"Try to be the one, not someone"
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
เส้นทางสายโรแมนติกสู่ปราสาทริมแม่น้ำลัวร์

การเดินทางไปเที่ยวปราสาทแม่น้ำลัวร์ ในฝรั่งเศสนั้นจัดได้ว่าเป็นทริปที่ผมประทับใจมากที่สุดทริปหนึ่งก็ว่าได้ เพราะระหว่างเส้นทางที่จะไปถึงปราสาทแต่ละแห่งนั้นล้วนผ่านป่าอันอุดมสมบูรณ์ และมีไร่องุ่นขั้นเป็นระยะๆ ให้ความรู้สึกถึงชนบทอันสงบของฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดียิ่ง แม่น้ำลัวร์ (La Loire) นั้นเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของฝรั่งเศส คือมีความยาวประมาณ 1,020 โดยใหลผ่านเมืองสำคัญๆต่างๆเช่นเมืองออร์เลออง (Orléans) เมืองบลัวร์ (Blois) เมืองน๊องต์(Nantes) และเมืองตูร์ (Tours) โดยจะใหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกในที่สุด




ในช่วงศตวรรษที่ 9 นั้นได้เริ่มมีการสร้งป้อมปราการเรียงรายตามแม่น้ำลัวร์กันแล้ว โดยมีจุดประสงค์ใช้ในการป้องกันการบุกรุกของพวกไวกิ้งนั่นเอง ต่อมาระหว่างศตวรรษที่ 15 - 18 นั้นเริ่มมีการสร้างปราสาทขึ้นเรียงรายโดยเป็นของชนชั้นสูง ขุนนาง และพระราชา จุดประสงค์ในการสร้างปราสาทนั้นไม่ได้เป็นป้อมปราการสู้รบกับข้าศึกแต่อย่างได แต่เอาไว้ใช้เป็นสถานที่ในการล่าสัตว์ เพราะสมัยนั้นป่าริมแม่น้ำลัวร์อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด




การไปเที่ยวปราสาทแม่น้ำลัวร์วิธีที่สะดวกที่สุดก็คือการขับรถยนต์ไป เส้นทางเล็กๆที่ลัดเลาะไปตามป่าเขาลำเนาไพร ผ่านหมู่บ้านเล็กๆ และไร่องุ่นจะนำพาเราไปสู่ปราสาทแม่น้ำลัวร์ที่เรียงรายตลอดแนวฝั่งแม่น้ำเลยทีเดียว เป็นการเดินทางที่น่าประทับใจมากครับ



เนื่องจากปราสาทจำนวนมากถูกละทิ้ง ไม่มีการปฏิสังขร ก็มีปราสาทที่รกร้าง ว่างเปล่ามาก แต่หนึ่งในนั้นที่ถือว่าเป็นปราสาทไฮไล้ท์เลยก็คือ ปราสาทชองบอร์ (Le Château de Chambord) ซึ่งเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำลัวร์ครับ








--------------------------


ปราสาทชองบอร์นี้สร้างเมื่อศตวรรษที่ 16 โดยพระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 (François 1er) มีประวัติเล่าว่าเมื่อครั้นที่พระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 ทรงถูกจับไปเป็นเชลยศึกที่ประเทศอิตาลีนานเป็นเวลาหลายปีนั้น พระองค์ก็ได้ซึมซับความงดงามของศิลปะแนว Renaissance ที่กำลังเป็นที่นิยมในอิตาลีสมัยนั้น เมื่อพระองค์ได้รับการปล่อยตัวมา พระองค์ก็นำเอาความชื่นชอบศิลปะแนวนี้มาสร้างปราสาทชองบอร์นี่เองครับ ซึ่งในสมัยนั้นที่ฝรั่งเศสยังไม่มีใครรู้จัก Renaissance ดีเท่าไรเลย








------------------------


พระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 ต้องใช้แรงงานและช่างฝีมือในการก่อสร้างปราสาทชองบอร์มากถึง 1,800 คน และใช้เวลาการก่อสร้างยาวนานถึง 15 ปีกว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อต้องการใช้เป็นที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานในการล่าสัตว์








---------------------


ปราสาทชองบอร์จะมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากๆนั่นก็คือโดมหรือหอคอยจำนวนมากมายที่หลังคา แน่นอนว่าเป็นการได้รับอิทธิพลทางศิลปะจากอิตาลี พระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 นั้นทรงหลงใหลศิลปะอิตาลีเป็นอย่างมากถึงขนาดจ้างช่างชาวอิตาเลี่ยนมาก่อสร้างและตกแต่งปราสาทแห่งนี้ ว่ากันว่าตลอดรัชสมัยของพระองค์ที่ยาวนานถึง 32 ปีนั้น พระองค์ทรงมาพำนักที่ปราสาทแห่งนี้เพียงแค่ 42 วันเท่านั้นเอง







---------------------


ตัวปราสาทนั้นตั้งอยู่กลางป่า และด้านหน้าปราสาทนั้นมีสนามหญ้าขนาดใหญ่ มีเกล็ดเล่าว่าพระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 นั้นทรงคลั่งใคล้อิตาลีเป็นอย่างมาก ถึงขนาดเชิญลีโอนาร์โด ดาวินชี่ มาพบบ่อยๆเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ทางศิลปะ









----------------------


ปราสาทชองบอร์ประดับประดาไปด้วยสัตว์สัญญลักษณ์ประจำพระองค์ นั่นก็คือ ตัวซาลามันเดอร์ นั่นเองครับ ซึ่งลักษณะการตกแต่งปราสาทแบบนี้ หลายคนเปรียบเทียบว่ามันเย็นชา เหมือนปราสาทของผู้ชาย








นี่เป็นบันไดวนภายในปราสาทครับ ปราสาทชองบอร์นี้ใหญ่ที่สุด แต่การตกแต่งไม่หรูหราอะไรมาก ถึงได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็นปราสาทของผู้ชาย และการตกแต่งน้อยๆแบบนี้ก็คงสืบเนื่องมาจากการที่แทบไม่มีใครมาประทับเลยก็ว่าได้






--------------------

นี่เป็นรูปภาพของพระเจ้าฟรองซัวร์ ที่ 1 ครับ พระองค์เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่มากนะครับ







--------------------------


นี่ก็เป็นห้องบรรทมครับ







นี่เป็นห้องบรรทมสำหรับพระราชินีครับ แต่แทบไม่มีพระองค์ใดเสด็จมาประทับที่นี่เลย








----------------------


ก็จะมีห้องต่างๆให้ชมภายในปราสาทครับ







------------------------



เมื่อเสร็จจากการชมปราสาทชองบอร์แล้ว เราก็ขับรถออกมาตามเส้นทางสายโรแมนติกกันอีกครั้งครับ ซึ่งจะนำเรามาพบกับปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์ (Le Château de Cheverny)










-----------------------

ปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์นั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่มีการตกแต่งภายในได้สวยและวิจิตรที่สุดในบรรดาปราสาทริมแม่น้ำลัวร์ทั้งหมดครับ ปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์นั้นสร้างในปี คศ 1625 - 1634 ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ปราสาทที่เจ้าของยังเป็นชนชั้นสูงอยู่นะครับ ในปัจจุบัน ปราสาทจำนวนมากตกเป็นสมบัติของรัฐบาลฝรั่งเศสเพราะทายาทไม่สามารถหาเงินจำนวนมหาศาลมาทะนุบำรุงได้ครับ กอปรกับการเสียภาษีมรดกที่แพงมากๆของฝรั่งเศส ทำให้ทายาทจำนวนมากขายปราสาทให้กับทางรัฐบาล



ด้านหน้าปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์นั้นเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค มีสนามหญ้า ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงครับ เจ้าของปราสาทนี้ยังเป็นเชื้อสายเจ้า แต่เมื่อไม่ขายให้รัฐบาล ก็จำเป็นต้องเปิดปราสาทให้เป็นที่ท่องเที่ยวครับ เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายทะนุบำรุง ตัวเจ้าของปราสาทเองนั้นอยู่อีกส่วนหนึ่งครับ เล็กๆ อยู่กันแบบง่ายๆ แต่ส่วนนี้ไม่เปิดให้ชมนะครับเพราะเป็นส่วนตัว








-----------------------


บริเวณเตาผิงครับ งดงามมากๆ มีเกร็ดเล่ากันว่าเมื่อสมัยที่ลีโอนาร์โด้ ดาร์วินชี่มาพำนักที่ฝรั่งเศส และตอนนั้นเกิดสงครามพอดี ภาพวาดโมนาลิซ่าอันเลื่องชื่อก็ถูกนำมาเก็บซ่อนไว้ที่ปราสาทแห่งนี้นะครับ







---------------------


เหนือเตาผิงก็มีภาพของขุนนางชั้นสูงต้นตระกูลครับ ผู้สร้างปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์อันงดงาม







ภาพเตาผิงอีกมุมครับ







-----------------


นี่เป็นห้องนอนของเด็กเล็กที่ถ่ายทอดชีวิตความเป็นอยู่ของชนชั้นสูงในปราสาทสมัยก่อนได้เป็นอย่างดีครับ มีเกล็ดเล่าอีกว่า ห้องบรรทมที่ทางปราสาทนี้สร้างถวายแด่พระราชินีนั้นงดงามมาก แต่ก็ไม่เคยมีพระองค์ใหนเสด็จมาประทับที่นี่เลย








--------------------

นี่เป็นห้องอาหารครับ จัดแต่งแบบตะวันตก ดูหรูหรามากเช่นกันครับ







-------------------------


เมื่อเที่ยวปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์เสร็จแล้ว เราก็ออกเดินทางสู่ปราสาทเชอนองโซว์ครับ (Le Château de Chenonceau)







--------------------------

ปราสาทเชอนองโซว์สร้างในศตวรรษที่ 16 นับว่าเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทำให้รู้สึกว่าปราสาทแห่งนี้เหมือนเป็นปราสาทในเทพนิยายในฝัน ภายในตกแต่งไปด้วยพรมแขวนผนังอันสวยงาม แต่เมื่อเทียบกับปราสาทเชอร์แวร์นี่ย์แล้ว การตกแต่งของที่นี่ถือว่าเรียบง่ายครับ







---------------------


ปราสาทแห่งนี้สร้างคล่อมแม่น้ำแชร์ (Le Cher) ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำลัวร์นั่นเองครับ สวยน่ารักมากๆเลย









---------------------


ภายในตกแต่งเรียบง่าย นี่เป็นภาพของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จะสังเกตุเห็นว่าพระองค์เป็นคนแรกที่ทรงสวมวิก เพราะรูปร่างนั้นไม่สูง การสวมวิกใหญ่ๆจะทำให้ดูสูงใหญ่ เป็นที่น่าเกรงขามต่อผู้คน และพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็เป็นคนคิดออกแบบรองเท้าส้นสูงด้วยนะครับ ก็แน่นอนว่าเพื่อต้องการให้ดูตัวสูงขึ้นนั่นเอง เราจะเห็นได้อีกว่า ลักษณะการแต่งกายนั้นจะมีผ้าห่มไปห่มมาเยอะมาก และสวมวิก ใส่รองเท้าส้นสูง ทั้งหมดนี้เพื่อให้ดูตัวใหญ่ จะได้เป็นที่เกรงขามไงครับ ฉะนั้น วิกกับรองเท้าส้นสูงนี้ไม่ใช่สตรีเป็นผู้คิดค้นนะครับ



ปราสาทเชอนองโซว์นั้นได้ชื่ออีกอย่างว่า "ปราสาทแห่งสุภาพสตรี" (Le Château des Dames) นั่นก็เพราะว่าเจ้าของปราสาทรุ่นแล้วรุ่นเล่าล้วนแต่เป็นสตรีชั้นสูงจากราชสำนักทั้งสิ้นครับ เป็นเรื่องบังเอิญที่เหมาะเจาะจริงๆ






----------------------

ที่จริงแล้วตลอดริมแม่น้ำลัวร์นั้นยังมีปราสาทที่น่าสนใจอีกมากนะครับ แต่การไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับนั้น อย่างมากเราจะสามารถชมปราสาทได้เพียงแค่ 3-4 แห่งเท่านั้นเอง หากมีเวลามากกว่าหนึ่งวัน แนะนำเส้นทางสายโรแมนติก ปราสาทแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์เลยนะครับ สวยมากๆ เราสามารถจอดรถแวะชมปราสาท แวะชมไร่องุ่นได้ตลอดเลย นอกจากนั้น เจ้าของปราสาทหลายแห่งก็เปิดห้องในปราสาทให้เหมือน รร เลยครับ เป็นการพักที่ดีมากๆเพราะเราจะได้สัมผัสความเป็นฝรั่งเศสจริงๆ ได้มีโอกาสนอนห้องที่ปราสาทอันสวยงาม ได้พูดคุยกับเจ้าของปราสาท ทานอาหารกับเขา ได้เรียนรู้วัฒนธรรมฝรั่งเศสได้ดีกว่าการพักที่ รร ครับ





"หนึ่งคำทักทายของท่าน คือล้านกำลังใจของเรา"

























Create Date : 23 สิงหาคม 2550
Last Update : 5 กันยายน 2550 2:34:27 น. 22 comments
Counter : 3514 Pageviews.

 
วันหลังพาเราไปด้วยซิ แต่ออกเงินให้ด้วยนะ ขอบใจจ๊ะ


โดย: num IP: 125.24.223.1 วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:14:18:23 น.  

 
ถ้าได้นอนที่ปราสาทอันสวยงามน่าจะดีนะคะ
ปราสาททางตอนเหนือสวยงามจริงๆค่ะ
ให้ข้อมูลได้ดีค่ะขอเป็นกำลังใจให้นำเสนอสิ่งดีๆ
ให้คนไทยอ่านนะคะ


โดย: Mme France วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:21:34:49 น.  

 
อยากไปเที่ยวชนบทฝรั่งเศสบ้างจังเลยค่ะ สงสัยคงต้องหาโอกาสไปอีกแล้ว เคยไปแต่ปารีสกับซาร์ลส์บวร์กทางใต้ของฝรั่งเศสเท่านั้น


โดย: Tiwanon48 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:10:07:10 น.  

 
เอ๊ะ เมื่อง ซาร์ลส์บวร์ก อยู่ทางใต้ของฝรั่งเศสเหรอครับ ไม่ทราบมาก่อนเลย ตอนแรกนึกว่าอยู่ออสเตรีย


โดย: Sorbonne (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:15:45:07 น.  

 
สงสัยจำชื่อผิดมั้งคะเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสติดกับพรมแดนเยอรมันชื่ออะไรน้า บวกๆ นี่แหละ เดี๋ยวขอคิดดูก่อน อิอิ


โดย: Tiwanon48 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:16:43:04 น.  

 
อิอิ นึกออกแระ Strasbourg จ้า ซาร์ลส์บวร์กบ่เค๊ยไป๋เด้อ


โดย: Tiwanon48 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:16:48:30 น.  

 
อ๋อ เมืองสทร้าสบูรก์ เมืองใหญ่ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือจากกรุงปารีสครับ ใกล้กับชายแดนเยอรมันนี ผมยังไม่เคยไปเลย แถวๆนั้นบ้านช่องสวยงามน่ารักมาก เมืองเล็กๆใกล้ๆกันนั้นที่ชื่อว่าเมือง Colmar นั้นก็น่าสนใจสุดๆครับ เดี๋ยวนี้เขาเพิ่งเปิด TGV สายใหม่ล่าสุดไม่กี่เดือนนี้เอง จากปารีสไปสทร้าสบูรก์ ระยะทาง 440 กม วิ่งเหลือแค่ 2.2 ชม เองครับ จากเดิมรถธรรมดาวิ่ง 4 ชม


โดย: Sorbonne (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:18:56:28 น.  

 
ไปเที่ยวปราสาทด้วยคนค่าาา


โดย: Complicatedgirl วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:19:34:14 น.  

 
เฮ้อ สวยจังเลยค่ะ กะว่าซักวันนึงเราต้องไปให้ได้


โดย: นู๋Poopy วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:21:16:36 น.  

 
สวัสดีเพื่อนใหม่ที่เข้ามาเยี่ยมบล็อคนะครับ หวังว่าคงชอบทริปนี้นะครับ หากมีคำถามอะไรก็ฝากไว้ที่บล็อคได้เลยนะครับ แล้วผมจะเข้ามาตอบครับ แวะมาเยี่ยมกันใหม่นะครับ


โดย: Sorbonne (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:22:26:09 น.  

 
งั้นก่อนกลับเมืองไทยวานคุณน้องไปเที่ยวและเก็บรูปสวยๆ มาฝากด้วยนะคะ


โดย: Tiwanon48 วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:15:07:10 น.  

 
แวะเข้ามาเที่ยวอ่ะ


โดย: anmazaa IP: 58.10.158.87 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:15:57:05 น.  

 
ชอบทริปนี้มากค่ะ อยากไปเที่ยวจัง


โดย: kueche วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:6:53:00 น.  

 
ยิ่งดูภาพก็ยิ่งอยากไปครับ


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:2:16:48 น.  

 
ได้มาเห็นรูปถ่ายของคุณซอร์บอนน์ เหมือนได้ไปเที่ยวอีกทีเลยค่ะ แหมทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆขึ้นมาทีเดียวเชียว ขอบคุณนะคะ


โดย: อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง วันที่: 18 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:33:06 น.  

 
สวยจังเลยเนอะ เราเองก็แม่บ้านริมแม่น้ำลัวร์ค่ะ เราอยู่ région Pays de la loire แต่ยังไม่เคยไปเลย ไปแค่ เลอ ชาร์โต เดอ ลา ลัวร์ ที่อยู่เมือง โซมู แค่นั้น แต่ก็สวยเหมือนกัน ค่ะ


โดย: violetsand IP: 81.53.194.142 วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:2:46:30 น.  

 
ปราสาทชองบอร์ สวยมากมายคับ
ชอบมาก
อยากไปๆๆๆๆๆ


โดย: sir_pat IP: 125.25.59.67 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:21:26:51 น.  

 
เรียนท่านผุ้เกี่ยวข้อง
ผมชอบรูปปราสาทและเนื้อหาที่ท่านลงไว้ในเว็ปนี้เป็นอย่างมากครับ กรุณานำรูปปราสาทต่างๆมาลงไว้อีกให้มากๆ ดูแล้วมีความสุขมากครับ ขอขอบคุณ
เอนกลาภ


โดย: เอนกลาภ IP: 58.9.93.149 วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:14:14:21 น.  

 
การนำเสนอ ใช้คำที่ดูเรียบง่ายดี และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ใด้พบเห็นดีนะครับ


โดย: pom IP: 125.26.147.106 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:37:07 น.  

 
ขอบคุณมากคะ ชอบการตกแต่งของปราสาทสไตน์ยุโรปมากเลย วิจิตร สวยงาม ดูสบาย น่าอยู่จัง ปล. ชอบสวนด้วย ^^


โดย: matio IP: 118.172.92.18 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:15:23 น.  

 
ชอบมากๆครับผม
ขอบคุณที่นำภาพดีๆมาฝากนะ (:


โดย: Q IP: 58.8.45.41 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:15:43:49 น.  

 
สวยมั่กๆมากเรย
ชอบๆๆๆๆ
หวังว่าจะมีโอกาสไป
เยื่อนสักครั้ง
^^"


โดย: looktan IP: 125.27.40.105 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:02:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ซอร์บอนน์
Location :
Paris Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมเป็นคนที่รักการแต่งบ้านและทำสวนเป็นชีวิตจิตใจ เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เราคลายเหงาไปได้มาก ยามเมื่ออยู่ไกลบ้านและมีโอกาสได้ดูรูปภาพเหล่านี้ ก็ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านอีกครั้ง ผมยังชอบเดินทางท่องเที่ยวเพื่อค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้วิสัยทัศน์กว้างขึ้น
Friends' blogs
[Add ซอร์บอนน์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.