่อนแก่งกระจานก็มีบริการด้วยเหมือนกัน
ถนนเบื้องล่าง เจอต้นไม้โอบไว้หนาแน่น ถนนเลยดูเล็กไปเลย
ระยะทางดูเหมือนจะไกลลิบ ๆ แต่เดินแป๊บเดียวก็ถึง
หลังจากได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศบริเวณสันเขื่อนเสร็จเรียบร้อยเราเดินทางไปจุดบริการนักท่องเที่ยวสอบถามข้อมูลการไปดูผีเสื้อ ไปเอาตอนนั้นคงไม่ทัน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็น เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า เอาเป็นว่าลงจากเขื่อนไปหาที่พักกันดีกว่า ไม่ได้จองล่วงหน้า ดุ่ม ๆ เข้าไปดู ชักจะเริ่มค่ำมืดแล้ว สุดท้ายไปได้ที่
"บ้านโอบฟ้า"
รีสอร์ทเล็ก ๆ อยู่ริมน้ำ ใครที่สนใจจะมาล่องแก่งเค้าก็มีจัดกิจกรรมและอุปกรณ์ไว้ให้ ถ้ามาเป็นหมู่คณะกิจกรรมล่องแก่งก็น่าสนใจดี ค่ำวันนั้นสั่งอาหารจานเดียวที่รีสอร์ทอิ่มไปอีกหนึ่งมื้อ
ยามเช้าเราตื่นกันตั้งแต่เจ็ดโมง ผู้จัดการยังไม่ตื่น เลยฝากค่าเสียหายไว้กับเด็ก ๆ ที่รีสอร์ท เราไปหาโจ๊ก ปาท่องโก๋ และกาแฟริมทาง พอมาต่างจังหวัดบรรยากาศตอนเช้ากับอาหารประเภทนี้รู้สึกว่าัมันเข้ากันดีแฮะ
เรารู้เส้นทางแล้ว ตรงไปตามทางเรื่อย ๆ ไปทางพะเนินทุ่ง มีป้ายบอกตลอดไม่ต้องกลัวหลง ระหว่างทาง จะเห็นถนนโค้งขึ้น ๆ ลง ๆ แบบนี้สวยดี มีรีสอร์ทด้วยแต่ไม่เยอะเท่าไหร่
ผ่านด่านแค้มป์บ้างกร่างจ่ายค่าธรรมเนียมตามระเบียบ ระหว่างทางเข้าเจอต้นไม้เป็นซุ้มแบบนี้เสมือนเป็นประตูทางเข้าเลย
สิ่งมีชีวิตแรกที่เจอเป็นพวกไก่ป่าซัก 4 - 5 ตัว กำลังออกหากิน และต่อมาก็เจอเจ้าตัวนี้ เรียกตะกวดหรือเปล่าไม่แน่ใจ มีผีเสื้อมาให้เชยชม 1 ตัว กำลังเกาะเจ้าอ้วนตัวนี้อย่างเหนียวแน่น ดูเหมือนจะยิ้มให้ด้วยไม่กล้าเข้าไปใกล้นักกลัวมันตกใจหนีไปซะก่อน
ยังไม่ทันไร ระหว่างทางเจอผีเสื้อกำลังหากินบริเวณแอ่งน้ำที่มีน้ำขัง เอาล่ะเจอแบบนี้ท่าทางเราจะไม่ผิดหวังกับการมาดูผีเสื้อ ตามข้อมูลเค้าว่าผีเสื้อจะเยอะช่วงเมษายนของทุกปี เราไปเอาช่วงกลาง ๆ พฤษภาคม เลยไม่แน่ใจว่าจะมีให้เราเห็นหรือเปล่า นอกจากผีเสื้อตามทางแล้วก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วย แถมเจอขี้ช้างใหม่ ๆ เหมือนมันเพิ่งออกมาเดิน ในใจคิด ถ้าเจ้าช้างออกมาเราจะทำงัยกันดี แต่ก็ไม่เจอ ได้ยินแต่เสียงนก แล้วก็มีตัวอะไรไม่รู้วิ่งผ่านแว๊บ ๆ
เห็นผีเสื้อนิดเดียวก็ทำเป็นตื่นเต้น อิอิ เป็นผีเสื้อพันธุ์อะไรไม่รู้ รู้สึกว่ามันจะมาเป็นฝูงเยอะกว่าเพื่อน
เส้นทางไปบ้านกร่างถนนประมาณนี้ บางช่วงก็เป็นหลุม ลูกรังบ้าง ค่อย ๆ ขับกันไป รถเก๋งเค้ายังขึ้นกันได้เลย เป็นการเดินทางแบบลุย ๆ กันเล็กน้อย แต่ก็ยังโชคดีที่ฝนไม่ตก ไม่งั้นคงจะเละกว่านี้
เจอป้ายแล้ว คงใกล้ถึงจุดมุ่งหมายของเรา
"แค้มป์บ้านกร่าง"
ไปถึงที่ทำการบริเวณแค้มป์บ้านกร่าง แล้วเราก็ขับรถกันไปต่อ ไปถึงประมาณแปดโมงเช้า แสงแดดรำไร เจ้าหน้าที่เค้าบอกต้องสายกว่านี้พอแสงแดดมีมากขึ้น ซักช่วงประมาณ 10 - 11 โมงเช้า ผีเสื้อจะออกมาหากินกันมากกว่านี้
เห็นผีเสื้อตัวหนึ่ง สีน้ำเงินสลับขาว มีขายื่นออกมาด้วย แปลกตาไ่ม่ค่อยเหมือนตัวอื่น กำลังเกาะใบไม้ เลยเอามาเป็นนางแบบซักหน่อย
บริเวณที่เค้าดูผีเสื้อกันจะมีอยู่ 3 ลำธาร เราก็แวะตั้งแต่ลำธารแรกจนลำธารสุดท้าย ผีเสื้อยังไม่เยอะเท่าไหร่ ได้ยินเสียงนกร้องกันเจื้อยแจ้ว แต่มองหาตัวไม่เจอ นักส่องนกก็ตามกันมาเรื่อย ๆ กิจกรรมการดูนกสำหรับผู้มีใจรักดูน่าสนุกดี
ขณะรอเวลาได้ยินเสียงนกร้องใกล้ ๆ เงยหน้าขึ้นไปเจอนกอยู่ตัวหนึ่ง ยังไม่ได้ตั้งท่าจะึถ่ายเท่าไหร่มันก็บินจากไปแล้ว
เส้นทางชมผีเสื้อและเส้นทางไปพะเนินทุ่งเป็นเส้นทางเดียวกัน ผู้คนที่มากับรถโดยสารลงจากพะเนินทุ่งก็มาแวะชมผีเสื้อระหว่างกลับเหมือนกัน รอเวลาผีเสื้อโบกโบยบินมาหาอาหารริมลำธาร ประมาณสิบโมงเช้าตามที่เค้าว่าไว้ว่าสาย ๆ หน่อยผีเสื้อจะออกมาเยอะ เป็นไปตามนั้น โดยเฉพาะลำธารที่สอง
ได้ยินมาว่าผีเสื้อชอบความเค็ม ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ไม่ว่าจะเป็นกะปิ น้ำปลา มีแต่สปอนเซอร์ ลองเอามาทาตามแขน ผลปรากฎว่ามันก็ไม่สนใจ
ซักพักมองผู้รู้เค้าทำกัน ค่อย ๆ วางมือบริเวณที่มวลหมู่ผีเสื้อกำลังจอดกินอาหารกันอยู่ พอมีตัวหนึ่งมาเกาะแล้ว จะค่อย ๆ มีตัวอื่นตามมาเป็นทิวแถว แม้แต่วางกล้องลงกับพื้นมันก็พากันมาดอมดมสงสัยคงจะรสชาดดี ^^
ส่วนใหญ่ที่มาเกาะจะเป็นพันธุ์สีส้ม ๆ ลายจุดดำ แถมตามเข้ามาอยู่ในกระเป๋ากล้องตอนกลับอีก คงอยากกลับไปเที่ยวเมืองกรุงด้วยกระมัง
เราอยู่กันเป็นกลุ่มสุดท้ายเลยเจอผีเสื้อรุมเต็มหน้าเต็มตา
สำหรับการดูผีเสื้อครั้งนี้ เพียงแค่นี้ก็รู้สึกสมใจ สุขใจ แม้จะมีไม่มากแต่ก็ไม่เคยเห็นผีเสื้อเยอะขนาดนี้มาก่อน
พันธุ์อื่น ๆ ก็มี ... เจ้าตัวนี้หลงฝูงกำลังหากินอยู่ตัวเดียว
หลากหลายสายพันธุ์ ต่างก็มาชุมนุมกันโดยนัดหมายหรือไม่นัดหมายก็ไม่รู้ได้
แสงแดดส่องที่เจ้าผีเสื้อตัวนี้ทำให้มองทะลุปีกใส ๆ เห็นลวดลายชัดเจน ... สีสันของผีเสื้ออยู่ตรงปีกที่กางออกมา จะเห็นลวดลาย แต่ละพันธุ์ก็มีความงามอยู่ในตัว
หลังสุขสมอารมณ์หมาย หลายชั่วโมงที่อยู่ที่แค้มป์บ้านกร่าง เพียงพอกับเวลาที่ได้ชื่นชมเหล่าผีเสื้อ ได้เวลากลับกันแล้ว เรากลับไปยังเขื่อนแก่งกระจานอีกครั้ง ไปเดินถ่ายรูปกับสะพานแขวนที่กำลังซ่อมแซม เดินไปเพียงครึ่งทางก็กลับ ชมวิว ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
และก็ภาพสุดท้ายเป็นวิวบริเวณร้านอาหาร
"แ่ก่งเพชร"
ได้มุมนั่งที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรบดบัง เราสั่งอาหารมาทานกัน มองลงไปเบื้องล่างเป็นที่จอดเรือสำหรับรับส่งนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือไปชมรอบ ๆ เขื่อน
ใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มีความหมาย ให้รางวัลกับตัวเอง กับการเดินทางครั้งนี้ ธรรมชาติช่วยจรรโลงจิตใจได้มากมาย ... เดินทางกลับกันทางหนองหญ้าปล้อง ผ่านวิวสวย ๆ ดงตาล ทิวเขา ช่วงแสงเช้ากับเย็นถ่ายรูปน่าจะสวย และก็มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากตาล เช่น น้ำตาลสด ขนมตาล
ลูกตาล ซึ่งมีขายเป็นทิวแถว เราได้น้ำตาลสดขวดนึงและก็ขนมตาลติดไม้ติดมือกลับบ้านกันนิดหน่อย เป็นอันจบทริปนี้ด้วยความสุขอีกครั้ง ^^
Create Date : 10 มิถุนายน 2556
0 comments
Last Update : 11 กรกฎาคม 2556 20:16:37 น.
Counter : 17943 Pageviews.
Share
Tweet
Sun Tzu
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
" แสงอุ่นอุ่นอ่อนละมุนยามชิดใกล้
ฟ้าใสใสหลังฝนซาสุริยาส่อง
ค่อยค่อยผ่านปุยเมฆตามครรลอง
ที่หมายมองมองหมาย ณ ปลายทาง "
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Sun Tzu's blog to your web]
Links
โค้ดป้ามด
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.